ความคิดเห็นที่ 1   ถึงจะโหวตไม่ได้แต่ก็เลือกลำบากจริงๆฮะ... แต่ถ้าเลือกได้คงจะตอบเลือกชอบทั้งสองเรื่องฮะ สำหรับผมสองเรื่องนี้ยังถือว่าเป็นเรื่องเดียวกัน อยู่นะฮะประมาณว่าเป็นภาคต่อกันอะไรแบบนี้ เพราะสิ่งที่เชื่อมสองเรื่องนี้เข้าด้วยกันคือ"คาเคระ"หรือชิ้นส่วนของโลกคู่ขนาน ที่เหล่าเทพและแม่มดเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังฮะ นอกจากนี้ก็ยังมีตัวละครที่มีบางส่วนเชื่อมโยงถึงกันและกัน แต่ก็ยังปกปิดข้อมูลทั้งหมดเอาไว้อยู่แต่ในดราม่าซีดีนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ตัวละครทั้งสองเรื่องแวะเวียนไปหากันบ่อยมาก พวกเคย์อิจิก็เคยไปทำงานพิเศษที่เกาะรคเคนจิม่า ส่วนพวกบาโทร่าก็เคยมาเที่ยวที่ฮินามิซาว่าบ่อยๆเหมือนกันฮะ จากคุณ : yamamaya เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 07:11:30 A:192.168.0.240 X:124.120.243.159 TicketID:152102

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าไม่มีชอบทั้งสองเรื่อง อุมิเนโกะเสียเปรียบตรงไปทำพล็อตเรื่องยาว เพราะตัวอนิเมะไปตัดค่อนข้างเยอะมาก แถมมังงะก็ยังตามไม่ทัน กับปริศนามากมาย + หลายจุดที่ต้องอาศัยการตีความ พออนิเมะหั่นให้ได้ 2 ซีซันจบ เลยตัดนู่นตัดนี่เสียเยอะ ทั้งบทตัวละคร บทสนทนา ความสัมพันธ์ของตัวละคร หลักการในเรื่อง และอื่นๆ ถ้าเอาความยาวมังงะมาเทียบ ฮิกุราชิ บทแรก - มังงะ 2 เล่มจบ -> อนิเมะ 4 ตอน อุมิเนโกะ บทแรก - มังงะ 4 เล่มจบ -> อนิเมะ 5 ตอน (น่าจะ 7 - 8) แถมแต่ละบท อุมิเนโกะ ยิ่งเนื้อหามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละบทยาวเทียบไลท์โนเวล ได้สัก 2 - 3 เล่มเลยมั้ง ฮิกุราชิ มี TIPS เหมือนเป็นตัวเสริมที่ขาดไปก็ยังพอเข้าใจเนื้อเรื่องได้ อุมิเนโกะเดินเรื่องด้วยความสับสน แล้วมีบทพูด กับ TIPS เหมือนเป็นตัีวนำทาง แต่พอตัดทอนพวกนั้นไป คงไม่ต้องอธิบายล่ะว่ามันเลวร้ายแค่ไหน สรุปอุมิเนโกะ ไม่ค่อยเหมาะกับทำอนิเมะไม่กี่ตอน ถ้าดูไม่รู้เรื่อง กับงงๆ ก็คงไม่แปลก แถมอนิเมะดันไปขายความหลอน ทั้งที่ตัวต้นฉบับเน้นขายเนื้อเรื่อง อ่านภาคมังงะน่าจะดีกว่า เท่าที่ดูก็เก็บรายละเอียดได้เยอะกว่ามาก เนื้อเรื่องย่อในตัว Sound Novel สำหรับคนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมจากอนิเมะ http://umineko.exteen.com ถ้า Studio Deen ประกาศทำซีซัน 2 ต่อ คงได้ทำบทที่เหลือต่อ แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 53 08:22:04 จากคุณ : Vortex เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 08:19:02

