ความคิดเห็นที่ 1 ยังไม่ได้ดูครับ  ว่าจะดูอยู่ เข้าใจจะมาบอกนะครับ จากคุณ : สาริกาไนโตร เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 19:24:37

ความคิดเห็นที่ 2 คร่าวๆน้ะครับเพราะไม่ได้เล่นไพ่แต่ดูหนัง เค้าเล่นBJ แต้มสูงสุด21แต้ม เค้าก็จะส่งซิก กันในกลุ่มว่าใครได้ไพ่อะไร เมื่อ เตี้ยมกัน แล้วดูเปอร์เซนต์มากน้อยว่าควรจะสู้เจ้ารึเปล่าน่ะครับ คือเค้าเล่นได้เพราะเค้ามีสัญลักษณ์บอกกันด้วยว่าเพื่อนๆได้ไพ่ใบไหนบ้าง แล้วหัวกะทิทั้งกลุ่มเค้าคำนวณ แต้ม ความน่าจะเป็นว่าสู้ดีมั้ยน่ะครับ จากคุณ : เรียกข้าว่า เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 19:36:04

ความคิดเห็นที่ 3   ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ แบบว่าอ่อนเลขขนาดหนัก แต่คิดเอาเองว่าพวกเนิร์ดเนี่ย เค้าอัจฉริยะ จำไพ่เก่ง คำนวณได้ในไม่กี่วินาทีว่าความน่าจะเป็นที่ไพ่ใบไหนจะออกสูงสุดอ่ะค่ะ จากคุณ : ogurin เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 19:41:55

ความคิดเห็นที่ 4 บอกก่อนนะคะว่า วิธีการนับไพ่ มีหลายแบบค่ะ (ตัวอย่างเช่น KO Count , Hi-Lo Count , Hi-Opt I Count , Hi-Opt II Count) ที่กำลังจะพูดถึง คือแบบ Hi-Lo Count นะคะ เป็นแบบที่ง่ายที่สุด และเหมาะสำหรับผู้เริ่มหัดนับไพ่ (ส่วนในเรื่อง 21นี่ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช้วิธีนับไพ่แบบไหน จำไม่ได้แล้ว เพราะแต่ละแบบมีวิธีนับไม่เหมือนกัน) แบบHi-Lo Count  จะนับตามนี้ค่ะ คือถ้าเป็น 2, 3, 4 , 5, 6 จะให้นับเป็น +1 ถ้าเป็น 7, 8, 9 ให้นับเป็น 0 ถ้าเป็น 10, J, Q, K, A ให้นับเป็น -1 ถ้าผลสุดท้ายนับออกมาแล้วได้ + ก็ถือว่า"ดี" (คือเราจะลงเดิมพันสูง) ในแต่ละครั้ง จะให้เริ่มนับที่ 0 และเมื่อไพ่ เปิดออกมาเรื่อยๆ ก็ให้บวก ลบ เลข ตามสูตรข้างบน เหมือนกับว่า ยิ่งไพ่เลขน้อยๆออกมาจากกองไพ่มากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะblackjack ก็มีมากขึ้นเท่านั้น(ไพ่เลขสูงๆ-10, J, Q, K, A) แต่ถ้าเรานับพลาดแม้แต่ตัวเดียว ก็จะเน่าไปหมดเลย เพิ่งนึกได้ - -a ในหนัง21 รู้สึกว่า จะมีรหัสสำหรับเลขแต่ละเลข 1,2,3,4,... คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว จะส่งซิกให้คนที่มาใหม่ ว่าตอนนี้นับถึงเลขอะไรแล้ว งั้นก็แสดงว่า คงไม่ได้ใช้ แบบHi-Lo Count เพราะแบบHi-Lo Count ผลสุดท้ายจะมีแค่ -1 ,0, +1 เท่านั้น ^^" ***edit2: อ่าว ไปอ่านคห.8 รู้สึกโง่ขึ้นมาทันที แบบHi-Lo Count ผลออกมาเป็นเลขอะไรก็ได้หนิ งั้นในหนังก็คงจะใช้วิธี Hi-Lo Count นั้นแหละ **edit : คห.6 ในความเห็นส่วนตัว คิดว่าการนับไพ่มันก็ไม่ได้เป็นวิธีการที่เป๊ะ แต่เป็นการดู ความน่าจะเป็นมากกว่า ที่เค้าออกมาบอก(ทำเป็นหนัง) ก็อาจจะเพราะว่ามันไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆหรือปล่าว ปล.ไม่ได้มีความรู้ทางด้านนี้มากเหมือนกันค่ะ ไม่กล้าเถียง แต่ไปอ่านมาอีกที http://en.wikipedia.org/wiki/Card_counting http://www.blackjacktactics.com/blackjack/strategy/card-counting/ **edit3: แก้ +1 ให้เป็น +   แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 21:09:39 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 21:07:07 แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 21:02:40 จากคุณ : 60's tomorrow เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 20:36:01

