ปัญหาที่แก้ไม่ตก ทำไมครอบครัวที่เมืองไทยยังคงรังแกฉัน
|
|
สวัสดี เพื่อนๆชาวพันทิพย์ อิ่มเป็นคนที่แบกโลกทั้งใบในครอบครัวมายี่สิบเต็มและไม่คิดจะแบกมันต่อไปอีกแล้ว เครียด เรื่องมันมีอยู่ว่าอิ่มเกิดในครอบครัวชาวนา มีพี่น้องสี่คนมีพ่อก็เหมือนไม่มีเพราะพ่อเดินทางไปทำงานที่จังหวัดทางใต้ บ้าง กทมบ้าง ปทั้งปี กลับมาเยี่ยมครอบครัวทีก็ สองสามวัน แล้วก็รีบกลับ อิ่มไม่มีความรู้สึกว่าพ่อห่วงหาอาทรพวกเราสักเท่าไหร่ชีวิตจึงเห็นแต่แม่ที่ลำบากตราตรำทำนาเลี้ยงพวกเราทั้งสี่คนให้เติบโตแบบล้มลุกคลุกคลาน ช่วงวัยรุ่นพี่ชายคนโตก็เข้าไปเรียน และอาศัยอยู่กับญาติในตัวจังหวัด พอพี่ชายอายุได้ สิบเก้า ก็มีเมียมีลูกซะแล้ว ความหวังว่าจะมีพี่ชายมาคอยช่วยเหลือก็หมดไป( ช่วงนั้นอิ่มอายุ สิบห้า)ทนเรียนไปแบบสงสารแม่วิ่งยืมเงินเพื่อนบ้านทุกอาทิตย์เพื่อให้พวกเราสามคนพี่น้องได้ไปโรงเรียน สงสารแม่จับใจแต่ก็แค่เก็บไว้ในอกว่าสักวันเราจะไม่ให้แม่ลำบาก ฟ้าลิขิตเรียนอยู่ มอหก มีผู้ให้การศึกษามารักชอบเรียนจบก็เลยตกลงอยู่กินให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่หนึ่งปีผ่านไป พบว่าผู้ชายคนนี้เป็นพวกรักเด็กที่เขาเรียกว่า พีโดฟิลด์ ก็เก็บไว้ในใจจนทนไม่หวเลยบอกแม่ แม่ก็อีกแหละกลัวเสียหน้าคนบ้านนอกน่ะนะ ไม่อยากให้เลิกราหย่าร้างเพราะอิ่มอายุ ตอนนั้น ยี่สิบเอง จึงทนแต่ขอไปทำงาน กทม มันทนรับสภาพไม่ได้จริง เราเป็นคนเดินทางตลอด หากนับครั้งได้ ห้าปีเนี่ยเขามาเยี่ยมเราที่กทม ไม่เกินห้าครั้ง ปิดเทอมทุกเทอม เขาจะไม่มีเวลามาเยี่ยมเราที่ กทม นะ เหตุผลคือต้องพานักเรียนเด็กสาวน้อยในโอวาสวัยกระเตาะ สิบสามขวบ ไปเดินห้าง อีกจังหวัดหนึ่ง เขาบอกว่าสงสารเด็ก ยากจน ไม่มีปัญญาเข้าห้างมีแอร์เย็นๆ กินอาหารดีๆ พอแม่เราเตือนว่ามันดูไม่เหมาะสมเขาก็แย้งว่า เอาน่าเสียเงินเลี้ยงเด็กยากจน กู้เงินฉุกเฉินมาทุกเดือนมาเลี้ยงเด็กก็ไม่ถึงล้านหรอก ถ้าทะเลาะเราก็ร้องให้เขาก็ไม่แยแส กินยาให้ตายก็ไม่ตาย แถมโดนเขาด่าว่าหึงไม่เข้าเรือง( โอ้มันช่างคิดได้) ตอนนั้นโง่แบบบ้านนอกน่ะค่ะ จากคนอวบๆ น่ะกลายเป็นผอมโกรกตาโหล มันกินไม่ได้นอนไม่หลับ ตัวเขาไม่ดื่ม ไม่สูบ เนื้อสัตว์ไม่กินกินแต่ผักปลา ภาพลักษณ์เลยดูดี แถมเอื้ออารีย์ต่อเด็กกำลังจะโต อายุ สิบสามย้ำว่า สิบสามเท่านั้น เลยนั้นไปก็ปล่อยไปไม่แยแส เขาทำแบบนี้อยู่ห้าปีในขณะที่อิ่มก็ต้องทนเพื่อความสบายใจและรักษาหน้าตาของแม่ และไม่อยากให้แม่ทุกข์ใจถ้าลูกสาวหย่าร้างตั้งแต่ยังสาว ทนต่อจนอายุ ยี่สิบสี่ จึงตัดสินใจบอกแม่ว่าไม่ทนต่อไปละจะหย่าแม่คงเห็นว่าเราพยามถึงที่สุดแล้ว และได้หย่าโดยดี หลังหย่าก็อิสระเริ่มตั้งตาทำงานเก็บเงินส่งแม่และส่งตัวเองเรียนไปด้วย และช่วยส่งน้องๆ อีกสองคนให้ได้รับการศึกษาจบมอหก และในขณะนั้นพี่ชายคนโตก็เลิกรากับเมียเก่แล้วมีคนใหม่และมีลูกน้อยคนนึงแล้วมาขับแท๊กซี่แต่ขับยังไงก็ยังมารบกวนเราเสมอเราเรียนอยู่นี่นะเขาขับแท๊กซี่มาขอตังค์ที่มหาลัย ช่างน่าชื่นชมจริงๆ เจ็ดพันบาทบอกว่าไม่มีเงินส่งค่างวดเพราะแม่ยายมากทม พาตระเวนไปธุระจนไม่มีเวาหาเงิน อ้าว เราก็ให้ ขณะนั้นเราทำงานเฝ้าไข้กลางคืนและเรียนกลางวันในสายสุขภาพรายได้เอกชนถือว่าดีพอสมควร เราไม่เคยได้เที่ยวเพราะงกเงินงกงาน ทุกเดือนเวลาไปเยี่ยมพี่ช่าย พี่สะไภ้และหลานเราก็หยิบยื่นเงินให้เสมอ มีอยู่ครั้งนึงเราไมมีตังค์ให้พี่สะไภ้ไว้ซื้อขนมหลาน ห้าร้อยเจ๊แกก็ทันทีเลย โยนแบ๊งค็ห้าร้อยลงโตะแบบเอ้อ เงินน้อยนิดอ่ะ พี่สะไภ้เป็นคนที่ขอเงืนแบบไม่เกรงใจ และไม่ยอมทำงานการอะไร วันๆ กิน ๆนอน ๆนิสัยพอกันกับพี่ชายเราคือปากกล้า กล้าทะเลาะ เป็นเรื่องปกติ เขาสองคนจึงสมกันดี พี่ชายเราตอนอายุยี่สิบนั้นหน้าดีหล่อเหลาเอาการคล้ายจอนนี่ แอนโฟเน่ ขนาดคนในค่ายหนังค่ายนึงล์เคยติดต่อไปเทสหน้ากล้องน่ะ แต่น่ะคนมันไม่มีวาสนา ก็อ้างโน่นี่ไม่ยอมไป เลยชวดโอกาสงามๆไนชีวิตไป เดี๋ยวไปทำอาหารให้พ่อบ้านก่อนเดี๋ยวมาต่อค่ะ
จากคุณ |
:
คุณนายไคเลย์
|
เขียนเมื่อ |
:
30 พ.ค. 53 21:20:25
|
|
|
|