 |
ความคิดเห็นที่ 3 |
|
เรานอนร้องไห้ ไม่อยากทำอะไรอีกเลยอยู่ประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นเราก็เริ่มคิดใหม่ว่า ยังไงชีวิตเราก็ยังน่าจะมีทางเดินต่อไป เราคงไม่มายอมแพ้กับเรื่องแค่ตรงนี้หรอก
โดยช่วงนั้น ก่อนที่เราจะไปสมัครงานที่ ร.พ. แห่งนี้ เราทำงานเป็นครูสอนพิเศษ โดยเราเปิดสอนเองกับเพื่อนอีกหนึ่งคน หาเด็กมาเรียนเอง จากตอนแรกๆ มีเด็กอยู่4-5คน จนช่วงหลัง เรามีเด็กที่มาเรียนพิเศษกับเราเกิน 30 คน ซึ่งเราก็สอนพิเศษมาเรื่อยๆ แต่เราก็คิดว่ามันไม่มั่นคง เราก็เลยไปสมัครงานที่ ร.พ.แห่งนั้น และผลก็เป็นอย่างที่เล่าไป
พอเราเริ่มคิดได้ เราก็กลับมาสอนหนังสือต่อ เราสอนแค่วันเสาร์ -อาทิตย์ แต่ละเดือนเรากับเพื่อนมีรายได้ คนละประมาณ 10,000 - 13,000 บาท (ทำงานอาทิตย์ละ 2วัน)
ช่วงนั้น กทม. เปิดสอบข้าราชการในตำแหน่งที่เราเรียนจบมาพอดี พ่อเราก็บังคับให้ไปสอบ แต่เรายังแอบคิดถึงเหตุการณ์ที่ ร.พ. ไม่ได้ ทำให้วันไปสอบเราไม่สนใจอะไรมากนัก ดินสอ + ยางลบ เราก็ไม่เอาไป กะจะไม่เข้าสอบ แต่ไปเป็นเพื่อนเพื่อนของเราซึ่งสมัครสอบเหมือนกัน แต่เพื่อนก็บอกให้เราเข้าสอบเพราะมาถึงที่นี่แล้ว เพื่อนให้เรายืมดินสอ +ยางลบ และเราก็เข้าสอบ โดยทำไปเรื่อยๆ ไม่คิดอะไรมาก เพราะคิดว่า ถ้าผ่านข้อเขียน ก็ต้องไปเจอสัมภาษณ์ ซึ่งเหตุการณ์ก็คงเหมือนเดิม ต่อให้เราทำได้ดียังไง เราก็คงไม่มีโอกาสได้ทำงาน เพราะเราเป็นอย่างนี้
และพอผลสอบข้อเขียนออก ปรากฏว่าเราสอบผ่านข้อเขียน เข้าสู่ขั้นตอนของการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งเราก็รู้สึกว่า ทำไมเราต้องมาอยู่ตรงจุดนี้อีกแล้ว ทั้งๆที่คนอื่นๆที่เค้าเป็น ชายจริง-หญิงแท้ หรือแม้แต่ พวกที่เป็นเพศชายรักชาย แต่ภายนอกเค้าดูแมนๆ พวกเค้าดีใจมากที่สอบผ่านข้อเขียนได้ แต่เรากลับรู้สึกแย่ รู้งี้ไม่น่าสอบผ่านเลย ถ้าให้เราตกตั้งแต่ข้อเขียน เพราะเราความสามารถไม่ถึง ยังดีกว่าเรามาตกสัมภาษณ์ เพราะเราไม่ใช่ผู้ชายตามคำนำหน้าชื่อ เรากลัวมากๆ เครียดจริงๆ วันมายื่นหลักฐานก่อนสอบสัมภาษณ์ เรายังไว้ผมยาวถึงกลางหลัง ใส่กระโปรงมา เราตัดสินใจเดินไปถามเจ้าหน้าที่ ว่าถ้าเราผมยาว แต่งตัวอย่างนี้มาวันสอบสัมภาษณ์ จะได้หรือไม่
พวกพี่เจ้าหน้าที่ก็น่ารักมากๆ มาช่วยกันดูใหญ่เลย หลายๆคนก็บอกว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย แต่มีคุณป้าคนหนึ่งบอกว่า มันขึ้นอยู่กับกรรมการนะ ต้องลุ้นดู เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แย่ๆอีก เราเลยตัดสินใจ 10 นาที เดินไปร้านเสริมสวยข้างๆนั้น ตัดผมให้สั้น ประมาณว่า สั้นกว่าพันช์ ในทัดดาว บุษยาอีกนะ จากคนที่ผมยาวถึงกลางหลัง มาตอนนั้นรู้สึกอึ้งๆไปเหมือนกัน เพื่อนๆ ก็บอกว่า ไม่กลัวเหรอ หากตัดผมไปแล้ว สอบไม่ผ่านสัมภาษณ์อีก ไม่เสียดายแย่เหรอ แต่เราคิดว่า ยังไงเราก็ได้ทำแล้วนะ ถ้าจะไม่ผ่านอีกก็ช่วยไม่ได้แล้วล่ะ หลังจากนั้นเราก็ไปหาซื้อเสื้อเชิ้ตผู้ชาย+กางเกงแสล็คผู้ชาย มาฝึกพูดครับ หลังจากไม่ได้พูดมานานมากๆ (เราใช้ชีวิตเหมือนเป็นผู้หญิง มาตั้งแต่เรียนมหาลัย) คนที่รู้จักก็งงๆ กับเรา แต่ทุกๆคนก็เป็นกำลังใจที่ดีมากๆให้เราสู้
** เดี๋ยวมาต่อ ตอน 3 นะ **
จากคุณ |
:
จขกท. (เป็นเอามากนะเธอ)
|
เขียนเมื่อ |
:
1 มี.ค. 53 15:06:41
A:125.25.113.37 X: TicketID:156316
|
|
|
|
 |