ความคิดเห็นที่ 1 บ้าล้านเปอร์เซนต์ เพราะทำใจไม่ได้ที่ไม่ยอมเอาเมียไปรักษา จนปล่อยให้เมียฆ่าลูกๆ ตาย จากคุณ : ฆ่าไม่นับสับไม่เลี้ยง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 22:55:21

ความคิดเห็นที่ 2 งงเหมือนกัน  ไม่รู้บ้าก่อนหรือบ้าหลัง แต่น่าจะบ้าหลังเพราะ ผู้หญิงที่อยู่ในถ้ำ ยังไม่รู้จักพระเอกเลย  หากพระเอกบ้ามาก่อน  ผู้หญิงต้องรู้จักพระเอกบ้างสิครับ  แล้วผู้หญิงที่ เขียนคำว่า RUN ให้พระเอก แสดงว่าตอนนั้นพระเอกไม่ได้บ้า จากคุณ : The Dark Nebular เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 23:03:02

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่าพระเอกบ้า   แต่ว่าตอนสุดท้ายอ่ะหายแล้ว  แต่ยอมรับชีวิตข้างนอกไม่ได้ เลยแกล้งบ้าอีก    โดยการเรียกหมอเป็นคู่หู  และคำพูดประโยคสุดท้าย ก็บ่งบอกว่า ยอมรับชีวิตข้างนอก ไม่ได้ จากคุณ : piyo piyo moshi moshi เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 23:08:24

ความคิดเห็นที่ 4 พระเอกบ้าจริงครับ 1 ฉากบนเรือพระเอกไม่มีบุหรี่ เพราะพระเอกเป็นคนไข้บนเกาะไม่มีทางมีบุหรี่อยู่แล้ว 2 พระเอกเห็นภาพหลอนเป็นเมียและลูก แต่ตอนแรกพระเอกบอกว่าเมียตาย แต่ไม่พูดถึงลูกเลย สังเกตุฉากแรกที่พระเอกฝัน เมียพระเอกมีเลือดไหลจากท้องด้วย 3 หนังทำให้เราระแวงหมอ แต่ในเรื่องไม่มีฉากที่หมอทำร้ายคนไข้ หรือทำการทดลองกับคนไข้เลย ตอนที่ประชุมกับผู้บริหารหมอพยายามปกป้องคนไข้ด้วยซ้ำ 4 บนหอคอยก็ไม่มีห้องผ่าตัดอะไรเลย มีแต่ห้องเปล่าๆ 5 ฉากสุดท้ายพระเอกบอกว่า ขอตายอย่างคนดี ดีกว่าอยู่อย่างปีศาจ ผมคิดว่าพระเอกรู้สึกผิดที่ทำให้ลูก-เมียตาย ก็เลยมีกลไกการป้องกันตัว โดยการสร้างบุคคลิกใหม่ขึ้นมา สุดท้ายพระเอกหายแล้วแต่พระเอกไม่อยากอยู่โดยแบกรับความผิดเอาไว้ เลยแกล้งทำเป็นป่วย้พื่อให้หมอผ่าตัดสมองเพื่อให้เขาลืมเหตุการณ์ทุกอย่าง จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 23:11:06

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าผมคิดอย่างนี้ละครับ ตอนแรกหนังมันเดินเรื่องให้เราคิดว่า โรงพยาบาลเป็นฝ่ายเลว พระเอกเป็นคนดี และไปเพิ่มความเชื่อเรา ตอนฉากในถ้ำที่พระเอกเจอพยาบาลผู้หญิง จากนั้น หนังก็เริ่มทำให้เราสับสนว่าความจริงคืออะไรกันแน่ จนถึงเฉลยความจริงตอนบนหอคอย ซึ่งตรงข้ามกับความเชื่อเราตอนต้นเรื่อง และนำไปสู่ตอนจบ ถ้าสุดท้ายตอนหอคอย ภาพในหัวพระเอกที่เราได้เห็นมันไม่ใช่ความจริงละครับ ผมกำลังคิดว่า ไอ้ที่หนังมันเฉลยตอนท้ายเนี่ย คือ การเฉลยเพื่อหลอกเรา (มันจะลึกล้ำเกินไปไหมเนี่ย) จริงๆแล้วที่เราคิดมาตอนแรกถูกแล้ว แต่หนังเฉลยเพื่อหลอกให้เราเชื่อไปอีกด้าน แต่สุดท้ายก็มาเฉลยกับประโยคสุดท้ายของพระเอก ผมตีความอย่างนี้ครับ พระเอกหมายถึงว่า เค้ายอมตายดีกว่า แทนที่จะอยู่แบบเป็นคนบ้า (จากการปรักปรำโดยคนบนเกาะ และ ถูกตีตราว่าฆ่าเมีย ซึ่งจริงๆไม่ได้ฆ่า) และจริงๆเค้าไม่ได้บ้าครับ จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 23:45:04

ความคิดเห็นที่ 6 บ้าตั้งแต่แรกแน่นอน เพราะตอนมาอยู่ที่เกาะพระเอกก็หลอนไปเองทั้งหมด  ตั้งแต่คิดตัวละครขึ้นมาเอง คือ เรเชล กับอีกคนที่พระเอกบอกว่าเป็นคนจุดไฟเผาบ้าน ส่วนตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วจำเรื่องในอดีตได้ เราว่าตอนนั้นพระเอกน่าจะหายบ้าแล้วน่ะ แต่ที่พูดแบบนั้นกับชัค คงเป็นเพราะยอมผ่าตัดดีกว่าจะำออกไปเผชิญความจริง จากคุณ : Supermassive Black Hole เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 23:47:07

ความคิดเห็นที่ 7 ดูดีๆ นะครับ ผมว่ามันไม่ได้เป็นแบบตอนจบที่เราเห็นๆ กัน ตอนนี้ผมชักเชื่อว่าพระเอกถูกทำให้บ้านะครับ เห็นคุณมโนธรรมที่รีวิวในฟิล์มแม็กแกดูสามรอบแล้ว บอกดูดีๆ จะเห็นว่าตอนท้ายนี่พลิกโลจิกที่เราดูตอนแรกได้ทั้งหมด ผมก็ว่ามันเป็นแบบนั้นได้จริงๆ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 00:37:42 จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 00:34:58

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าตีความได้สองแง่ ซึ่งนี่แหล่ะคือสเน่ห์ของหนังที่ทำให้เราต้องมาคิดต่อ ปล. แต่ผมคิดว่าพระเอกบ้าแต่แรกแล้วนะ หมอคงไม่เก่งขนาดเอาความทรงจำคนอื่นมาใส่ในตัวพระเอกแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 00:44:26 จากคุณ : ตุ๊กตาไขลานที่ไม่มีลานให้ไข เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 00:43:51

ความคิดเห็นที่ 9 ...ส่วนใหญ่หนัง Hollywood มักจะเฉลยในตอนจบเเบบชัดเจน มักไม่ทำให้คิดมากหลายซ้ำหลายซ้อน ยกเว้นเป็นผู้กำกับจากยุโรปเเต่มาทำให้American film. .....ดังนั้นหากเป็นดังกล่าว ...เรื่องนี้ตอนจบมีเเนวโน้วทำให้คุณตีความได้อย่างไร ก็จะเป็นอย่างนั้น ไม่มีซับซ้อน (Martin ผู้กำกับเป็น American director) จากคุณ : borderline เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 00:45:12

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคิดว่าพระเอกถูกทำให้บ้า จะมีคำถามหลายๆอย่างที่ตอบไม่ได้ เช่น ครั้งนึงฝันเจอผู้หญิงที่หายไป มีเด็กสามคนจมกองเลือดอยู่ ผู้หญิงคนนั้นขอให้ช่วย ทำไมพระเอกต้องช่วย พระเอกไม่รู้จักเด็กมาก่อน ทำไมถึงพูดประมาณว่ามาช่วยไม่ทัน เห็นหน้าตาแบบจำได้ด้วย แล้วผู้หญิงกับเด็กคนนี้ก็ตามหลอนในฝันตลอด ตอนไปเจอศพยิวที่กองจากรถไฟแข็งตาย ทำไมถึงเป็นสองคนนี้ ทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย เราไม่เคยรู้เลยว่าพระเอกมีลูกมาก่อน ตอนระเบิดรถเหมือนกัน เด็กคนนี้ก็มายืนจับมือกับภรรยาตัวเอง เกี่ยวข้องกันยังไง ตอนบุกไปหอคอย เจอปืนไม่มีลูกและปืนปลอม หอคอยว่างเปล่า ไม่มีอะไรที่เป็นอย่างที่คิดเลย ถ้าเอาคนเป็นที่ทดลอง จะต้องมีคนหายไปเรื่อยๆ เพื่อเอาร่างกายไปใช้ แต่ในหนังก็ไม่เน้นส่วนนี้เลย คนที่คิดเหมือนพระเอกคือคนบ้าที่อยู่ในกรง ที่พระเอกซ้อม ซึ่งเรียกพระเอกด้วยชื่อฆาตกร ไม่เคยเรียกชื่อที่พระเอกบอกใครๆเลย ฆาตกรที่เผาภรรยาพระเอกหายไปไหน อยู่ไหนละ หายไปแบบไร้ล่องลอยทั้งๆที่ภรรยาเน้นหลายทีว่าอยู่ที่นี่ (ซึ่งก็คือพระเอกเอง) จากคุณ : animE' เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 00:48:23

ความคิดเห็นที่ 11 ผมดูอีกรอบแล้วก็มาคิดว่า ถ้า "ปืน" เป็นของเล่นจริงๆ ทำไมตอนแรก ถึงห้ามพระเอก พกไว้กับตัวตอนเข้าเกาะ? แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 00:54:01 จากคุณ : ตุ๊กตาไขลานที่ไม่มีลานให้ไข เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 00:52:44

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าคิดว่าพระเอกถูกทำให้บ้า จะมีคำถามหลายๆอย่างที่ตอบไม่ได้ เช่น ครั้งนึงฝันเจอผู้หญิงที่หายไป มีเด็กสามคนจมกองเลือดอยู่ ผู้หญิงคนนั้นขอให้ช่วย ทำไมพระเอกต้องช่วย พระเอกไม่รู้จักเด็กมาก่อน ทำไมถึงพูดประมาณว่ามาช่วยไม่ทัน เห็นหน้าตาแบบจำได้ด้วย แล้วผู้หญิงกับเด็กคนนี้ก็ตามหลอนในฝันตลอด ตอนไปเจอศพยิวที่กองจากรถไฟแข็งตาย ทำไมถึงเป็นสองคนนี้ ทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย เราไม่เคยรู้เลยว่าพระเอกมีลูกมาก่อน ตอนระเบิดรถเหมือนกัน เด็กคนนี้ก็มายืนจับมือกับภรรยาตัวเอง เกี่ยวข้องกันยังไง ตอนบุกไปหอคอย เจอปืนไม่มีลูกและปืนปลอม หอคอยว่างเปล่า ไม่มีอะไรที่เป็นอย่างที่คิดเลย ถ้าเอาคนเป็นที่ทดลอง จะต้องมีคนหายไปเรื่อยๆ เพื่อเอาร่างกายไปใช้ แต่ในหนังก็ไม่เน้นส่วนนี้เลย คนที่คิดเหมือนพระเอกคือคนบ้าที่อยู่ในกรง ที่พระเอกซ้อม ซึ่งเรียกพระเอกด้วยชื่อฆาตกร ไม่เคยเรียกชื่อที่พระเอกบอกใครๆเลย ฆาตกรที่เผาภรรยาพระเอกหายไปไหน อยู่ไหนละ หายไปแบบไร้ล่องลอยทั้งๆที่ภรรยาเน้นหลายทีว่าอยู่ที่นี่ (ซึ่งก็คือพระเอกเอง) //////////////////////////////////////////////////////// ต้องทำความเข้าใจโลจิกว่าพระเอกอาจจะถูกทำให้บ้าก่อนนะครับ ว่าเหตุการณ์ตอนท้ายที่เฉลยเรื่องลูกเมียพระเอก ความจริงพระเอกยิงเสร็จก็ไม่ใช่ว่าจะบ้าเลยนี่ เขาอาจจะปกติอยู่แค่มีความรู้สึกผิดในตัว จนได้มาสืบเรื่องที่เกาะนี้ในคดีทดลองมนุษย์ (ซึ่งก็มีจริงๆ ในตอนท้ายเรื่องการผ่าตัดแบบเจาะสมองโลโบโตมี) แล้วก็ถูกยาทำให้บ้าเพื่อมาเป็นหนึ่งในตัวทดลอง หญิงพยาบาลที่อยู่ในถ้้ำนั่นดูยังไงก็ของจริงครับเพราะพระเอกหลับแล้วตื่นขึ้นมาอีกรอบด้วย เขาไม่เคยเห็นภาพหลอนเป็นคนนะครับ มีแต่ในฝัน แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นมีตัวตนจริงๆ คนที่ทดลองนี่ไม่ได้ตาย แต่ถูกทำให้สมองผิดเพี้ยนไปตามแบบที่หมอต้องการไงครับ อ่านแล้วงงๆ ผมก็อธิบายไม่ถูก แต่เอาเป้นว่าถ้าเข้าใจโลจิกกลับด้านแล้วจะไม่สงสัยหลายอย่างในเรื่องเลยว่าพระเอกถูกทำให้บ้าได้เหมือนกัน จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 01:03:06

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเชื่อว่าบ้าแต่แรกอยู่แล้ว..... ไม่งั้นไม่เห็นลูกเมียตัวเองหรอก แล้วทางหมอจะทำให้พระเอกเป็นบ้าเพื่อไร..... เหตุ-ผลในเรื่องมันรองรับประเด็นทางด้านบ้าแต่แรกมากกว่าทำให้เป็นบ้าอยู่แล้วอ่ะครับ จากคุณ : ฆาตกร(สมอง)น้อย เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 01:15:57

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าพระเอกบ้าตั้งแต่แรกแล้วนี่แหละครับ แต่ผมสงสัยว่า ผู้หญิงพยาบาลที่อยู่ที่ถ้ำถ้าเป็นของจริงทำไมถึงต้องมาซ่อนที่ถ้ำนี้ด้วยละครับ งง เพื่อหลอกล่อให้พระเอกงง หรือว่าอะไรอ่ะ ตรงนี้ผมดูก็สงสัยนะ หรือว่าคนที่ทำหนังพลาดในตรงจุดนี้รึเปล่าครับ จากคุณ : soulmachine เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 01:31:55

ความคิดเห็นที่ 15 พยาบาลผู้หญิงนี่ไม่มีตัวตนอยู่จริงครับ พระเอก fantasy ขึ้นมาเอง จากคุณ : =Por= เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 01:34:49

ความคิดเห็นที่ 16 ทำไมถึงคิดว่าพระเอกคิดว่าผู้หญิงนั่นไม่มีตัวตนจริงล่ะครับ อะไรเป็นหลักฐานว่าไม่มีตัวตน มีแต่คำบอกเล่าของหมอที่บอกว่าพระเอกคิดขึ้นมาเอง แต่ถ้าพระเอกไปเจอจริงๆ ด้วยล่ะ ผมเชื่อว่าคนดูจนจบก็เข้าใจวง่าพระเอกบ้าไปเองแต่แรก แต่จากคนที่ดูซ้ำๆ มันทำให้เห็นหลายอย่างละเอียดขึ้น จนโลจิกพลิกได้นะครับ จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 02:02:50

ความคิดเห็นที่ 17 ดูมาก คิดมาก จนจะบ้าตามหนังไปซะแล้ว เราก็คิดว่าพระเอกบ้ามาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วค่ะ เรื่องนี้น่าจะคล้ายๆ A Beautiful Mind ที่แยกไม่ออกระหว่างความเป็นจริง กับโลกที่สร้างขึ้นเอง จากคุณ : U got it เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 02:20:07

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้ายึดตามหลักฐานที่มีในหนัง ไม่ใช่สิ่งที่เราๆ ท่านๆ คิดเสริมเติมแต่งเข้าไปเอง พระเอกบ้าแน่นอนครับ ส่วนตอนสุดท้ายเข้าใจว่าพระเอกหายแล้ว แต่เขาไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ ต้องทนรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น แถมยังไม่รู้จะกลับไปบ้าอีกเมื่อไหร่ (อย่างที่หมอบอกว่าพระเอกเป็นๆ หายๆ แบบนี้หลายครั้งแล้ว) เลยแกล้งบ้าเพื่อจะได้ไปผ่าตัดสมอง ซึ่งมีโอกาสสูงที่เขาจะตายหรือไม่ก็ฟั่นเฟือนไปเลย ดังคำพูดที่เขาทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "อยู่อย่างอสุรกาย หรือตายอย่างคนดี" แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 02:39:11 จากคุณ : Dream Seeker เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 02:38:43

