ความคิดเห็นที่ 1   นี่ล่ะครับ ที่เดียวในโลก ที่ละครต้องโง่คนดูฉลาด(ซะที่ไหน) จากคุณ : อั้ม ติ่งเหลือม เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 00:30:50

ความคิดเห็นที่ 2 ....ย่องเข้ามาตอบ เพราะหมอจิน 5555 .... เพราะอกหักจากข้อสอบเลขวันนี้ แล้วกันค่ะ 5555 เรื่องละครไทย บทอ่อน ไม่สมจริงนี่ถกกันมานานแล้วเนอะ พล็อตใหม่ๆ ดีๆ เคยมีคนใครซักคนในนี้บอกว่า ถ้าลองทุกช่อง ทำละครสร้างสรรค์หมด คนดูทีวีคงไม่ปิดหนีทุกคนหรอกมั้ง อย่างน้อยก็น่าจะดู หรือไปๆมาๆอาจจะชินและชอบไปเลยก็ได้ ตอนนี้รู้สึกเห็นแสงริบหรี่ปลายอุโมงค์ค่ะ ที่ทีวีไทยเจ้าเดิม จากที่ได้ใจพวกเราชาวคอซีรี่ย์แล้ว ตอนนี้เค้าเริ่มทำละครไทยเอง  เรื่องผีเสื้อและดอกไม้นี่ไม่ค่อยได้ดู แต่เรื่องปัจจุบันหมอหงวน แสงดาวแห่งศรัทธา พูดเต็มปากเลยค่ะว่าติดแล้ว ....วันจันทร์ที่ปกติที่จะดูทีวีแชมเปี้ยนก็อให้ละครนี่จบก่อน คือ มันแค่เริ่มต้นมั้งคะ หลายอย่างยังดูขัดๆไปบ้าง แต่บทดีมากค่ะ ปลุกอุดมการณ์ดีจริงๆ การถ่ายทำก็แปลกตา เหมือนถ่ายหนังเลย ดูแล้วมันสะท้อนอะไรหลายๆอย่าง นักศึกษาสมัยนี้กับเมื่อ 30-40 ปีก่อน คิดกันคนละอย่างแล้ว บางทีก็รู้สึกสิ้นหวัง  แต่ก็รู้สึกว่า เราเองก็พอจะทำอะไรในหน้าที่ได้บ้าง หรือในอนาคตก็ตาม พล็อตเป็นเรื่องชีวิตจริง ความจริงพึ่งรู้ไม่นานก่อนละครฉาย คุณหมอต้นคิดเรื่องประกันสุขภาพ พูดตรงๆเลยว่า ที่ผ่านมาโมคิดว่า... มันเป็นนโยบายขายของของพรรคการเมืองทุนหนักพรรคนึง ไม่เคยรู้เครดิตคนคิดมาก่อนเลย  ทีแรกนึกว่าเค้าเป็นหมอของพวกนักการเมืองด้วยซ้ำไป ไม่นานนี้พึ่งโทรไปถามพ่อว่า หมอคนนี้เค้าเป็นคนดีจริงหรอ ถึงเอามาทำละคร ซึ่งพ่อก็บอกว่าดี เป็นรุ่นพี่ปีนึง ....ทีแรกนึกว่ารุ่นพี่พ่อหลายปีด้วยซ้ำ เพราะเค้าเสียไปแล้ว พล็อตประมาณแบบหมอโกโต้เลยค่ะ แต่ของเรานี่มันของจริงๆไม่ใช่การ์ตูนเลย แอบภูมิใจนะ แถมกระแสในพันทิปเองก็ดีซะด้วย... แต่ก็ยังรู้สึกดีค่ะ แม้จะแค่ในเว็บนี้ก็ตาม ....แต่ก็คงอาจจะเป็นสำหรับแค่ช่องนี้ก็ได้  เพราะจุดประสงค์ที่แน่นอนเค้าต้องมี ไม่งั้นก็ถูกว่าได้อีก   แต่มันให้ความรู้สึกแปลกใหม่มากเลยค่ะ ที่เห็นละครแนวนี้ในฟรีทีวีไทย ที่ไม่ใช่ละครเทิดพระเกียรติ ส่วนละครทีวีอื่นๆ  ช่วงนี้ได้ดูทัดดาวกับที่บ้าน... พระเอกนางเอกน่ารักดีนะคะ ถ้าตัดเรื่องแยกชายหญิงไม่ออกไปซะ เอาเป็นว่าไม่คิดมากแล้วกัน ...คิดซะว่ามันจากการ์ตูนเหมือนhanakimiแล้วกัน แต่อย่างอื่นไม่ไหวเลยค่ะ ตัวร้ายยังร้ายบ้าบอ นางรองยังโง่หลอกง่ายซะยิ่งกว่าเด็ก4ขวบ ฉากกรี๊ด โวยวายนี้ต้องลดเสียงลงกันตลอด  หนวกหูมากๆ ....ไม่ได้หวังเรื่องการพัฒนาอะไรมากจริงๆนะคะ เรื่องอย่างงี้มันอยู่ที่ค่านิยมของสังคมจริงๆ  ไม่ว่าจะเปลี่ยนอะไรในวงกว้าง คงต้องเปลี่ยนที่แต่ละคน  หรืออาจจะต้องเปลี่ยนวิถีเดิมๆก็ได้ ยกตัวอย่างหน่อย ตอนนึงในละครหมอหงวน พูดว่า "คนไข้ตายไม่ใช่เพราะป่วยตาย  แต่ต้องตายเพราะโรคความจน ที่รักษายากกว่าโรคทางกาย" โรคความจนไม่เคยหายไปจากคนไทย  ....แก้ยังไงกี่รัฐบาลก็ไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุเลย ยังให้คนจน หรือชาวสวนชาวนา ต้องมาโทษว่ารัฐไม่ช่วยไม่ทำ อย่างงั้นอย่างงี้ ไม่มีเงิน  แต่ไม่สอนเปลี่ยนที่ตัวเอง  พึ่งตัวเอง  ต้องคอยพึ่งพาระบบการเมือง เพราะต้องการวิน วิน มากกว่าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้คนจนส่วนมากยังใช้เงินไม่เป็น ทำงานไม่โปร่งใส(เรื่องตู้น้ำเย็น) หรือไม่รู้จักพอ ถึงจะใส่เงินลงไปในระบบ ใช้นโยบายนั้นนี้ แต่จัดการกันยังไม่เป็น  ผลที่ออกมามันก็อาจจะขาดทุนไปเรื่อยๆ แล้วความจนจะหายไปได้ไง พูดแล้วนึกถึง change 555555555   ฟุ้งซ่านจริงๆวันนี้  ไปนอนดีกว่า ปล.ขอโทษด้วยนะคะ ถ้ามันไม่ค่อยเกี่ยวอะไรกับกระทู้ T T *แก้ไขเพิ่มเติม แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 53 01:09:04 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 53 01:08:12 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 53 01:05:52 จากคุณ : momo lawleit เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 01:02:20

