Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... WHO ARE YOU ? , ขึ้นต้นดูดีเป็นมะลิซ้อน พอแตกใบอ่อนตอนจบก็หมดกัน >>>>>  

  ชอบมาก ห้ามพลาด (25 คน)
  ชอบ (89 คน)
  เฉยๆ (183 คน)
  ไม่ชอบ (80 คน)
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (185 คน)

 4.45%
  ชอบมาก ห้ามพลาด (25 คน)
 15.84%
  ชอบ (89 คน)
 32.56%
  เฉยๆ (183 คน)
 14.23%
  ไม่ชอบ (80 คน)
 32.92%
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (185 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 562 คน


... เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูปและเชิญชวนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=02-2010&date=27&group=14&gblog=195


... หลายเดือนก่อน มีชายวัยฉกรรจ์นายหนึ่งได้รับคำเชิญไปเล่นเป็นตัวประกอบในหนังไทย ซึ่งรู้แค่ว่าชื่อ Who R U เกี่ยวกับฮิคิโคโมริ เล่นกับ สินจัย โดยฝีมือผู้กำกับ รับน้องสยองขวัญ

ชายหนุ่มยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นแผนหลอกไปเชือด ประมาณล่อ blogger ออกจากถ้ำหรือไม่ เพราะ ชายหนุ่มเคยเขียนถึงทั้ง รับน้องฯ ทั้ง วิดิโอคลิป ของผู้กำกับท่านนี้ ในแง่บ่นพึมพำยำใหญ่ใส่ความผิดหวังไปกับหนังทั้งคู่

จนเมื่อมั่นใจว่าไม่ใช่แผนหลอกไปเชือดแต่อย่างใด ชายหนุ่มนายนั้นจึงขอบทมานั่งอ่านคร่าวๆด้วยความกระดี๊กระด๊าที่กำลังจะได้เป็นดารา นั่งวาดฝันว่าจะเดินพรมแดง ควงแขนน้องตาลขึ้นไปรับรางวัลตุ๊กตาทอง ต่อด้วยได้เล่นโฆษณาประกบพอลล่า แล้วโด่งดังขนาดซ้อเจ็ดเขียนถึงฮ่าฮ่าฮ่า

แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจตอบปฏิเสธ ด้วยเหตุผลที่อ่านแล้วพบว่าตัวเอง ไม่ได้ประกบสินจัยในบทนำ (แหะๆ ล้อเล่น ที่ไม่เล่นเพราะเหตุผลส่วนตัวไม่เกี่ยวกับหนังแต่อย่างใด)

ตอนอ่านบทร่างที่ส่งมาตอนนั้น แว่บแรกเลยคือรู้สึกว่า เข้าใจคิดดีนะ แต่มันก็มีกลิ่น บอดี้ ศพ#19 อยู่นิดๆ ถ้าจำไม่ผิด ตอนปฏิเสธทีมงานที่ติดต่อมา ได้คอมเม้นต์สั้นๆ(โดยที่เค้าไม่ได้ถาม)ว่า ไอเดียดี แต่จะทำให้เชื่อถือตอนเฉลย มันยากนะ แล้วก็ไม่ได้คุยกันต่อ

ผ่านมาจนถึงวันนี้ ชายหนุ่มนายนั้น เห็นว่า หนังเข้าฉายแล้วจึงอยากเข้าไปดูว่า ตัวหนังจะพัฒนาบทที่เคยอ่านไปอย่างไร จะออกมาเป็นหนังรูปแบบไหน กับอยากเห็นว่า บทที่ตัวเองปฏิเสธไปเขาจะเลือกใครมาเล่น (คิดไว้ว่าอย่างน้อยต้องระดับ อนันดา ถึงจะสูสี haha)

และเมื่อได้ดู ชายหนุ่มก็พบว่า




ฟักทอง 1.หนังภาคภูมิ

... คงเป็นดวงที่ไม่สมพงษ์กัน เพราะหนังที่เขาว่าดีที่สุดของ ภาคภูมิ วงษ์จินดา คือ ฟอร์มาลีนแมน ผมก็ไม่ได้ดู แต่เรื่องที่ได้ดูคือ รับน้องสยองขวัญ และ วิดิโอคลิป ซึ่งนอกจากจะเป็นหนังสยองเหมือนกัน ทั้งคู่ก็มีจุดเด่นและจุดด้อยคล้ายกันเอามากๆ คือ

การหักมุมของหนัง ให้อารมณ์เหวอ และ ทำลายความน่าเชื่อถือของหนังที่มีน้อยอยู่แล้วให้ยิ่งน้อยลง

