 |
ความคิดเห็นที่ 10 |
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ขอให้คณะกรรมการฯ จัดสรรวงเงิน 1,000 ล้านบาท จากพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์และนำเสนอโครงการที่มีความพร้อม ดำเนินการในปี 2553 และมีความจำเป็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้บรรลุเป้าหมายตามพันธ สัญญาทั้ง 4 ด้านของรัฐบาลให้คณะกรรมการฯ พิจารณาในวงเงิน 1,384 ล้านบาท คณะกรรมการฯ ได้พิจารณากลั่นกรองโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการ ดังนี้
1) สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติไทยเข้มแข็ง 2555 ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
2) สอดคล้องกับพันธสัญญา 4 ด้านของรัฐบาลภายใต้โครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ดังนี้ - ด้านที่ 1 ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Infrastructure) - ด้านที่ 2 สร้างรากฐานและปลูกฝังความสามารถด้านการคิด และการสร้างสรรค์ในระบบการศึกษาไทย (Creative Education & Human Resource) - ด้านที่ 3 กระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Society & Inspiration) - ด้านที่ 4 ส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Business Development & Investment) โดยในระยะแรกให้ความสำคัญลำดับแรกกับพันธสัญญาด้านที่ 2 การสร้างรากฐานและปลูกฝังความสามารถด้านการคิดและการสร้างสรรค์ในระบบการ ศึกษาไทย และพันธสัญญาด้านที่ 3 การกระตุ้นทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรู้จักและ ตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์
3) สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ “การสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่เกิดจากการผสมผสานสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเอกลักษณ์ความเป็นไทยเข้ากับองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีการออกแบบและนวัตกรรมของตนเอง”
4) ความพร้อมของโครงการที่จะดำเนินการได้ในปี 2553 คณะกรรมการฯ ได้พิจารณากลั่นกรองโครงการตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว มีโครงการที่มีความเหมาะสมที่จะพิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการภายใต้กรอบวงเงิน ลงทุน 1,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้ - กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) : กรมทรัพย์สินทางปัญญา (ทป.) 9 โครงการ วงเงิน 745 ล้านบาท กรมส่งเสริมการส่งออก (สอ.) 2 โครงการ วงเงิน 70 ล้านบาท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (พค.) 1 โครงการ วงเงิน 30 ล้านบาท - กระทรวงการคลัง (กค.) : สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง (สป.) 1 โครงการ วงเงิน 30 ล้านบาท - กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) : มหาวิทยาลัยมหิดล 1 โครงการ วงเงิน 55 ล้านบาท มหาวิทยาลัยศิลปากร 1 โครงการ วงเงิน 50 ล้านบาท - กระทรวงวัฒนธรรม : สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 1 โครงการ วงเงิน 20 ล้านบาท
ที่ โครงการ หน่วยงาน วงเงิน
(ล้านบาท) 1 โครงการต้นแบบของพสกนิกรไทย “ในหลวง” กับ “การสร้างสรรค์” ทป./พณ. 50.00 2 โครงการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย ทป./พณ. 330.00 3 โครงการเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทป./พณ. 50.00 4 โครงการส่งเสริมและต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทป./พณ. 60.00 5 โครงการเสริมสร้างความเข้าใจในเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทป./พณ. 90.00 6 โครงการ Thailand Northern Handicraft and Financial Expo 2010 เปิดประตูสินค้าหัตถกรรมสู่เวทีโลก สป./กค. 30.00 7 โครงการสร้างภาพลักษณ์ใหม่สินค้าไทยสู่สากล ทป./พณ. 50.00 8 โครงการสัมมนาและประชุมเชิงปฏิบัติการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับประเทศ ทป./พณ. 20.00 9 โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน ทป./พณ. 20.00 10 โครงการการพัฒนาศักยภาพดนตรีสู่ความเป็นเลิศ และพัฒนาศักยภาพเพื่อการแข่งขัน ม.มหิดล/ศธ. 55.00 11 โครงการ “ศิลปากรพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์” ม.ศิลปากร/ศธ. 50.00 12 โครงการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ใน 15 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ทป./พณ. 75.00 13 โครงการส่งเสริมศักยภาพผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสมุนไพรไทยเพื่อการส่งออกสู่ตลาดโลก สอ./ พณ. 20.00 14 โครงการพัฒนาทักษะเชิงสร้างสรรค์และเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Product) สอ./ พณ. 50.00 15 โครงการส่งเสริมพัฒนาเอกลักษณ์ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับไทยสู่สากล พค./พณ. 30.00 16 โครงการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมเพื่อสร้างรายได้สู่ประชาชน สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์/วธ. 20.00 รวม 1,000.00
สำหรับแหล่งเงินทุนของโครงการเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ดังกล่าว คณะกรรมการฯ เห็นควรอนุมัติจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อ ฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ในส่วนของเงินสำรองจ่ายตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการ ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 ซึ่งตามหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการจัดสรรเงินสำรองจ่ายสำหรับโครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 ต้องเป็นโครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการไทย เข้มแข็ง 2555 รายละเอียดปรากฏตามหนังสือที่อ้างถึง 6 จึงขอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการดังกล่าวข้างต้นและจัดสรรวงเงินสำรองจ่าย สำหรับโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมของรายละเอียด กิจกรรม และค่าใช้จ่ายของโครงการ โดยหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติการดำเนินโครงการจะต้องส่งข้อมูลให้สำนักงบ ประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน ซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 ทั้งนี้ สำนักงบประมาณจะดำเนินการอนุมัติภายใน 15 วันทำการ และหลังจากได้รับอนุมัติแล้ว หน่วยงานจะต้องลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ
อนึ่ง คณะกรรมการฯ มีความเห็นเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย กรมทรัพย์สินทางปัญญาควรพิจารณาในเรื่องการบริหารจัดการรายได้ที่จะเกิดขึ้น ความชัดเจนในการนำส่งรายได้เป็นรายได้แผ่นดิน เช่น รายได้จากการขายบัตรชมภาพยนตร์ รายได้จากลิขสิทธิ์ในภาพยนตร์ และรายได้จากการจำหน่ายสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ เป็นต้น
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 53 07:34:14
จากคุณ |
:
surasak_sun
|
เขียนเมื่อ |
:
วันแรงงาน 53 07:33:37
|
|
|
|
 |