 |
ความคิดเห็นที่ 3 |
Q. การถ่ายทอดบรรยากาศแบบสิบล้อในหนัง P. คือที่มาของบรรยากาศเหล่านี้เราก็มีพื้นเพมาจากคนขับสิบล้อจริงๆ คือเราเห็นคนขับสิบล้อเราก็จะเห็นการแต่งตัวหรือทรงผมเหมือนคนที่อยู่ในบังโคลนรถที่เขาแต่ง บางคนก็แต่งตัวเหมือนตี๋ใหญ่ บางคนก็มีเรย์แบนเหน็บเหมือนเซอร์ปิโก้ สิบล้อบางคันก็มีเชกูวาร่าอยู่ท้ายรถ เราก็เอามาเหมาเอาว่าน่าจะเป็นไอดอลของคนขับสิบล้อ ตัวนำก็น่าจะเป็นหนึ่งในนี้สักคนหนึ่ง เราก็เอาเช กูวาร่ามา แต่จริงๆ แล้วนิสัยใจคอหรือว่าความรู้ของน้าเชคือแทบไม่มีเลย มันก็แค่เป็นคาแรกเตอร์ที่เขาคิดว่าเขาเท่ห์ ส่วนอู๊ดกับแอ๊ดด้วยความเป็นฝาแฝดเราก็ต้องหาจุดที่ทำให้โก๊ะกับหอยนั้นทำให้คล้ายกัน มันก็ต้องดัดแปลงด้วยเรื่องของทรงผมและแว่นตา มันก็พอทำให้เขาดูกลืนเข้ามาได้ แล้วอย่างผมคือเราดีไซน์ให้เขาเป็นอีกแบบหนึ่ง ให้เหมือนเด็กแนวแบบบ้านๆ เหมือนพวกเร็กโทรสเป็ก แต่หอยเขาเพิ่มให้ เขาขอเองว่าขอตัดเป็นทรงนี้ คือถ้าเห็นในหนังจะเห็นเลยว่าทรงผมนั้นหอยเป็นคนดีไซน์เอง ก็เลยโยงมาถึงอู๊ดด้วย โก๊ะก็ต้องยอมทำตาม แต่มันก็แฮปปี้ทั้งคู่ อย่างวิลลี่ ถ้าอยู่ในยุคก่อนที่สิบล้อยังแวะเข้าหาบริการข้างทางมันก็จะมีแมงดา ทีนี้วิลลี่ คาแรกเตอร์ที่เราเห็นจะเป็นแนวมาดหล่อ เท่ห์ แต่เราเห็นว่ามันมีอยู่ยุคหนึ่งที่คนเขาฮิต เหมือนอานิรุตติ์สมัยก่อน ไว้ผมแสกกลางรากไทร ซึ่งวิลลี่พอเห็นคาแรกเตอร์นี้เขาก็แฮปปี้ที่จะเล่น
Q. พูดถึงวิธีการทำหนังในแบบสาระแน P. คือปกติหนังทั่วไปเขาใช้กันกล้องเดียว แต่อย่างเราอย่างต่ำ 3 กล้องเพราะว่านักแสดงอย่างเปิ้ล หอย โก๊ะตี๋เขาเป็นนักแสดงที่พอเราเล่าเหตุการณ์ที่มันจะเกิดขึ้นให้กับตัวละครเหล่านี้ที่มันจะเจอ ให้เขาฟัง เขาก็จะมีจินตนาการเพิ่ม ซึ่งเขาจะมีมุกสดที่เขาคิดไว้ในใจ ตอนซ้อมเขาจะไม่ปล่อยออกมาหรอก แต่เขาจะยิงออกมาตอนเทคแรก ซึ่งเทคแรกมันสด และก็สนุกที่สุด มันเหมือนเขาพร้อมที่จะปล่อยมุกสดออกมาในเทคแรก ซึ่งเรารู้อยู่แล้วเราเราทำงานกันมานาน ซึ่งกล้องเดียวมันไม่สามารถจับอารมณ์ชของเขาได้หมด เราก็เลยเตรียมกล้องไว้เลยในเทคแรก ส่วนเทค 2 หรือ 3 ก็เจาะเอาในส่วนที่ไม่ได้ หรือว่ามันเดินไปไม่ได้ตามเส้นเรื่องก็เติมให้ช่วยพูดเท่านั้นเอง การทำงานมันจะเป็นลักษณะนี้มากกว่า เพื่อความสดและความตลก เพราะถ้าเกิดให้คนพวกนี้ทำเทค 2,3,4 ซ้ำ มันก็จะไม่ได้ ทุกอย่างมันจะสดและดีที่สุดในเทคแรกเท่านั้น และเราก็มีการทำสตอรี่บอร์ดวางแผนการทำงานเหมือนหนังทั่วไป แต่มันก็มีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ บางครั้งตัวแสดงอาจจะเล่นบิดไปจากความสดที่มันเกิดขึ้น เราก็ปล่อยไหลตามธรรมชาติ เพราะนักแสดงเหล่านี้เขาเข้าใจคาแรกเตอร์ของตัวเองดี เวลาเขาหลุดไปจากไลน์แต่อาจจะไปเพิ่มความสนุกให้กับคนดู