ความคิดเห็นที่ 19   เดาไว้ก่อนเข้าไปดูว่า หนังทางนี้ต้องมีหักมุม พอดูไปไม่กี่ฉากก็เริ่มเดาได้แล้วว่าพระเอกต้องเป็นคนบ้าเสียเองแน่ๆ แล้วก็ดูต่อไปเรื่อยๆ เหตุการณ์ต่างๆ ก็ยิ่งสนับสนุนว่าพระเอกบ้า แต่พอเจอกับประโยคสุดท้ายที่พระเอกพูดก่อนจะเดินไปผ่าตัด ประมาณว่า "คนเราต้องเลือกระหว่าง อยู่อย่างอสูรกาย กับตายอย่างคนดี" แล้ว ชัค (หรือหมอเชียน) ก็ลุกขึ้นมาเหมือนเอะใจ แล้วตะโกนรั้งไว้.. จากที่เคยเข้าข้างความคิดที่ว่า พระเอกบ้า ก็เริ่มลังเลใจ ว่าประโยคนั้นมันหมายความว่ายังไงกันแน่ แต่พออ่านความคิดเห็นหลายๆ คน แล้วมานึกต่อยอดอะไรอีกหลายอย่างเท่าที่จำได้ เลยขอเปลื่ยนใจโน้มเอียงไปทาง 'พระเอกไม่ได้บ้า' ด้วยเหตุผลประการฉะนี้ 1 - ปืนของเล่น ทำไมต้องห้ามพระเอกพกไว้กับตัว จะว่าฝั่งหมอเล่นละครให้เนียนก็ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้ เพราะมันยิ่งทำให้พระเอกเอะใจมากกว่า 2 - ข้อนี้คิดลึกมาก ถ้าพระเอกเอาชื่อของเมียมาสลับตัวอักษรเป็นผู้หญิงในถ้ำ (เรเชล) หมายความว่าเธอเป็นเพียงจินตนาการของพระเอก ไม่มีตัวตนอยู่จริง แล้วฝั่งหมอสร้างเรื่องหลอกให้พระเอกมาตามสืบหาเรเชลที่หายไปได้ยังไง แถมในกระดาษก็มีรูปเรเชลเวอร์ชั่นยังสาว ซึ่งหมอรู้ได้ไงว่าเรเชลที่พระเอกจินตนาการมีหน้าตาแบบไหน แล้วการที่หมอให้พระเอกไปเจอเรเชลเวอร์ชั่นสาวที่กลับมาจากการหายตัวไป (ฉากที่พูดแปลกๆ แล้วเข้ามากอด แล้วก็ทุบตีพระเอก) มันเป็นไปไม่ได้ที่คนในห้องคนอื่นจะมองไม่เห็นผู้หญิงคนนั้น เพราะยังมีคนเข้ามาจับตัวออกไปอยู่เลย แสดงว่าผู้หญิงคนนั้น ไม่น่าจะเป็นแค่จินตนาการ 3 - ฉากรถระเบิด การที่เด็กผู้หญิงที่เป็นลูกมาจับมือกับเมียพระเอก มองได้อีกแง่ว่า ความทรงจำของพระเอกค่อยๆ ถูกบิดเบือนเพราะฤทธิ์ยา ทำให้พระเอกเอาปมที่เจ็บปวดในอดีตของตัวเอง 2 เรื่องมาผูกเข้าด้วยกันเป็นเรื่องใหม่ คือ เมียตาย กับ ไปเป็นทหารฆ่าคนตาย (เขาได้เห็นคนตายที่สะเทือนใจคือแม่ และลูกๆ) 4 - ประโยคที่พัสดีคนที่ดุๆ ที่เคยเป็นทหารมาก่อน พูดกับพระเอกบนรถตอนพากลับมาในฉากท้ายๆ ดูเหมือนจะยืนยันได้ว่าพระเอกเคยเป็นทหารที่ผ่านการฝึกให้ใช้ความรุนแรงมาก่อน และมีแววชอบใช้ความรุนแรง เลยสนับสนุนได้ว่าความทรงจำชุดแรกที่ยังไม่ถูกบิดเบือน (เป็นทหารที่เคยฆ่าคนยิว) คือเรื่องจริง 5 – ข้อนี้ส่วนตัว ส่วนตัวตอนดูจบรู้สึกเอะใจอยู่นิดๆ ว่าหนังมันง่ายไปหน่อยถ้าจะสรุปว่าพระเอกบ้า เพราะทางหนังก็ทำให้เราเดาได้ว่าพระเอกบ้ามาตลอด และตอนนี้เริ่มสนุกกับการหาข้อโต้แย้งว่าพระเอกไม่บ้าแล้ว 555 สรุปอีกครั้งตามหลัก ‘พระเอกไม่บ้า’ว่า - ความจริงคือความทรงจำช่วงแรก ที่พระเอกชื่อเทดดี้ เป็นทหาร ไม่มีลูก เมียถูกเผาตายในอพาร์ตเมนท์ (คนที่เผาอาจะเป็นเลดดิส) แต่มันเตลิดเปิดเปิงมากขึ้นเรื่อยๆ จากฤทธิ์ยาและการเกลี้ยกล่อมของหมอ ทำให้เขาเอาความเจ็บปวดมาผูกเข้าด้วยกันกลายเป็นว่า เมียเป็นบ้าแล้วพระเอกไม่รักษา จนเมียฆ่าลูกแล้วพระเอกก็ฆ่าเมียตาม - สาเหตุที่พระเอกมาที่เกาะนี้เพราะถูกหลอกมาหรือยั่วยุให้มาด้วยอะไรสักอย่าง อาจจะสืบเรื่องเลดดิสจากนอยซ์แล้วบังเอิญรู้เรื่องการผ่าตัดล้างสมองเข้า เลยโดนหลอกมาปิดปากและทำการทดลองซะเลย ไหนๆ ประวัติก็เคยผ่านความรุนแรงมาแล้ว - เรเชลในถ้ำคือพยาบาลจริงๆ ที่หนีไปอยู่ในถ้ำเพราะรู้เรื่องนี้ เลยเตือนพระเอกไว้ - เรเชลคนที่ยังสาว น่าจะเป็นคนบ้าคนอื่นที่หมอจัดฉากมาหลอกพระเอก - ส่วนชัคไม่มีจริง แต่คือหมอเชียนปลอมตัวมา ไม่มีทางที่ชัคจะเป็นคู่หูกับพระเอกจริงๆ ที่โดนหลอกมาด้วยกัน เพราะหมอเชียนต้องเป็นคนไปรับพระเอกแล้วให้ยาบิดเบือนความทรงจำตั้งแต่ต้นเรื่อง แถมตอนต้นเรื่องยังมีฉากที่ชัคเก็บปืนไม่คล่องอย่างเห็นได้ชัด - สุดท้ายพระเอกไม่เชื่อว่าตัวเองบ้า แต่ก็เลือกทำตัวให้เหมือนบ้าต่อไป เพื่อจะได้โดนผ่าตัดล้างสมอง ลืมอดีตให้สิ้น (ตายอย่างคนดี) เพราะหากต้องอยู่ต่อไปโดยเจ็บปวดกับปมในอดีตของตัวเองที่เขาไม่มีวันลืม (เคยเป็นทหารฆ่าคนมาเยอะ) ก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่อย่างอสูรกาย ขออภัยในความลังเลใจ แต่สุดท้ายขอเลือกว่าพระเอกไม่บ้า แต่ถ้าใครมีข้อโต้แย้งหรือสงสัยยังไงว่ามาเลยนะ เพราะดูไปแค่รอบเดียว ยังคิดได้ไม่รอบคอบเท่าไหร่ แถมยังไม่ค่อยแน่ใจว่าจะรายละเอียดอะไรผิดไปรึป่าว ยังไงก็ขอแสดงความดีใจกับคุณผีหน้าแดง เจ้าของกระทู้ ที่ได้คนอยู่ข้างเดียวกันไปอีกหนึ่ง :I จากคุณ : ิborebee เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 03:26:44 A:125.24.182.247 X: TicketID:264540

ความคิดเห็นที่ 20 ...ผมว่าบ้าแต่แรกแหละ คำแรกที่หมอเฉลยคือ เค้าทดลองวิธีการใหม่ แล้วใช้พระเอกที่บ้าหนักสุดเป็นตัวทดลอง การทดลองนี้ว่าด้วยการพยายามให้พระเอกได้ทำตามสิ่งที่สร้างขึ้นมาเอง แล้วค่อยๆ ให้พระเอกยอมรับความจริง ทำไมไม่ให้พกปืน...พกปืนก็รู้สิว่าปืนปลอม...แผนล่มแต่แรก เป็นถึงตำรวจกองปราบมาสืบคดีคนเดียวไม่พกปืนมาเลย แปลกๆนะ ยิ่งตอนระเบิดรถยิ่งชัดเจนว่า ถ้าพกปืนยิงไปนานแล้ว เค้าก็บอกแล้วว่าทดลองหลายครั้งแล้ว ครั้งนี่พระเอกรุนแรงที่สุด การทดลองนี้ได้ผลจริงๆ เพราะจิตใต้สำนึกพระเอกเองก็รู้ว่าอะไรจริง ไม่จริง พอทุกคนบอกว่าที่เค้าสร้างคือจริง สมองเค้าเลยสร้างเหตุผลรองรับไม่ทัน มันจึงมีภาพคาบเกี่ยวระหว่างจริงกับโกหกมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนฟิล์มหนังที่ถ่ายไม่เสร็จ ระหว่างทางความจริงก็จะปรากฎเยอะขึ้นๆตรงช่องว่างของฟิล์ม บทสนทนาของหมอก็บอกตรรกะที่ดีนะครับที่ประมาณว่า คนบ้าที่ฉลาดนะอันตรายที่สุด เพราะเค้าพยายามหนีปัญหาได้เก่งกว่าคนบ้าธรรมดาที่เพ้อตรงๆ สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือ...เป็นเราจะทำยังไง... ระหว่างอยู่อย่างปีศาจ หรือตายอย่างคนดี...ถ้าเราเป็นกลไกฆ่าครอบครัวเราเอง... *-* จากคุณ : The White Man เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 05:40:31

ความคิดเห็นที่ 21   #19 ถ้าพระเอกถูกทำให้บ้า (หรือหมอต้องการให้พระเอกบ้า) แล้วทำมัยตอนจบหมอต้องนำพระเอกเข้าผ่าตัดสมอง (Lobotomy, psychosurgery) psychosurgery ความหมายน่าจะตรงตัวคือเป็นการรักษาคนบ้าโรคจิต (ในกรณีที่หมออยากให้พระเอกบ้า หมอก็ทำได้สำเร็จแล้ว คือปล่อยให้มันบ้าต่อไปเลย จะไปผ่าตัดให้มันหายบ้าอีกทำไม) เรื่องนี้หลักๆเป็น criminally insane เป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายที่มีผลในการรับโทษต่างกันของนักโทษที่ทำไปเพราะสติดีหรือก่ออาชญากรรมโดยที่สติไม่ดี นักจิตวิทยาต้องเป็นคนพิสูจน์เรื่องนี้ (ซึ่งในเรื่องพวกหมอใช้วิธี roleplay experiment คือให้คนป่วยเล่นไปตามบทบาทที่ตัวเองจินนาการขึ้นมา) แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 06:04:14 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 06:05:47 จากคุณ : GlasNost เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 06:03:11

ความคิดเห็นที่ 22 คิดเหมือนคห.19 ง่ายๆเลยคือตั้งแต่กลางๆเรื่องมันเหมือนทำให้จับทางได้แล้วว่าพระเอกจริงๆเป็นบ้า พอสุดท้ายสรุปแบบนั้นมันเลยกลายเป็นเหมือนจบทื่อๆไม่มีการหักมุม ไม่รู้คิดมากไปเองรึเปล่า เพราะสะดุดที่ประโยคสุดท้ายกับท่าทางของพระเอกและหมอ แต่จริงๆอาจจะคลี่คลายแบบที่เห็นก็ได้ อยากรู้ว่าในหนังสือสรุปว่ายังไง จากคุณ : เด็กทดลองรุ่น23 เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 08:16:36

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ มีคนเห็นเหมือนอย่างเราอยู่เหมือนกันแฮะ 55 อีกฉากครับ คือ ฉากแรกที่พระเอกเข้ามาที่เกาะ หลังจากโดนยึดปืน จะเจอคนไข้คนหนึ่ง (หน้าตาน่ากลัวๆ) เอานิ้วชี้มาทำมือ ประมาณว่า จุ๊ จุ๊ อย่าพูดอะไรนะ ผมคิดว่า คนไข้ที่นี่หลายคนอาจจะไม่ได้บ้า (อันนี้ไม่แน่ใจจริงๆ) และคนไข้คนนี้ กำลังจะบอกพระเอกว่า อย่าพูดอะไรมากนะ (หมายถึง การพยายามจะเปิดโปงความชั่วร้ายของที่นี่) เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว คุณจะโดนทำให้กลายเป็นคนบ้า และคนไข้ที่เขียนคำว่า RUN ผมก็คิดคล้ายๆกัน คือว่า ถ้ายิ่งสืบมันจะยิ่งอันตราย จงหนีไปซะ (เขียนให้ตอนที่ชัค เดินไปรินน้ำ) ผมคิดว่าน่าจะมีคนโดนแบบพระเอกมาแล้ว โอ๊ยปวดหัวจริง ผมคิดมากไปไหมเนี่ย 55 ผมไปดูเรื่องนี้กับคนรู้ใจผม เชื่อไหมครับ เค้าเดาว่าพระเอกบ้าได้ตั้งแต่ตอนต้นเรื่อง เค้ามากระซิบผมว่า "เค้าเดาทางได้ล่ะ ไม่รู้ถูกหรือเปล่า" ซึ่งที่เค้าเดานั้น ก็คือ เดาว่าพระเอกบ้าตั้งแต่แรก แต่เชื่อไหมครับ ตอนหลังฉากประภาคาร ผมก็กระซิบเค้าเหมือนกันว่า ผมไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งเห็นไป  (ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเค้าเดาทางหนังว่าอย่างไร) ผมมีความรู้สึกบางอย่าง ย้ำ! ว่าความรู้สึกนะครับ ว่าที่เห็นที่ประภาคาร มันไม่จริง สุดท้ายออกจากโรงมา คุยกันยาวจนถึงตอนนี้เลยครับ เค้าเริ่มมีความรู้สึกว่าพระเอกไม่ได้บ้าละ 55 กะว่าจะชวนกันไปดูอีกรอบ จะเอากระดาษเข้าไปจดด้วย แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 08:33:36 จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 08:27:12

ความคิดเห็นที่ 24 ก๊อปมาให้อ่าน ตอบไว้หลายกระทู้ละ เรื่องนี้อินจริงๆ เราเข้าใจว่าพระเอกเนี่ยบ้าตั้งแต่ต้นแล้ว พระเอกเคยเป็นมือปราบจริง อันตรายจริงเพราะเป็นคนที่ถูกเทรนมาให้ทำงานอันตราย เป็นคนติดเหล้า ชีวิตมีปัญหา กลับมาบ้านเมียสติแตก กดน้ำลูกตายหมด พระเอกลั่นไกยิงเมียตัวเอง หลังจากนั้นก็บ้าเลย ศาลตัดสินว่าพระเอกวิกลจริต ให้มารักษาที่สถาบันแห่งนี้ พระเอกเข้ารักษาอยู่ 2 ปี มีอาการเหมือนวนลูปเทป จะคิดว่าตัวเองคือเทดดี้ มือปราบที่ผ่านสงครามโลกมา สักช่วงนึงยาวๆ และกลับมาเป็นแอนดรูว์อยู่ช่วงสั้นๆ วนลูปไปเรื่อยๆ เหตุการณ์ที่เราเห็นทุกอย่าง พระเอกคิดไปเองทั้งหมด ยกเว้นเรื่องผ่าตัดสมอง ที่รพ.นี้มีจริง และทำกันที่ประภาคารนั่นแหละค่ะ แต่ไม่ใช่แบบที่ผู้หญิงตรงหน้าผาพูดนะ ที่ว่าล้างสมองอะไรนั่น เป็นการผ่าตัดเพื่อลดความก้าวร้าวของคนไข้ + ให้คนไข้เชื่อฟังมากขึ้น หมอพยายามรักษาพระเอกหลายครั้ง เพราะคดีพระเอกถือเป็นเคสตัวอย่างที่ดี ทำยังไงพระเอกก็ไม่หาย ตอนสุดท้ายจึงต้องพาพระเอกไปผ่าตัดสมอง (ที่ภาพตัดไปที่ประภาคาร) ตัวละครทุกตัว หมอวิเชียร (ชอบชื่อนี้มากเลย ใครคิดเนี่ย) เรเชล (ที่พระเอกสร้างว่าหนีออกจากห้อง) และเทดดี้ เป็นการสลับชื่อในตัวอักษร 13 ตัว พระเอกเอามาโยงกันไปมา ได้ชื่อดังข้างบน ประเด็นเรื่องบุหรี่ คือถ้าพระเอกยังหลอนอยู่ จะไม่รับบุหรี่ เพราะคิดว่าบุหรี่มีสารที่ทำให้ตัวเองหลอน แต่ถ้าพระเอกรับบุหรี่ แบบตอนจบ แปลว่าพระเอกรับความจริงได้แล้ว รู้แล้วว่ากูมันหลอนเอง บุหรี่ไม่มีอะไร ตอนจบที่พระเอกพูดกับหมอวิเชียรว่าจะตายอย่างคนดี หรือจะอยู่อย่างตัวประหลาด แล้วตอบรับว่าตัวเองเป็นเท็ด ไม่ใช่แอนดรูว์ คือพระเอกเลือกจะตายอย่างคนดี คือมือปราบที่มาช่วยไขคดี ทั้งๆ ที่พระเอกนั้นรู้ตัวเองแล้วว่าตัวเองน่ะ ฆ่าเมีย แล้วหลอน ประเด็นเรื่องน้ำดื่มเราว่าที่เขียนว่า RUN คือทุกคนรู้ว่าพระเอกเนี่ยหลอน กำลังจะโดนผ่าสมอง เลยเขียนให้ RUN ค่ะ ผู้หญิงที่หายไป เรเชล มี 2 คน ตัวปลอมที่กลับมาหลอนกับเท็ด คนนี้จริงๆ คือพยาบาลในสถาบันเอง ที่เท็ดหลอนมาว่าทางสถาบันเอาตัวปลอมมาหลอก เพื่อให้เท็ดเลิกหาเรเชล เลิกขุดความลับของสถาบัน หาตัวเจอแล้ว ให้เท็ดกลับไปซะ กับตัวจริงที่เท็ดหลอนไปเองอีกเช่นกัน ที่ว่าเป็นอดีตหมอ พอรู้ความลับเลยถูกจับเป็นคนบ้า หนีมาอยู่ที่หน้าผา สรุปแล้วพระเอกหลอนทั้งเรื่อง ยกเว้นเรื่องผ่าตัดสมองที่มีผ่าจริงๆ แต่เป็นการผ่าเพื่อผลทางการแพทย์ ไม่ใช่การทดลอง ดูหนังเรื่องนี้เหมือนทำข้อสอบวิเคราะห์เลยนะคะ ให้ลุงมาร์ตี้เป็นผู้ตัดสินละกัน อิอิ คนไหนวิเคราะห์เข้าท่าสุด เอา A วิชาสกอร์เซซีไปเลย ! แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 09:18:59 จากคุณ : zezari เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 09:14:20

