Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
: : : : : รักแห่งสยาม: ไม่ต้อง “ข้ามเพศ” ก็รักกันได้...เพราะรักใช้ "ใจ" ไม่ใช่แค่คำว่า "ชาย-หญิง" ^ ^ : : : : :  

เพิ่งดูหนังเรื่อง “รักแห่งสยาม” จบค่ะ ^ ^

เอิ่ม...พอดีตอนที่ฉายในโรงเพื่อนเชียร์ให้ไปดูยิกๆ ค่ะ แต่เดี๊ยนส่ายหัวท่าเดียว ทั้งที่กระแสแรงจะตาย ก็ตอนนั้นมันไม่อยากดูนี่นา -*- (เพื่อนเดี๊ยนคนนี้เป็นเกย์ค่ะ มันดูทั้งหมด 8 รอบ รวมทั้งรอบ Director’s Cut ด้วย มันบอกว่ารักหนังเรื่องนี้มาก รักเพราะชีวิตมิวเหมือนชีวิตมัน T__T)

เหตุที่ทำให้หยิบหนังเรื่องนี้มาดูอีกครั้ง เพราะเมื่อคืนช่อง 7 นำกลับมาฉายใหม่ในโปรแกรม Big Cinema แต่มีตัดออกไปหลายฉาก ทำให้อารมณ์ขาดๆ หายๆ แถมเพื่อนๆ ในกระทู้ล่างๆ ก็พูดถึงกันเยอะเหลือเกิน วันนี้จึงลองหยิบแผ่นมาดูอีกครั้ง เพราะอยากเต็มอิ่มกับทุกฉาก และทุกบทสนทนา...

กลับมาดูอีกครั้งก็ยังเสียน้ำตาค่ะ แต่เป็นน้ำตาแห่งความอิ่มเอมกับความรักหลากหลายมุม...  ^ ^

น้ำตาหยดแรกเริ่มไหลกับฉากที่มิวยืนปาดน้ำตาป้อยๆ ตอนรถของโต้งค่อยๆ เคลื่อนห่างออกไป จนกระทั่งโต้งกับมิวได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง...

หนังเรื่องนี้มีประโยคโดนๆ เต็มไปหมด แต่ละประโยคล้วนสะกิดใจ...

เดี๊ยนชอบฉากในห้องนอนที่โต้งกับมิวคุยกันค่ะ ฉากที่โต้งถามมิวว่า...

“ที่ผ่านมาเป็นไงบ้าง อยู่คนเดียวไม่เหงาบ้างเหรอ...”

มิวผู้พูดน้อยแต่ช่างต่อยหนัก ตอบเคล้าน้ำเสียงเศร้าๆ ถ่ายทอดความเหงาออกมาได้กินใจเหลือเกินว่า…

“เหงาจนน่ากลัว...ตอนเด็กๆ เหงาเพราะไม่มีเพื่อน พอโตขึ้นความเหงามัน here กว่านั้นมาก เพราะอาม่าเสีย...ถ้าเรารักใครมากๆ แล้วเราจะทนได้เหรอ ถ้าต้องเสียเค้าไป และการจากลา มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะรักใครโดยไม่กลัวการสูญเสีย แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า แล้วมันจะเป็นไปได้เหรอ ที่เราจะอยู่ได้โดยไม่รักใครเลย นี่แหละความเหงา เราอยู่กับมันมา 5 ปี ทำไมเราจะไม่รู้ว่ามันทำร้ายเรายังไง...”

ใครที่เคยตกอยู่ในห้วงของ “ความเหงา” คงเข้าใจดีนะคะ งื้ดๆๆ T___T

...

ฉากที่มิวต้องกลับมานั่งตีโจทย์ “ความรัก” เพื่อเขียน “เพลงรัก” นี่ก็โดนค่ะ เขียนยังไงก็เขียนไม่ได้ ก็เพราะไม่เคยมี จึงไม่อิน มันก็จริงอะนะ ก็ในเมื่อ “เพลงรัก...หากไม่รักก็เขียนไม่ได้” เอิ๊กๆๆ  - -“

แต่หลังจากที่โต้งกลับเข้ามาในชีวิตมิวอีกครั้ง ในที่สุดมิวก็แต่ง “เพลงรัก” ได้ หวานด้วย ร้องเพราะอีกต่างหาก >.<

อานุภาพของความรักนี่มันยิ่งใหญ่จริงๆ เลยนะคะ มันฉายออกมาทางท่าทางและแววตาที่มิวมีต่อโต้ง แล้วยังสะท้อนออกมาเป็นบทเพลงหวานซึ้งจับใจ  แถมส่งสายตาให้โต้ง โอย...ละลายค่ะ ลืมไปเลยว่า เค้าคือเพื่อนกัน แถมเป็นผู้ชายเหมือนกันด้วย พิชตาหวานม๊ากกกก  >.<

ละลายไม่พอมาระทวยต่อด้วยฉากหลังงานเลี้ยงค่ะ “ถ้าไม่มีโต้งก็ไม่มีเพลงนี้หรอก...” และแล้วก็...จูบค่ะจูบ (จูบจริงไม่ใช้มุมกล้องด้วย กล้าเล่นมากๆ ทั้งคู่เลย) >.<

แต่แอบสงสารแม่ของโต้งอะ พี่นกสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมากๆ เลยฉากนั้น...