ความคิดเห็นที่ 3 อืมม แต่ผมว่านะ อุมิเนะโกะอนิเมมันเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนะ ไม่จำเป็นต้องมากกว่านี้ก็ได้ ไม่ใช่ว่าดูไม่รู้เรื่องแล้วจะไม่สนุก ที่บอกว่าดูไม่รู้เรื่องนั้น ไม่ใช่เพราะมีปริศนามากมายไขไม่ออกเลยไม่รู้เรื่อง แต่เป็นเพราะว่าการดำเนินเรื่องมันพลิกความคาดหมายจนเล่นเอาอึ้งได้ จากมาตอนแรกเป็นแนวฆาตกรรมปริศนา คัลท์ ออกจิตๆ จู่ๆกลายเป็นแอ็คชั่นฮีโร่ปราบมารไปได้ กลายเป็นสาวน้อยพลังเวทย์ไปได้ เปลี่ยนฟีลลิ่งไปได้แม้กระทั่งBGM คนดูอาจจะงง เอ๊ะ สรุปว่าแนวไหนกันแน่ แต่ผมก็คิดว่าที่มันออกมาเป็นแบบนี้ ก็เป็นความจงใจของทีมสร้าง ไม่ใช่เพราะข้อจำกัดเรื่องเวลา เรื่องปริมาณรายละเอียดของเนื้อหา ก็อะนะ คนเขียนเค้าก็ท้าทายเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เค้าไม่รับประกันว่า อุมิเนโกะนั้นจะแฟร์ต่อคนเล่น(คนอ่าน คนดู) อนิเมทำออกมาแบบนี้ก็โอเคนะครับ โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้วผมไม่คิดว่าบกพร่องแต่อย่างใด จากคุณ : กุลบุรุษ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 08:51:47

ความคิดเห็นที่ 4   1 ชอบทั้ง 2เรื่องครับ แต่ชอบ ฮิกุ มากกว่า เพราะแม้มันจะงง แต่มันเข้าใจง่ายกว่า อุมิพอสมควร อุมิอนิเมก็ไม่ได้เลวร้ายนะครับ ยกเว้น บทที่5 บทของเเองเจ อะ ที่อนิเมเราดูไม่รู้เรื่องเลย มานซุมหลายตัวละครไปหน่อย ทั้งแองเจ อดีต+อนาคต มาเรียอดีต แบทเลอร์กะป้า หมดนี่มานได้หลายตอนเลยถ้าจะเอาจริงๆอะ แต่อัดลงมาเหลือ 5 ตอนเลยดูรู้สึกเนื้อเรื่องมันไม่ปะติดปะต่อเลย จากคุณ : ผ่านมาดู เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 09:37:35 A:192.168.1.7 X:112.142.234.128 TicketID:248669

ความคิดเห็นที่ 5 ฮิกุ เหมือนงานสืบสวน ไขคดียิ่งข้อมูลเข้าใกล้มากขึ้นๆ ยิ่งสนุก อุมิ เหมือนทำงาน ยิ่งทำ ยิ่งมีเอกสารมากองเพิ่มขึ้นแบบไม่หยุดหย่อน แถมอ่านๆ ไป ยิ่งรียูส ยิ่งรู้สึกจะหมดมุกขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : PJ_MAS เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 11:12:19

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบทั้งคู่ครับ แต่ เอียงไปทาง ฮิกุ มากกว่า รู้สึกเข้าใจเรื่องราวได้ดีกว่า จากคุณ : maniastyle เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 11:40:28

ความคิดเห็นที่ 7 โหวตอุมิ ผมว่าตอนนี้หลายคนคงโหวตฮิกุมากกว่า ถ้าโนเวลออกเฉลยมาอุมิอาจจะแซงก็ได้ มีปมอะไรมากกว่าเยอะเลย ปล.ฮิกุชอบบทมิองชิองมาก แฝดสลับตัวไปมานี่สุดๆ XD จากคุณ : โคนะจัง เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 11:50:31

ความคิดเห็นที่ 8   ส่วนตัวชอบทั้งคู่ แต่ชอบอุมิมากกว่าหน่อยนึง แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบอุมิ เพราะมึนกะเนื้อเรื่องอนิเมที่ตัดกระจุย แถมความหลอน/ลึกลับที่เป็นจุดขายเดิมก็ลดลง แต่ความโมเอะ(?)เพิ่มขึ้น แล้วจุดที่บางคนไม่ชอบอุมิอีกอย่าง ก็คือคนที่ไม่เข้าใจการดำเนินเรื่องแบบ คห.3 (ไม่ได้ว่านะครับ ยกตัวอย่างเฉยๆ - 3-) คือคิดว่ามันเปลี่ยนแนวซะดื้อๆ ทั้งๆที่ อ.แกตั้งใจจะให้คนดูพยายามหาข้อโต้แย้งมาโต้กลับในสถานการณ์ที่เหลือเชื่อต่างๆ ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นฝีมือมนุษย์จริงๆ ไม่ใช่เวทมนตร์ของแม่มด ซึ่งถ้าทำความเข้าใจเรื่องข้างบนได้ มันก็ช่วยลดความมึนไปได้บ้างนะฮะ จากคุณ : Alastor เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 12:14:44