ความคิดเห็นที่ 25 คห.21 ถ้าพระเอกถูกทำให้บ้า (หรือหมอต้องการให้พระเอกบ้า) แล้วทำมัยตอนจบหมอต้องนำพระเอกเข้าผ่าตัดสมอง (Lobotomy, psychosurgery) ///////////////// ก็เพราะไม่ได้เป็นไปตามที่หมอแกต้องการไงครับ พระเอกยังสับสนเอาเรื่องที่ตัวเองเป็นทหารเข้ามาปน ที่รักษาไม่ใช่ว่าจะให้หาย แต่ต้องการให้เป็นไปแบบที่ตัวเองต้องการ ต้องบอกว่าอย่าเชื่อตามที่หนังเฉลยก่อนไม่งั้นยังไง้ยังไงก็จะมองไม่เห็นโลจิกอีกด้าน จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 09:39:19

ความคิดเห็นที่ 26   (มาแสดงความคิดเห็นนะ แต่มะรู้ออกทะเลรึป่าวนะ ฮ่ะๆ) คือเราคิดว่าพระเอกบ้าตั้งแต่ต้นเลยค่ะ เพราะมีความรู้สึกตัวหนังพยายามบอกอะไรหลายอย่าง (ไม่ยกตัวอย่างนะคะ ^ ^เด๋วยาว) แต่ไปไขว้เขว้ว่า เอ๊ะ หรือหนังจะหลอกเราที่ชอบคิดมากกันแน่ หนังมันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ พอยิ่งมาจากฉากที่เจอคุณหมออีกคนที่หน้าผา ยิ่งทำให้เราเริ่มสงสัยว่า พระเอกไม่ได้บ้ากันแน่ พอบทสรุปจิงๆของหนังก็ออกมาว่าพระเอกบ้าแต่ต้น แต่ตอนหลังหายแล้ว เพราะตัวพระเอกเองก็ยอมรับแล้วว่าตัวเองสร้างภาพหลายอย่างขึ้นมาเพื่อปกปิด อดีตที่ภรรยาตัวเองเป็นโรคจิต ฆ่าลูก และตัวพระเอกเองก็ฆ่าภรรยาเพื่อปลดปล่อยตามคำขอของภรรยา(แอบมีอาการทางจิตหน่อยๆ) ซึ่งเป็นความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง + รู้สึกผิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ลูกตาย เลยจะพยายามแก้ไขอดีต แล้วตอนท้ายที่พระเอกพูดว่า "จะตายอย่างคนดีหรืออยู่อย่างอสูรกาย" มันช่วยบอกว่าพระเอกยอมรับว่า ในอดีตตัวเองบ้าจิงๆ ฆ่าภรรยาและเผาจิงๆ ตัวเองคือ เลดดิส ถึงจะได้ออกจากshutter island แล้ว สังคมก็คงไม่ยอมรับอยู่ดี ส่วนพฤติกรรมของคุณหมอประจำตัวพระเอก ที่อึ้งว่า พระเอกหายแล้วแต่ยอมตายแทนที่จะอยู่  ยิ่งทำให้ชัดเจนว่า หมอคนนี้อยากให้พระเอกอยู่มากกว่า แสดงว่า หมอคนนี้ และคนในโรงพยาบาลเอง ไม่ได้อยากทำให้พระเอกเป็นบ้าค่ะ แต่พระเอกเป็นบ้าจิงๆในตอนแรก จากคุณ : ถุงขนม เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 09:54:09

ความคิดเห็นที่ 27 ฉากสุดท้ายตอน หมอชีแฮนพยักหน้าส่งซิกให้หมอหัวโล้นเอาพระเอกไปจี้สมอง แค่ฉากนี้ฉากเดียวก็สามารถสรุปได้แล้วครับ ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นไปตามที่หมอหัวโล้นเล่า นั่นคือ พระเอกบ้าตั้งแต่แรก หรือจะบอกว่าฉากนี้พระเอกบ้าแล้วคิดไปเองอีก ถ้าคิดแบบนี้อีก เราก็คงไม่อาจหาข้อสรุปอะไรได้แล้วครับ ไม่มีทางรู้ชัดว่าอะไรจริงอะไรคิดไปเอง จากคุณ : คืนนี้ไร้เรื่องราว เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 10:19:13

ความคิดเห็นที่ 28 ผมมีนิดเดียวครับ คุณคืนนี้ไร้เรื่องราว ฉากสุดท้าย ตอนพยักหน้าส่งซิก ผมคิดว่าเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่จินตนาการแน่นอนครับ แต่ที่ผมติด คือว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ซิก ที่ส่งนั้นหมายความว่าอย่างไรครับ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังแสดงความคิดเห็นกันอยู่ จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากให้กระทู้นี้ต้องหาข้อสรุปอะไรขนาดนั้นนะครับ แค่อยากฟังความคิดเห็นหลายๆด้านเท่านั้นเอง คุยกันสนุกดีน่ะ ตอนนี้ผมก็กำลังจะพยายามหาอ่านกระทู้ใน imdb อยู่ แต่ก็อย่างว่าครับ ภาษาไม่แข็งแรง ก็ต้องใช้เวลากันหน่อย 55 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 10:32:15 จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 10:28:23

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่าพระเอกบ้ามาแต่แรกครับ  เหตุผลดูหนักและแน่นกว่าพระเอกไม่ได้บ้า คิดแบบเอาตัวเองเป็นตาชั่ง ณ ขณะนี้  ไม่ได้โน้มเอียงตามคติความเชื่อหรือธงคำตอบที่อยากให้เป็น แต่ถ้าฝ่ายที่บอกว่าพระเอกไม่บ้ามีเหตุพอจะคะคานทำให้สูสีได้  ความเห็นผมอาจจะเปลี่ยนก็ได้ครับ จากคุณ : beerled เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 10:49:49

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบ คห. 28   ส่งซิกว่าที่เตรียมการรักษาไว้  ถึงเวลาเริ่มต้นแล้ว จากคุณ : beerled เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 10:51:39

ความคิดเห็นที่ 31 ใน imdb ก็คล้ายๆพวกเราเหมือนกันครับ มี 2 ความคิดเห็น มีคำตอบหนึ่งใน imdb บอกว่าอ่านหนังสือมา แล้วในหนังสือบอกว่า บ้าตั้งแต่แรกครับ -- เอามาจากคนที่ตอบกระทู้ใน imdb นะครับ เล่าให้ฟัง ขำๆอันนี้ มีคนตั้งกระทู้ว่าพระเอกไม่ได้บ้า ด้วยเหตุผลประมาณว่า ผู้หญิงในถ้ำเป็นตัวจริงและเหตุผลประกอบต่างๆ (ตรงนี้ไม่ฮาครับ) คนแรกที่เข้ามาตอบ ตอบว่า "Don't be stupid." เจ้าของกระทู้กลับมาตอบว่า "You have no reasons why I'm wrong so I think it's you, my friend, who is stupid." 555 เมืองนอกนี่แรงกว่าเราเยอะ กระทู้นี้ครับ ดุเด็ดมาก 300 กว่า reply http://www.imdb.com/title/tt1130884/board/thread/157723905 ผมไม่แน่ใจว่า เราทำลิงค์ไป imdb แบบนี้ได้ใช่ไหมครับ ถ้าไม่ได้ช่วยบอกด้วย จะได้ลบ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 11:09:45 จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 10:58:41

ความคิดเห็นที่ 32 ผมคิดเหมือน จขกท.ว่าไม่พระเอกมันไม่ได้บ้าแต่ทำกระทำให้บ้า คือผมรู้สึกเหมือนกันว่าถึงมันจะมีเหตุผลรองรับและอะไรต่างๆอีกมากมายว่าพระเอกบ้า แต่ผมไม่เชื่อหลักฐานนั้นและไม่เชื่อในตัวหมอครับ เพราะหน้าต่า ท่าทาง แววตา น่าสงสัยมาก เหมือนกับเอาตัวองไปอยู่ในสถานการณ์นั้นแล้วเราทำให้เป็นบ้าไปทีละนิดๆ จากคุณ : jkk (supoch_noi) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 11:09:00

ความคิดเห็นที่ 33 เพิ่งรู้ว่าหนังเรื่องนี้ีสร้างจากหนังสือค่ะ หนังสือได้ข้อสรุปอย่างไร ขอไม่เอามาเป็นประเด็นนะคะ อืม... เราคิดว่าพระเอกไม่ได้บ้าแต่แรกนะคะ ยิ่งคำพูดตอนจบของพระเอกกับฉากจบที่ตัดไปทีประภาคาร กลับทำให้รู้สึกว่ายังมีปริศนาอะไรซ่อนอยู่อีกมาก ตัวเท็ดดี้เองเมื่อไปถึงเกาะนั้นก็เหมือนคนที่ไว้ใจใครไม่ได้ พึ่งพาใครไม่ได้เลย ชัคหรือหมอเชียน ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปอย่างแน่ชัด นอกจากทีหมอคอลีย์เล่า (แต่ตรงนี้ก็มีข้อแย้งได้อีก (หนังทำให้เราเชื่อ) ว่า ก็หมอเชียนปลอมตัวมาเป็นชัค แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าแท้จริงแล้วชัคคือหมอเชียนรึเปล่า) รู้สึกด้วยว่าหนังเรื่องนี้ถึงจะเล่นระหว่างความจริงกับจิตใจคล้ายกับ identity หรือ memento แต่ไม่ได้เฉลยให้ชัดเจนเลยว่าสรุปแล้วทั้งหมดที่เราดูอะไรจริงอะไรหลอก โดนหนังเรื่องนี้หลอกให้หัวปั่นจริงๆ เลย ปล. รอดูลีโอใน inception ด้วยค่ะ ได้หัวปั่นอีกรอบแน่ๆ :P จากคุณ : iamptita เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 12:08:14

ความคิดเห็นที่ 34 คิดว่าพระเอกบ้าตั้งแต่แรกค่ะ เพราะเกือบทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเกาะถูกจัดฉากขึ้นโดยทีมหมอและพยาบาลที่ดูแลพระเอกอยู่ เนื่องจากอาการวนลูปของพระเอกอย่างที่หมอเฉลยว่าเคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว คิดว่าในการทดลองครั้งสุดท้ายนี้หมอคงจัดฉากไว้รับมือทุกอย่างแล้วเพื่อ lead พระเอกสู่ประภาคารที่หมอนั่งรออยู่เพื่อเฉลยทุกอย่าง 1. ประเด็น RUN คิดว่าเป็นการเตี๊ยมไว้แล้วเช่นกัน เพราะชัคไม่จำเป็นต้องเป็นคนลุกไปเอาน้ำเลยมีพยาบาลนั่งล้อมเพียบ และในช๊อตที่ผู้หญิงเขียนคำว่า RUN ลงในสมุดของพระเอกจะเห็นว่าพยาบาลชายผิวดำยืนจ้องอยู่ด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เห็นว่ามีการเขียนส่งซิกให้พระเอก ดังนั้นเมื่อเห็นและปล่อยผ่านแสดงว่าเป็นความตั้งใจแต่แรกอยู่แล้วว่าจะจัดฉากให้พระเอกดิ้นรนหาความจริงเพิ่มขึ้น 2. ย้อนกลับไปว่าทำไมพระเอกถึงถูกจัดฉากส่งมาสืบหา Rachel ที่ถูกสร้างเรื่องว่าหายไปและมีประวัติฆ่าลูกทั้ง 3 คน เพราะในตอนแรกกลไกทางจิตทำให้พระเอกปิดกั้นความทรงจำของตัวเองและเชื่อว่าภรรยาตัวเองตายจากไฟคลอกดังนั้นคดีนี้เหมือนเป็น clue ให้พระเอกคิดถึงเรื่องจริงนั่นเอง ฉากแรกที่ได้เจอภรรยาในฝันนั้นทำไมไฟคลอกแต่ตัวถึงมีน้ำและเลือดนำไปสู่คำพูด keyword ที่ว่า “ที่รักทำไมคุณถึงเปียกน้ำ” เป็นการบอกใบ้ว่าจริงๆมันมีอะไรมากกว่าไฟไหม้ซึ่งก็มาเฉลยตอนท้ายนั่นเองที่พระเอกพูดประโยคเดียวกัน 3. ด้วยความที่พระเอกผ่านสงคราวอันโหดร้ายมา ถึงหมอจะบอกว่าที่พระเอกยิงปืนฆ่าทหารฝ่ายตรงข้ามเป็นเรื่องคิดขึ้น แต่ตอนที่ปล่อยท่านหัวหน้าให้ทรมานจนตายและตอนที่สัมภาษณ์คนไข้ชายที่กรีดหน้านางพยาบาลแล้วพระเอกก็ขูดดินสอลงในสมุดตลอดเวลาก็แสดงให้เห็นว่าพระเอกเป็นคนที่จะไม่ให้อภัยคนที่ทำผิดหรือจะเรียกว่ามีความรู้สึกเยอะต่อคนที่ทำผิด ดังนั้นพอตัวเองไม่ได้พาภรรยาไปรักษาทำให้ลูกตายจึงยิ่งให้อภัยตัวเองไม่ได้จนบ้าไปเลย 4. Rachel ที่เจอในห้องพร้อมหมอคือพยาบาลจัดฉากมา ส่วน Rachel ที่เจอในถ้ำอันนี่ไม่มีพยานแวดล้อมวิเคราะห์ไม่ถูก 555 แต่ถ้าคิดจากว่าการที่ทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นทั้งหมดดังนั้น Rachel ในถ้ำจึงเป็นจินตนาการของพระเอกเองเพื่อออกมาเล่าเรื่องการผ่าตัดและเพิ่มน้ำหนักความไม่น่าไว้วางใจของหมอ ว่าแต่..ใครเป็นคนพูดเรื่องประภาคารกับพระเอกเป็นคนแรกนะ จากคุณ : roronoah เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 13:48:00

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้แต่หลงเข้ามาอ่าน อ่านจนจบแล้วอยากไปดูเลยแฮะ 5555 จากคุณ : นกน้อยในรังใหญ่ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 13:49:47

ความคิดเห็นที่ 36 อยากให้คุณมโนธรรมที่เขียนในฟิล์มแม็กเข้ามาแชร์จากที่ดูไปสามสี่รอบแฮะ เขาบอกว่าโลจิกทั้งหมดที่ดูมาจะถูกหักล้างในการดูรอบต่อๆ ไป และตอนฉากสุดท้ายนั่นแหละสำคัญที่สุดกับหนังทั้งเรื่อง ผมว่าหนังมันไม่ได้ดูง่ายสรุปง่ายแบบที่เข้าใจกันหรอก ไม่สังเกตุเหรอว่ามันผิดปกติหนังแนวนี้ที่ทำให้คนเชื่อบทสรุปนั้นตั้งแต่กลางเรื่อง แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 14:36:07 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 16:18:15 จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 14:35:04

