ความคิดเห็นที่ 1 |
วู้ดดี้ : ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ผมในฐานะสื่อคนหนึ่ง เรามองว่ากับปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ณ ปัจจุบัน เราควรจะต้องช่วยกันแก้ ช่วยกันทำให้ปัญหานี้มันหมดสิ้น ผมก็ถามตัวเองตลอดเวลาว่าแล้วใครจะมานั่งคุยกับเราแล้วให้คำตอบที่แท้จริงได้ ถ้าเกิดเชิญคนนี้มาก็จะหาว่าเราเลือกฝ่ายนี้ ถ้าเชิญอีกคนหนึ่งมาก็จะหาว่าเราเลือกฝ่ายโน้น มันเหมือนกับว่าไม่มีใครเป็นกลางอีกต่อไปแล้วในสังคมนี้ ผมจะถามพระอาจารย์ต่อว่า แล้วสำหรับกระแสที่บอกว่าพระอาจารย์ก็เลือกฝั่งด้วยเวลาเดียวกันเนี่ย ท่านจะตอบเขาว่ายังไง ถ้าเขาบอกว่าท่านเลือกฝั่ง
ว. วชิรเมธี : อย่าว่าแต่พระอาจารย์เลยนะ พระสงฆ์เกือบทั้งหมดก็มีคนไปป้ายสิว่า พระสงฆ์กระแสหลักก็เลือกข้าง พระสงฆ์นอกกระแสหลักก็เลือกข้าง ก็เหลืออยู่องค์เดียวเท่านั้นที่ไม่เลือกข้างตอนนี้ พระประธานที่วัด ฉะนั้นเวลานี้มีใครบ้างที่ไม่ถูกป้ายสี
วู้ดดี้ : แสดงว่าพระอาจารย์รู้ใช่มั้ยว่าพระอาจารย์โดน
ว. วชิรเมธี : รู้สิ ถ้าพระอาจารย์ไปออกทีวีของรัฐ เขาก็บอกว่าพระอาจารย์เลือกข้างไปแล้ว แต่พระอาจารย์ไปออกเคเบิ้ลทีวี ทีวีของรัฐก็บอกว่าพระอาจารย์เลือกอีกแล้ว ตกลงพระอาจารย์เลือกข้างก็เพราะว่าขึ้นอยู่กับว่าไปออกทีวีของใคร แล้วสิ่งที่เป็นอันตรายมากกว่าการเลือกข้างคืออะไรรู้มั้ย การที่เราคนไทยตัดสินกันง่ายๆ เพียงเพราะว่าเขาไปออกทีวีบางช่องหรือไปให้สัมภาษณ์บางสื่อ หรือเพียงเพราะว่าเขาไปสวมเสื้อบางสีที่ไม่ตรงกับสีที่เราชอบ พระอาจารย์ว่าสิ่งนี้น่ากลัวยิ่งกว่าการเลือกข้าง คือการเลือกที่จะไม่ใช่ปัญญา
วู้ดดี้ : บางคนบอกว่าพระอาจารย์เลือกสีเพราะพระอาจารย์ห่มเหลือง พระอาจารย์รู้สึกยังไงกับคำพูดเหล่านี้
ว. วชิรเมธี : คนที่พูดอย่างนี้ค่อนข้างจะอ่อนปัญญานะ ไม่ใช่ปัญญาอ่อน ปัญญาอ่อนคือไม่มีปัญญา แต่อ่อนปัญญาคือมีปัญญาแต่ไม่ยอมใช้ปัญญาเลย ทำไมคุณจึงไปติดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ถ้าคุณเห็นพระห่มเหลืองแล้วคุณก็บอกว่า โอ้...ท่าน ว. ก็สีเหลืองสิ ถ้าตัดสินกันง่ายๆ อย่างนี้นะ เอาผ้าเหลืองผืนหนึ่งเอาผ้าแดงอีกผืนหนึ่งไปสวมตอซักสองตอ แล้วคุณก็ตัดสินเลยนี่เหลืองนี่แดง อย่างนี้จะไหวมั้ย ถ้าเช่นนั้นเราก็สามารถตัดสินใครก็ได้จากรูปลักษณ์ภายนอก
วู้ดดี้ : ทุกวันนี้เวลาเราเปิดตู้เสื้อผ้ามาแล้วปวดกบาลมากเพราะว่าจะใส่แดงก็ไม่ได้ใส่เหลืองก็ไม่ได้ ใส่หลากสีก็ไม่ได้ ใส่อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น แล้วผมมีความรู้สึกเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นคน ผมจะแค่ใส่เสื้อผ้าซักตัวนึงยังต้องมานั่งระวังอีกว่าเดินออกไปนอกบ้านแล้วคนจะคิดว่าเราเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้คิดอะไรเลย
ว. วชิรเมธี : สะท้อนอะไรรู้มั้ย สะท้อนว่าถ้าเราเต็มไปด้วยอคติ ถึงมีปัญญาเราก็จะไม่ใช้ เพราะฉะนั้นในเมืองไทยของเราเวลานี้เป็นอย่างนี้ คือป่วยด้วยโรคมองคนไม่เห็นว่าเป็นคน เพราะอะไร เพราะว่าสายตาของเรานั้นเลือกข้างไปแล้วเรียบร้อย ฉะนั้นเราจึงไม่เห็นคนไทยว่า เป็นคนไทย เวลามองคนไทยเห็นแต่เสื้อที่สวมใส่แต่มองไม่เห็นว่าเป็นคนไทย ฉะนั้นในเวลานี้ต่อให้ใครมาเตือนก็ยากมากที่เราจะได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง
จากคุณ |
:
autumn whispers
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ค. 53 20:07:09
|
|
|
|