ความคิดเห็นที่ 3 อ่อ  ที่ผ่านมานี่เค้าคงคิดว่าระดับสติปัญญาของคนดูไม่ไ่ด้ต่างจากละครที่เค้าสร้างนัก อาจจะดีกว่าหน่อยอย่างที่เค้าบอกละครต้องโง่กว่าคนดู จริงๆน่าจะเป็นระดับสติปัญญาของคนเขียนบทมีแค่นั้นรึเปล่า? ถึงคิดว่าระดับของละครแบบนี้พอแล้วที่ทำให้คนดูฉลาดกว่า โอ้.. ไม่นะ โหดร้ายว่ะ 5555 ผ่านมากี่ยุคกี่สมัยแล้วที่วิยาศาสตร์พิสูจน์ว่ามนุษย์สามารถเกิดการเรียนรู้ และพัฒนาจากการเรียนรู้   ตามใดที่วัตถุดิบไม่เปลี่ยนแปลง มนุษย์ก็ได้แต่เรียนรู้เรื่องเดิมๆ พัฒนาได้เท่าเดิม แล้วแบบนี้เมื่อไรมนุษย์จะฉลาดพอให้ละครที่ต้องโง่กว่าดูฉลาดขึ้นมาอีกนิดล่ะ? จากคุณ : ninoshingo เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 01:12:48

ความคิดเห็นที่ 4 อ้าปากค้างหวอ....... อึ้งไปสามสิบวินาที "เราต้องเขียนบทให้คนดูฉลาดกว่าตัวละคร" นี่คนเขียนเค้าเห็นเราโง่มากใช่ไหมคะ???? โง่จนเค้าต้องเขียนบทละครให้เราเข้าใจได้ง่ายๆน่ะ.... จากคุณ : Pan-Nyo เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 01:55:08

