ป๋อ โวมีดีแตกต่าง เป็นจิ๊กซอว์สำคัญช่วยช่อง 3 สมบูรณ์แบบขึ้น
|
|
“ป๋อ” ยิ้มร่าเซ็นสัญญาช่อง 3 นาน 5 ปีเต็ม เหตุได้อิสระเต็มที่ในการทำงานอื่น ยกเว้นแค่เล่นละคร หยอดขอบคุณวิกพระราม 4 ที่ให้ความสำคัญ ให้เล่นละครปีละ 3 เรื่องทั้งที่อายุมากแล้ว โวเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่องตามหา มีผู้จัดทาบเล่นละครมากมาย พร้อมยันไม่คิดเบียดแย่งตำแหน่งพระเอกเบอร์หนึ่งกับใคร ในที่สุดคำถามที่ทุกคนถามกันมาตลอดว่า พระเอกหนุ่ม “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” สุดท้ายย้ายบ้านออกจาก 7 สี เพื่อไปเป็นนักแสดงอิสระ หรือไปซบอกช่อง 3 ที่มีกระแสข่าวว่าทุ่มเงินสูงถึง 12 ล้านบาทซื้อตัว ก็ได้รับคำตอบอย่างชัดเจนสักที โดยในงานบวงสรวงละครเรื่อง “คู่เดือด” ของค่ายทีวีซีน วานนี้ (18 พ.ค.) ถือเป็นการเปิดตัว “ป๋อ” ในฐานะพระเอกช่อง 3 เป็นครั้งแรก ซึ่งการย้ายมาบ้านใหม่นั้นเจ้าตัวเผย ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งเข้าวงการ พร้อมแย้มได้เซ็นสัญญากับวิกพระราม 4 นานถึง 5 ปี “ตอนนี้ผมเซ็นสัญญากับทางช่อง 3 แล้ว 5 ปี ก็ตื่นเต้นครับ เหมือนเพิ่งเข้าวงการ เป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่ดี เพราะได้รับการต้อนรับที่ดี ขอบคุณอั้ม (อธิชาติ ชุมนานนท์) ด้วย ขอบคุณพี่ปิ่น (ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์ บอสใหญ่ทีวีซีน) ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ที่มาเล่นเรื่องนี้เพราะเป็นละครฟอร์มยักษ์ ที่ทีวีซีนต้องการให้ยิ่งใหญ่ที่สุด นี่คือเหตุผลแรก สองด้วยโปรดักชั่นที่มีอั้ม อธิชาติ ซึ่งผมชื่นชอบอั้มมากในเรื่องของการทำงาน และอั้มก็เป็นพระเอกเบอร์ต้นๆ ของที่นี่ ผมรู้สึกสนุกมากที่ได้มาเจอกัน มันจะเป็นกำไรกับคนดูมาก” “เบนซ์ (พรชิตา ณ สงขลา) ก็เป็นนางเอกมากฝีมือทุกคนรู้ดี ก้อย (รัชวิน วงศ์วิริยะ) เองก็เป็นนางเอกคนนึงที่น่าจับตามองมากๆ พี่โหน่งผู้กำกับก็ดังมาด้วยกันพอสมควร กับเรื่อง จิตสังหาร เราเคยร่วมงานกันมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นมันคงหาคำตอบอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำว่า ทำไมจะไม่เล่นเรื่องนี้ และทีวีซีนก็ตั้งใจว่าจะให้ละครเรื่องนี้เป็นฟอร์มยักษ์มากๆ ซึ่งช่อง 3 จะครบรอบ 40 ปีด้วย ก็จะเป็นละครที่ทีวีซีนทำให้กับช่องและแฟนๆ และถือเป็นโอกาสที่ดีของผมด้วย” คอนเฟิร์มมาช่อง 3 ไม่เคยคิดจะมาแข่งกับใคร โวตัวเองเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่องตามหา เพื่อทำให้ภาพสมบูรณ์แบบ เลยมีผู้จัดติดต่อให้เล่นละครมากมาย “ที่มาที่นี่ผมไม่ได้ต้องการที่จะมาแข่งกับใครเลย ผมชื่นชมทุกคน เคน(ธีรเดช วงษ์พัวพันธ์) ผมก็ชื่นชม อั้มผมก็ชื่นชม ผมเจอข้างนอกยังบอกเลยว่าชอบอั้ม ชาคริต (แย้มนาม) ผมก็ชอบงานเขา ฉะนั้นมันไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะต้องมาแข่งกับเขา เอาชนะเขา เพื่อให้คนที่อยู่ที่นี่เกลียดผมว่า ไอ้ป๋อมาเพื่อจะฆ่าทุกคน ผมจะทำอย่างนั้นทำไม ผมมาเพื่อเป็นกัลยาณมิตรกับทุกคนไม่ดีกว่าเหรอ ผมก็ทำงานของผม” “พอผมมาทำงาน อั้มก็เลยรับเล่นเรื่องนี้ นั่นคือสปิริตของนักแสดงไทยที่ไม่ได้แข่งกัน ซึ่งผมมีความรู้สึกว่า นี่แหละคือความน่ารักของนักแสดงที่ยังหลงเหลือกันอยู่ มันคือสปิริตของเรา เราไม่ได้แข่งกันขนาดนั้น แล้วก็เรื่องของแนวละครคนจะมองว่า มาช่องใหม่เราก็ยังเล่นแนวเดิม