แต่ในขณะเดียวกัน หนังของเขาทั้งสองเรื่อง ก็แสดงให้เห็นว่า ในหัวคนทำหนัง มีอะไรดีๆที่อยากนำเสนอในแง่สะท้อนการมองสังคม เพียงแต่ ความคิดสร้างสรรค์ที่ผสมลงไปในหนังสยองขวัญ ยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก

กระนั้นก็ทำให้หนังของเขา กลายเป็นหนังที่มีประเด็นให้อยากเขียนถึง มากกว่าหลายๆเรื่องที่ คุณภาพดีกว่า แต่ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไร

ภาพรวมของ WHO ARE YOU? ดีกว่าสองเรื่องก่อนมาก คือ หนังมีความต่อเนื่องดี มีงานสร้างที่ดูดีมีราคาขึ้น ไม่มีจังหวะหลุดๆให้อารมณ์เสีย ไม่เห็นนักแสดงเล่นแข็งโป๊ก หรือ ปล่อยให้ตัวละครลอยไปลอยมาขาดความลึกอย่างที่สุด แบบใน รับน้องสยองขวัญที่ตายเป็นโหลๆผมก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไรร่วมไปกับเหยื่อแม้แต่รายเดียว

WHO ARE YOU? เป็นหนังที่มี หน้าหนัง ขายเป็นอย่างมาก แค่ชื่อ คนดูก็อยากรู้แล้วว่า ใครหรืออะไรอยู่ในห้อง แค่ชื่อดารา คนดูก็อยากไปสัมผัสพลังการแสดงของ สินจัย แค่ชื่อคนเขียนบทบอดี้ ศพ#19 คนดูที่เคยชอบก็อยากติดตามต่อ แค่เรื่องย่อเกี่ยวกับ แม่ที่มีลูกขังตัวเองไว้ในห้องห้าปี กับ คดีฆาตกรรมปริศนา มันก็ยิ่งท้าทายให้เสียเงิน

ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาตั้งแต่ต้นไปจนถึงก่อนเฉลย ผมคิดว่า เข้าทีเลยทีเดียว อาจจะมีเบื่อๆบ้าง แต่ก็ยังอยากติดตามอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้แย่เหมือนหนังไทยหลายๆเรื่องที่หลอกตีหัวคนดูให้เสียตังค์ด้วยการโปรโมท

แต่จุดอ่อนของหนังเรื่องนี้ ถูกขยายให้เห็นชัดทันทีเมื่อถึงตอนเฉลย เริ่มตั้งแต่

1.1 จังหวะกำกับตอนเฉลย หรือ ทีเด็ดทีขาด หรือ ท่อนฮุค - หนังสยองขวัญเวลาเฉลยความลับ เป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งที่จะกระชากจิตคนดูหรือตบกะโหลกให้ต้องอึ้ง แต่จังหวะตอนเฉลยของเรื่องนี้ นิ่มมากไป

เทียบกับ บอดี้ ศพ#19 ตอนเฉลย มันเหมือนหมัดแย็บตรงๆจังๆใส่หน้า แล้วทำให้ เรา เฮ้ย แล้วนึกทบทวน แล้วก็ อ้อ อ๋อ โอ้ววววว

แต่ตอนเฉลยของเรื่องนี้ มันให้อารมณ์ หือ ฮึ้ย พอนึกทบทวนแล้วก็ ว้า เอาจริงดิ อืมมมมม

นี่ยังไม่พูดถึง คำเฉลยที่ทำให้ต้องเกาหัวแกรกๆ



exclaimSpoilers Alert - เนื้อหาถัดจากนี้ Spoil เปิดเผยตอนจบของหนัง







แฟรงเก้น 2. จุดอ่อน คือ ตอนจบ

... เหมือน สองเรื่องที่แล้วไม่มีผิด คือพอถึงตอนเฉลย แล้วมันทำให้เรา เชื่อตามได้ยาก ถึง ยากที่สุด (แต่ยังดีกว่าตรงที่ ช่วงเวลาก่อนเฉลย หนังเรื่องนี้ดีกว่ามาก)

โดยเฉพาะเมื่อหนังเปิดตัว กอลลั่มที่เขาร่ำลือ ผมคิดว่าเป็น ตัวทำลายอารมณ์หนังพอสมควร อารมณ์เดียวกับตอนที่เห็น กอลลั่ม ในสี่แพร่ง และ สงสัยเหลือเกินว่า ทีมซีจีบ้านเราทำไม๊ทำไมถึงทำแต่ตัวรูปร่างหน้าตาแบบนี้

