|
12 Angry Men ... (เพิ่ง)ได้ดูแล้วอยากแชร์ความรู้
|
|
ขอแหวกกระแสคุณเจ้ยได้รางวัลปาล์มทองคำซักหน่อย ในที่สุดก็ได้ดูเสียทีหลังจากตามหามานาน
ผมขอเกริ่นนำเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้เพื่อเป็นการแนะนำให้คนที่ไม่เคยดู(หรือไม่รู้จัก)หนังเรื่องนี้ซักหน่อยนะครับ เพราะหลังจากดูจบปุ๊บ...ผมก็รู้ได้ในทันทีว่าหนังเรื่องนี้เขาดีสมคำร่ำรือจริงๆครับ
เรื่องราวว่าด้วยลูกขุนทั้ง12คนที่ได้รับมอบหมายให้มาตัดสินคดีของผู้ต้องหาที่เป็นเด็กชายคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำปิตุฆาต(ฆ่าพ่อตัวเอง)ว่าผิดจริงหรือไม่?
โดยมีกฎว่าคำตัดสินขอลูกขุนทุกคนต้องออกมาเป็นเอกฉันท์เท่านั้นถึงจะตัดสินคดีและลูกขุนทุกคนสามารถออกจากห้องพิจารณาคดีได้ แต่ถ้าเสียงไม่เป็นเอกฉันท์ก็ต้องถกกันไปเรื่อยๆจนกว่าลูกขุนทุกคนจะเห็นพ้องกัน
ซึ่งตอนแรกลูกขุนส่วนใหญ่ก็ฟังธงกันไปเรียบร้อยแล้วว่าเด็กชายผิดจริงแน่นอนเมื่อดูจากหลักฐานมากมายในชั้นศาล...แต่ผลโหวตกลับออกมาเป็น"ผิดจริง11เสียง ไม่ผิดจริง1เสียง" เพราะหนึ่งในลูกขุนทั้ง12คน ลูกขุนหมายเลข8 (Henry Fonda) เห็นว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินประหารชีวิตคนโดยไม่ไตร่ตรองเสียก่อน
ทำให้ลูกขุนทั้ง11คนจำต้องหาวิธีพูดโน้มน้าวลูกขุนหมายเลข8คนนี้ให้ได้ว่าผู้ต้องหา(เด็กชาย)ผิดจริงตามที่พวกเขาคิด...ก่อนที่พวกเขาจะพบว่า ยิ่งถกกันมากเท่าไหร่ พยานหลักฐานต่างๆก็ยิ่งมีความขัดแย้งกันเองมากขึ้นเท่านั้น สรุปแล้วเด็กชายผิดจริงรึไม่? ไปติดตามต่อได้ในหนัง 12 Angry Men นะครับ (หยั่งกะอ่านใบปลิวหนังเลยเนอะ)
หนังเรื่องเป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของ Sidney Lumet ผกก.ชั้นครู(รุ่นๆเดียวกับ Stanley Kubrick) ผู้มีความช่ำชองในการสร้างบรรยากาศของหนังให้ออกมาตึงเครียดได้อย่างสมจริงสมจัง
หนังเรื่องแรกของเขาที่ผมเคยดู Dog Day Afternoon ก็สร้างบรรยากาศความตึงเครียดของโจรปล้นธนาคารสองคนที่ต้องเปลี่ยนไปเรียกค่าไถ่แทนเพราะถูกตำรวจปิดล้อมไว้ได้สมจริงเสียจน"เหมือนคนดูได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์เสียเอง" (อ้อ! แล้วใครชอบลุง Al Pacino ไม่ควรพลาดเรื่องนี้นะครับ ลุงแกแสดงดีมาก)