ความคิดเห็นที่ 37   ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่าหนังเรื่องนี้อาจไม่จำเป็นต้องหาข้อสรุปที่ชัดเจนหรอก แต่แหม ตอนนี้ก็อยากสนุกกับการเลือกที่จะ 'เชื่อ' ความคิดใดความคิดหนึ่งอยู่ดี ยกความดีความชอบให้ผู้กำกับหนังที่สามารถสร้างปริศนาให้ถกเถียงได้มันส์จริงๆ เอาล่ะ งั้นขอสนุกต่อสักหน่อย ใครมีอะไรก็มาถกกันสนุกๆ ดีกว่าเนอะ - ตอบคุณ GlasNost ที่คิดว่าหมอทำให้พระเอกบ้า เพราะหมอต้องการได้คนไปทดลองการผ่าตัดสมองเพื่อลบล้างการรับความรู้สึกเจ็บปวด กลายเป็นคนที่ไร้ความรู้สึก และอาจนำคนแบบนี้ไปใช้ในทางทหารที่ต้องการใช้ความรุนแรง (ตรงกับคำพูดของเรเชล ที่อยู่ในถ้ำ) พอดีพระเอกมีประวัติที่เจ็บปวด เป็นคนมีปมในอดีต ทำให้เหมาะเหม็งที่จะเลือกคนแบบนี้มาสร้างเรื่องจัดฉากว่าเป็นคนบ้า เพื่อที่จะมีเหตุผลบังหน้าในการหาคนไปทดลองผ่าตัด คิดอย่างนี้พอสู้ไหวไหม 55 :) - ตอบคุณ the white man เรื่องปืนปลอมน่าสนใจ แต่จะลองไปคิืดหาเหตุผลมาสู้อีกสักตั้ง :) ส่วนเรื่องภาพในความคิดพระเอกที่คาบเกี่ยวเรื่องความจริงกับโกหก เป็นไปได้ไหมว่าถ้าจะลองคิดกลับด้าน ว่าความจริงที่เจ็บปวดของพระเอก (เมียตาย + เคยฆ่าคน เห็นแม่ลูกตายในสงคราม) ถูกบิดเบือนและผูกรวมให้กลายเป็นความจริงชุดใหม่ที่เกิดจากฤทธิ์ยาที่หมอยัดเยียด (เมียเป็นบ้าฆ่าลูกตาย + ฆ่าเมียตาม) - ตอบคุณ zezari เรื่องบุหรี่ในฉากสุดท้ายน่าสนใจและมีเหตุผลทีเดียว แต่ถ้าคิดว่าพระเอกไม่บ้า และเลือกที่จะตาย(ให้ผ่าตัด)เพื่อลืมความทรงจำตัวเอง ก็ยังพอมีทางออกให้กับการที่เขายอมสูบบุหรี่นะ :) - ตอบคุณ ถุงขนม คิดว่าเหตุที่หมอเชียน(ชัค) รั้งพระเอกไว้ เพราะตกใจประโยคที่ทำให้รู้ว่าพระเอกก็รู้ความจริงที่หมอจะยัดเยียดให้เขาไปผ่าตัด แต่พระเอกเลือกที่จะไปเองโดยไม่ต่อสู้ว่าตัวเองไม่บ้าอีกแล้ว ก็พอคิดได้เหมือนกัน :) - ตอบคุณ iamptita สนใจเหมือนกันเลยว่าชัค คือ หมอเชียนจริงๆ หรือเปล่า เคยคิดว่าชัคคือคู่หูจริงๆ อยู่พักหนึ่ง แต่คิดอีกทีว่าชัคต้องเป็นหมอเชียน ที่ให้บุหรี่(ผสมฤทธิ์ยา)กับพระเอกตั้งแต่ฉากแรก จะสมเหตุสมผลว่าพระเอกไม่บ้า แต่โดนทำให้บ้า มากกว่า - ตอบคุณ roronoah เหตุผลดี น่าเชื่อว่าพระเอกบ้ามากๆ เลยล่ะ แต่ลองคิดอีกทางมาสู้ :) ถ้าการที่เมียเปียกน้ำและมีเลือดออก และคำว่า ‘ที่รัก ทำไมคุณถึงเปียกน้ำ’ เป็น clue ที่บอกว่าความจริงเมียกดน้ำลูกตายและพระเอกยิงเมีย เรื่องราวเหล่านี้น่าจะเกิดขึ้นในจินตนาการหรือความทรงจำของพระเอกเท่านั้น ทำไมตอนหลังหมอถึงรู้ว่าพระเอกพูดกับเมียว่า ‘ที่รัก ทำไมคุณถึงเปียกน้ำ’ เป็นไปได้ไหมว่า มันคือสิ่งที่หมอพยายามจะยัดเยียดให้พระเอก ด้วยการสูบบุหรี กินยา จัดฉาก และใช้คำพูดเพื่อบิดเบือนความจริงในอดีตของพระเอก จริงๆ ก็อยากจะไปดูอีกสักรอบ เผื่อจะหาเหตุผลมาสู้ได้มากขึ้น หรือไม่ก็ยอมจำนนไปเลยว่าพระเอกบ้า 555 แต่ตั๋วมันแพง ถ้ามีคนเลี้ยงค่าตั๋วก็ว่าจะเอากระดาษเข้าไปจดออกมาเหมือนกัน จากคุณ : borebee เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 14:52:35 A:125.24.138.20 X: TicketID:264540

ความคิดเห็นที่ 38 หนังเรืีองนี้ฉลาดมากครับ  มันทำไห้ตัวพระเอกและคนดู จำนนต่อหลักฐาน ผมว่าท่านๆที่คิดว่าพระเอกบ้าตั้งแต่ต้น   จะบอกว่าตัวท่านที่คิดแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากพระเอกในเรื่องเลยฮะ - -" แนะนำว่าดูเรื่องนี้ 2 รอบขึ้นไปฮะ  แล้วจะได้รู้ว่ามันไม่ชอบมาพากลแน่ๆ จากคุณ : sax_pantip เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:11:53

ความคิดเห็นที่ 39   พระเอกมันคิดไปเองทั้งหมดไม่ใช่เหรอ อย่างผู้หญิงในถ้ำก็เป็นแค่ภาพหลอน เรื่องบุหรี่ก็คิดไปเองเหมือนกัน เกาะนี้ก็เป็นแค่เกาะธรรมดาๆ เอง เรื่องที่จัดฉากขึ้นก็แค่ให้พระเอกมาสืบสวน ได้ทำตามซึ่งที่พระเอกคิดว่าตัวเองเป็น เผื่อจะไปถึงจุดจบ และเข้าใจว่าตัวเองคิดไปเองทั้งนั้น เรื่องปืน ก็เป็นของปลอมแต่แรก แต่พระเอกคิดไปเองว่าเป็นของจิง ทุกคนในเกาะก็ให้ความร่วมมือตอนแรก ให้พระเอกรับบทเป็นตำรวจ แต่อย่างคนบ้าที่มันไปสืบสวน มันเห็นพระเอก มันก็จำได้ ก็เลยบอกให้หนี แต่พระเอกมันอินมาก ก็เลยหลอนขึ้นเรื่อยๆ เห็นภาพหลอนถี่ขึ้นเรื่อย เหตุผลก็อาจจะเพราะเรื่องที่มันสืบก็คือเรื่องตัวเองในอดีต ความหลังก็เลยผุดขึ้นมา จากคุณ : ขอแจมด้วย เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:15:45 A:131.112.40.16 X: TicketID:264614

ความคิดเห็นที่ 40 ผมอยากไห้ท่านๆที่อ่า่นข้อความผม กลับไปดูเรื่องนี้อีกซักรอบ หนังเปิดตัวมาและพยายามยัดเยียดไห้พระเอกเ็ป็นบ้าตลอดเลยครับ  แต่ลองดูดีๆ ผมว่ามันแปลกๆ แต่คิดแบบนี้สนุกดีนะ ถ้าเราแบ่งเฉลิมไทยเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแรกคิดว่าพระเอกไม่ใด้บ้า  ( ก็คือตัวเอก) ฝ่ายสองคือพวกที่คิดว่าพระเอกบ้าตั้งแต่ต้น ( ฝ่ายหมอ ) ฝ่ายที่จำนวนน้อยกว่าอย่างฝ่ายแรกก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน ที่ฝ่ายที่สองเอามาอ้าง สุดท้ายก็จะกลายเป็นพระเอกในเรื่อง กรั่กๆ ผมว่าคนที่คิดว่าพระเอกไม่ใดบ้า แนะนำว่าไห้เชื่อต่อไปฮะ  เราอย่ายอมจำนนไห้กับหลักฐาน เราจงแถ ก๊ากกๆ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 15:27:10 จากคุณ : sax_pantip เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:26:17

ความคิดเห็นที่ 41 พระเอกบ้าครับ บ้่าตั้งแต่เริ่มต้นเรื่อง เพียงแต่ตอนจบนั้น พระเอกอาการดีขึ้นจนเริ่มยอมรับแล้วว่าตัวเองบ้า แต่ไม่อยากกลับไปเป็นแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาอีก เลยแกล้งทำเป็นไม่หาย เพื่อให้สถานบำบัดนำไปผ่าสมองหรือกำจัดทิ้งเสีย จากคุณ : BLuEMaNiA เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:42:00

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าเป็นเรื่อง Doubt จะไม่ว่าเลย  เพราะประเด็นว่าด้วยความสงสัย  หนังเลยจบโดยไม่เฉลยความจริง แต่เรื่องนี้เป็นหนังมีปม  มีคลี่คลาย  มีเฉลย ตามสูตร ผมยอมรับครับว่าเมื่อถึงตอนเฉลย  ผมจำเป็นต้องยอมจำนนต่อหลักฐานทั้งหมด โปรดเห็นต่างเพื่อสร้างสรรค์และสันติน่ะครับ จากคุณ : beerled เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:43:26

ความคิดเห็นที่ 43 ผมดูแล้ว คิดว่าพระเอกบ้า นั่นแหล่ะครับ จากเหตุการณ์ฆ่าภรรยา นั่นแหล่ะ และการทดลองครั้งสุดท้ายนี้เอง ทำให้พระเอกหาย และพระเอกก็ตัดสินใจหลอกหมอให้เข้าใจพระเอกว่า ยังบ้าอยู่ หมอจึงส่งสัญญาณ โดยการส่ายหน้า ไม่ใช่พยักหน้า ซึ่งหมายถึง การรักษาวิธีนี้ไม่ได้ผล ต้องยอมรับการผ่าตัดแทน ซึ่งพระเอกคงอยากจะผ่าตัด หลังจากยอมรับเรื่องทั้งหมด ซึ่งคำพูดตอนท้ายของพระเอกนั้น บอกว่า จะตายอย่างคนดีหรืออยู่อย่างอสูรกาย นั้นตอกย้ำว่า พระเอกนั้นหายดีแล้ว แต่ไม่อยากอยู่กับความจริงซึ่งเจ็บปวด จึงขอเป็นคนบ้าไปรับการผ่าตัดดีกว่า จากคุณ : khodjaman เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:51:33

ความคิดเห็นที่ 44 ผมดูแล้ว คิดว่าพระเอกบ้าแต่แรก นั่นแหล่ะครับ จากเหตุการณ์ฆ่าภรรยา นั่นแหล่ะ แต่การทดลองครั้งสุดท้ายนี้เอง ทำให้พระเอกหาย และพระเอกก็ตัดสินใจหลอกหมอให้เข้าใจพระเอกว่า ยังบ้าอยู่ หมอจึงส่งสัญญาณ โดยการส่ายหน้า ไม่ใช่พยักหน้า ซึ่งหมายถึง การรักษาวิธีนี้ไม่ได้ผล ต้องยอมรับการผ่าตัดแทน ซึ่งพระเอกคงอยากจะผ่าตัด หลังจากยอมรับเรื่องทั้งหมด ซึ่งคำพูดตอนท้ายของพระเอกนั้น บอกว่า จะตายอย่างคนดีหรืออยู่อย่างอสูรกาย นั้นตอกย้ำว่า พระเอกนั้นหายดีแล้ว แต่ไม่อยากอยู่กับความจริงซึ่งเจ็บปวด จึงขอเป็นคนบ้าไปรับการผ่าตัดดีกว่า จากคุณ : khodjaman เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 15:52:00

ความคิดเห็นที่ 45 คนที่เชื่อตรกะที่ว่าพระเอกไม่ได้บ้ามาก่อนแต่ถูกทำให้บ้านี่ ไม่ได้คิดตอนที่หนังเริ่มเรื่องนะครับ ต้องคิดไปก่อนที่จะมีฉากเริ่มเรื่องอีกว่าจริงๆ แล้วสองปีก่อนพระเอกมาที่เกาะนี้เพราะอะไร แล้วมาติดอยู่ที่นี่เพราะบ้าหรือถูกทำให้บ้ากันแน่ เรากำลังเถียงกันแต่ในประเด็นที่หนังนำเสนอยัดเยียดให้เชือ ลองมองนอกกรอบที่หนังยัดให้เชื่อดูบ้าง แล้วจะเห็นว่าเหตุผลทีเห็นในหนังนั่นสามารถถูกหักล้างได้หมดเหมือนกัน อยากดูอีกรอบเพื่อยืนยันความคิดนี้เหมือนกัน แต่ไม่ไหวค่าตั๋วแพง - - ไว้ตอนเป็นแผ่นคงได้ดูหลายรอบเพื่อพิสูจน์แน่นอน จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:25:54

ความคิดเห็นที่ 46 37 คุณ borebee ประโยค “ที่รักทำไมคุณถึงเปียกน้ำ” คิดว่าที่หมอพูดเพื่อเตือนสติพระเอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงค่ะ ก็คือพูด keyword นั่นเอง แต่ทำไมหมอถึงรู้ประโยคนี้ได้ คิดง่ายๆคือหลังเกิดเหตุการณ์พระเอกอาจได้ให้ปากคำไว้ในสำนวนหรือเล่าให้หมอฟังระหว่างการรักษาเพราะพระเอกสามารถกลับมาปกติได้ในช่วงนึง (ที่วนลูป) เพิ่ม 5. ตอนพระเอกฝันถึง Rachel ที่เป็นพยาบาลปลอมตัวมาและเด็ก 3 คนที่นอนจมกองเลือด Rachel ขอให้พระเอกช่วยเธอ ตรงนี้คิดว่าคำว่าช่วยแทนการช่วยพาเธอไปหาหมอเพราะเธอไม่สบาย แต่ในฝันพระเอกกลับพาเด็กๆไปจมน้ำเปรียบเสมือนพระเอกคิดว่าตัวเองช่วยภรรยาฆ่าลูกทั้ง 3 ไปด้วยจึงเกิดเป็นความรู้สึกผิด จากคุณ : roronoah เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:32:14

ความคิดเห็นที่ 47 ดีใจจัง มีคนมาตอบกระทู้เราเยอะเลย ตอนนี้สิ่งที่ทำให้ผมอยากกลับไปดูอีกรอบ คือ รายละเอียดของตัวละครครับ การแสดงออก สีหน้า อารมณ์ และการกระทำเล็กๆน้อยๆ โดยเฉพาะตัวละครหลัก อย่าว่า ผมเถียงหัวชนฝานะครับ (เดี๋ยวเจ็บ 55) ผมยังเชื่อว่าพระเอกไม่ได้บ้าแต่ต้นเรื่องครับ ย้ำนะครับ ผมเข้าใจที่หนังเฉลยทั้งหมดนะครับ แต่ไม่เชื่อ เอาเป็นว่า ถ้าสิ่งที่หนังเฉลยอย่างตรงไปตรงมาเนี่ยเป็นความจริง ผมจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่สมจริงมากๆเลยครับ เพราะผมดูแล้ว ไม่เชื่อกับบทสรุปนี้เลย ฉากประภาคารนั่น เอาตามตรงนะครับ คุณดูแล้วเชื่อว่ามันจริงไหมครับ ผมจะไปดูอีกรอบเร็วๆนี้แน่นอนครับ แล้วจะรีบมาคุย อย่าเพิ่งหยุดคุยประเด็นนี้กันนะครับ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 16:44:22 จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:41:38

