++ผมมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ฟังครับ จากครอบครัวของผู้ที่ทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท++อยากให้อ่านแล้วนำไปคิดกัน
|
|
พ่อผมเมื่อสองปีที่แล้วได้รับโอกาสที่คนในนี้หลายคนฝันไว้คือได้ไปทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท
คือได้ไปเป็นตำรวจอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล หรือที่คนหัวหินจะเรียกกันว่าตำรวจวัง
มีหน้าที่คือถวายความปลอดภัยให้แก่พระบรมวงศ์ษานุวงศ์ทุกพระองค์ที่เสด็จมาที่วัง โดยส่วนใหญ่จะเป็นในหลวงเพราะพระองค์ประทับอยู่ที่วังไกลกังวลตลอด
ในทุกๆวันจะมีอาหารที่ในหลวงทรงพระราชทานทุกๆวัน(ช่วงนั้นในหลวงยังประทับอยู่ที่หัวหิน ตำรวจและทหารที่ทำงานที่วังเลยได้ทานอาหารและขนมพระราชทาน แต่พอพระองค์ทรงประชวรและเสด็จไปประทับที่ศิริราช อาหารเลยไม่มี (ผมเลยอดกินไปด้วย แต่ขนมอร่อยมาก อร่อยจริงๆ))
การทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทแม้จะว่าเหนื่อยแต่ก็ภูมิใจและเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล เพราะบางพระองค์มักจะเสด็จมาตอนดึกๆ
แต่ถึงแม้จะดึกแค่ไหน ตำรวจทหารทุกคนก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของทุกพระองค์
แม้ว่าจะเหนื่อยแต่ก็ภูมิใจ และภูมิใจขึ้นไปอีกเมื่อได้รับเกียรติที่น้อยคนนักจะได้
เมื่อวันปีใหม่ปี 51 พ่อผมได้เป็นตำรวจ 1 ใน 3 คนที่ได้รับพระราชทานโอกาสให้เข้าร่วมงานเลี้ยงปีใหม่ที่จัดขึ้นที่วังไกลกังวล ซึ่งในหลวงทรงเป็นประธานจัดงาน
และพระองค์ก็ทรงร่วมงานด้วย และได้รับพระราชทานของขวัญเป็นกระเป๋าใส่เอกสารย่านลิเภาจากพระหัตถ์ ซึ่งตอนนี้กระเป๋าใบนี้วางอยู่บนหิ้ง
เรื่องภูมิใจยังไม่หมดแค่นั้นครับ
บางทีเวลาที่พระราชินีเสด็จไป พ่อผมจะเป็นคนนำตั้งแถวกองเกียรติยศคอยชักกระบี่และกล่าวถวายความคำรพ พ่อเล่าให้ฟังว่าพระราชินีทรงเดินเฉียดกระบี่พ่อไปนิดเดียว พอ่ผมบอกว่าขนลุกเลยทีเดียว
ทั้งหมดที่เล่ามาก็เพราะความภูมิใจครับ
ภูมิใจที่มีพ่อที่ทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ถวายความปลอดภัยใหุ้พระบรมวงศ์ษานุวงศ์ทุกพระองค์
แต่พ่อผมเป็นตำรวจมะเขือเทศครับ
เสื้อแดงชัดๆ แจ่มแจ้ง แต่ทำไมพ่อผมถึงจงรักภักดีต่อสถาบัน
แม่ผมก็เสื้อเหลือง เหลืองอ๋อยๆ
แต่ทำไมทั้งสองคนถึงไม่เคยทะเลาะกันด้วยการเมือง
เวลาแม่ไปหาพ่อที่หัวหิน
พ่อเปิดช่องเสื้อแดง
แม่ผมก็ยังดูช่องเสื้อแดงได้
เพื่อนร่วมงาน ลูกน้องของพ่อ หรือญาติๆ บางคนก็เป็นเสื้อเหลือง
แต่ทำไมพวกเค้าทำงานด้วยกันได้ คุยเรื่องการเมืองด้วยกันได้โดยที่ไม่ต้องต่อยปากกัน