ความคิดเห็นที่ 5 คนคิดคิดให้คนดูฉลาดกว่าตัวละคร แต่คนคิดกับตัวละครล่ะ ใครฉลาดกว่ากัน? ปกติไม่ดูทีวีเลยค่ะ ดูแต่ซีรี่ลูกเดียว หรือก็ดูสารคดีไปเลย ไปนั่งทำงานห้องเพื่อนเปิดทีวีถึงได้รู้ว่าตอนนี้ ทีวีของไทยเป็นยังไงบ้างค่ะ เปรียบเทียบกับที่ดูรายการต่างๆของญี่ปุ่น และซีรี่นี่ >..< อธิบายไม่ได้ อย่างทัดดาวเพิ่งจะเคยดูกะเค้าค่ะ ทำไมถึงแยกไม่ออกหญิงชาย ไม่เข้าใจ อีกเรื่องเป็น นางเอก ที่เป็นนางร้ายอย่างเต็มตัว หน้าตาการพูด ร้ายตลอด ดูแล้วเอ้อออออ ชีวิตจริงมีคนพูดกันแบบนี้ด้วยเหรอ ฟังแล้วปวดหัวค่ะ แต่ถ้าพูดตามจะขำมาก นั่นแหละประโยชน์(ส่วนตัว) พากย์ตามจนฟังไม่ทัน หะหะ จากคุณ : จรรมูก (khemopy) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 05:04:29

ความคิดเห็นที่ 6 โอ๊ย ไม่ไหวจะเคลียร์ อยากหัวเราะเป็นภาษาบาลี - -'' เมื่อเดือนสองเดือนก่อนเห็นมีตั้งกระทู้ในห้องใหญ่ รายการอะไรไม่รู้ที่เอาผู้จัด กะ ผู้บริหารช่องมาให้สัมภาษณ์ สงสัยจะช่อง 3 ก็ถามหัวเดิมเรื่องเดิมที่เก่าเวลาเดิม "ทำไมมีบทตบตี ทำไมต้องมีการแสดงออกแรง ๆ " คำตอบก็เดิม ๆ เรตติ้งไม่ดีไม่มีคนดู พิธีกรหันมาถามผู้บริหารถึงละครต่างประเทศ ละครจีนกำลังภายในที่นำมารีรันเรตติ้งเท่าไหร่ อย่างเปาปุ้นจิ้นน่ะ ... เขาบอกว่า 13 เอ๊า ... อะไรของแก จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 07:06:23

ความคิดเห็นที่ 7 กำลังจะพูดถึงเรื่องเดียวกับน้องโมเลยค่ะ เมื่อคืนดูได้ผ่านๆแว้บๆ แต่ติดทีวีแชมเปี้ยนก็เลยยังไม่ได้ดูเต็มๆ แต่จากพล็อตเรื่องที่ได้ผ่านหูผ่านตามาบ้าง ซ้ำภาพที่ได้ดูผ่านๆมา ก็รู้สึกได้เลยว่านี่แหละละครไทยแบบที่ต้องการ จุดเริ่มต้นอาจจะยังมีจุดที่ไม่ดีไปบ้าง แต่ว่าอย่างน้อยก็ได้เริ่มอ่ะนะ เสียดายก็แต่อยู่ในช่องที่คนที่จะเลือกดู คือคนที่ต้องการสิ่งใหม่ๆอยู่แล้ว แบบนี้คนหัวเก่าๆ ที่ชอบดูละครน้ำเน่าจะมาดูเหรอ?แล้วถ้าไม่ดู สุดท้ายก็คงไม่มีใครลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงให้เป็นเรื่องเป็นราวอีก ด้วยเหตุผลว่า ไม่มีใครดู เรตติ้งไม่ดี -*- จากคุณ : น้ำพริกกินกะปลาทู เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 14:25:28

ความคิดเห็นที่ 8   ออกตัวก่อนว่าในรอบ 10 ปีนี่ดูละครไทยไม่จบซักเรื่องเลยค่ะ ดูแวบๆก็รู้สึกเบื่อแล้ว เลยหันไปดู series ฝั่งตะวันตกแทนมาตลอด เพิ่งเริ่มดู series ญี่ปุ่นนี่ล่ะค่ะ ติดงอมแงมเลย เคยชอบแนวการเขียนบทของกลุ่มกระดาษพ่อดินสอแม่  เรื่องแรกที่ดู คือ รองเท้าแก้ว (นานจัดแล้วนะคะ) รู้สึกว่าเขียนบทได้แปลกดีจัง ไม่มีตัวร้ายเลย พระรอง นางรอง ก็น่ารักน่าเชียร์ แต่สุดท้ายกลุ่มเขียนบทนี้ก็หายไป  จริงๆคนที่ชอบดูละครสไตล์นี้มีมาก แต่ในเมื่อไม่มีผู้ผลิต ผู้บริโภคอย่างเราก็ต้องโอนสัญชาติไปพลางๆก่อนค่ะ  ว่าแล้วก็ขอไปดูทัดดาวเล็กน้อย เอาไว้เมาท์กะที่ทำงานพอรู้เรื่อง....แหะๆ จากคุณ : primary girl เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 17:00:19