ความคิดเห็นที่ 48 สำหรับคนที่คิดว่าพระเอกไม่ได้บ้า มีเหตุผลอะไรที่หมอจะต้องทำให้พระเอกบ้าคะ เพราะพระเอกมาสืบรู้ว่ามีการผ่าตัดที่ผิดกฏหมายที่เกาะนี้หรือ ถ้างั้นก็ผ่า lobotomy พระเอกตอนที่พระเอกยังหลอกตัวเองเลยก็ได้นี่คะ ปืนก็โดนยึดแล้ว (หลอกว่าถูกยึด) ทำไมต้องเล่นละครจัดฉากมากมายเพื่อให้พระเอกมีสติกลับมายอมรับความผิดของตนเอง หรือถ้าบอกว่าเรื่องทั้งหมดหมอเป็นคนยัดเยียดให้พระเอกทั้งหมด ยิ่งไม่ต้องทำใหญ่เลยมั้ย ผ่าเลยเหอะ ยังไงก็หนีไม่ได้อยู่แล้วนี่นา อันนี้งงจริงๆนะ ถ้าพระเอกไม่ได้บ้าแล้วเหตุผลคืออะไร จากคุณ : roronoah เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:43:32

ความคิดเห็นที่ 49 เอาที่เดาตอนนี้ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตอนที่พระเอกคุยกับชัค ตอนที่ติดฝนในบ้านเก่าๆมืดๆอะครับ ตรงนั้นเป็นเรื่องจริง ขอลองตอบคุณ roronoah ดูนะครับ ผมคิดว่า หน่วยงานบนเกาะนี้ รู้ว่าพระเอกได้แอบสืบเรื่องราวของหน่วยงานนี้อยู่ (พระเอกได้เบาะแสจากนอยส์) ทางเกาะจึงสร้างเรื่องนักโทษหาย เพื่อให้พระเอกหาทางมาสืบงานนี้ให้ได้ ในขณะนั้นเอง ได้ส่งหมอเซียนปลอมตัวไปเป็นชัค คู่หูคนใหม่ ของพระเอก เพื่อ 1. คอยควบคุมดูการสืบของพระเอกว่าเข้าใกล้ความจริงแค่ไหน 2. ทำให้พระเอกหลอน อาจจะบุหรี่หรือยานั้นแหละ เหตุผลที่ดึงเข้ามาที่เกาะ คือ จะ ปิดปากนั่นเอง แต่พระเอกเป็นถึงผู้ตรวจการจะปิดปากง่ายๆ ก็ไม่ได้ จึงต้องวางแผน เพื่อชักนำพระเอกให้พระเอกคิดว่าตัวเองบ้า ยัดเยียดความทรงจำบางอย่างให้พระเอก ตอบว่า "มีเหตุผลอะไรที่หมอจะต้องทำให้พระเอกบ้า" เพราะจะได้ฆ่าหรือนำไปทำการทดลองได้อย่างถูกต้องครับ ยังไง ต้องไปดูอีกรอบก่อน เพราะมีจุดสงสัยเต็มไปหมด แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 17:07:00 จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 16:57:16

ความคิดเห็นที่ 50 เอาง่ายๆ นะ ถ้าพระเอกไม่ได้เป็นบ้า ฉากที่พระเอกยิงปืนใส่หมอคานธี จะต้องเห็นเป็นผลลัพธ์ปกติ คือยิงไม่เข้า แบบคนปกติทั่วไป แต่ในหนังแสดงให้เห็นภาพหลอนก่อน คือเลือดสาดกระจาย ตามจินตนาการ/ความคาดหวังของพระเอก พอหมอคานธีพูดขึ้นมา พระเอกเลยเห็นเป็นภาพจริง มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่เห็นภาพหลอนแบบนี้ ที่หมอพูดขึ้นมา ที่ไม่ตาย คือการสะกิดพระเอก ว่าที่เห็นเลือดสาดไปมันไม่จริง ภาพที่พระเอกรับรู้ต่อมาจึงเป็นภาพที่หมอคานธียืนพูดอยู่ จากคุณ : zezari เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:35:09

ความคิดเห็นที่ 51 ผมไม่คิดว่าพระเอกบ้าครับ เพราะมีอยู่จุดหนึ่งตอนที่ลีโอไปพักกับพยาบาลคนนั้นในถ้ำแล้วหลับไป แล้วก็ฝันไปถึงเรื่องราวต่าง ๆ แต่นางพยาบาลคนนั้นก็เป็นคนปลุกลีโอขึ้นจากฝันครับ ย้ำนะครับว่าเธอเป็นคนปลุกลีโอ โดยการสะกิดที่ตัวลีโอให้ตื่นครับ ไม่ใช่ว่าตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเธอ ถ้าเธอเป็นแค่จินตนาการจริง ๆ ผมไม่คิดว่าเธอจะสามารถปลุกลีโอได้ครับ จากคุณ : ACUMI 86 เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:46:30

ความคิดเห็นที่ 52 ความเห็นที่ 50 ที่ลีโอ เขาเป็นแบบนั้นเพราะเขาโดนยาไงครับ ถึงแม้ในขณะนั้นเขาจะมีการห่างยาบ้าง แต่จากการที่ต้องออกกำลังกาย ปีนป่าย ขึ้นประภาคาร ทำให้มีเหงื่อออกมาก ก็เป็นอาการเร่งตัวยาที่มีค้างอยู่ให้ออกมาไงครับ ซึ่งหมอก็ต้องรู้ดีกว่า ผลลัพธ์ หรือ ปฏิกิริยาจะต้องออกมาในรูปแบบนั้น ซึ่งนั่นก็เข้าทางหมอที่ต้องการให้ลีโอเชื่อว่าตนเองเป็นบ้าจริง ๆ จากคุณ : ACUMI 86 เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 17:53:27

ความคิดเห็นที่ 53 ตอบคุณ roronoah เรื่องที่ว่าทำไมต้องเสียเวลาจัดฉากหลอกให้เป็นบ้าให้ยุ่งยากนั้น ผมมองว่า เนื่องจากเขาต้องการตัวลีโอไปทดลองด้วยครับ ซึ่งต้องการความรุนแรง ความทรงจำอันเจ็บปวดทั้งหลายแหล่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะมีผลโดนตรงกับผลของการทดลองครับ เพราะฉะนั้นก็ต้องตีน้ำให้ขุ่นก่อนครับ ถึงจะเอามากรองหาสิ่งที่ต้องการครับ อีกอย่างถ้าคุณคิดจะทำร้าย หรือฆ่าใครสักคน คุณจะถือมีด หยิบปืนไปฆ่าเขาตรง ๆ เลยหรือเปล่า ผมว่าต้องมีการวางแผน แก้ต่างให้ตัวเองก่อนนะครับ ลีโอก็เป็นถึงผู้ตรวจการ โรงพยาบาลนี้ก็มีชื่อเสียง และก็เป็นที่เพ่งเล็งอยู่ด้วย มันก็ต้องทำอะไรให้เนียนสักหน่อย ไม่งั้นจะมีปัญหาในภายหลังได้ครับ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 18:01:51 จากคุณ : ACUMI 86 เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 18:00:43

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ Cookiefish ครับ ที่ว่าพระเอกอยู่บนเกาะมา สอง ปี แล้วนั้น เป็นเพียงคำบอกของคุณหมอนั้นคนเดียวนะครับ ในหนัง ผมไม่สังเกตเห็นมีหลักฐานตัวไหนสนับสนุนคำพูดของคุณหมอเลยว่า พระเอกมาที่เกาะนี่ สองปี แล้ว จากคุณ : ACUMI 86 เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 18:07:53

ความคิดเห็นที่ 55   อ่านไปอ่านมาแล้วผมว่า สามสิบปีก็เถียงไม่จบ อย่าเถียงว่าบ้าหรือไม่บ้ามาก่อนเลยครับ เพราะหนังเรื่องนี้ให้ความจริงมาสองชุด อยู่ที่ว่าคุณจะเอาความจริงไหนมาสนับสนุนความเชื่อของตัวเอง หนังเขาสร้างมาเพื่อการนี้เลยครับ จบแบบมีปม...เป็นความตั้งใจแน่นอน ไม่งั้นก็เฉลยให้เคลียร์ไปแล้วว่า...ที่ประภาคารมีอะไร แต่ผกก.กลับทิ้งไว้แค่นั้น... อยู่ที่ว่าจะเชื่อความจริงชุดไหน จากคุณ : เกมม์ฃ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 18:34:48 A:124.121.87.190 X: TicketID:249935

ความคิดเห็นที่ 56 ใช่ครับตามที่คุณ ACUMI 86 บอก ฉากในถ้ำนั่นยังไงก็ไม่ใช่จินตนาการนะครับ ลองนึกย้อนดูสิว่าพระเอกไม่เคยเห็นภาพหลอนแล้วมีคนมาคุยเป็นตัวตนในขณะตื่นเลย แล้วนางพยาบาลนั่นก็เป็นคนปลุกพระเอกขึ้นมา ตรงนี้มันหักล้างความเชื่อที่หนังพยายามยัดเยียดช่วงหลังได้ทั้งหมดเลยนะ เพียงแต่คนดูส่วนใหญ๋จะเชื่อตามหลักฐานที่หนังป้อน จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 18:48:08

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้าเชื่อว่าพระเอกไม่ได้บ้า ตั้งแต่ต้นมีหลักฐานอะไรครับว่าไม่ได้บ้าตั้งเเต่ต้น และมีหลักฐานอะไรครับที่บงบอกว่าพระเอกเป็นตำรวจมาสืบเรื่องนักโทษหาย ทำไมพระเอกถึงถูกส่งมาคนเดียว หรือมีผู้ัช่วย ถ้าพระเอกถูกม่าตาย หรือจับขัง ไม่คิดกันหรือครับว่าหน่วยงานของพระเอกจะส่งคนมาตามหา คนจริงเรื่องที่จะทำให้พระเอกเป็นบ้านั้น เป็นประเด็นที่ดีครับ แต่ไม่ใช้ Highlight ของหนังเเม้เเต่น้อยครับ จากคุณ : Rick_Kiss เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 18:54:51

ความคิดเห็นที่ 58 หลักฐานก็อยู่ในเรื่องแล้วไงครับ ที่พระเอกและพยาบาลในถ้ำบอกก็ส่วนหนึ่ง อย่าไปติดกับดักที่หนังวางไว้สิครับ ไม่ใช่ว่าคนที่ไม่เชื่อจะไม่เข้าใจที่หนังวางเหตุผลไว้ให้ดู เข้าใจทั้งหมดนั่นแหละครับ แต่ยิ่งคิดแล้วมันยิ่งตะหงิดๆ ว่ามันไม่น่าจะใช่น่ะ จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 19:09:26

ความคิดเห็นที่ 59 ยิ่งอ่าน ยิ่งงงแฮะ ผมชอบตอนจบแบบที่ผมเข้าใจตอนเดินจากโรงมากกว่านะ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 19:55:50 จากคุณ : metrologo เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 19:54:07

ความคิดเห็นที่ 60 เข้ามายืนยันตามที่คุณ Cookiefish บอกครับว่า กลุ่มคนที่เชื่อว่าพระเอกไม่ได้บ้าเนี่ย เข้าใจทุกอย่างที่หนังจะบอกนะครับ ในกรณีที่พระเอกบ้าตั้งแต่แรก แต่ไม่เชื่อครับ อธิบายคำว่า "เชื่อ หรือ ไม่เชื่อ" ยากเหมือนกันนะครับ ผมอุทานออกมาเลยครับตอนเครดิตขึ้น ว่า "ไม่จริง ดูยังไงก็ไม่จริง" ผมว่ามันไม่มีความสมจริงในเหตุการณ์ตอนอยู่บนประภาคารอ่ะ ผมหมายถึง ดูยังไงก็ไม่น่าเชื่อว่า นั่นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับพระเอก (หมายถึงเมียฆ่าลูก แล้วเค้าก็ฆ่าเมีย) ลุงมาร์ตินไม่น่าทำได้แค่นี้นะ (ในกรณีที่พระเอกบ้าตั้งแต่แรก) มีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากถามครับ (เพราะจำไม่ได้ 55)  หนังมีพูดถึงลูกอีก 2 คนที่ตายไหมครับ หรือมีเฉพาะตอนเฉลย ป.ล. ตูเริ่มไม่มีเหตุผลสนับสนุนล่ะ แต่อยากให้ลองกลับไปดูอีกรอบกันจริงๆนะ จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 20:07:21

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นด้วยกับ  จขกท ค่ะ  เราคิดว่า....... ......เทดดี้ ไม่ได้บ้า  และไม่บ้าจนถึงฉากสุดท้าย...... หมอเชียนกับอีตาหัวโล้น  เรียกเทดดี้ว่าอะไรนะ...และย้ำว่าเขาชื่อนั้น  เทดดี้ไม่มีตัวตน   แต่สุดท้ายหมอเชียนเรียกพระเอกของเราด้วยชื่อเดิม  ตอนสุดท้ายก่อนจบ  ดูเหมือนหมอจะตะลึงๆ ด้วยซ้ำกับประโยคที่เชือดเฉือนของพระเอก ความตายของภรรยาเทดดี้  ภาพแรกๆ เจ้าหล่อนไม่ได้เปียกน้ำ  และจิตใต้สำนึกของเทดดี้ สร้างภาพอดีตภรรยาที่พยายามย้ำว่าเธอตายแล้ว ปล่อยเธอไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลังสูบบุหรื่  กินยาแก้ปวด  ฟังเรื่องคนไข้ที่ฆ่าลูก 3 คนและจับทิ้งน้ำ ภาพอดีตภรรยาเทดดี้เริ่ม  เปียก และเจ้าหล่อนดูเหมือนจะไม่ยอมจากไป  พยายามจะมีอิทธิพลเหนือเทดดี้ คนไข้ที่เขียนคำว่า รัน  เขียนคำนั้นเมื่อหมอเชียนลุกไปหยิบน้ำ  และมีทีท่ากลัวหมอเชียนอย่างมาก มีคนถือปืนเฝ้าประภาคารด้วยท่าทางจริงจัง  และบอกที่นั้นเป็นที่เก็บขยะหรืออะไรที่ดูไม่สำคัญ  ทำไมไม่บอกตรงๆ ว่าตรงนั้นเป็นที่ทำงานตาหัวโล้น ในขณะที่บริเวณอื่นๆ เวรยามนั่งอย่างกับคนเบื่อโลก แต่ประภาคารกับต้องถือปืนยืนคุม เทดดี้เห็นหญิงกับลูกสาว ที่นอนตายข้างถนนวันที่เขาไปทำสงคราม เขารู้สึกผิดที่มาช้า ทำให้คนเหล่านั้นตาย  หลังๆ ผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนหน้าเป็นอดึตภรรยาและบุตรสาว  ซึ่งก็น่าแปลกว่าทำไมหมอเชียนย้ำว่าเทดดี้มีลูกสามคน   แต่ตอนฝันแรกๆ เทดดี้มีภรรยาไม่มีลูก  ต่อมาเทดดี้เริ่มเห็นตัวเองมีลูกสาว   ต่อมาเมื่อรวมเอาเรื่องคนไข้สาวที่ฆ่าลูกสามคน  เทดดี้ก็เริ่มมีลูกสามคนบ้าง  และเอาลูกไปทิ้งน้ำบ้าง และภายใน 4 วัน เทดดี้ก็กลายเป็นบ้าเต็มขั้นแต่ก็กลับมามีสติเมื่อยาเจือจางลงเพราะเขาไม่ได้กินดื่มอะไรเพิ่มในวันท้ายๆ แต่ที่เราสงสัยคือ  เทดดี้ยืนยันว่าเขาจะหนีไป   ก็อยากจะเอาใจช่วยว่าเทดดี้จะเอาความฉลาด หนีรอดจากประภาคารได้ เห็นเหล็กแหลมกับอะไรก็ตามที่อยู่ในห่อผ้าสีขาวของบุรุษพยาบาลแล้วก็หวั่นๆ ว่าเทดดี้จะรอดหรือ ...นี่เป็นการอิงเรื่องราวในยุค 50  ที่มีการรักษาคนไข้ทางจิตด้วยวิธีที่ป่าเถื่อนเหมือนหนูทดลองยา  การรักษาที่ผิดหลักมนุษยธรรม จนทำให้เมื่อมีการออกกฏหมาย สถานพยาบาลโหดพวกนี้ถูกสั่งปิดไปเป็นจำนวนมาก... จากคุณ : นิกิตา เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 20:38:32

ความคิดเห็นที่ 62 1. พระเอกบ้า 2. อาการของพระเอกเป็น ป่วยสองบุคลิก ทำให้ เดี๋ยวก็บ้า เดี๋ยวก็รู้ตัว 3. สิ่งใดๆที่เราเห็นและคิดว่าน่าจะมีอยู่จริง เรารับรู้จาก สายตาและความคิดของคนบ้า (เช่น หมอสาวในถ้ำ) เป็น perception ของ พระเอกตอนบ้า แต่ไม่ใช่ reality ตรงหน้า เช่น ฉาก run คนไข้อาจเขียนให้พระเอกจริงๆ แต่ perceptionของพระเอก คือแผนการที่จะจับเขามา แต่ reality อาจเป็นแค่ อาการบ้าของคนไข้อีกคนที่เขียนให้คนตรงหน้า ไม่ได้มีแผนซับซ้อนอะไรเลย 4. ตอนจบ พระเอก สวิงกลับมาอยู่ โหมด ไม่ได้บ้า (คือรู้ตัวว่าตัวเองทำเมียตาย) แต่การรู้ตัวว่ามีชีวิตแบบนี้ที่ลูกเมียเด๊ดไป สู้ตายไปเสียคงดีกว่า เลย แกล้งบ้า เพื่อให้เขาไปผ่าสมอง แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 20:56:12 จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 20:55:32