อันนี้ผมต้องบอกก่อนว่า ไม่เคยคิดที่จะหนีความเป็นตัวเอง หมายความว่าสิ่งที่เราถนัดและสิ่งที่เรารักคือการแสดง ก็ต้องเข้าใจว่าละครมันมีไม่กี่แนว มีแอ็คชั่น ดราม่า คอมเมดี้ เพราะฉะนั้นในความรู้สึกของผมแน่นอนหนีสิ่งเหล่านี้ไม่ได้” “มันมีความเปลี่ยนแปลงแน่นอน เราอาจจะบู๊ไม่เยอะก็ได้ใครจะรู้ มันอาจจะมีเรื่องราวที่สนุกกว่าบู๊ก็ได้ แต่แน่นอนว่าบู๊ต้องเป็นสีสันหลักของเรื่องนี้ คือผมก็มีใจเป็นกลางพอสมควรกับการทำงาน ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ จากนักแสดงไปเป็นนักร้อง เรายังอยู่ในโลกของความเป็นจริงว่า งานประเภทนี้มันยังมีอยู่ และแฟนๆ ที่ชอบการทำงานลักษณะบู๊ของผมก็มีอยู่มาก ที่เขาอยากชมอยากติดตาม เพราะฉะนั้นเราจะทำลายความฝันเขาได้ยังไง เราก็ต้องให้เขามีความสุขด้วย เราก็มีความสุขด้วย ส่วนงานชิ้นที่สองต่อไปก็ต้องต่างไปจากนี้แน่นอน มันไม่มีทางเล่นบู๊สองเรื่องอยู่แล้ว ก็ต้องมีแนวที่แตกต่างไปอีก เพราะฉะนั้นในแง่ของความต่างก็อยากให้ติดตามไปเรื่อยๆ ดีกว่า” “เรื่อง วนาลี ก็เป็นอีกช้อยส์นึงที่สนใจมาก เสือมืด เรื่องนี้ก็ชื่อ ดำ (หัวเราะ) คือเรื่องสีผิวนี่ผมว่า ตัวเองเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่องตามหามานานนะ ซึ่งพอมีปุ๊บมันเป็นภาพก็สมบูรณ์แบบขึ้นมา ตอนนี้ก็มีผู้จัดช่อง 3 หลายท่านติดต่อเข้ามานะครับ มีทั้งทางตรง ทางอ้อม ทางพี่เอ(ศุภชัย ศรีวิจิตร) ก็ขอบคุณทุกท่านเลย และหลายๆ เรื่องก็น่าสนใจมาก บางเรื่องก็ยังเป็นแค่พล็อตเฉยๆ บางคนสนิทกันเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ก็ยินดีครับ เรายังอยู่กันอีก 5 ปี ผมเชื่อว่าคงมีโอกาสได้ร่วมงานกับทุกค่าย แต่คงต้องใช้เวลา” กล่าวขอบคุณช่อง 3 ที่ให้ความสำคัญ และให้โอกาสเซ็นสัญญายาว 5 ปี โดยจะป้อนละครให้ปีละ 3 เรื่อง ทั้งที่ตนก็อายุมากแล้ว “ละครก็คงมีปีละประมาณ 3 เรื่อง เป็นระยะเวลา 5 ปี ก็พอใจนะ คือช่อง 3 แทบไม่ได้ปิดโอกาสอะไรเลย นี่คือสาเหตุสำคัญมากๆ ต้องขอบคุณทางช่อง 3 ด้วยที่ให้โอกาสนักแสดงคนนึง ซึ่งผมเองก็อายุไม่น้อยแล้วนะครับ แต่ก็ยังให้ความสำคัญ และเห็นถึงความตั้งใจในการทำงานในวงการนี้ของผมจริงๆ และได้ให้การต้อนรับผมอย่างดีที่สุด จากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ พอเราได้รับการต้อนรับดีๆ อย่างนี้ ผมก็ยินดีที่จะทำงานเพื่อตอบแทน อย่างเต็มที่อย่างสุดความสามารถ ส่วนงานด้านอื่นก็คงได้เห็นกันแน่นอน แต่คงต้องมีการพูดคุยกับช่องก่อนว่า มันเหมาะสมหรือเปล่า” “ที่เซ็น 5 ปีอันนี้ต้องถามทางช่อง 3 ครับ แต่อย่างที่ผมบอกว่า ก็ต้องขอบคุณน้ำใจของทางช่อง 3 ที่มีให้ผม ที่อุตส่าห์เซ็นให้ผมตั้ง 5 ปี คือลองคิดดูว่าอายุเราก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว นั่นหมายถึงว่าเราอยู่ไปถึง 40 นั่นแหละ เพราะตอนนี้ก็ 35 แล้ว แต่หน้าอาจจะ 28 ก็เข้าใจ (หัวเราะ) คือเมื่อก่อนทำมากกว่านี้อีก เคยเล่นละครมากกว่านี้อีก ปีนึงหลายเรื่องเลย ตอนนี้ 3 เรื่องสำหรับผมถือว่าสบายๆ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้กำหนดกันขนาดนั้นด้วยซ้ำนะ เพียงแต่เหมือนพูดกันเป็นลายลักษณ์อักษรนิดนึง เพื่อที่ผมจะได้สบายใจ จะได้รู้สึกว่าไม่มีกรอบอะไรมากมาย และผู้ใหญ่ก็เปิดโอกาสได้แสดงความหวังดีว่า อยากจะดูแลเราอย่างเต็มที่ เราก็ดีใจ”
จากคุณ |
:
somtop01
|
เขียนเมื่อ |
:
19 พ.ค. 53 14:28:15
|
|
|
|