 |
ความคิดเห็นที่ 3 |
Q: พี่เปิ้ลนาครนอกจากเป็นนักแสดงและยังเป็นทั้งโปรดิวเซอร์และผู้อำนวยการสร้าง สาระแนสิบล้อด้วย ออกตัวว่าทีมงานมือใหม่หัดขับ เพิ่งทำหนังเรื่องนี้เรื่องแรก ที่ว่าใหม่นี่ใหม่มากขนาดไหน
ชมพู่: ถ้าพูดถึงความมือใหม่หัดขับของทีมงานสาระแนสิบล้อ ใช่ไหมคะ ก็ได้ข่าวว่าไม่เคยถ่ายหนังกันเลย ก็ทำแต่รายการกันมาก่อน ก็ไม่รู้ว่ารับเล่นไปได้ยังไงนะ (หัวเราะ)เพราะไม่เคยทำหนังกันมาเลยนะ แล้วก็ แหม หนังเรื่องแรกในชีวิตนะก็เจอทีมงานทีมนี้นะ แต่ลองคิดดูว่าขนาดไม่มืออาชีพกัน ซีนหนึ่งยังใช้กล้องถ่ายถึง 4-5 ตัว ซึ่งก็ช่วยย่นระยะเวลาไปได้เยอะเลยในการถ่ายทำแต่ละครั้ง แล้วก็จะมีน้อง starbucks กับหลังเลนส์(สาระแนห้าวเป้ง) ที่เขารับหน้าที่ตีสเลท ขานชื่อซีนจำนวนเทคที่เท่าไหร่ แล้วเขาก็จะอ่าน (หัวเราะ)คือว่าเวลาอ่านตะกุกตะกัก ผิดจนกระทั่งพี่เปิ้ลบอกว่า ไม่ต้อง ถ้ามีฉากไหนที่มีพี่เปิ้ล พี่เปิ้ลจะไม่ให้น้องเค้าตี slate เลย ก็คือว่าจะให้ไปตี slate ท้ายซีนเอา กลับหัวเอา อะไรอย่างนี้ เพราะว่า เขาจะอ่านผิดๆถูกๆ (หัวเราะ)แล้วก็ทำให้นักแสดงเสียสมาธิคะ มีอีกเคสหนึ่งค่ะสะท้อนความเป็นมืออาชีพมากๆ(หัวเราะ)ของทีมงาน อย่างมีอยู่วันหนึ่ง อันนี้เป็นประสบการณ์ที่โดนกับตัวเลยค่ะ เป็นคิวถ่ายที่สองหรือคิวที่สามนี่แหละค่ะ ก็คือวันนั้นทั้งวันเนี่ยะเป็นฉากที่ต้องถ่ายบนรถสิบล้อ แล้วก็เห็นชมแค่ครึ่งตัวเลยยังไม่ต้องใส่ขาเทียมกัน จนกระทั่งมีอยู่ฉากหนึ่งที่ต้องเห็นชมวิ่งไปกับพี่เปิ้ล ก็เลยต้องใส่ขาแล้ว เห็นเต็มตัว เลยต้องรีบใส่ขา แต่ชมก็รู้สึกว่าเอ๊ะทำไมวันนี้ขามันเจ็บ ทีมงานก็บอกว่าชมอ้วนขึ้นหรือเปล่า ชมขาโตขึ้นหรือเปล่า พี่เปิ้ลก็บอกว่าชมขาใหญ่ขึ้นหรือเปล่า ทำไมใส่ไม่ได้นี่อันเดิมนะ อะไรอย่างนี้ เขาก็ไม่ได้ไปทำอะไรกับขาเทียมชมแน่ใช่ไหม เออทำไมมันเจ็บ คือใส่ยังไงมันก็ไม่พอดี มันก็ยังมีช่องว่าง (gap) สรุปว่าถ่ายกันเสร็จเรียบร้อยนะซีนนั้น ชมก็ยังนั่งทนเจ็บ ทนทรมานอยู่ต่อไป เขาก็ไปเช็ค continue กัน ปรากฏว่าใส่ผิดขา ก็ทำยังไงต่อไป ใส่ผิดขา ก็เลยสลับขาแล้วก็ถ่ายต่อ แล้วฉากก่อนหน้านั้นที่ใส่ผิดก็ไม่ซ่อมด้วยนะ (หัวเราะ) ก็คือปล่อยไป เพราะว่าเป็นหนังตลก สถานการณ์ เราเหนือจริงอยู่แล้ว ก็เดี๋ยวถ้าได้ดู ก็ไปดูแล้วกันว่าเป็นฉากไหนที่ใส่ผิดขา (หัวเราะ) มันตลกมากก็คือวิ่งเข้าไปแล้วก็วิ่งออกมาเป็นอีกข้างหนึ่ง ต้องรอให้ท่านผู้ชมสังเกตุดูว่าฉากไหน