ความคิดเห็นที่ 63 ผมตั้งตารอความคิดเห็นของคุณหมอ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" อยู่ครับ คุณหมอมีบทวิจารณ์แบบละเอียดไหมครับ ป.ล. ตอนนี้ ผมยังไม่คิดแบบคุณหมอนะครับ 55 จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 21:01:46

ความคิดเห็นที่ 64 ขอมาเสริมเรื่องของเมียพระเอกแทนละกันนะครับ เพราะสาเหตุ และแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับตัวพระเอก คงมีเยอะพอครอบคลุมความเป็นไปได้หมดแล้ว คือ ที่เมียพระเอก ฆ่าลูกตัวเอง ไม่ใช่เพราะตัวเองมีอาการทางประสาทนะครับ แต่สาเหตุมาจากอาการเครียด ที่ต้องเลี้ยงดูลูกถึงสามคน โดยตัวคนเดียวมากกว่า (เพราะสามีเป็นตำรวจ ที่อาจจะต้องทำงานต่างรัฐบ่อยๆ) และเนื่องด้วยความซนตามประสาเด็ก ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้าน ถึงแม้ว่าผู้เป็นแม่ จะตักเตือน ว่ากล่าวยังไง ก็ไม่ยอมฟัง สุดท้าย ความอดทนก็ถึงขีดสุด  ผู้เป็นแม่ ก็ได้ทำการฆาตรกรรมลูกๆ ของเธอเอง เหตุที่เกิดขึ้น สันนิษฐานได้จาก การเอ่ยถึงโรงเรียน ที่บอกว่า "แต่โรงเรียนของชั้นเปิด" ก็หมายความว่า เธอคิดว่าสิ่งที่เธอทำ คือการสั่งสอนเด็กๆ ให้เงียบ และเชื่อฟัง และการพูดถึงการจับแต่งตัวเหมือนตุ๊กตา ก็เป็นการแสดงออกถึง ความต้องการในการเป็นผู้ควบคุม กล่าวคือ ตุ๊กตา มันไม่วิ่งซน แต่ยังไง ก็ยังมีความน่ารักอยู่ในตัว แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 22:07:55 จากคุณ : อัปรักษ์ (Rak-sama) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 21:02:01

ความคิดเห็นที่ 65 ตอบ ผีหน้าแดง ... เขียนแน่ครับ แต่คงเขียนลงใน Filmax ตอนใกล้ๆแผ่นออกครับ เดี๋ยวนี้ แทบไม่มีเวลาเขียน blog หรือกระทู้ยาวๆเลย ส่วนใหญ่ได้แต่ เขียนสั้นๆลงใน facebook แทน จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 21:09:43

ความคิดเห็นที่ 66 ไม่จบๆๆๆๆๆ มาต่อๆๆ ผู้หญิงในถ้ำที่เป็นหมอโดนทำให้กลายเป็นคนบ้าแล้วหนีออกมา ถ้าเป็นคนจริงๆ ทำไมมีตัวอักษรเดียวกับชื่อที่พระเอกสมมติขึ้นมา 13 ตัวอักษรเท่ากับอีก 3-4 ชื่อนั้น แล้วเป็นตัวอักษร set เดียวกันที่สลับกันใหม่เพื่อให้ได้คำใหม่ ตอนเราดู เรายังพูดเลยว่า ถ้าจบแบบพระเอกเป็นบ้า ก็ไม่น่าใช่ฝีมือสกอร์เซซี่ ไม่น่าทำได้แค่นี้ แต่พอดูจบแล้วอารมณ์มันไม่ใช่แค่เฉลยจุดว่าพระเอกบ้าไม่บ้าน่ะ อารมณ์มันอยู่ที่ คุณเชื่อพระเอกใช่มั้ยล่ะ  เชื่อมั้ย เชื่อแบบไหน สิ่งที่พระเอกเล่าซ้ำๆ มันทำให้เราเชื่อไปเลย ดูตอนจะจบยังไม่คิดเลยว่าจะบ้าจริงๆ อารมณ์เนี้ยะ เยี่ยม ปล.หวัดดีคุณหมอค่ะ มีคุณหมอมาตอบไว้งี้ เชื่อเลยว่าจริง ได้น้ำหนักโขเลย ^^ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 21:12:47 จากคุณ : zezari เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 21:11:28

ความคิดเห็นที่ 67 คุณหมอมาทำให้พวกเรา (คนที่เชื่อว่า พระเอกไม่ได้บ้า) ลำบากซะละ เล่นสรุปซะชัดเจนเลย 55 โดยเฉพาะข้อ 1 ชัดจริงๆ คุณหมออย่าแสดงความคิดเห็นเพิ่มอีกนะครับ เดี๋ยวถกกันไม่หนุก (ฮ่าฮ่า อันนี้ล้อเล่นนะครับ) จะรออ่านวิจารณ์แบบละเอียดใน Filmax ครับ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 21:20:51 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 21:21:16 จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 21:20:18

ความคิดเห็นที่ 68 อย่าหยุดถกกันเลยค้าบ ความเห็นผมก็ไม่ใช่จะฟันธงได้ซะทีเดียว เพราะ อย่างที่มีคนบอก หนังให้ความจริง 2 ชุด เพียงแต่ ในมุมของผม ผมคิดว่า หนังไม่ได้ให้ความเท่าเทียมในการตีความของ สองชุดนั้น หนังเทไปทาง ฝั่งหนึ่งมากกว่า แต่ ไม่แน่ ถ้ามีคนถกในมุมของ ไม่บ้า ได้ชวนคล้อยตาม ผมก็อาจหวั่นไหวได้ จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 21:46:13

ความคิดเห็นที่ 69 โห...มากันทั้งโรงบาล ทั้งหมอคานธี  หมอวิเชียร  และหมอผมอยู่ข้างหลังคุณ ยืนยันข้อเท็จจริงเดียวกัน 3 หมอดูคอนเฟิร์ม....บ้าครับ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 53 22:10:56 จากคุณ : beerled เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 22:06:51

ความคิดเห็นที่ 70 ในแง่คิดของผมเรื่องผู้หญิงในถ้ำนะครับ เธอคนนั้นก็เป็นหนึ่งในนักแสดงที่เตี๊ยมมาให้เจอพระเอก และยัดความคิด เรื่อง การผ่าตัดสมองให้พระเอกได้รับรู้ ประมาณ the oracle ใน matrix เพื่อให้พระเอกไปพบความจริงที่ประภาคาร สาเหตุที่ผมเชื่อเพราะ คุณหมอหัวโล้นบอกเองว่าพระเอกเป็นผู้ตรวจการณ์ ที่สืบสวนเก่งมาก คุณหมอเชียนเลยแกล้งเล่นละครว่าตกหน้าผาให้พระเอก ปีนลงไปข้างล่างและเจอกับผู้หญิงในถ้ำครับ สรุปคนในจินตนาการพระเอกมีแค่ เมียและลูกเท่านั้น นอกนั้นเป็นคนจริง ที่เต๊ยมมา ทั้งหมดเป็นการเล่นละครครั้งใหญ่ จากคุณ : popping เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 22:41:47

ความคิดเห็นที่ 71 ตอนแรก  ก็คิดว่า  พระเอก ไม่บ้า เหมือนกัน     แต่อ่านกระทู้แล้ว คิดว่า พระเอกมันบ้าจริงๆครับ  เพราะหา เหตุผล มาขัดแย้งว่า ไม่บ้าไม่เจอ ผมลองดู กลับไปกลับมา หลายเที่ยวเลย  ฉากที่พระเอก อยู่บนหน้าผา จะหยิบกระดาษอะไร  ตอนหลังก็ไม่เฉลยว่าคือไร  ลอง slow ดู  มันเขียน record ของโรงพยาบาลอะไรสักอย่าง จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:22:34

ความคิดเห็นที่ 72 มีอีกอัน  หน้าผา ขนาดนี้  ผู้หญิงอย่าง ราเชล  จะปีนได้ด้วย เท้าเปล่าเหรอ  ผมว่าพระเอก เคยหนีมาที่หน้าผา นี้ หลายครั้งแล้ว   เลยสร้าง จินตนาการขึ้นมาเอง จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:24:26

ความคิดเห็นที่ 73 ตอนแรก บอกว่า ราเชล ไม่ใส่รองเท้า จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:25:36

ความคิดเห็นที่ 74 ผมสงสัยกระดาษนี้เหมือนกันครับ และผมก็ไม่เห็นหนังเฉลยนะครับ ทั้งๆที่หนังให้ความสำคัญกับฉากที่จะหยิบกระดาษ หรือมีเฉลยตอนไหน ใครเห็นบอกด้วยๆ จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:26:40

ความคิดเห็นที่ 75 แต่ไหง ตอนมาปลุกพระเอก รองเท้าใส่เฉยเลย จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:26:38

ความคิดเห็นที่ 76 ลองดู ฉากแรกเลยครับ   ตำรวจ ถือปืนอยู่ใน สถานะ  พร้อมยิง เต็มที่   เหมือนคุม นักโทษ มากกว่านะครับ  มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้คิดว่า  พระเอกมันบ้า จริงๆ   มากกว่าอย่างอื่น จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:29:30

ความคิดเห็นที่ 77   ฮา 3 หมอดูคอนเฟิร์ม 555555555 แต่ถึงหมอทั้ง 3 จะคอนเฟิร์มว่าบ้า ก็ยังไม่อาจเปลี่ยนใจ เพราะไปคิดมาได้อีกหนึ่งประเด็นที่สะกิดใจ ซึ่งตรงกับคุณ นิกิตา #61 พอดี เรื่อง "ลูก" สิ่งที่น่าสงสัยในความทรงจำ(หรือจินตนาการหลอน)ของพระเอก คือ - เริ่มต้นมาพระเอกไม่มีลูก (แต่เมียตัวเปียกแต่แรกรึป่าวไม่แน่ใจ) - ต่อมาสักพัก พระเอกเห็นแม่และลูก(เด็กผู้หญิง)ที่นอนตายอยู่ข้างทางในสงคราม - ฉากรถระเบิด เด็กผู้หญิงที่พระเอกเห็นว่านอนตายเดินมาจับมือกับเมีย - แล้วเด็กคนนั้นก็กลายเป็นลูกสาว (อยู่ดีๆ พระเอกก็มีลูกสาวซะงั้น) - จนกระทั่งฉากสุดท้ายในหอคอย หลังหมอให้ดูรูปถ่ายลูก 3 คน ลูกชายอีก 2 คนจึงค่อยปรากฏขึ้นในความทรงจำของพระเอก (อยู่ๆ ดี ก็มีลูกชายอีก 2 คน ซะงั้น) ถ้าจะบอกว่าพระเอกถูกรื้อฟื้นความทรงจำที่เป็นความจริงขึ้นมา มันก็ดูแหม่งๆ ทำไมเขาไม่เคยมีความทรงจำเรื่องลูกมาก่อนหน้านี้เลย มันไม่มีเหตุผลที่จะจำแค่เมีย เลยรู้สึก(ไปเอง)ว่ามันสนับสนุนให้เรายิ่งเชื่อว่าพระเอกไม่ได้บ้า แต่ถูกทำให้บ้า ทั้งการให้ยาและบุหรี่ ที่ทำให้พระเอกเกิดภาพหลอน หลอมรวมเอาปมในชีวิตตัวเอง 2 อย่าง คือ 1 เมียตาย(ความรู้สึกผิดต่อเมียที่เคยทำให้เมียเสียใจ[กินเหล้า] แล้วเมียก็ตายไปแบบไม่ทันตั้งตัว อารมณ์ว่าเห็นโลงศพแล้วหลั่งน้ำตา) 2 สงคราม (ความรู้สึกผิดบาปที่ฆ่าคน ซึ่งในบรรดาคนที่ตายมีภาพติดตาของผู้หญิงและลูกที่บริสุทธิ์ และความรู้สึกอยากชดเชยความผิดที่ทำไป อยากกลับไปช่วยแม่และเด็ก 2 คนนั้น) การที่เด็กที่ตายในสงคราม มาจับมือกับเมียตัวจริง อาจตีความได้ว่า คือ จุดเปลี่ยนที่ฤทธิ์ยาทำให้ความทรงจำพระเอกบิดเบือนเอา 2 ปม มาหลอมรวมกัน ทำให้พระเอกเริ่มเชื่อว่าตัวเองมีลูกสาว แล้วหมอก็เริ่มยัดเยียดความไม่จริงเรื่องลูกชายอีก 2 คนไปให้ในภายหลัง สังเกตได้ในฉากความทรงจำสุดท้าย พระเอกลงไปงมหาลูกสาวในน้ำ และร้องไห้คร่ำครวญอยู่นาน กว่าจะไปหาลูกชาย 2 คน พอพาลูกขึ้นน้ำมานอนบนสนามหญ้า ก็จับมือ จับหน้า ผายปอด ให้ลูกสาวคนเดียว พระเอกไม่ให้ความสำคัญกับลูกชายอีก 2 คนเลย เราแทบไม่ได้เห็นใบหน้าของลูกชาย 2 คนอยู่ในความทรงจำของเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะเด็กชาย 2 คนนั้นไม่มีอยู่จริง เขาจึงไม่เคยมีความทรงจำอันเจ็บปวดร่วมกับเด็ก 2 คนนั้น แต่กับเด็กสาว (ซึ่งถูกหลอนให้เป็นลูกสาวไปแล้ว) พระเอกมีความทรงจำที่เจ็บปวดที่เคยเป็นหนึ่งในคนที่ทำสงคราม ฆ่าชีวิตคนบริสุทธิ์มากมาย โดยมีแม่และเด็กผู้หญิงเป็นตัวแทนที่สะกิดความโหดร้ายที่ตัวเขาเองมีส่วนได้กระทำลงไป การที่เขาอาลัยอาวรณ์กับลูกสาวเอามากๆ น่าจะมาจากความรู้สึกผิดจากสงครามครั้งนั้น ที่สำคัญ (อันนี้ส่วนตัวนิดหน่อย แหะๆ) คือเรื่องความรู้สึกของตัวละครพระเอกในฉากความทรงจำสุดท้าย ไม่รู้ว่ารู้สึกอยู่คนเดียวหรือเปล่า ว่ามีความรู้สึก 'ฝืน' บางอย่าง ตอนพระเอกกอดเมีย เหมือนอยากจะกอดกันนานๆ ความรู้สึกเหมือนกับว่าพระเอกมีความฝืน ติดขัด ไม่ตั้งใจ ไม่อยากจะยิงเมีย แล้วเราก็ไม่ได้เห็นว่าพระเอกยิงเลย พอได้ยินเสียงปืนก็งงๆ นิดนึง (ฉากนี้รู้สึกตะหงิดๆ ตั้งแต่ตอนที่ยังเข้าข้างฝ่าย 'พระเอกบ้า' อยู่เลย) เลยชวนให้เชื่อมาก ว่า พระเอกถูกยัดเยียดให้ความทรงจำเป็นแบบนี้ มีใครรู้สึกแปลกกันบ้างไหมหนอ 555 หาพวกๆ ป.ล.ถึงจะเป็นแฟนคลับบล็อกคุณหมอ'ผมอยู่ข้างหลังคุณ'อีกคนหนึ่ง แต่คราวนี้ขอไม่เชื่อตามสักครั้ง ไม่ว่ากันนะคุณหมอ:) จากคุณ : borebee เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:52:03 A:125.24.175.105 X: TicketID:264540

ความคิดเห็นที่ 78 พระเอกเป็นบ้าตั้งเเต่ต้นเรื่องครับ....จบข่าว จากคุณ : borderline เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:55:32

ความคิดเห็นที่ 79   เรื่องกระดาษใบนั้น ถ้าจำไม่ผิด มีพูดถึงอีกครั้งในหอคอย หมอคอลลีย์มีกระดาษแผ่นนั้นอีกใบหนึ่งอยู่ที่ตัว และเอาให้พระเอกดู เป็นประวัติคนไข้อีกคนหนึ่งที่เกินมา (คนไข้เบอร์อะไรจำไม่ได้) ซึ่งก็คือคนไข้ชื่อ เลดดิส หมอบอกว่าเลดดิสคือตัวพระเอกเอง เป็นใบที่หมอใช้ยืนยันว่าพระเอกบ้า แต่เรายังไม่เชื่อหมอนะ ประวัติมันก็เมคกันได้นี่นา อิอิ จากคุณ : borebee เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 23:59:42 A:125.24.175.105 X: TicketID:264540