ความคิดเห็นที่ 5   ตามความเห็น 4 ครับ แต่การนับไพ่ ต้องมีความจำเป็นเลิศเลยทีเดียว แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจว่า การนับไพ่มันผิดเหรอ ในเมื่อคนที่นับก็ไม่ได้โกง แต่เป็นความสามารถเฉพาะตัว จากคุณ : guerilla เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 20:40:40 A:117.47.152.177 X: TicketID:108240

ความคิดเห็นที่ 6 โม้  ไร้สาระครับ ต่อให้จำได้ในนึงสำรับหมด แต่การเล่นหนึ่งที ก้อใช้ไพ่ 4สำรับ ความน่าจะเป็น จะถูกหารออกไปเรื่อยๆ ต่อให้นักฟิสิกคำนวนเก่งๆ แต่ถ้าตัวแปรผันไปได้ขนาดนี้.. ก้อไม่มีใครคำนวนได้เป๊ะ หรอกครับ เช่น...ถ้าคำนวนได้จริง.. จะมาทำหนังบอกชาวบ้านทำไม  ว่า  มีวิธีคำนวนได้ จากคุณ : เจ้าเกาะดอกท้อ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 20:43:05

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็ดูไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน รู้แต่ว่าส่งซิกกัน ซึ่งผมว่านี่แหละที่มันผิด เล่นไพ่ในหนังก็ไม่เป็น ดูแล้วงงๆ หน่อยๆ จากคุณ : เจเล่ไลท์ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 20:43:43

ความคิดเห็นที่ 8 คห.2 ไม่ใช่อย่างงั้นครับ กติกาแบล็คแจ็ค (บ้านเราคือ ป๊อก 21) คือ เจ้ามือแจ๊กไพ่ให้ลูกค้าและตนเองคนละสองใบ โดยไพ่แต่ละใบมีแต้มตามหน้าไพ่ ส่วน J Q K มีค่า = 10, A มีค่า = 1 หรือ 11 ก็ได้ จั่วกี่ใบก็ได้ให้แต้มรวมกันได้ใกล้หรือเท่ากับ 21 ใครได้ใกล้ 21 ที่สุดหรือได้ 21 จะชนะ ถ้าจั่วแล้วเกินก็แพ้ ในเวกัสจะใช้ไพ่หลายสำรับใน 1 โต๊ะ (จำไม่ได้ว่า 5 หรือ 7 สำรับ) ไม่มีการใช้ไพ่เวียน ทำให้สามารถคำนวนไพ่ที่ออกแล้วได้   วิธีนับไพ่คือ มีการให้ค่าของหน้าไพ่ไว้ดังนี้ 2-6 = +1 7-9= 0 10  j Q K A = -1   เริ่มคือทีมจะส่ง"แมวมอง"ไปเล่นตามโต๊ะ โดยแทงเดิมพันต่ำไว้ตลอดเพื่อนับแต้มของไพ่ตามค่าข้างบน เพื่อให้รู้ว่ามีไพ่กลุ่มใดออกไปแล้วบ้าง ถ้าไพ่กลุ่ม +1 ออกเยอะสำรับนั้นจะเริ่ม ฮอต ขึ้นเรื่อยๆ แมวมองจะส่งซิกให้"ขาใหญ่"เข้ามาเล่นโดยวางเดิมพันสูงๆ โดยใช้คำแทนค่าว่าตอนนี้นับค่าไพ่ได้เท่าไหร่แล้วในขณะที่ขาใหญ่เข้ามา เ่่ช่นในหนังใช้คำว่า sweet = +16 เป็นต้นโดยพูดออกมาเป็นประโยค (ไพ่ฮอตคือ ไพ่ที่กลุ่ม +1 ออกมาเยอะๆ ครับ)     ระหว่างเล่น ทั้งแมวมองและขาใหญ่จะทำเป็นไม่รู้จักกัน ขาใหญ่จะแทงเดิมพันโดยใช้การตัดสินใจตามสถิติ เพราะไพ่สำรับที่ฮอตจะมีโอกาสชนะสูง หากไพ่2ใบแรกเป็นคู่ 8 หรือ 10 จะทำการแยกคู่ เพราะโอกาสที่จะจั่วได้ไพ่กลุ่ม -1 มีสูง หากไม่แยกคู่แล้วจั่วเจอแต้มจะเกิน 21 จะแพ้ได้       ทั้งแมวมองและขาใหญ่จะนับไพ่ไปเรื่อยๆ ระหว่างเล่น เมื่อสำรับเริ่มเย็นคืิอ ไพ่ กลุ่ม -1 ออกเยอะแล้ว แมวมองจะส่งสัญญาณให้ขาใหญ่หยุดแล้วขึ้นเงิน หรือหากเริ่มมีคนในบ่อนสงสัยแมวมองรอบนอกจะส่งสัญญาณให้ขาใหญ่ออกมาด่วน สรุปคือให้ค่าไพ่แล้วคำนวนในเชิงสถิติว่าไพ่กลุ่มไหนออกแล้วบ้าง เพื่อตัดสินใจแทงเยอะๆ ในรอบที่มีโอกาสชนะสูงที่สุด หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงครับ นับไพ่ไม่ใช่การโกง เพราะบ่อนไม่ได้ห้ามแค่ห้ามจด แต่ไอ้ที่จับมาอัดแบบในหนังเป็นเรื่องด้านมืดของบ่อนครับคือถ้าโกงแบบที่กำหนดไว้โดนส่งตำรวจ แต่ไอ้ที่ไม่ผิดกติกาแต่ได้เงินเยอะบ่อนจะใช้วิธีอุ้มไปคุยไม่ให้ใครรู้ครับ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 21:03:12 จากคุณ : kaiya เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 20:54:20