ความคิดเห็นที่ 9 สโคปเรื่อง เท่าที่สังเกตตอนนี้อุมิใหญ่กว่ามากแล้วยังไม่มีบทเฉลย เอามาแข่งแบบนี้ก็แพ้เห็นๆ แต่กดโหวดทั้งสองเรื่องหละครับ จากคุณ : NJ_kung เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 12:17:25

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบฮิกุมากกว่าค่ะ เพราะไม่เคยดูอีกเรื่องนึง แป่ว -*- จากคุณ : Gerken เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 13:35:54

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบทั้งสองเรื่อง แต่ตอนนี้ชอบ อุมิมากกว่านิดถึงแล้ว ความตึงเครียดมันมากกว่าเลยตอนที่อ่าน ด้วยความที่ ตัวละครมันเยอะมาก ฉากก็กว้างด้วย ไหนจะหลักการณ์ต่างๆ อีก ดูไปคิดไป มันดี ฮิกุก็สนุกนะแต่ให้อารมณ์หดหู่มากกว่าเครียด สำหรับเรานะ จากคุณ : DeLeTeLoveFromLife เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 14:25:20

ความคิดเห็นที่ 12 #8 >>ก็คือคนที่ไม่เข้าใจการดำเนินเรื่องแบบ คห.3 เอ่อ... ทำไมคิดว่าไม่เข้าใจล่ะครับ... ดูอุมิเนโกะเข้าใจแล้วทำไมอ่านความเห็นง่ายๆผมไม่เข้าใจล่ะเนี่ย ^^; ก็ทราบเหมือนกันน่ะแหละ ว่าท่านอัศวินมังกรเบอร์7 แกคงใจให้เป็นแบบนั้น ในออฟฟิเชียลเว็บ มีท้าทายเอาไว้อย่างชัดเจน อ่านคำท้าทายและคำอธิบาย(ภาษาญี่ปุ่น)เองได้ที่นี่ http://07th-expansion.net/umi/soft/introduction.htm ที่บอกว่าคนดูอาจจะงงได้นั้นก็เพราะ... เวลาดูสตรีมมิ่งจากเว็บประจำผม จะเห็นคอมเมนท์บ่น(ไม่ก็แซว)เรื่องที่จู่ๆชานอนคานอนก็....อยู่บ่อยๆ (เว็บนี้มันคอมเมนท์ได้คล้ายกับนิโกะน่ะนะ) จากคุณ : กุลบุรุษ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 14:40:28

ความคิดเห็นที่ 13 ฮิกุ เพราะชอบตัวละคร จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้ผมชอบเรื่องนี้ คือ ยิ่งดู มันก็ยิ่งใกล้ความจริงไปเรื่อยๆ แต่ละบท ค่อยๆตัดสิ่งที่ไม่ใช่ออก ไม่งงมากจนเกินไป เรื่อยๆ จนนำไปสู่ความจริงหรือบทสรุปนั่นเอง อุมิ มันปริศนาเยอะมาก จนไม่รุว่าจะสนุกได้ยังไง ในเมื่อคนดู แทบไม่ได้เข้าใกล้ความจริงอะไรเลย ยิ่งดูยิ่งงง แถมยังไม่มีตอนจบ เอามาโหวต ก็แพ้ไปสิครับ บางคนบอกว่าอนิเม ตัดสั้นมากเกินไป ผมก็อ่านตามในมังงะด้วยนะ ผมรู้สึกว่าบางอย่างตัดไปอ่ะดีแล้ว จะได้กระชับหน่อย ไม่งั้นหลับ -*- แต่ก็นะต่างจิตต่างใจล่่ะ ป.ล. ผมอาจจะชอบอุมิมากกว่าก็ได้ ต้องรอดูต่อจนจบ แต่กดฮิกุไปแล้ว!! จากคุณ : [CE]-Train เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 15:27:02