...

สงสารมิวตอนที่แม่ของโต้งมาหาที่บ้าน หลังจากฟังเหตุผลของสุนีย์จบแล้ว  ประโยคเดียวสั้นๆ ที่หลุดออกมาจากปากมิวคือ...

“เราเป็นแค่เพื่อนกัน...”  แต่สายตานี่แบบว่าเจ็บปวดมากๆ T__T

ฉากนี้เห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ...แต่เห็นใจมิวมากกว่า 555+

...

ฉากที่จูนทิ้งโน้ตเอาไว้เดี๊ยนก็ชอบค่ะ ดูแล้วได้คิดตาม...

“พวกคุณรักกันมาก แม้บางครั้ง มันเหมือนจะมากเกินไป จนทำร้ายกัน แต่เชื่อเถอะว่า เมื่อเวลามันผ่านไป แล้วเราจะเข้าใจว่า ‘ความรัก’ มันไม่มีคำว่ามากเกินไปหรอก

"เพราะแม้ว่ามันอาจจะทำให้เราทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่มันก็ยังดีกว่า เราไม่เคยทำอะไรเพื่อความรักเลยไม่ใช่เหรอ และชีวิตก็มีโอกาสเสมอให้เราเริ่มต้นใหม่ หลังจากที่เรียนรู้ความผิดพลาดนั้น...”

ก็จริงนะ หลายต่อหลายครั้งที่เราทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพราะเราคิดว่าสิ่งที่เราทำให้เค้านั้นมันคือ "ความรัก" ก็เหมือนกับที่สุนีย์ขีดเส้นให้ลูกเดิน เพราะสุนีย์รักลูกและไม่อยากให้ลูกหลงทาง (ในแบบที่ตัวเองคิด)

แต่ก็อีกนั่นแหละ รักอย่างเดียวไม่พอ มันต้องมีความเข้าใจด้วย เพราะความเข้าใจที่สุนีย์มีให้โต้งในตอนท้ายๆ โต้งจึงมั่นใจที่จะหยิบตุ๊กตาผู้ชายติดต้นคริสต์มาส (ประกาศผ่านตุ๊กตาไปเลยว่ากรูเป็นเกย์) 555+

…

ฉากท้ายๆ ที่โต้งบอกความในใจกับก็โดนนะ...

"เราคงคบกับมิวเป็นแฟนไม่ได้ แต่ไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้รักมิวนะ"

แม้โต้งไม่สามารถทำตามความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง (ทางกายภาพ) ได้ แต่อย่างน้อยๆ โต้งก็ “ซื่อสัตย์” กับความรู้สึกตัวเอง...

ดูฉากนี้แล้วรักโต้งค่ะ แม้ว่าโต้งจะไม่ชายตาแลชะนีก็ตาม 555+

ส่วนประโยคเดียวสั้นๆ ตอนท้ายเรื่องของมิวที่พูดกับตุ๊กตาของโต้งว่า...

“ขอบคุณนะ...”

เดี๊ยนไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนร้องไห้ได้น่าปลอบเท่ามิวเลยค่ะ อินจัด ตายังบวมอยู่เลยอะ T___T

...

เพื่อนเดี๊ยนคนหนึ่งเคยบอกว่า “ความรักไม่มีเพศ”

อืม...ได้ยินครั้งแรกก็อึ้งๆ ค่ะ แต่พอคิดตาม เออ..มันก็จริง ในเมื่อ “ความรัก” ช่วยจรรโลงโลกให้สวยงาม มีสีสัน และน่าอยู่ แล้วเราจะมามัวนั่งกังวลถึงคำว่า “เพศ” ทำไม ในเมื่อรักใช้ “ใจ” ล้วนๆ รักกันไว้เถอะค่ะ เพราะยังไงความรักก็ดีกว่าความชัง ไม่ว่าจะรักในสถานะไหนก็ตาม ^ ^

แต่เอาเถอะค่ะ ทุกคนล้วนมีที่ทางของตัวเอง ตราบใดมีรักย่อมมีหวัง ก็อย่าเพิ่งหมดหวังกันนะคะ...ความรักไม่เคยทำร้ายใคร ถ้าเรารักอย่าง “มีสติ” ^ ^

ขอให้ความรักเบ่งบานในใจของคนไทยทุกคน เช่นเดียวกับ "รักแห่งสยาม" นะคะ  เลิฟ

...

เรื่องนี้พลอยสวยใสม๊ากกก ฉากนำสวดบนโต๊ะอาหาร พลอยน่ารักอะ ^ ^

มาริโอ้ก็หล่อ พิชก็น่ารัก คนที่เล่นเป็นหญิงก็ใส แถมแต่ละคนก็แสดงได้เป็นธรรมชาติสุดๆ

โดยเฉพาะพี่นก-สินใจ และพี่กบ-ทรงสิทธิ์ ไม่รู้จะบรรยายยังไง รู้แต่ว่าเทพทั้งคู่ ^ ^

***แก้ไขข้อความและคำผิดค่ะ***

แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 53 14:55:05

แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 53 14:47:47

แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 53 14:25:34

 
 

จากคุณ : ROONGPOONGLOW
เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 14:18:13




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com