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณยิ้มสำหรับกระทู้ดี ๆ อย่างนี้ครับ ผิดห้องก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเราคุยกันที่นี่น่าจะคุ้นเคยกว่า สำหรับละครไทย ได้ยินนักเขียนบทของเราพูดอย่างนี้ ได้แต่วังเวงในใจ เคยบอกนานแล้ว ที่ละครไทยยังไม่ไปไหน ไม่เกี่ยวกับงานสร้าง ฉาก เสื้อผ้าหน้าผม จัดแสง ฯลฯ เพราะโปรดัคชั่นเราได้ระดับมาตรฐานแล้ว ที่ขาดไปคือหัวใจและวิญญาณ หัวใจก็คือบท บทของเราขาดความลึก ขาดการนำเสนอที่แฝงสาระ ขาดชั้นเชิงที่จะทำให้ดูมีระดับ วิญญาณคือภาษาภาพ ภาษาภาพของเราธรรมดา บอกสิ่งต่าง ๆ อย่างโจ่งแจ้ง ไร้ชั้นเชิงไม่แฝงนัยยะ (ไม่อยากพูดคำนี้เลย) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไปต้องไปหาดูตัวอย่างจากที่ไหนให้ยากเย็น หยิบซีรีย์ญี่ปุ่นขึ้นมาสักเรื่อง จะเห็นว่าละครดี ๆ เค้าทำกันยังไง อีดิทอีกนิด : อ่านทู้นี้แล้วอยากบอกว่า คนเขียนบทบ้านเรา ตั้งแต่เริ่มแรก ก็มีทัศนคติต่อบทละครเป็นอย่างนี้แล้ว ช่างน่าสิ้นหวังซะเหลือเกิน ป่วยการพูดเรื่องละครน้ำดี แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 53 17:35:02 จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 17:24:33

ความคิดเห็นที่ 10 นอกจากละครพื้นบ้านจักรๆวงศ์ๆตอนเช้าเสาร์อาทิตย์แล้ว ผมจำได้ว่าตั้งแต่เด็กจน โตผมไม่เคยดูละครไทยเลยนะ ตอนเด็กๆก็ต้องรีบเข้านอนแต่หัวค่ำเพราะต้องตื่น เช้ามากๆให้ทันรถโรงเรียน พอเข้ามหาลัยก็ดันติดเพลงร็อคฝรั่งซะงั้น แล้วตอนนี้ก็ ติดซีรี่ย์ญี่ปุ่นอีก จริงๆผมก็จนนะบ้านก็อาศัยพ่อแม่ใช้รถมอไซค์หาเงินได้เดือนละหมื่นนิดๆแต่หัวสูง ชอบบันเทิงญี่ปุ่นซะงั้น แถมแอนตี้ละครไทยอีกต่างหาก55 จากคุณ : คนพันธุ์ร็อค เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 53 20:07:38

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาร่วมแชร์ความคิดเห็นกัน แต่ตอนนี้ บอกได้อย่างเดียว -จุก- มากๆ เหมือนสมองถูกสั่ง shutdown ไป ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้ว...แง๊ จากคุณ : ยิ้มเดียว เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 18:34:11

ความคิดเห็นที่ 12   ^ ^ สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณยิ้มเดียว :) จากคุณ : BB เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 13:14:43 A:68.124.61.116 X: TicketID:094656

ความคิดเห็นที่ 13   สำหรับเรา ที่กำลังจะก้าวไปเป็นนักเขียนบท (ขอเหมาว่าจะได้เป็นนะคะ แฮะๆๆ) ในบทเรียน สอนแค่หลักการ ค่ะ ไม่มีอะไรให้คิดเทือกนี้เลย จะได้ความรู้ก็ตอนได้ไปสัมภาษณ์ พี่ๆนักเขียนบทตัวจริงค่ะ ณ ตอนนั้น รู้สึกว่า  -- โลกกว้างจัง -- แล้วก็คิดแค่ว่า เรายังไม่รู้อะไรอีกเยอะ โดยส่วนตัวคิดว่า ประสบการณ์จะเป็นตัวสอนที่ดีที่สุด สำหรับคำว่า "คนดูต้องฉลาดกว่าตัวละคร" มันหมายความว่าอะไร? เราตีความไม่ออกจริงๆค่ะ ณ ตอนนนี้ รู้สึกว่า ตัวเองเป็น คนโง่ๆ คนนึงที่ต้องหาประสบการณ์เพื่อมาตอบคำถามนี้ ขอคุณที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมานะคะ เราคิดว่า มันเป็นคำถามที่น่าสนใจจริงๆค่ะ ^^ จากคุณ : FLixXieZ เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 18:24:54