ความคิดเห็นที่ 14 #13 ครับ แต่ผมสนุกกับการที่เค้าไม่ยอมให้เดาได้แบบนี้นะ สนุกกับการโดนทรมาน อ๊างงงงง อุมิเนะโกะไม่ใช่พัซเซิลธรรมดาๆที่ไม่ว่าใครก็จะสามารถต่อได้ ผู้สร้างได้ประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่า ไม่รับประกันว่าจะแฟร์ต่อคนเล่น คนอ่าน คนดู จากข้อมูลที่ให้มานั้น จะเดาได้หรือไม่ได้ ไม่รับประกัน คุณต้องมีศรัทธา คุณต้องไม่ยอมแพ้ คุณต้องดื้อ (เหมือนบาโทระ) ไม่ว่าคนเขียนเค้าจะพยายามทำให้คุณสิ้นหวังยังไงก็ตาม อิอิ แต่ตอนนี้อาจจะยอมแพ้กันไปหมดแล้ว (ฮา...) ผมว่าการต่อสู้ในอุมิเนะโกะเหมือนกับการต่อสู้ของงานวิจัยนะ อินเทเลคชวลมากเลย จากคุณ : กุลบุรุษ เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 16:00:31

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบแว่วเสียงเรไร... เพราะ อาอูว์~ อาอูว์~ จากคุณ : Cha_cha_koi เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 16:22:17

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วนตัวรู้สึกว่าฮิกุราชิมีขอบเขตเส้นทางการนำเสนอ และการออกแบบ ค่อนข้างมีทิศทางชัดเจนกว่าครับ ในด้านนี้ผมชอบความลงตัวของเรื่องนี้มากกว่า ส่วนเนื้อหา อุมิยังดูไม่จบ แต่เท่าที่ดูก็มีการนำเสนอที่น่าสนใจพอ ๆ กัน แต่โหวตฮิกุราชิเพราะผมรู้สึกถึงความเลยเถิดของอุมิเนโกะที่แม้หลาย ๆ อย่างเช่นขาอ่อน 7 บาปผมจะชอบ แต่ถ้าคิดอย่างเป็นกลางผมก็ว่าตัวละครมันสะเปะสะปะเต็มไปหมดอยู่ดี จากคุณ : นักกวีจากเงามืด เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 16:30:54

ความคิดเห็นที่ 17   ชอบฮิกุราชิมากกว่า คือให้ความรู้สึกสิ้นหวังดีกว่าสำหรับผมนะ (ของอุมิเนโกะออกแฟนตาซีด้วยเลยรู้สึกตื่นตาตื่นใจตามมากไป) จากคุณ : yurei เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 16:49:14

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนตัว อุมิ ก็เหมือนโทวโฮว ไม่เหมาะแก่การเอามาทำอนิเมะ เพราะเหมือนเอกสารที่ท่วมขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งดูมากบทขึ้นยิ่งฉงน จากคุณ : PJ_MAS เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 16:59:00

ความคิดเห็นที่ 19   ผมว่าผู้กำกับ version anime มือไม่ถึง ต้นฉบับผมว่า umineko สนุกกว่านะ เพลงประกอบนี่เข้ากับบทบรรยาย และบรรยากาศมากๆ แต่ใน anime ดันตัดออกหมด ทำมาแค่ยัดข้อมูลใส่มาห้วนๆ ไม่มีศิลป์ในการนำเสนอเลย จากคุณ : Eca เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 00:05:39 A:124.121.9.96 X: TicketID:202801

ความคิดเห็นที่ 20 #17 เรื่องตัวละครก็เพราะผลจากการตัดบทแหละครับ เลยรู้สึกตัวละครมันเยอะเกินมากๆ ความจริงต้นฉบับก็ยอมรับว่าเยอะไป แต่ก็พอมีบทสนทนารองรับ พออนิเมะตัดบทพูดอีก ก็ยิ่งแล้วใหญ่ อย่างพี่น้อง 7 บาป นั่น ถ้าเป็นในต้นฉบับจะมีบุคลิกเฉพาะเป็นของตัวเองกว่านั้น ตามความหมายของบาปทั้ง 7 (ยังไม่รวมพวก Extra TIPS ที่มีบทแยกออกมาอีก) พออนิเมะ ก็เหมาะรวม บทเลยหายเกลี้ยง กลายเป็นตัวละครคล้ายกัน 7 ตัว อย่างกาฟ ต้นฉบับออกจะบทสาวไฮเปอร์ เข้าขากับป้าเบียกับท่านอาจารย์ แต่พออนิเมะ ตัดจนเหลือบทแค่แนวจ้องหน้า กับพูดขู่แค่นั้น หรือแ่ม่มดแห่งปฏิหารย์ กับแม่มดแห่งความแน่นอน อนิเมะก็เหมารวมเป็นแม่มดในตำนานซะงั้น ทั้งที่ไปโยงกับประโยคตอนจบบท 4 แต่ก็ตามคาด เพราะอนิเมะตัดท่อนนั้นไป -*- จากคุณ : Vortex เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 53 14:56:23