กับ 12 Angry Men ก็เหมือนกัน ความรู้สึกระหว่างดู ผู้ชมจะรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดของลูกขุนทั้ง12 จนเหมือนผู้ชมได้เข้าไปนั่งเป็นสักขีพยานอยู่ในห้องพิจารณาคดีแคบๆร้อนๆร่วมกับพวกเขาด้วยยังไงอย่างงั้น
ทีมนักแสดงของหนังเรื่องนี้ ผมต้องใช้คำเดิมๆอีกครั้งว่า"ปึ้กมาก" แม้ว่าจะมีคนที่เด่นกว่าใครเพื่อน(เพราะเป็นพระเอกของเรื่อง)อย่าง Henry Fonda ในบทลูกขุนหมายเลข8 แต่ตัวหนังก็สามารถเกลี่ยบทของตัวละครลูกขุนคนอื่นๆได้อย่างลงตัว ทำให้ทุกคนล้วนมีโมเมนต์เด่นๆเป็นที่จดจำของตัวเอง
นอกจากนักแสดงแล้ว ประเด็นของหนังก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยังคงเป็นที่กล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้ ผ่านบทสนทนาอันคมกริบ
เช่นการพิพากษ์วิจารณ์ระบบยุติธรรม(ในแง่ของกฎหมาย)หรือระบอบประชาธิปไตย(ในแง่ของการเมือง)ว่าบางครั้งระบบระบอบเหล่านี้ก็ไม่ใคร่จะโปร่งใสไปเสียทุกครั้ง,
การพิพากษ์วิจารณ์ธรรมชาติของมนุษย์ว่าด้วยเรื่องการแสดงความคิดเห็น...มีอยู่หลายครั้งหลายคราที่คนเราจำเป็นต้องตัดสินสิ่งต่างๆด้วยการโยนอารมณ์ความรู้สึกทิ้งไปแล้วใช้หลักตรรกะเพียวๆตัดสินเช่นในสถานการณ์การตัดสินคดีความของลูกขุนทั้ง12
...แต่ถามจริงเถอะ ด้วยธรรมชาติของปุถุชนที่ยังคงยึดติดกับ"อารมณ์"(รวมถึง"อคติ") จะมีสักกี่ครั้งเชียวที่เราจะแยก"เหตุผล"ออกจาก"อารมณ์"ได้จริงๆ? (แล้วถ้าแยกได้ แยกได้อย่างหมดจดหรือไม่?)
เหมือนที่ลูกขุนบางคนไม่สามารถทำได้(เช่นลูกขุนคนหนึ่งมีปัญหากับลูกชาย,อีกคนหนึ่งมีตั๋วไปดูเบสบอลเลยอยากรีบตัดสินให้มันจบๆไป,อีกคนอยากจะรีบกลับไปทำงานต่อและมีอคติว่า"เด็กที่เติบโตมาในย่านสลัมมันก็เลวเหมือนกันหมด" ฯลฯ)
ตัวตนของลูกขุนแต่ละคนจึงถูกปลอกเปลือกผ่านคำพูดและการกระทำของพวกเขา คนดูจึงเห็นได้ชัดว่าลูกขุนแต่ละคน ใครมีหรือไม่มีอคติกันบ้าง(เช่นลูกขุนหมายเลข8ที่ยืนกรานว่าเด็กไม่ผิดจริงอย่างใจเย็น,ลูกขุนหมายเลข4ที่ตัดสินว่าเด็กผิดจริงอย่างมีเหตุผล ฯลฯ)
เอาละ...ผมจะไม่ต่อความยาวสาวความยืนต่อไป(เพราะนึกไม่ออกแล้วว่าจะเขียนอะไรต่อ) เอาเป็นว่าผมสรุปเลยละกัน
12 Angry Men คือสุดยอดหนังที่คนรักหนังสมควรหามาดูสักครั้งครับ ทีมนักแสดงที่(โคตร)ปึ้ก+ประเด็นของหนังที่ร่วมสมัย จากฝีมือการกำกับของสุดยอดผู้กำกับ
ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 53 09:34:51
จากคุณ |
:
Apple101
|
เขียนเมื่อ |
:
25 พ.ค. 53 07:57:32
|
|
|
| |