เพราะอะไรครับ แม่ไม่เคยด่าพ่อว่าล้มสถาบันทั้งๆที่พ่อเป็นเสื้อแดง
ไม่เคยมีใครมาว่าพ่อว่าจะล้มสถาบันเพราะพ่อเป็นเสื้อแดง
ผมสามารถมีพ่อที่เป็นเสื้อแดง แม่ที่เป็นเสื้อเหลือง
และสามารถคุยเรื่องการเมืองได้ในที่บ้าน
แล้วคุยเรื่องการเมืองได้โดยไม่ต้องทะเลาะกันบนโต๊ะอาหาร
แม่ผมไม่เคยพูดว่าสมน้ำหน้าเมื่อเห็นข่าวเสื้อแดงตาย ทั้งๆที่แม่ผมเสื้อเหลือง
พ่อผมรู้สึกสลดเมื่อเห็นภาพทหารแขนขาด สงสารครอบครัวของทหารที่ตาย ทั้งๆที่พ่อผมเสื้อแดง
พ่อผมไม่ได้เห็นด้วยไปหมดกับแกนนำ
พ่อผมด่าไอ้คนที่มันเผาทุกอย่างในวันนั้น
พ่อผมไม่เคยเอาความจงรักภักดีไปข่มใครว่ารักในหลวงแค่ไหน รูปถ่ายตอนรับพระราชทานกระเป๋าก็ยังเก็บอย่างดีในแฟ้ม ไม่เคยจะเอาออกมาแขวนเพื่ออวดใครว่าได้รับพระราชทานของจากในหลวง จะมีก็แต่รูปงานวันฉลองศิริราชสมบัติครบ60ปีสี่รูปใหญ่ๆที่ติดบนผนังในบ้านกับปฏิทินเมื่อสองปีที่แล้วที่มีรูปในหลวง แถมแผ่นปฏิทินก็ถูกฉีกออกหมดไปแล้ว
อ่านแล้วก็อยากให้ทุกคนคิดกันอ่ะครับ ว่าการที่คนเราคิดต่างกัน
อุดมณ์การณ์ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่วาเราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้
เราัทุกคนเป็นพี่น้องร่วมประเทศ มีพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน
เมื่อก่อนเราจะถามกันก็แค่ว่า คนเหนือเหรอ คนใต้เหรอ คนอีสานเหรอ คนกรุงเทพเหรอ แล้วก็ไม่มีอะไร
แต่ทำไมตอนนี้ เื้สื้อแดงเหรอ อี๋ไอ้เผาเมือง เสื้อเหลืองเหรอ ว้ายไอ้ปิดสนามบิน
แ้ล้วก็ยกมาเถียงกัน ด่ากันทั้งๆที่ไอ้คนที่ถูกถามเค้าอาจจะนอนเกาไข่อยู่ที่บ้านไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรด้วยในการเผา ในการปิด
แต่แค่เค้าชอบสีนั้นเฉยๆ
เคยคิดถึงกันมั้ยครับ สิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ การเกิด แก่ เจ็บตาย
คิดมั้ยครับว่าถ้าวันนึงพระองค์ท่านไม่อยู่แล้ว พวกเราจะเป็นยังไง
ถ้าวันนึงพวกเราไม่มีศูนย์รวมจิตใจให้ยึดเหนี่ยวร่วมกันไม่ว่าสีไหนก็ตาม
ประเทศนี้จะเดินไปทางไหนถ้าเรายังเกลียดกันแบ่งสีกัน ทั้งๆที่มันเป็นแค่อุดมการณ์ที่ขัดแย้ง
ถ้าจะเกลียด หรือหาใครมารองรับความเกลียดกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของทั้งสองฝ่าย
ก็ขอให้ไปเกลียดแกนนำเกลียดคนที่เป็นผู้ลงมือกระทำเองแทนได้มั้ยครับ อย่าได้มาเกลียดคนข้างบ้านคุณ คนที่ทำงานคุณ หรือคนใกล้ตัวคุณ หรือคนที่คุณไม่รู้จักเพียงเพราะเค้าสีเสื้อไม่เหมือนคุณ
อยากให้ทุกคนอ่านจบแล้วได้อะไรจากข้อความที่ผมต้องการจะสื่อสักนิดก็ยังดี
ขอบคุณครับ
จากคุณ |
:
ผัดกระเพราปาท่องโก๋ใส่น้ำแข็ง
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ค. 53 09:07:26
|
|
|
|