ยังดีที่บทหนังเรื่องนี้ เมื่อเฉลยแล้ว คิดย้อนกลับไป เราเห็นว่า มันสามารถอธิบายได้อย่างมีที่มาที่ไป หนังส่งคำใบ้มาให้ตลอด (ประวัติชายคลอดลูก , ตัดดินสอด้วยกระดาษ ฯลฯ)

เพียงแต่ปัญหาเดียวคือ ที่มาที่ไป หรือ สิ่งที่หนังหยิบมาใช้(พลังแห่งความเชื่อ) มันอ่อนเกินกว่าจะเชื่อถือตาม

ผมคิดว่าถ้าหนังจะไม่อยากใช้คำเฉลยเกี่ยวกับ ‘อาการทางจิต’ มาอธิบายเพราะกลัวจะซ้ำกับเรื่องอื่นๆ สู้ให้เป็น ‘ผี’ เลยยังจะดีเสียกว่า ‘พลังความเชื่อ’

เพราะ คนส่วนใหญ่ยังให้น้ำหนักความเชื่อใน ผี มากกว่า พลังความเชื่อที่ สร้างร่างเป็นตัวตนไปฆ่าคนอื่น
(คือ พลังความเชื่อประมาณ The Secret หรือเลยไปถึงสะกดจิตอีกฝ่ายยังพอไหว แต่ สร้าง ร่างใหม่ ไปทำโน่นนี่ เกินจะยอมรับได้จริงๆ)

นั่นทำให้ เมื่อถึงเฉลยแล้วแทนที่จะพาคนดูไปสู่จุดพีค แต่กลับกลายเป็นหนังฉุดให้คนดูอ่อนระโหยโรยแรงลง และ ปิดเรื่องแบบอ่อนยวบยาบ ขาดแรงกระแทกจังๆ

ผมคิดว่า บทเดิมที่เคยอ่านตอนนั้นที่ไม่มี กอลลั่ม ถึงจะชวนให้นึกถึง บอดี้ศพสิบเก้า ก็จริง แต่มันก็ยังชวนคล้อยตามมากกว่าจบแบบนี้




เดือนเพ็ญ 3. บทหนังที่น่าเสียดาย

... กลับไปเปิดบล็อกตัวเอง แล้วเห็นประโยคที่เคยเขียนไว้ เลยขอยกมาแปะซ้ำอีกครั้ง ตอนนั้นเขียนหลังจากดู รับน้องสยองขวัญ กับ วิดิโอคลิป

ถ้าผู้กำกับชอบทำหนังแนวนี้ สังเกตจากงานสองชิ้นติดๆกันที่ทำออกมา ก็อยากขออนุญาตแนะนำผู้กำกับเป็นอย่างยิ่งว่า

ถ้ามีผลงานชิ้นถัดไป ลองหาทีมเขียนบทดีๆเพื่อต่อยอดความคิดจากพล็อตดีๆที่คิดไว้ ยังดีเสียกว่า เอาพล็อตดีๆที่คิดไว้มาลดทอนศักยภาพที่จะทำให้เป็นหนังดี



มางวดนี้ ก็ได้ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ มือเขียนบทที่มีส่วนกับ บอดี้ ศพ#19

ผมชอบที่หนังผสมผสาน ประเด็นของสังคมและจิตใจ เข้าไปได้กลมกลืมมากกว่า สองเรื่องก่อน

อย่างไรก็ดี ไหนๆก็ไหนๆ การที่หนังไม่ได้เล่นเรื่อง ฮิคิโคโมริ ให้สุด บางประเด็นก็อาจทำให้คนดูไขว้เขวได้ เช่น

การที่เด็กขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ได้แปลว่า ฮิคิโคโมริ เสมอไป และ ถ้าใครรู้จักเด็กมีอาการเหมือน ต้น ควรส่งปรึกษาแพทย์เพราะอาจไม่ใช่ ฮิคิโคโมริ

ปัจจุบัน ฮิคิโคโมริ ถือว่า เป็น ปรากฎการณ์สังคม (sociological phenomenon) ยังไม่ใช่ โรค เหตุหนึ่งที่บอกเช่นนี้เพราะ เราเรียกกลุ่มอาการนี้เฉพาะที่พบในญี่ปุ่น ซึ่งมีรูปแบบสังคมเฉพาะตัว

