Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บางประเด็นที่อยากพูดถึง หลังจากดูรายการวู๊ดดี้ ตอน สตรีแปลงเพศ  

ยาวนิดนึงนะครับ

1. ประเด็นเรื่อง 80 กว่าประเทศยอมรับว่าสตรีข้ามเพศมีสิทธิทางกฏหมาย และถือว่าเป็นผู้หญิงทางกฏหมาย

จากการค้นเร็วๆ จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Legal_aspects_of_transsexualism จำนวนยังไม่ถึงที่คุณนกกล่าวอ้างในรายการ และถ้าเข้าไปดูรายละเอียด แต่ละประเทศจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน และไม่ได้แปลว่าทุกที่ให้การยอมรับอย่างเต็มที่ เปลี่ยนชื่อนำหน้าเป็นผู้หญิงได้ทันทีที่ได้รับการผ่าตัด บางประเทศ ระบุแค่อนุญาตให้แต่งงานในเพศเดียวกันได้ บางประเทศระบุให้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อได้หลังแต่งงาน บางประเทศระบุว่าแล้วแต่เมือง หรือรัฐต่างๆจะพิจารณา  หรือบางประเทศ เช่นญี่ปุ่น ระบุชัดเจนว่าให้สิทธิว่าโดนข่มขืนจะถูกพิจารณาว่าเป็นผู้หญิง หรือถ้าติดคุก จะให้อยู่ในคุกหญิง หรือให้สิทธิในการขึ้น lady bus ร่วมกับผู้โดยสารหญิงได้ ดังนั้นการอ้างว่า 80 ประเทศให้สิทธิทุกอย่าง ออกจะอ้างเกินความจริงไปมากๆ และยิ่งไปกว่านั้น ประเทศที่เขาให้สิทธิ เขาก็ไม่ได้บอกว่า transgender นี้ นางคนนี้ เป็นเพศหญิงตั้งแต่กำเนิด แต่ได้รับการเปลี่ยนคำนำหน้าในภายหลัง

2. กรณี You are what you are, You are what you believe

เห็นด้วย แต่กรณีนี้มันเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล คุณจะเชื่อว่าคุณเป็นอะไรได้ แต่คุณจะไปบังคับให้คนอื่นเชื่อเหมือนคุณไม่ได้ คุณจะไปเปลี่ยนบรรทัดฐานของสังคมให้เป็นไปตามที่คุณเชื่อไม่ได้ คุณนกอาจเชื่อว่าตัวเองเป็นผู้หญิง แต่ถ้าคนรอบข้างยังมองว่าคุณเป็นผู้ชายมาก่อน การแพทย์และการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ยังบ่งชี้ว่าคุณคือผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะมีการยอมรับว่าการผ่าตัดแปลงเพศมีจริง ผู้ชายที่รู้สึกว่าตัวเองน่าจะเป็นผู้หญิงมากกว่ามีจริง ซึ่งคนทั่วๆไปก็ยอมรับ แต่ที่สังคมยังกังขา คือการที่คุณจะประกาศว่าคุณคือผู้หญิงทั้งแท่งตั้งแต่อ้อนแต่ออก เพราะคุณเชื่ออย่างนั้น ซึ่งบังเอิญมันไม่ใช่สิ่งที่สังคมเชื่อ

ความจริงถ้าคนกลุ่มนี้ทำใจให้เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเชื่อแล้ว ถ้าเขายอมรับและเข้าใจในเรื่องทางสังคม เขาก็น่าจะมีความสุขมากพอแล้ว สำหรับสังคมในประเทศไทย แต่ปัญหาคือพวกเขาเชื่อ สังคมไม่เชื่อ แต่พวกเขาพยายามบังคับให้สังคมเชื่อ ก็เลยเกิดเป็นความทุกข์ขึ้นมา

3. กรณีเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาดูแล ให้ความช่วยเหลือ

รัฐบาลเขาทำหน้าที่พวกนี้อยู่แล้วครับ แต่งานของรัฐบาลมันมีมากมาย หลากหลาย ซึ่งต้องจัดลำดับความสำคัญว่าจะแก้อะไรก่อนหลัง อะไรเร่งด่วน หรือไม่ ถ้าพูดในแง่การเป็นโรค มีโรคอีกมากมายที่อันตรายกว่านี้ ติดต่อง่ายกว่านี้ มีคนเป็นมากกว่านี้ ซึ่งอาจได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลยังไม่ทั่วถึงเลย ถ้าพูดในแง่ปัญหาของเพศที่สาม ก็มีปัญหาของเพศที่สามอีกหลายเรื่องที่อันตรายมากกว่า เช่นเปัญหาการใช้ฮอร์โมนในทางที่ผิด ปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปัญหาการแปลงเพศเถื่อน ตัดอัณฑะ การให้การศึกษาเรื่องเพศศึกษาอย่างเหมาะสม และอีกสารพัดปัญหา และยิ่งคุณนกมาพูดสรุปประมาณว่ารู้สึกเหมือนขอทาน ที่ต้องมาร้องขอความเห็นใจจากรัฐบาล ผมยังคิดว่าบางทีปัญหาของขอทานยังมีความสำคัญ และรัฐบาลน่าจะมีนโยบายให้ความช่วยเหลือมากกว่ากลุ่มของคุณนกเสียด้วยซ้ำ

4. กรณีเรื่องความภาคภูมิใจในวันรับปริญญา
ผมว่าพ่อแม่ผู้ปกครองภูมิใจอยู่แล้ว ที่ได้มางานรับปริญญาของลูกหลานตัวเอง และถ้ามาแล้ว ได้เห็นลูกหลานในชุดครุยที่ตรงตามเพศกำเนิด น่าจะภูมิใจมากกว่าเห็นอยู่ในชุดของอีกเพศนะ อีกอย่าง ไม่เคยเห็นมหาวิทยาลัยไหนห้ามไม่ให้เพศที่สามรับปริญญา เพียงแค่ขอให้แต่งตรงตามเพศที่ระบุในใบปริญญาบัตรเท่านั้น ดังนั้น การที่จะไปทำให้ครอบครัวภูมิใจหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบัณฑิตเอง ไม่ใช่ปัญหาของมหาวิทยาลัย

แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 53 00:50:02

จากคุณ : I'm wu
เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:48:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com