เราก็จะตามไปเก็บ สตอรี่บอร์ดอาจจะเป็นฉบับร่างของการทำงาน แต่มันก็ไม่ได้เป๊ะตามสตอรี่บอร์ดนัก คือมันก็มีความสด ขึ้นทุกฉาก ตัวหลักเราก็มี น้าเช อู๊ดแอ๊ด แต่มาริโอ้เขาเหมือนเป็นเด็กที่ถูกโยนเข้าใส่กลุ่มสิบล้อ ฉะนั้นแก๊งค์สิบล้อมันก็จะมีทั้งแกล้ง นอกบททำให้มาริโอ้หลุด ซึ่งมันก็จะได้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ โอ้อาจจะหลุดขำ แต่มันก็คิดได้ว่าเด็กคนหนึ่งที่มาอยู่กับน้ามันก็มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ที่จะออกอาการแบบนี้ มันก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับการที่มาริโอ้จะหลุดมากมาย
Q. ยังคงคอนเซ็ปท์ไม่รักไม่แกล้ง P. คือมันก็เป็นการทำงานแบบของเรา คือถ้ามันเกิดอะไรขึ้นสักอย่างโดยที่อีกคนไม่รู้มันก็น่าจะตื่นเต้นดี มันก็มีบางฉากที่วิลลี่เข้าฉากกับเปิ้ล เราก็มีเตรียมกับวิลลี่ไว้โดยที่เปิ้ลเขาไม่รู้ วิลลี่อาจจะเล่นอะไรอกมาโดยที่เปิ้ลนึกไม่ถึง ก็ต้องไปคอยชมเอาเอง แต่มาริโอ้ก็มีบ้าง แต่อาจจะไม่แรงเท่าที่เปิ้ลเจอ จริงๆมันก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งของภาพยนตร์ แต่มันไม่ใช่เทคนิคของเรานะ เพราะคนทำหนังในโลกนี้เขาก็ใช้เทคนิดนี้มาเยอะแล้ว บางทีการแสดง มันไม่เท่ากับความสดที่มันรู้สึกจริง บางทีแสดงไปเหอะ 3-4 เทคมันก็ยังไม่ได้อารมณ์จริง สู้เราบอกแค่ครึ่งเดียว และอีกครึ่งหนึ่งให้เขารู้สึกกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นตรงหน้าเลย มันถึงจะได้ความสด ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างที่ต้องการ
Q. มีอะไรที่บ่งบอกถึงลายเซ็นต์หรือลายมือของทีมสาระแน P. คือมันไม่เรียกว่าลายมือ ถ้าจะบอกว่าลายมือหรือการเล่าเรื่องในแบบสาระแน ผมว่ามันออกมาแบบธรรมชาติ เป็นพฤติกรรมของคนทำงานที่นี้มากกว่า มันเกิดมาจากการที่เราทำงานกับคนที่มีอารมณ์ขัน เวลาทำงานเราก็ชวนกันสนุกมากกว่าซีเรียสที่จะทำงานให้เสร็จทุกอย่าง อย่างโก๊ะตี๋เขาจะชัดเจนมากในเรื่องของจังหวะตลก แม้กระทั่งคนทำพร๊อพหรือทำไฟ เขาก็มีส่วนร่วมในการทำหนังเรื่องนี้ คือทำงานด้วยความสนุกมันจะไม่เหนื่อย มันคงไม่ใช่ลายมือของเรา แต่มันเกิดมาจากวิธีการ ถ้าเราได้คนทำงานคนใหม่ๆรูปแบบในการทำงานมันอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้มั้ง มันอาจจะเปลี่ยนไปเป็นคาแรกเตอร์อีกแบบหนึ่ง ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ และที่สำคัญทีมงานของเราอยู่ด้วยกันมานานจนรู้และทันความคิดของกันและกัน ซึ่งผมว่ามันก็เป็นเรื่องดี เพราะคนเดียวมันไม่สามารถคิดได้หมดหรอก มันอาจจะเกิดความขัดแย้ง แต่ถ้าขัดแย้งแล้วเรื่องของเขามันดีกว่าของเราๆ ก็ต้องยอมรับฟัง
จากคุณ |
:
TooN_cc
|
เขียนเมื่อ |
:
12 มี.ค. 53 10:43:38
|
|
|
|
 |