 |
ความคิดเห็นที่ 58 |
ก่อนที่ท่านนายกจะเป็นนายก ก่อนที่จะมีปัญหาเรื่องเสื้อแดง ก่อนที่มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ
ผมเสนอขอเงิน 10000 ล้านให้กับวงการครับ
คือแบ่งเป็น
1) สร้างสถาบันภาพยนตร์ Model เดียวกับ Swedish Film Instution หรือ Australia Film Board (ของ Australia รู้สึกว่าชื่อ Film adn Television Film Institute ซึ่งผมจำไม่ได้แล้ว แต่ที่จำได้คือเขารับนักศึกษาแค่ 12 คนต่อปี ซึ่งจะต้องเป็น Top ของแต่ละมหาวิทยาลัย) มี ทุนสำหรับ Projects ที่นักศึกษา เสนอมา โดยมี Film Bord เป็นตัวคัดเลือก(เหมือนThresis อะไรพวกนี้) 2) มีโรงถ่ายแห่งชาติ สำหรับผู้สร้างหนังเช่าในราคาถูก 3) มีทุนสำหรับผู้สร้างที่มี Project ที่ดี มีแผนที่ดี Budget และ Schedule พร้อม รายได้เอาคืนมาให้ Film Board สำหรับหนังเรื่องอื่น (อย่างนเรศวรเป็นต้นที่ต้องคืนรายได้ให้รัฐ เพื่อนำไปใช้กับหนังเรื่องอื่น ง่ายๆ ก็คือรัฐเป็นเจ้าของหนัง กำไรขาดทุนเป็นของรัฐ) ผมเชื่อว่าหนังส่วนใหญ่จะกำไรเพราะนอกจากโรงในกรุงเทพแล้ว จะมีโรงต่างจังหวัด ขาย DVD ขายSpin off เช่นตุ๊กตา,เกมส์,ของที่ระลึก 4) รัฐต้องรับผิดชอบในการหาโรง, ค่า prints ค่าโฆษณา งบประมาณส่งไปฉายต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง Promote ต่างประเทศ ฯลฯ. อันนี้สำคัญครับ เพราะหนังนอกกระแส 90 % ไม่มีโรงฉายครับ แต่ถ้าอยู่ใต้ Film Board Film Board จะต้องรับผิดชอบหาโรงให้ 5) มีอุปกรให้เช่าราคาย่อมเยา 6) มี Film Festival ประเภท Noncensor 100% มีการประกวดหนังในประเทศ
Film Board นี่จะมาจาก สมาพันธ์ภาพยนตร์ ยกระดับขึ้นมาเป็น Film Board เพราะสมาชิกของสมาพันธ์มาจากผู้ประกอปการสร้างภาพยนตร์ทุกสาขา สมาชิกจะมีจากผู้อำนวยการสร้างลงมาถึงเด็กไฟ จากพวกที่ทำ CG จนถึงLab ตลอดไปจนถึงผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์
ซึ่งเหล่านักสร้างอิสระก็ควรจะเข้ามาเป็นสมาชิกจะได้มีสิทธิ Vote ครับ (ผมไม่ได้เป็นสมาชิกมาหลายปีแล้วครับ เป็นผู้สร้างอิสระหรือ Indy แก่ๆ)
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เริ่มมาจากพ่อของผมที่เป็นประธานสมาคมผู้อำนวยการสร้าง เคยเสนอ Projrct ให้จอมพลป.พิบูลสงคราม เรื่อยมาจนถึงนายกคนนี้่แหละครับ (ทักษินก็เคยเสนอไปและเกือบได้ด้วยแฮะ)
แต่จากหมื่นล้านถูกลดลงมาเป็นร้อยล้าน
และที่เลือกเอานเรศวรก็คงจะเป็นเพราะน่าจะได้เงินคืนทั้งหมดบวกกำไรอีกต่างหาก เพราะวันที่ผมเซ็นสัญญา หนังเรื่องนี้ก็เป็นของรัฐ จะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่เห็นสมควร แล้วเรื่องที่จะเอาเงินมาใช้ส่วนตัวคงจะลำบาก เพราะนอกจากจะต้องส่ง Budget อย่างละเอียด ขนาดถ้าระบุว่าจะต้องสร้างเรือสำเภาของพระยาจีนจันตุ ก็มีการถามว่าต้องใช้ไม้กี่แผ่น ลงมาจนถึงใช้ตาปูกี่ตัว และมีคนตรวจบัญชีทุกสิ่งทุกอย่างที่ใช้เงิน มีคนมาประจำอยู่กับกองถ่ายดูว่าเราใช้เงินได้ถูกประเภทหรือเปล่า
อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ามีคนคอยตรวจสอบกับพวกผู้สร้างอิสระเขาจะคิดอย่างไร
ผมก็ได้เพียงค่าตัวของผม ต้องมาทำละครทีวีเพื่อเอาตัวรอดครับ
แต่ถ้านเรศวรกำไร
Film Bord ก็อยู่แค่เอื้อมครับ
(ผมคงจะไม่ได้อยู่จนเห็น Film Board ในฝันของผู้สร้างหนังหรอกครับ) ปล. เขาไม่ได้มี Film Bord เพื่อศิลปะอย่างเดียวครับ เขาต้องการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้เจริญเติบโดเทียบเท่าชาติอื่นครับ เขาคิดถึงคนงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมหนังครับ เช่นเด็กไฟ คนเดินตั๋วหนัง คนถ่ายโปสเตอร์ครับ ไม่ใช่แต่ผู้กำกับหนัง
แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 53 17:36:57
จากคุณ |
:
Cinephile
|
เขียนเมื่อ |
:
29 เม.ย. 53 17:31:18
|
|
|
|
 |