ความคิดเห็นที่ 9 อ่าน คุณ #8 แล้วเห็นภาพชัดขึ้นมากเลยครับ ทีแรกที่ผมดูนี่คิดไปถึงขนาดที่ว่า จำลำดับได้และรู้ว่าใบต่อไปคืออะไรเลย ทำให้รู้จังหวะที่จะลงหรือถอยได้ แต่จริงๆแล้วเป็นแค่การหาช่วงเล่นที่มีโอกาสชนะมากที่สุดและเล่นให้หนักที่สุดนั่นเอง ที่โดนจับผิดก็คงอย่างที่ในหนังบอกจริงๆครับ เพราะคุณนับไพ่ ไม่ได้มาเล่น"พนัน" ปล. จากที่ #8 พิมพ์เพิ่มมา ทำให้ผมนึกถึงเรื่อง Ocean's 13 ตอนที่ Brad Pitt วางเหรียญให้ผู้หญิงคนนึงแจ๊คพ๊อต แล้วคนที่ห้องควบคุมก็วิเคราะห์ว่า ชนะอย่างขาวสะอาด เนี่ย จะได้เงินกลับไปหรือโดนอุ้มครับ เหอๆ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ค. 53 21:23:57 จากคุณ : Zhion เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 21:07:50

ความคิดเห็นที่ 10 555+ ชอบ คห.ข้างบนจังที่บอกว่า ถ้าโกงแบบที่กำหนดจะส่งให้ตำรวจแต่ไอ้ที่ไม่ผิดกติกาแต่ได้เงินเยอะบ่อนจะอุ้มไป สรุปเราไม่มีทางได้เงินเยอะจากบ่อนเลยใช่ไหมเนี่ย ฉะนั้นไม่เล่นดีกว่า เปิดบ่อนแทนดีกว่า 555+ (ล้อเล่นๆ) จากคุณ : ixohoxi (ixohoxi) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 21:11:33

ความคิดเห็นที่ 11 555+ ชอบ คห.ข้างบนจังที่บอกว่า ถ้าโกงแบบที่กำหนดจะส่งให้ตำรวจแต่ไอ้ที่ไม่ผิดกติกาแต่ได้เงินเยอะบ่อนจะอุ้มไป สรุปเราไม่มีทางได้เงินเยอะจากบ่อนเลยใช่ไหมเนี่ย ฉะนั้นไม่เล่นดีกว่า เปิดบ่อนแทนดีกว่า 555+ (ล้อเล่นๆ) จากคุณ : ixohoxi (ixohoxi) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 21:12:42

