Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ประวัติมวยหยงชุน วิชาของอาจารย์ ยิป มัน (เขียนใหม่ให้เข้าใจง่าย)  

ในรัชสมัยของกษัตริย์หยวนเช็งแห่งราชวงศ์ชิง วัดเสื้ยวลิ้มได้ถูกวางเพลิงโดยทหารมองโกล ซึ่งศิษย์ทรยศหมานิงยี่ได้ช่วยให้ทหารมองโกลวางเพลิงสำเร็จ โดยตนเองช่วยวางเพลิงจากภายในวัด การวางเพลิงครั้งนี้ส่งผลให้ 5 ปรมาจารย์อาวุโส พร้อมลูกศิษย์ต้องฝ่าทหารมองโกลลงสู่ภาคใต้ อาจารย์ทั้ง 5 คือ
- แม่ชีหวู่เหมย (หวึมเม่ย - กวางตุ้ง)
- จี้ส่าน (จีซิ่น - กวางตุ้ง)
- คิ้วขาว แป๊ะเหมย
- ฟองโตตั๊ก
- เมียวหิ่น
และยังมีศิษย์ฆราวาส เช่น หงซีกวน (หงเหกุ้น - กวางตุ้ง), ฟางซื่อยี่ (ฟงไสหยก - กวางตุ้ง), ลกอาชอย
ปรมาจารย์จี้ส่านสอนศิษย์ฆราวาสมากมาย และได้นำศิษย์เหล่านี้เข้าต่อต้านแมนจู นำโดยศิษย์พี่ชื่อ หงชีกวน ตงชินกุน ฉอยอาฝก พวกเขาปฏิบัติการในเรือแดง โดยจี้ส่านได้ปลอมตัวเป็นพ่อครัวของคณะงิ้วเรือแดงหงชวน ส่วนปรมาจารย์เมียวหิ่น และลูกสาวเมียวซุยฟ้า ได้หลบไปอยู่กับชาวเมี่ยวและเย้า ณ พรมแดนระหว่างมลรัฐเสฉวนและยูนนาน

ปรมาจารย์หวู่เหมย หรือ แม่ชีหวู่เหมย

ปรมาจารย์หวู่เหมย ศิษย์พี่หญิงผู้อาวุโสที่สุดในบรรดาปรมาจารย์ทั้ง 5 ได้หนีความวุ่นวายไปพำนักอยู่ที่วัดกระเรียนขาวบนเขาไทซาน ที่อยู่ระหว่างมลรัฐเสฉวนและยูนนาน

แม่ชีหวู่เหมยยังได้คิดค้นวิทยายุทธ์แขนงใหม่ ซึ่งแตกต่างและมีประสิทธิภาพกว่าวิทยายุทธ์ซึ่งเธอได้เรียนรู้ที่วัดเสี้ยวลิ้ม ท่านได้พบเคล็ดลับโดยบังเอิญ เมื่อเธอได้เห็นการต่อสู้ระหว่างจิ้งจอกและนกกระเรียน ซึ่งจิ้งจอกจะวิ่งเวียนไปรอบๆ กระเรียนเป็นวงกลม หวังหาจังหวะจู่โจม ในขณะที่กระเรียนยืนอยู่ในศูนย์กลางของวงกลม จะหันหน้าเข้าหาจิ้งจอกทุกครั้ง เมื่อจิ้งจอกโจมตีด้วยกรงเล็บ นกกระเรียนก็จะปัดด้วยปีกพร้อมกับตอบโต้ด้วยการจิกด้วยจงอยปาก ส่วนจิ้งจอก พยายามอาศัยความเร็วและความเจ้าเล่ห์ของมัน แต่นกกระเรียนก็สามารถตั้งรับและตอบโต้ได้ทุกครั้ง การต่อสู้ของจิ้งจอกและนกกระเรียนนี้ ทำให้แม่ชีหวู่เหมยได้ค้นพบพื้นฐานของวิชาหมัดมวยชนิดใหม่

วิชาการต่อสู้ชนิดใหม่นี้ ไม่ได้ถูกตั้งชื่อเป็นมวยจิ้งจอกหรือมวยกระเรียน เนื่องจากมวยชนิดนี้ไม่ได้เลียนแบบท่าทางของจิ้งจอกหรือนกกระเรียน หากแต่อาศัยหลักการต่อสู้อันแยบยลตามธรรมชาติของจิ้งจอกในการหลบหลีกการปะทะ โดยใช้การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเป็นวงกลมและการโจมตีที่เป็นเส้นตรงพุ่งเข้าสู่ศัตรู ส่วนนกกระเรียนจะใช้หลักการในการหันเข้าหาศูนย์กลางของคู่ต่อสู้พร้อมกับการปิดป้องและโจมตีคู่ต่อสู้ไปพร้อมกัน กรงเล็บ เขี้ยว จงอยปาก ปีก ได้ถูกทดแทนโดยหมัดและฝ่าเท้า ซึ่งถูกคิดค้นให้ใช้ออกมาอย่างถูกสรีระของมนุษย์มากที่สุด