แต่ถ้าพบเด็กเก็บตัวแบบในหนัง นอกเหนือจากญี่ปุ่น มีโอกาสที่เด็กจะถูกวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคทางจิตใจ อาทิเช่น โรคจิตเภท หรือ โรคซึมเศร้า

โรคจิตเภทประเภทแยกตัว – อาจไม่มีหูแว่วภาพหลอน แต่แยกตัว ขังตัวเองในห้อง ไม่อาบน้ำ ไม่ดูแลตัวเอง

โรคซึมเศร้า - แยกตัว อารมณ์เศร้าหรือไม่ก็ก้าวร้าว ไม่ทำกิจวัตรประจำวัน มีปัญหาโดดเรียน ติดยาเสพติด ติดเกมส์



... การเลี้ยงดู จึงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเดียวในการเกิด ฮิคิโคโมริ แต่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดปัญหาทางจิตประเภทอื่นๆมากกว่า

และ หนังก็นำเสนอ การเลี้ยงดูของพ่อแม่และปัญหาของเยาวชนในสังคมยุคใหม่ ได้น่าสนใจ

การเลี้ยงดูของป่าน - ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง ต้องถูกแยกตัว มีลักษณะแบบห่วงกับปกป้องมากเกิน overprotection , เด็กถูกตัดขาดจากสังคม ด้วยความจำเป็น , ไปโรงเรียนก็ถูกรุมล้อเลียน , แม่ต้องหาทางเอาเงินมารักษาลูกโดยลูกเข้าใจผิดๆว่าแม่ติดผู้ชาย , แม่คิดว่าลูกยังเด็กเลยไม่อธิบายและไม่ค่อยรับฟังความรู้สึกของลูก

ส่งผลให้ ลูกมีโลกส่วนตัวติดต่อคนอื่นทางเน็ต อยู่กับแฟนตาซี การ์ตูน , เกลียดแม่ แต่พอรู้ความจริง ก็รู้สึกผิด บวกกับที่สะสมว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงของแม่ยิ่งทำให้รู้สึกเป็นภาระและไม่อยากอยู่

การเลี้ยงดูของต้น – พ่อมีกิ๊ก ทำร้ายแม่ ไม่เป็นต้นแบบที่ดี , เลี้ยงแบบปล่อยปละตามใจ , พ่อแม่ทะเลาะกันจนละเลยลูก ลูกมีปัญหาจากโรงเรียนก็ขาดการใส่ใจ , ถูกรุมทำร้าย school bully บ่อย

ส่งผลให้ ลูกก้าวร้าว ติดเกมส์ จากการถูกเลี้ยงดูแบบตามใจเกินเหตุ , มีปัญหาเข้าสังคม กลับมาบ้านสร้างโลกส่วนตัว ระบายลงที่เกมส์ ก้าวร้าวกับแม่


... หนังเปิดประเด็นเหล่านี้ได้ดีมากๆแล้ว แต่กลับขยี้ไม่ถึงที่สุด

บทหนังแสดงเห็นเจตนาแล้วว่า อุตส่าห์ปูแบ็กกราวด์ตัวละครมาเยอะ ซึ่งถ้าผูกเรื่องดีๆ สามารถสร้างอารมณ์ดราม่าสะเทือนใจได้มากกว่านี้ เช่น ในส่วนของป่านกับแม่ หรือ ส่วนของแม่กับต้น

แต่ สิ่งที่ปูขาดการสานต่อ คือ เล่ากระท่อนกระแท่นเป็นช่วงๆว่าเกิดอะไร แต่ไม่เชื่อมโยงให้คนดูคล้อยตามว่า มันส่งผลต่อ ตัวละครอย่างไร

เช่น การย้อนความวัยเด็กของทั้งสองคน สร้างผลกระทบต่อปัจจุบันน้อยมาก คือ ย้อนเห็นว่า ป่านกับต้น โดนแกล้งมาตั้งแต่เล็ก และ ต้นทำหน้าลึกลับตอนมีศพแมวกับเพื่อนตาย มันน้อยเกินไปที่จะทำให้คนดู คล้อยตาม ความสัมพันธ์ระหว่าง อดีต กับ ปัจจุบัน

ตัวอย่างง่ายๆที่เพิ่งผ่านพ้นไปและผมคิดว่า การปูพื้นหลังที่มาที่ไป แล้วเอามาใช้ ขยี้ ได้ดีเช่น เฉือน ที่ไม่เสียแรงปูเรื่องไว้มากมาย



(อ่านต่อ ที่ความเห็น1)

แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 53 12:01:09

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 12:00:09




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com