ความคิดเห็นที่ 12 คห.10 บ่อนเค้าอยากให้มาเสี่ยงโชคไงครับ ไม่ใช่หากิน เพราะกิจการใหญ่ของบ่อนคือโรงแรม บ่อนเป็นโปรโมชั่นให้คนมาเล่นเพื่อสนุกสนาน และมีคนมาพักเยอะ ถ้าไม่ทำ โรบินฮูดเพียบ ไม่มาพักไม่ว่ามาเอาเงินเค้าไปอีก จากคุณ : kaiya เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 21:30:49

ความคิดเห็นที่ 13 ชนะไว้ ชนะไว้ เดี๋ยวได้กินไก่ จากคุณ : MIKE-SCOFIELD เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 22:01:41

ความคิดเห็นที่ 14 คห.6 หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงครับ แล้วที่เค้านับกันเค้าไม่ได้เล่นกันแต่สำรับเดียวนะครับ นับกันยาวๆ จนถึงเวลาที่คิดว่าโอกาสสูงสุด ก็ส่งสัญญานเรียกเพื่อน แหม สำรับเดียว บ่อนที่ไหนเค้าเล่นกันครับ อ้อ ผมไม่ได้ไปเล่นเองนะ ดูในทีวี ดูสารคดี เดี๋ยวหาว่าผีพนันอีก จากคุณ : snoopyสีแสด เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 22:41:10

ความคิดเห็นที่ 15 มาเสริมครับ โต๊ะแบล็คแจ็คในเวกัส จะใช้ไพ่ 3 สำรับด้วยกัน (อาจมีเยอะกว่านั้น เพราะมีเครื่องสับไพ่ใช้แล้วในปัจจุบัน) และจะเล่นไปประมาณ 10 เกมกว่าๆ ถึงจะสับไพ่ทีนึง จริงๆแล้ว ไอ้การที่บ่อนจะมาอุ้มพวกนับไพ่นี่ไม่ค่อยมีนะครับ ส่วนมากจะเชิญให้ออกแทน แล้วจะเมมชื่อไว้ในระบบ ไม่ให้เข้ามาที่เวกัสอีก คิดว่ายังคงมีอีกเรื่องที่คิดว่าคงงงกันอยู่ นั้นก็คือคำว่า "ไพ่ขอบ" หมายถึงไพ่ที่มีแต้มมากกว่าที่ต้องการ ทำให้แต้มของไพ่ในมือสูงเกิน 21 เช่น ในมือเรามีอยู่ 20 แต่เจ้ามือมี 17 ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ที่เมื่อเจ้ามือแต้มต่ำกว่าผู้เล่น ก็จำเป็นที่จะต้องเรียกไพ่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะ จากกรณีนี้ ถ้าเจ้ามือจั่วได้ 4 ก็จะได้ 21 ซึ่งเป็นแบล็คแจ็คพอดี จึงชนะไป แต่ถ้าจั่วได้ 5 แต้มที่ได้ก็จะเป็น 22 ซึ่งเกิน ทำให้แพ้ไป เราจะเรียกไพ่ 5 นี่ว่าไพ่ขอบครับ จากคุณ : อัปรักษ์ (Rak-sama) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 01:07:53

ความคิดเห็นที่ 16 นี้เป็นหนังสือครับ ออกมานานแล้วละ ผมเองก็อ่านจบแล้ว สนุกดีเหมือนกัน ท้ายเล่มมีวิธีนับไพ่ที่ผู้แต่งเขียนไว้ให้ด้วย เป็นหลักเบื้องต้นอะนะ ไม่ค่อยละเอียดเท่าไร แต่ก็เอาไปต่อยอดได้ จากคุณ : อัปรักษ์ (Rak-sama) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 01:10:32

ความคิดเห็นที่ 17 หนังสนุกดีครับ ได้หลักคิดด้วยจากวิธีเลือกประตูดวง ของพระเอกด้วย คนอะไรคิดอะไรเป็นตัวเลขตลอด ทำให้อาจารย์เห็นแววเรียกเข้าทีม จากคุณ : สายน้ำสีเดิม เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 01:14:19