Q. ความอึดอัดใจ ความลำบากใจหรือที่พูดได้ว่เป็นวิบากกรรมที่ชมพู่ต้องเผชิญในการเป็นนางเอกของสาระแนสิบล้อ
ชมพู่: ก็คือการที่ชมพู่ต้องแสดง โดยอยู่ท่ามกลางพี่ๆแต่ละคนไม่ว่าจะเป็น พี่เปิ้ล,พี่วิลลี่,พี่หอย,พี่โก๊ะ หรือแม้แต่โอ้ คือตัวละครทุกๆตัวรอบตัวเราตลกทุกคน แต่ด้วยความที่ว่าด้วยคาแรคเตอร์ของเราไม่ใช่ตลก แล้วที่ยากก็คือเวลาเราเห็นคนอื่นเขาตลกแล้ว เราเองก็อยากจะตลก อยากเป็นตลกกับเขาด้วย แต่ว่าก็ไม่ได้ ด้วยบทที่เราได้รับก็ไม่ได้ เพราะต้องเล่นเป็นดาวหญิงสาวแสนดีที่งามทั้งกายและใจจะมานั่งตลกไม่ได้ เวลาที่คนอื่นเขาสนุกสนาน แล้วมันบางทีเราก็อยากจะหลุดแล้วมันก็อยากจะขำออกมา แต่มันก็ไม่ได้เพราะว่าซีนต้องไปต่อ ซึ่งก็จริงๆแล้วชมก็ไม่ใช่คนเส้นตื้นมากนะ ก็ได้อยู่ มีสมาธิ แต่ว่าบางทีก็หลุด ซึ่งบางทีที่เราเผลอยิ้ม พี่เป้เขาก็ไม่ได้คัทนะ เขาก็ปล่อย คือมันก็เลยงง เอ๊ะนี่เรากำลังถ่ายรายการบางจะเกร็งอยู่ หรือว่าเราถ่ายหนังอยู่ (หัวเราะ) ถ้าถามชมว่ามันต้องอั้นขนาดไหนหรอ คือถ้าใครไม่อยู่ในสถานการณ์ตรงนั้น ก็จะไม่รู้ว่าชมต้องอั้นให้ไม่ขำขนาดไหน คือหนึ่งด้วยสภาพและสารรูปของแต่ละคนเนี่ย มันก็ นะ มันก็แย่แล้ว (หัวเราะ) และด้วยสถานการณ์ของเรื่องและก็บท และโดยส่วนตัวของพี่ๆแต่ละคนเขาก็กวนประสาทอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเขาอิมโพรไวซ์ (นอกบทหรือเล่นสดๆขึ้นมาโดยไม่มีในบท)หรือว่าเวลาเค้าคิดอะไรได้ มันก็เกิดขึ้นได้ตลอด มุขหรืออะไรที่มันออกจากปากเขามันเกิดขึ้นได้ตลอด คือเวลาซ้อมมันไม่เคยมีค่ะมุขตรงนี้ คือถ้าอะไรที่ซ้อมไว้เวลาเอาจริงจะลืม จะทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่าทำตอนซ้อม ขอร้องเวลาซ้อมไม่ต้องทำ เพราะว่าเอาจริงแล้วจะไม่มี (หัวเราะ)มันคือความขำที่เราไม่ได้เตรียมตัวที่จะรับมือกับมันมาก่อน
จากคุณ |
:
Alberta
|
เขียนเมื่อ |
:
16 มี.ค. 53 12:02:59
|
|
|
|
 |