ความคิดเห็นที่ 80 ประเด็นคุณ borebee น่าสนใจมากครับ ผมติดเรื่องลูกอีก 2 คนมากครับ ทำไมตอนหนังเฉลยความทรงจำ พระเอกลงไปดูลูกในน้ำ แล้วดูลูกสาวนานกว่าใครเพื่อน พยายามจะผายปอดด้วย แต่กับลูกอีก 2 คนไม่ได้แสดงถึงความรักเลย เราไม่ได้เห็นเค้าทั้ง 2 เลย แม้กระทั่งจนจบ ยังไม่มีเรื่องราวเลย มันแปลกมากๆ เป็นไปได้ครับ ในช่วงสงคราม อดีตที่แท้จริงของพระเอก ไปเจอศพของแม่-ลูกที่เป็นผู้หญิงแค่คนเดียว ทำให้พระเอกไม่สามารถเอาควาทรงจำที่หมอพยายามยัดเยียดใส่ไปได้ (แม้ว่าสุดท้ายหมอก็ยัดได้ที่ประภาคารครับ แต่ก่อนหน้านั้น ทำไม่ได้) แม้จะสร้างเรื่องของราเชลที่ฆ่าลูก 3 คนตาย เพื่อจะยัดความทรงจำเกี่ยวกับตรงนี้ให้พระเอกก็ตาม โดยในหนัง หมอไม่สามารถรู้ได้ว่า พระเอกหลอนเห็นลูกทั้งหมดกี่คนครับ ในช่วงก่อนจะมาประภาคาร (หมอคาดหวังให้เป็น 3 คน) เพิ่มเติมอีกหน่อย ตอนฉากระเบิดรถ ก็มีแค่เมียกับลูกสาวครับ ไม่มีลูกอีก 2 คนเลย ผมคิดว่าฉากที่เราเห็น ว่าพระเอกไปดูลูกที่ตายลอยน้ำนั้น คือการพยายามยัดเยียดของหมอครับ ไม่ใช่ความทรงจำจริงๆพระเอก ดูความไม่สมจริงที่ผมบอกไปครับ ทำไมพระเอก ไม่สนใจลูกอีก 2 คนเท่าที่ควรจะเป็นเลยครับ ถ้าจำไม่ผิด ผมว่าจะถูกยัดเยียด จากรูปลูกที่หมอเอามาให้ดู บนประภาคาร (อันนี้ ไม่ค่อยแน่ใจว่าหมอมีรูปลูกอีก 2 คน ให้พระเอกดูหรือเปล่า) ดูอารมณ์ของพระเอกในฉากที่ไปช่วยลูกในน้ำ จนถึงพาขึ้นมา จนถึงมากอดกับเมีย แล้วยิงเมีย (ซึ่งมันคือภาพในความคิดของพระเอก ไม่ใช่ ความทรงจำจริงๆ) ผมรู้สึกว่า พระเอกมีความต่อต้านภาพเหล่านี้อยู่ จากอารมณ์ของพระเอกในภาพที่เราเห็นนั้น เหมือนกับว่า ไม่ได้มีความทรงจำนั้นอยู่จริง และกำลังต่อสู้กับสิ่งที่หมอกำลังยัดเยียดให้เป็น พอเข้าใจที่ผมอธิบายไหมครับ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 53 08:52:36 จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 00:05:06

ความคิดเห็นที่ 81 คห.75 ตรงนั้นไม่แปลกนะครับ ก็เขาเตรียมตัวจะย้ายที่ก็ต้องใส่รองเท้า ตอนแรกที่ไม่ใส่เพราะพักอยู่ (คงไม่มีใครพักผ่อนโดยใส่รองเท้าหรอกนะ) แล้วสังเกตุดูนะครับว่าตัวละครที่เตี๊ยมจะเป็นตัวละครที่เราเห็นในโรงพยาบาลหมด แต่คนนี้หายไปจนถึงตอนจบ จะว่าพระเอกคิดไปเองมันก็แปลกไปนะเพราะหนังไม่เคยให้เห็นภาพหลอนขนาดเป็นตัวเป็นตนคุยกับพระเอกตุตะได้แบบนี้เลยนอกจากความฝันสามครั้งนั้น คุณว่ามันแปลกมั้ยล่ะครับ จุดนี้น่ะ แล้วมีตรงไหนที่นางพยาบาลคนนี้เล่าแล้วไม่มีเหตุผลสนับสนุนบ้าง ปล. ระวังเถียงกันจนพวกเราเป็นบ้าไปด้วยนะ - -'' แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 53 02:02:48 จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 01:59:21

ความคิดเห็นที่ 82 อยากดู ชอบพระเอกในดวงใจ ตั้งแต่โรมิโอ.. จากคุณ : khun park (MuMelon) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 11:20:59

ความคิดเห็นที่ 83 เรื่อง - บุหรี่ที่หน้าผา ที่พระเอกจะไปที่ประภาคาร แล้วหมอวิเชียรห้ามไว้ พระเอกไม่เชื่อ ลงไป พอขึ้นมา ไม่เจอหมอวิเชียรแล้ว เจอแต่บุหรี่ที่หมอวิเชียรสูบทิ้งไว้ พระเอกคิดว่าหมอวิเชียรตกลงไป จึงลงไปไต่หน้าผาหวาดเสียวนั่น ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าบุหรี่ที่หมอวิเชียรทิ้งไว้ "ถูกวาง" อยู่ตรงสันหน้าผา และเป็นการวางที่เพิ่งวางไม่นาน และไม่ได้ถูกทิ้งลงมาอย่างไม่มีระเบียบ สังเกตได้จากเถ้าบุหรี่ที่ยังอยู่ติดกับบุหรี่อยู่ สรุปจากหลักฐานแวดล้อม หมอวิเชียรไม่ได้ตกลงไปแน่ๆ ถ้าตกลงไป บุหรี่จะไม่วางอย่างมีระเบียบขนาดนี้ พระเอกเป็นอดีตมือปราบ เราเป็นคนดูเห็นแค่นี้ยังรู้เลย พระเอกทำไมจะไม่รู้ แต่นี่พระเอกเป็นบ้า จิ้นไปเรื่อยว่ามีคนตกผา พาลเห็นรอยหินข้างล่างเป็นรูปคนอีกตะหาก จิ้นล้วนๆๆๆ จากคุณ : zezari เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 14:39:06

ความคิดเห็นที่ 84 ...ในเหตุผลว่าไม่บ้าผมก็มีนะ อย่างที่พูดกับเชียนในสุสานครับ พระเอกสืบมาใกล้เกินไป การจะจัดการพระเอกเฉยๆ จะมีประวัติว่ามีเจ้าหน้าที่หายสาปสูญไร้ร่องรอย แต่ถ้าพยายามยัดเยียดให้พระเอกบ้า การสืบทั้งหมดของพระเอกจะโคมลอย แล้วคดีจะจบว่า เจ้าหน้าที่หลอนไปเอง จนในที่สุดก็มาบ้าหนักที่เกาะจนต้องกลายเป็นนักโทษซะเอง~ นอกจากนี้ทีมหมอก็สามารถเขียนรายงานพฤติกรรมสุดขั้วบนเกาะของพระเอกได้ อย่างสมบูรณ์ พยายามคือคนในเกาะมากมายที่พร้อมจะยืนยันว่า พระเอกบ้าเอง~ การถกกันเรื่องหนังมีเงื่อนแบบนี้ผมว่าสนุกดีนะ เพราะหนังมันมีความหมายมากมาย ที่เราจดจำนำมาใช้กับประสบการณ์ของเรา มันยืนยันได้ระดับหนึ่งว่าหนังเค้าทำมาดีใช้ได้เลย ประเด็นคือ เหมือนเจ้าชายน้อย ทุกคนสามารถมองแบบที่ตนเองเชื่อได้ สำคัญแค่เราจะใช้ประโยชน์จากมันยังไงและตรงไหนนะ ผมเองอยากจะเชื่อเรื่องพระเอกบ้ามากกว่า เพราะการเสพความรู้สึกที่พระเอกฆ่าเมียตัวเอง ทั้งที่ไม่อยาก มันสะเทือนใจและซาบซึ้งผมมากๆ !? 555 ถ้าสมมุติว่าพระเอกบ้า ตรรกะของหนังก็จะบอกถึง การที่คนเราพยายามหลีกหนีปัญหาบางอย่าง มันอาจจะออกมารูปแบบเดียวกับพระเอก ยิ่งเราฉลาดยิ่งน่ากลัว ว่าเราจะติดปมความฉลาดของตัวเองไหม มันเป็นโจทย์ที่ถามเราว่า เราจะแก้ปัญหายังไงถ้าเป้นพระเอก ฉลาดขนาดนี้ จะสร้างปมมัดตัวเอง หรือยอมรับความจริง อะไรจะข่มขื่น หรือ เหมาะสมที่สุด...เป็นผม ผมก็จำใจ ทำแบบตอนจบจริง... หมอก็เตือนแล้วพระเอกคือความหวังของคนไข้ทั้งหมด ถ้าพระเอกหาย วิธีรักษาแบบรุนแรงจะไม่ถูกนำมาใช้ แล้ววิธีพระเอกจะใช้จริงกับคนไข้อื่นๆ ทว่าพระเอกกลับแกล้งบ้าอีก หมอเลยจำใจส่งซิกว่า กลับมาบ้าในตอนเช้าซะแล้ว... แต่พระเอกก็พูดทิ้งทวนด้วยสติสุดท้าย ให้หมอเชียนรู้ว่า เค้าไม่ได้บ้า แค่แกล้งบ้า เฉลยไว้... ปล.ผมนึกถึง Butterfly Effect อะครับ เรื่องนั้นเทพกว่าเยอะ แต่ตอนจบผมรู้สึกคล้ายๆ กัน คือตรรกะว่า ต้องเลือกระหว่างความสุข(ที่อาจจอมปลอม) กับความจริง(ที่โหดร้าย) เป็นผมผมจะเลือกทางไหน...มัยากเหลือเกินนน ว่าแล้วก็ซาดิสไงไม่รุ!? 555 T_T จากคุณ : The White Man เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 14:44:26

ความคิดเห็นที่ 85 รูปนี้ พระเอกเห็นคน อยู่ใต้หน้าผา  แต่ลงไปแล้ว ไม่เจอ  ตกลงหนังกำลังจะบอกว่า พระเอก สร้างภาพ มันขึ้นมาหรือป่าว? จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 15:17:43

ความคิดเห็นที่ 86 ตอนนี้ พระเอก อยู่กับ ราเชล ในถ้ำที่หน้าผา  ก่อนตื่น  มีมือมาปลุก  ข้างบนบอกว่า นี้เป็นคนแน่ๆๆ แต่ลองสังเกตว่า ก่อนตื่น จะมีแสง แวปๆๆมา  แล้วค่อยมีคนมาปลุก  อันนี้ หนังบอกว่า พระเอก สร้างภาพ อีก? จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 15:20:52

ความคิดเห็นที่ 87 ^ - -'' ผมว่าหลายคนเข้าใจประเด็นผิดที่ว่าฝั่งพระเอกไม่ได้บ้า ไม่ได้มองว่าฉากพวกนั้นเป็นหลักฐานว่าบ้าอยู่นะ คือเข้าใจว่าพระเอกน่ะบ้าครับ และหลายอย่างในเรื่องก็มาจากพระเอกจิ้นเอง แต่ประเด็นคือถูกทำให้บ้าหรือบ้าอยู่แล้ว อันนี้เป็นประเด็นหลักครับ พระเอกมันจิ้นเองหลายอย่างแน่นอนเพราะโดนยา แต่ว่าเรื่องจริงมันก็มีอยู่และแตกต่างไปจากความเชื่อที่หมอพยายามทำให้พระเอกคิดว่าตัวเขาเองบ้า จิ้นไปเองทั้งหมดไงครับ อ่านดูดีๆ นะผมกลัวงงประเด็น แล้วจะมาตีความกันผิด อย่างทืีบอกไปมันมีความจริงสองแบบ แต่แบบนึงมันให้มาน้อยกว่าแบบผิดสังเกตุ เรากำลังพูดถึงอะไรที่ซ่อนลึกซ้อนความจริงที่เห็นในเรื่องอีกที ไม่ใช่ดูแค่ผิวหลักที่หนังให้ข้อมูลมา แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 53 15:27:12 แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 53 15:29:27 จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 15:24:09

ความคิดเห็นที่ 88 ผมกำลังจะไปดูรอบสองครับ เดี๋ยวคืนนี้ จะกลับมาแชร์สิ่งที่ได้มาเพิ่มเติมครับ จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 16:08:07

ความคิดเห็นที่ 89 ตอบคห85 หนังบอกว่าพระเอกตาฟาดไปครับ เพราะจริงๆแล้ว มันเป็นสาหร่ายครับ จากคุณ : อัปรักษ์ (Rak-sama) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 17:16:40

ความคิดเห็นที่ 90 เราคิดว่าพระเอกบ้าค่ะ และคิดข้ามไปอีกว่า การผ่าตัดสมองน่ะไม่มีจริงหรอก ที่จริงมันคือการตัดสินโทษประหารชีวิตต่างหาก โดยเพราะประโยคตอนจบที่ว่า... "อยู่อย่างสัตว์ประหลาด หรือตายให้สมกับเป็นคน" การที่ผอ.พยายามย้ำอยู่บ่อยๆ ด้วยการพูดว่า.... "ฉันพยายามจะช่วยเธอ ถ้าเธอไม่ร่วมมือ นานาชาติและสมาคมจะว่าฉันได้ เธอต้องร่วมมือกับฉัน ถ้าฉันรักษาเธอไม่ได้ พวกเค้าจะให้เธอผ่าตัด" ทำให้คิดว่า ผ่าตัดสมอง = ประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นรูปที่พระเอกเคยเห็นในห้องผอ.ตอนเปิดเรื่อง ดูจบแล้ว....เราคิดแบบนี้น่ะค่ะ สุดท้ายแล้ว เราคิดว่าพระเอกจำได้แล้วล่ะว่าตัวเองป่วย แต่เลือกที่จะบอกคนอื่นๆว่ายังป่วยอยู่ เพราะการอยู่อย่างทรมานด้วยความทรงจำเลวร้าย ทำให้เหมือนตายทั้งเป็น เค้าเลยเลือกที่จะเดินเข้าสู่แดนประหาร แมนเต็มตัวสมกับเป็นหนังของมาร์ตินจริงๆ จากคุณ : ++ Herr Hazy Hazlitt ++ เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 20:24:33

ความคิดเห็นที่ 91 เอะใจตามความเห็นข้างบนไม่ได้ ว่าตอนที่ไปดึงลูกสามคนมาจากน้ำ ทำไมดูเด็กผู้ชายอีก 2 คน เป็นตัวประกอบจัง พระเอกดูใส่ใจดูแล ถอดรองเท้าให้ เฉพาะกับเด็กผู้หญิงคนเดียว หรือเป็นความทรงจำที่ถูกยัดเยียดจริง .. ? ง๊า~ ตอนแรกว่าจะไม่งงแล้ว ตอนนี้ยิ่งงงไปใหญ่เลย T_T จากคุณ : ดักแด้น้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 20:25:30

ความคิดเห็นที่ 92 กลับมาใหม่ อิอิ เข้าใจประเด็นของคุณ Cookiefish #87 นะคะ คิดว่าทุกคนน่าจะเข้าใจตอนจบตรงกันแล้ว ส่วนเรื่องบ้าถ้าตามสมมติฐานว่าพระเอกถูกทำให้บ้าโดยหมอ(คำว่าไม่บ้าที่พูดกันอยู่คือไม่บ้าตั้งแต่ต้นแต่มาบ้าในโรงพยาบาล) ไม่ได้บ้าจากการที่เมียฆ่าลูกตาย อย่างนั้นจะใช้ตรงไหนของหนังเป็นหลักฐานล่ะคะ ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นหลังจากพระเอกถูกทำให้เป็นบ้าหรือบ้าอยู่แล้วไปแล้ว 1. เรื่องลูก 3 คน ทำไมเน้นลูกผู้หญิงคนเดียว คิดว่าหนังพยายามค่อยๆบอกใบ้เรื่องลูกนะคะ ในเมื่อกลไกปิดกั้นตัวเองลบความทรงจำเรื่องลูกไปหมดและถึงขั้นสร้างความทรงจำใหม่เรื่องเมียตายเพราะไฟคลอกขึ้นมา การจะขุดค้นไปถึงแก่นคงต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป ถ้าจำลำดับไม่ผิดตั้งแต่ฉากเจอภรรยาครั้งแรกมีน้ำกับเลือดเป็นตัวบอกใบ้ จากนั้นก็ฝันถึงค่ายกักกันที่มีเด็กผู้หญิงนอนตาย(ลูกสาวคนโต) จนมาถึงฉากฝันเห็นเด็กนอนตายจมกองเลือดครบ 3 คนอันนี้รู้สึกว่าจะเห็นเด็กผู้ชายก่อนด้วยซ้ำ (ดูรอบเดียวค่ะถ้าจำผิดก็ขออภัย ใครดูหลายรอบช่วยมาแก้ด้วยนะคะ) 2. เรื่องรองเท้าของ Rachel ในถ้ำ หลังจากที่คิดไม่ออกมานานว่าเป็นจินตนาการของพระเอกหรือคนจริงๆ (ถ้าจินตนาการจะมาปลุกพระเอกได้ไง vs ถ้าคนจริงๆก็ยิ่งงงว่าเรื่องมันจัดฉากนี่นาจะมี Rachel จริงได้ยังไงอีก) ในที่สุดขอบคุณสำหรับภาพนะคะคุณ araregodji #75 เป็นพยานวัตถุที่ทำให้เราเชื่อจริงๆว่า Rachel ในถ้ำเป็นคนที่ถูกจัดฉากมาเหมือน Rachel ในห้องนั่นแหละ เพราะมีรองเท้า (ตอนตรวจในห้องชัคถามหมอว่ารองเท้าของคนไข้มีกี่คู่ หมอตอบว่า 2 (มั้ง) แล้วชัคก็บอกว่าเธอหนีไปโดยไม่ได้ใส่รองเท้าออกไป) สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปล. ถ้าคิดอีกแบบว่าชัคกะหมอรวมหัวกันหลอกพระเอกเรื่องรองเท้า แล้วจะหลอกเพื่อ.. จากคุณ : roronoah เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 21:45:21