วิทยายุทธ์ชนิดใหม่นี้แตกต่างกับหลักวิทยายุทธ์เสี้ยวลิ้มเดิมโดยสิ้นเชิง แม่ชีได้ตัดกระบวนท่าอันซับซ้อนและเปลี่ยนเป็นกระบวนท่าที่กระชับ อาศัยการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดเพื่อที่จะโจมตีสู่เป้าหมายในระยะใกล้ในเวลาที่น้อยที่สุด และได้พลังโจมตีมากที่สุดด้วย กระบวนท่าในการฝึกฝนได้ถูกลดลงเหลือแค่มวยเพียงสามเส้น หุ่นไม้หนึ่งเส้น มีดคู่ฟันแปดท่าหนึ่งเส้น และกระบองหกแต้มครึ่ง ต่างกับมวยชนิดอื่นๆ ซึ่งอาจจะมีหลายสิบกระบวนท่ารำ ซึ่งยากแก่การจดจำและนำไปปฎิบัติ

อินหยงชุน หรือ หยิ่มหวิ่งชุน

อินหยงชุน อาศัยอยู่กับบิดาชื่อหยิ่มยีในมลรัฐกวางตุ้ง หลังจากมารดาเสียชีวิตลง บิดาได้หมั้นหมายตนไว้กับพ่อค้าชื่อเหลียงป๊อกเชา ชาวฮกเกี้ยน ซึ่งในขณะนั้นหย่งชุนยังเป็นเด็ก ต่อมา บิดาได้เข้าช่วยเหลือผู้อื่นจนมีคดีติดตัว ต้องพาหย่งชุนหลบหนีไปยังพรมแดนระหว่างรัฐเสฉวนและยูนนาน และทั้งคู่ได้ยังชีพด้วยการขายเต้าหู้อยู่ ณ เชิงเขาไทซาน (สถานที่ ที่แมชีหวู่เหมย หรือ ปรมาจารย์หวู่เหมย พำนักอยู่)

เนื่องจากที่หย่งชุนเป็นสาวงาม จนเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อน เมื่อมีอันธพาลมาชอบพอหย่งชุนและบังคับให้เธอแต่งงานด้วย จึงทำให้ทั้งเธอและบิดาเป็นกังวลอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จนบิดาของเธอได้ไปเล่าเรื่องนี้ให้แม่ชีหวู่เหมยที่พำนักอยู่บนเขาไทซานฟัง แม่ชีหวู่เหมยต้องการช่วยเหลือหยงชุน จึงรับหยงชุนเข้าเป็นศิษย์ ให้ไปอาศัยอยู่บนเขาและฝึกวิทยายุทธ์แขนงใหม่ที่แม่ชีคิดค้นขึ้น จนเวลาผ่านไป 3 ปี หยงชุนได้ฝึกฝนได้คล่องแคล่วจนสามารถใช้ป้องกันตนเองได้แล้ว หยงชุนจึงได้กลับมาหาบิดาอีกครั้ง

เป็นดังคาด อันธพาลคนเดิมได้มารังควาญอีกครั้ง คราวนี้หยงชุนไม่ได้หลีกเลี่ยงอีกต่อไป แต่ได้ท้าประลองกับอันธพาล และได้รับชัยชนะในเวลาอันสั้น

เหลียงป๊อกเชา และ เหลียงล่านไกว

หลังจากนั้น หยงชุน ได้แต่งงานกับพ่อค้าเหลียงป๊อกเชา หยงชุนพยายามจะสอนวิทยายุทธ์ที่ได้ร่ำเรียนมาให้กับสามีของเธอ หากแต่สามีไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก เพราะตัวเขาเองก็ได้ร่ำเรียนมวยเสี้ยวลิ้มมาอย่างช่ำชองแล้ว แต่เมื่อหยงชุนได้แสดงวิทยายุทธ์โดยการประมือกับสามีของเธอ ซึ่งทำให้สามีพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาจึงยอมเรียนรู้วิชานี้จากหยงชุน และได้ตั้งชื่อวิทยายุทธ์นี้ตามชื่อภรรยาว่า "หยงชุน"

ต่อมาเหลียงป๊อกเชา ได้สอนวิทยายุทธ์นี้ให้กับ เหลียงล่านไกว เมื่อเหลียงล่านไกวฝึกสำเร็จ ตัวเขาพยายามปกปิดไม่เผยแพร่วิทยายุทธ์หยงชุนนี้ โดยมีครั้งหนึ่งได้ใช้วิทยายุทธ์นี้ เข้าต่อสู้กับกลุ่มนักมวยที่กำลังรุมล้อมนักมวยผู้หนึ่ง

แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 53 09:33:29

แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 53 15:48:39

แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 53 14:06:45

จากคุณ : หมูน้อย กะ แมวอ้วน
เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 11:30:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com