 |
ความคิดเห็นที่ 69 |
Q: ฉันคิดว่า คุณจะแร๊พแตกต่างไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญ เสียงของคุณก็เปลี่ยนไปมากด้วยเมื่อเทียบเพลงที่คุณร้องที่เกาหลีกับเพลงที่คุณร้องที่ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับทำนองที่เปลี่ยนไปด้วย เพลงที่คุณเพิ่งปล่อยออกมาที่ญี่ปุ่นอย่างเพลง tell me goodbye ก็ทิ้งอารมณ์บางอย่างเอาไว้อย่างลึกซึ้ง ท่อนแร๊พที่มีจังหวะมากขึ้นให้เข้ากับรสนิยมในการฟังเพลงของชาวญี่ปุ่น และคุณก็ร้องไห้ด้วยในการถ่าย MV ในตอนที่ร้องแร๊พ ดูเหมือนท็อปที่เป็นนักแสดงกับท็อปที่ญี่ปุ่นถูกเพิ่มเข้ามาในตัวตนที่แท้จริงของคุณ นะ
T.O.P: ผมควรที่จะแค่ ร้องลิปซิงค์เองครับในตอนนั้น ไม่ใช่ใส่การแสดงลงไป แต่เป็นเพราะผมไม่สามารถปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาจากบท oh jang bom จากเรื่อง into the fire ได้ เพราะมันเพิ่งผ่านมาได้ไม่ถึงอาทิตย์เลยที่ผมออกจากองถ่ายมา ผมก็แค่ร้องไห้ออกมาฮะ ซึ่งผมยังไม่รู้เลยว่าบทที่ผมควรจะเล่นใน MV คือ ยังไง และนั่นเป็นสาเหตุที่ผู้กำกับ MV มาถามผมว่า ร้องไห้ทำไม?? (หัวเราะ)
Q: ดูเหมือนว่าการแสดงของคุณจะส่งผลกระทบต่อเรื่องดนตรี และดนตรีก็ส่งผลต่อการแสดงของคุณเช่นเดียวกัน T.O.P: ผมก้อคิดแบบนั้นแหละครับ ผมคิดว่าผมใช้ทั้งความเป็นนักร้องแร๊พกับนักแสดง ในการที่จะพยายามเรียนรู้ในเรื่องของการแสดง ผมทุ่มเทพยายามอย่างมากที่จะหาสไตล์ที่เป็นของตัวเอง และพยายามที่จะไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ผมคิดว่าผมกำลังเรียนรู้ในสิ่งที่มีผมเท่านั้นที่จะทำได้ มากกว่าทำในสิ่งที่คนอื่นก็รู้วิธีที่จะทำมันออกมาด้วยเช่นกัน
Q: การแรพของคุณสะท้อนความคิดในปัจจุบันของคุณรึเปล่า? ตอนที่คุณแสดงกับ Kim Hyun-Joong ใน MBC<대학가요제> เนื้อเพลงที่ว่า: "the given homework, is a subject called Time, you can,t lose your focus for a moment, it,s arrogant. Scarlet youth is braver than anything, Originality is the flower, renovation is the weed" ดูเหมือนแต่งจากตัวเองเลยนะ T.O.P: ในฐานะ rapper ผมรู้สึกว่าแม้ว่าในการแสดง มันก็มีบางความหมายที่สัมพันธ์กับสิ่งที่ผมไม่อยากจะทำ ในฐานะ rapper หรือนักแสดง ผมอยากเป็นคนส่งสารให้คนดู ไม่ว่าจะแรพหรือแสดง "Originality is the flower, renovation is the weed" ผมรู้สึกแบบนั้น ผมสามารถแสดงได้เพราะผมเคยมีช่วงเหงาๆตอนเด็กๆ ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ทำให้ผมแยกตัวออกมา เพียงแต่ผมสับสนในความคิด ไม่รู้จะเดินไปทางไหน พอเห็น Oh Jang-bum แล้ว ผมนึกถึงวันเก่าๆเลย ผมว่านั่นทำให้ผมรู้ว่าผมสามารถแสดงในบทนี้ได้
(คำถามนี้ทาง BBupdate จะเป็นข้อนี้ค่ะ )
Q:นั่นมันฟังดูเหมือนกับความคิดที่คุณมีณจุดจุดนึงที่จะเป็นแผนการในการร้องแร๊พของคุณมากกว่านะ ? T.O.P: ผมเป็นแร๊พเปอร์ครับดังนั้นผมไม่ต้องการที่จะทำอะไรออกไปแบบไร้ความหมาย แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องของการแสดงด้วยก้อตาม ผมต้องการที่จะเป็นคนที่ส่งข้อความอะไรบางอย่าง และนั่นเป็นเหตุผลที่ผมรับแสดงใน into the fire ด้วย ผมใช้ชีวิตในวัยเด็กแบบเหงาๆไม่ใช่เป็นเพราะสถานการณ์ที่ผมต้องเผชิญ แต่เป็นเพราะตัวผมเองที่มีความคิดซับซ้อน ผมก็รู้สึกว่าตัวเองหลงทางไปพักนึงเช่นกัน oh jang bom จากในเรื่อง into the fire ทำให้ผมย้อนกลับนึกถึงชีวิตวัยเด๊กของผม และผมคิดว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้ผมรับเล่นบทนี้ได้
Q: คุณแสดงความรู้สึกภายในจริงๆของคุณเวลาแต่งเพลง ในเพลง "Hallelujah" แม้ว่ามันแต่งขึ้นจากเนื้อเรื่องในหนัง มันสะท้อนถึงจิตใจของทหาร มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปในสนามรบ ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ที่ได้รับคำสั่งมา กลอนบทนี้ซึ้งมากเลย T.O.P: ตอนแรกมีเพลงที่ผมจะต้องร้องคนเดียว แต่ว่า..มันยากไปหน่อย (หัวเราะ) และท่านประธาน(YG) ก็บอกว่าพวกเราต้องทำให้มันง่ายขึ้น ก็เลยกลายมาเป็น "Hallelujah" นี่แหละครับ
จากคุณ |
:
koy_onair
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มิ.ย. 53 10:48:56
|
|
|
|
 |