ความคิดเห็นที่ 18 ไพ่แบล็คแจ็ค ถึงแม้่ว่าเป็นไพ่ที่มีวิธีชนะได้ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะบางครั้งมันก็มีเรื่องของดวงเข้ามาเกี่ยวด้วย ถึงจะนับได้ นับทัน ถ้าถึงคราวดวงตกขึ้นมา บางทีก็ซวยได้ เหมือนอยากในหนัง ที่เจ้ามือจั่วได้ไพ่ต่ำ แล้วได้แบล็คแจ็คเฉย ทำให้พระเอกเสียไปสองแสน (ของจริง เสียไปล้านเหรียญนะครับ ที่เล่นไปสองมือนั้นน่ะ) ปล. ผมชอบโป๊กเกอร์มากกว่า เพราะเป็นเกมที่วัดกันที่กึ๋น ใครเนียน ใครหน้าตาย ใครบลัฟได้เก่งกว่า ก็ชนะ จากคุณ : อัปรักษ์ (Rak-sama) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 01:17:10

ความคิดเห็นที่ 19 คห.17 วิธีคิดเรื่องประตูดวง เป็นเรื่องจริงนะครับ เกมโชว์ที่ว่าก็เคยมีอยู่จริง (แต่ไม่ได้ออกมาจากหัวพระเอกคนนี้หรอกนะ) เป็นความคิดของผู้หญิงคนนึง (จำชื่อไม่ได้ละ) ที่กล้าตีแสกหน้านักคณิตศาสตร์หลายๆคน ที่คิดว่า ความน่าจะเป็นมันคือ 33.33 % เท่ากันทุกบ้าน จากคุณ : อัปรักษ์ (Rak-sama) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 01:20:31

ความคิดเห็นที่ 20 ไปลองหามาแล้วครับ เกมนี้มีชื่อว่า 3 Doors และผู้หญิงที่ผมได้บอกไป เธอชื่อ มาริลิน วอส ซาวองท์ รายละเอียดเพิ่มเติม ไปอ่านได้ในบล็อกนี้เลย (เป็นบล็อกเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ที่ฮามาก) http://watchi.exteen.com/20080227/vs จากคุณ : อัปรักษ์ (Rak-sama) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 01:26:19

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับ จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 53 20:37:41

ความคิดเห็นที่ 22 พวกหนังสือเรื่องสถิติบอกว่า แบล็คแจ๊คเป็นเกมที่ผู้เล่นมีโอกาสชนะเจ้ามือมากที่สุด พึ่งดวงน้อยที่สุด ถ้าเล่นเป็น จากคุณ : Nocturne เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 17:29:46

ความคิดเห็นที่ 23 งง แต่หนังสนุก เราก็เล่นไพ่ไม่เป็นนะคะ แต่เราก็ชอบอะ จากคุณ : St.Kyo เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 18:19:14

ความคิดเห็นที่ 24 หนังทำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆครับ ส่วนที่ว่า ถ้าทำได้ ใครจะมาบอก บางคนเขาเขียนเป็นหนังสือด้วยครับ หนังสือวิธีการคำนวณนับไพ่นั่นแหละ ตัวอย่างครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Edward_O._Thorp ...He was the author of Beat the Dealer, the first book to mathematically prove,in 1962, that the house advantage in blackjack could be overcome by card counting. He also developed and applied effective hedge fund techniques in the financial markets, and collaborated with Claude Shannon in creating the first wearable computer... คำนวณเป๊ะๆนั้น ไม่มีทางที่ใครจะทำได้ ถ้าไม่ใช่หมอดูตาทิพย์ แต่คำนวณความน่าจะเป็น (Probability) หรือโอกาสว่าผลของเหตุการณ์(ในที่นี้คือการพนัน) น่าจะเกิดขึ้นอย่างไรนั้น เจ้ามือมีเปอร์เซ็นต์ได้เปรียบมากน้อยเท่าไร สามารถทำได้ครับ จากคุณ : น้ำใส เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 53 05:14:46

ความคิดเห็นที่ 25   คนจริงๆ ที่ทำเรื่องนี้จริงๆ (ไม่ใช่นักแสดง) ก็ได้รับบทแสดงในหนังด้วย ผกก.อยากให้มีส่วนร่วมด้วย ลองหาดูเพิ่มเติมใน Special Feature ดูนะครับ มีบอกรายละเอียดไว้เยอะเหมือนกัน ใน The Hangover ก็นับไพ่นะ อิอิ จากคุณ : MIT เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 53 05:30:33 A:124.121.4.55 X: TicketID:245805

ความคิดเห็นที่ 26 เพิ่งดูจบเลย  เป็นหนังสำหรับคนฉลาดจริงๆ  ตอนจบถึงกับต้องย้อนกลับไปดูช่วงท้ายๆหลายรอบเลยทีเดียว  เหอะๆ  //หรือตรูโง่เกินฟร่ะ จากคุณ : anzermee เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 53 22:37:20