ความคิดเห็นที่ 93 คห.90 ประเด็นในเรื่องการผ่าตัดสมองมีจริงๆ นะครับ ในตอนจบก็แสดงให้เห็นจากเหล็กแหลมที่หมอถือเข้ามา แล้วก็ภาพในห้องตอนต้นเรื่องนั่นคือการผ่าตัดแบบสมัยก่อนที่ล็อกหัวแล้วเจาะเข้าไปน่ะครับ ////////////// คห.92 เรื่องรองเท้า ราเชลคนนั้นผมว่าไม่ได้ถูกจัดฉากเพราะตอนท้ายเรื่องที่หมอบอกพระเอก มันไม่มีเรื่องของคนนั้นเข้ามาเกี่ยวแถมยังบอกว่าพระเอกคิดไปเอง (แต่ถ้ามันจริงล่ะ) แล้วก็ไม่เห็นเธอคนนี้ในโรงพยาบาลตามปกติ หมอจัดฉากราเชลคนแรกแล้วก็ไม่น่าจะจัดฉากคนที่สองอีกนะ มันเกินความควบคุมของหมอไปแล้วถ้าต้องการจัดฉากเพื่อดูปฎิกิริยาของพระเอกก็ไม่น่าจะเอาไปซ่อนไว้ในถ้ำแบบนั้นนะ เสี่ยงไปแล้ว สมจริงเกินไปด้วย จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 23:09:49

ความคิดเห็นที่ 94 มาอ่านอีกรอบของคุณ roronoah เกี่ยวกับ เรเชล บนหน้าผา  ทุกอย่าง กระจ่าง ในสมองผมเลยครับ   พระเอกมันบ้าตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว  เขาก็ จัดฉาก เพื่อ รักษาหรือทดลอง อะไรก็แล้วแต่   แต่ประเด็นคืนพระเอกมันบ้าตั้งแต่ต้นแล้ว เอาที่จัดฉาก บนหน้าผานะครับ   พระเอกไม่ได้สร้างภาพขึ้นมาเอง  เรเชลบนหน้าผา เป็นคนจริง  แต่เป็นคนที่ถูก จัดฉาก ไว้ อันแรกเลย ตอนที่ พระเอกบอก ชัคว่าจะไป ประภาคาร คนเดียว  แต่ไปไม่ได้ จึงต้องกลับมาหา ชัค คู่หู  แต่ไม่เจอ จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 23:37:43

ความคิดเห็นที่ 95 กลับเจอ ใครไม่รู้วาง บุหรี่ เอาไว้ที่ปลายหิน หน้าผา จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 23:38:02

ความคิดเห็นที่ 96 อันนี้แหละ นำ พระเอก ไปที่ปลายหิน เพื่อให้เห็นคนตกลงไปจากหน้าผา  คงเดาว่าเป็น ชัค คู่หู  เพื่อนำพระเอก ลงไป จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 23:38:54

ความคิดเห็นที่ 97 ตอนลงจากหน้าผา  ดันไปเห็น กระดาษ ปลิวมา  ดูแล้วเป็น ของโรงพยาบาลแน่นอน  แสดงว่าคนที่มาจัดฉาก อาจทำหล่นหรือจงใจ (ไม่รู้) กระดาษ เป็นสิ่งบ่งบอกว่า ต้องมีคนจาก โรงบาล มาที่ หน้าผา นี่แน่นอน จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 23:39:13

ความคิดเห็นที่ 98 พอลงไปสุด หน้าผา กลับไม่เจอใคร  ดันไปเจอ ช่องที่มี ไฟรอด ออกมา  พระเอก ก็เลยปีนขึ้นไปพบ เรเชล ทุกอย่าง ถูก จัดฉาก  ให้พระเอกมาพบกับ เรเชล (เป็นคนจริงๆ)  อยู่แล้วที่หน้าผา  ตามที่ พระเอก มันบ้าคิดไปอย่างงั้น จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 23:40:26

ความคิดเห็นที่ 99 มายืนยันคนไข้ มี 2 คู่   เพราะฉะนั้น เรเชล ต้องเดินเท้าเปล่า แน่  ยิ่งไม่มีทางที่จะ ปีนเขาด้วย เท้าเปล่า จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 53 23:51:27

ความคิดเห็นที่ 100 = = ไม่รู้ผมเข้าใจผิดหรือคุณ araregodji เข้าใจผิดนะ คือราเชลคนนี้้เขาไม่ได้พึ่งหนีครับ หนีมานานชาตินึงแล้ว ตั้งแต่การทดลองก่อนๆ ที่ตัวเธอก็โดนด้วย แล้วตอนท้ายหมอก็บอกเองว่าราเชลที่หน้าผาไม่มีตัวตนเป็นคนที่พระเอกคิดขึ้นเอง ดังนั้นเรื่องรองเท้าอะไรเนี่ยไม่ได้เกี่ยวกับเธอครับ หมอสร้างเรื่องไว้แค่ราเชลคนแรก เพราะราเชลไม่ได้มีตัวตนจริงๆ ห้องของราเชลก็คือห้องปลอมๆ ไมได้เกี่ยวกับราเชลคนที่สองแต่อยางใด ถ้ามีไฟล์หนังอยู่ลองย้อนไปดูนะครับ ผมว่าผมจำไม่ผิดนะ แต่จุดนี้จะมองว่าเป็นการจัดฉากก็เป็นได้เลยเหมือนกัน คงต้องดูอีกสองสามรอบถึงจะพอกระช่างชัดกว่านี้ครับ จากคุณ : Cookiefish เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 01:41:31

ความคิดเห็นที่ 101 ไปดูรอบสองมาแล้วครับ สรุปสั้นๆว่า เริ่มไม่แน่ใจในความเชื่อของตัวเองตอนแรกที่คิดว่าพระเอกถูกทำให้บ้าครับ จากคุณ : ผีหน้าแดง เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 02:11:53

ความคิดเห็นที่ 102 ผมยินดีกับกระทู้นี้จริงๆ เรากำลังเป็นตัวอย่างของการอยู่ร่วมกับความแตกต่างได้อย่างสันติและเป็นสุภาพชน   คุยกันด้วยเหตุด้วยผล  รับฟังกันและกัน จากคุณ : beerled เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 08:18:38

ความคิดเห็นที่ 103 ราเชล ไม่มีตัวตน จริงๆครับ   แต่ที่เห็นมีถึง 2 คนนั้น   เป็นการ จัดฉาก ขึ้นมา  เพื่อให้ สอดคล้องกับ จินตนาการ ของ พระเอก ทั้งสิ้น ทุกฉาก ทุกตอน  มันบ่งชี้ไว้อย่างงั้น  ทุกอย่างมันวิ่ง เข้าหา ข้อสรุปว่า พระเอกบ้าตั้งแต่ต้น แล้วถูกจัดฉากขึ้นมาตาม จินตนาการของพระเอก ถ้าเอาข้อสรุป ว่า พระเอกไม่ได้บ้า ตั้งแต่ต้น  ผมยังหาหลักฐานจาก *หนัง* มาขัดแย้งยังไม่เจอ   นอกจาก จินตนาการ ของคนดูที่เกินจากหนังมันกล่าวไว้ จากคุณ : araregodji เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 08:50:43

ความคิดเห็นที่ 104 เข้ามาถกเพิ่มเติม ประเด็นที่ผมคิดว่าพระเอกบ้าจริงๆ ฉากสุดท้ายที่พระเอกคุยกับหมอ แล้วบอกหมอว่าเขายังเชื่อว่าที่เกาะนี้มีการทดลองกับคนไข้ ถ้าสมมุติว่าพระเอกถูกทำให้บ้า คำพูดของพระเอกหมายถึงอะไร 1 พระเอกถูกทำให้บ้าไปแล้ว คำพูดของพระเอกก็คือคำพูดของคนบ้า ถ้าแบบนั้นก็คือพระเอกบ้าตามที่หมอต้องการ ก็ไม่จำเป็นต้องนำพระเอกไปผ่าสมองอีก เพราะถ้าจะผ่าสมองก็จับพระเอกไปผ่าเลยไม่ต้องทำให้บ้าก็ได้ 2 พระเอกถูกทำให้บ้าแต่ยังไม่บ้า แล้วพระเอกจะบอกเรื่องนี้กับหมอทำไม จะบอกว่าพระเอกหมดหวังแล้วต้องการให้ผ่าสมอง ก็ไม่ตรงกับลักษณะนิสัยของพระเอก เขาน่าจะอยู่ในเกาะในฐานะคนไข้เพื่อหาความจริงต่อมากกว่า ดังนั้นผมถึงคิดว่าพระเอกน่าจะบ้าอยู่แล้ว คำพูดของพระเอกตีความได้สองอย่าง 1 พระเอกบ้าจริงแล้วก็ยังไม่หาย สุดท้ายหมอก็เลยต้องนำพระเอกไปรักษาแบบอื่นต่อ 2 พระเอกบ้าแต่รู้ตัวแล้ว คำพูดนั้นเพื่อให้หมอผ่าสมองเค้า เพื่อให้พระเอกลืมเหตุการณ์ที่ลูกและเมียตาย ผมคิดว่าการผ่าตัดสมองไม่ได้ทำในเกาะนี้ด้วย เพราะเกาะนี้ต้องการรักษาคนไข้แบบใหม่ ไม่ใช้ยาและการผ่าตัด การผ่าตัดน่าจะทำที่อื่นนอกเกาะมากกว่า ไมใช่ที่ประภาคาร จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:11:20

ความคิดเห็นที่ 105 ส่งเกินครับ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 15:09:48 แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 15:10:11 จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:11:49

ความคิดเห็นที่ 106 ส่งเกินครับ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 15:10:40 จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:15:34

ความคิดเห็นที่ 107 ส่งเกินครับ แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 15:11:38 จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:22:11

ความคิดเห็นที่ 108   สงสัยต้องดูอีกรอบ แต่หนังจะออกมามีแนวโน้มว่าพระเอกบ้ามาก่อนมากกว่า แต่ก็คิดได้อีกทางได้เหมือนกันนะ ถ้าราเชลในถ้ำเป็นราเชลตัวจริง สิ่งที่ราเชลพูดก็จะจริงด้วย คือช่วงนั้นประเทศคอมมิวนิสต์มีการทดลองล้างสมองเชลยหรือนักโทษสร้างนักรบที่ไม่เจ็บปวด แต่อเมริกาใช้คนไม่ค่อยปรกติหรือคนที่มีความกดดันในชึวิตมาทดลอง ซึ่งพระเอกก็อาจจะถูกหลอกมาที่เกาะเพื่อทดลอง โดยการให้ยาที่ทำให้ประสาทหลอนเพื่อให้เปลี่ยนความคิดไปตามที่คนทดลองต้องการ โดยการให้ราเชลปลอมกรอกข้อมูลเรื่องลูกเข้าไป พระเอกซึ่งโดนยาและมีความกดดันอยู่ข้างในก็จะเกิดประสาทหลอนในเรื่องที่ทำให้สะเทือนใจขึ้นมา ในประภาคารหมอก็พูดให้พระเอกเชื่อในสิ่งที่พยายามกรอกข้อมูลเข้าไป เพื่อให้พระเอกเชื่อในสิ่งนั้นจริงๆ ซี่งก็เกือบได้ผล แต่ตอนสุดท้ายพระเอกก็ยังรู้ตัวอยู่ดี แสดงว่าการใช้ยาให้ประสาทหลอนไม่ได้ผล ก็เลยต้องใฃ้วิธีผ่าตัดแทน ก็คิดอย่างนี้ได้นะ #106 1 หมอต้องการล้างสมองพระเอก แต่สุดท้ายไม่สำเร็จก็เลยต้องเอาไปผ่าสมองแทน 2 ผมว่าพระเอกไม่ได้ต้องการให้ผ่าสมองนะ หนังก็ไม่ได้บอกว่ามีการผ่าตัดจริงๆ พระเอกอาจขัดขืนโดดหน้าผาตายก็ได้ จากคุณ : mon เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:24:00 A:58.64.86.22 X: TicketID:111025

ความคิดเห็นที่ 109 กระทู้หล่นไปหน้า 2 ละ หายากจังยังอยากคุยอยู่ คนก็หายไปเยอะละ แหะๆ #100  คุณCookiefish ถ้า Rachel คนนี้เป็นคนจริงและพูดจริงคือเธอถูกยัดเยียดให้เป็นคนไข้เพราะไปรู้เห็นการผ่าตัดผิดกฏหมายและกำลังหนีอยู่ หนีมานานละ ถ้าเป็นอย่างนั้นพระเอกซึ่งเป็นผู้ตรวจการน่าจะเป็นความหวังเดียวของเธอที่จะรอดพ้นไม่ใช่เหรอคะ ไหงพอเช้าปุ๊ปแยกดีกว่าชั้นหนีต่อ มันเหมือนตั้งใจออกจากฉากมากเกินไปคือมีประโยชน์แค่ให้ข้อมูลเรื่อง lobotomy เท่านั้น  และดูจากการ lead มาให้เจอทั้งแยกจากชัค บุหรี่บนหน้าผา ร่างบนโขดหิน ฯลฯ มันจัดฉากแหงๆ จากคุณ : roronoah เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 22:31:02

ความคิดเห็นที่ 110   คือตอนนี้ เท่าที่อ่าน ผมยังไม่รู้สึก convinced ไปทางพระเอกไม่บ้าเลยครับ เพราะดูข้อโต้แย้งหลักๆของฝ่ายที่เชื่ออย่างนั้นคือ "ถ้าหาข้อโต้แย้งว่าผิดไม่ได้ก็ไม่ได้แปลว่าผิด" การให้เหตุผลแบบนี้ เป็นเรื่องที่เห็นกันบ่อยๆมาตลอด แล้วก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงทุกคราไป ยกตัวอย่างง่ายๆ : พระเจ้ามีจริง -- ไม่มีใครพิสูจย์ได้ว่าไม่มี คุณสามารถ"สร้าง"เหตุผลมารองรับว่าพระเอกไม่ได้เป็นบ้าได้เป็นอีกร้อยเป็นพัน โดยที่ส่วนที่ว่าไม่ได้แสดงให้เห็นในหนัง แล้วเถียงว่าพิสูจย์ไม่ได้ว่าไม่จริง---แสดงว่าเหตุผลคุณก็ไม่ผิด อยากจะเตือนไว้อย่างสุดท้ายครับ ว่าหนังก็เป็นแค่"บทประพันธ์"ไม่ใช่และไม่มี"ความจริง"ที่ใครๆจะต้องใขว่คว้ามากมายครับ เท็ดจะบ้า หรือไม่บ้า จบที่ตัวผู้ประพันธ์เท่านั้นเอง เช่นนี้ละครับ จากคุณ : Paulization เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 01:01:51

ความคิดเห็นที่ 111   อ่านไม่ไหว T^T เยอะเกินไป เราคิดว่าพระเอกบ้าตั้งแต่ต้นนะ ซึ่งก็คิดเหมือนหลายๆคนที่คิดว่าพระเอกบ้า ไม่รู้ว่ามีใครเคยพูดถึงเรื่องนี้รึยัง ตอนที่รถขับพรเข้าไป แล้วพระเอกบอกว่าเป็นรั้วลวดหนามไฟฟ้าอะไรซักอย่าง ทำให้เราคิดว่าพระเอกคงรู้จักมันเป็นอย่างดี พระเอกบอกว่าเคยเห็นมาเยอะ ซึ่งอาจจะเคยเห็นจากสงคราม แต่เราคิดว่าเป็นไปได้ที่เค้าจะเห็นจากที่นี้เอง จากคุณ : กำลังจะบ้าตาม 555 (เจ้าหญิงแห่งดินแดนหมื่นทะเลสาบ) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 12:05:12