 |
<<<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... The A-team - มันโคตรจะเว่อร์ เว่อร์โคตรจะมันส์ >>>>>
|
|
| | | | | | | | | ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน) |
|
| |
| | | | | ชอบมาก ห้ามพลาด (56 คน) | | | | ชอบ (12 คน) | | | | เฉยๆ (3 คน) | | | | ไม่ชอบ (0 คน) | | | | ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (0 คน) | | | จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 71 คน |
... เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + แสดงความเห็นเพิ่มเติม เก็บไว้ได้ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=21-06-2010&group=14&gblog=218
...นั่งดูตารางหนังทำเงินของฮอลลีวู๊ดช่วงซัมเมอรนี้ ทำให้ผมต้องมานั่งคลำ ต่อมรสนิยมมวลชน ของตัวเอง ว่ามีปัญหาหรือไม่ ถึงรู้สึกผิดแผกกับคนส่วนใหญ่อีกฝั่งโลก เพราะ หนังสองเรื่องประจำซัมเมอร์นี้ที่ผมคิดว่า สนุกในระดับ 'สนุกมาก' กลับทำรายได้แบบไม่เปรี้ยงปร้าง จนแทบจะหมดหวังสร้างภาคสองทั้งที่ตัวหนังเตรียมตัวพร้อมสำหรับภาคต่อเสียดิบดี เรื่องแรกคือ Kick Ass และเรื่องที่สองคือ The A-team
ในทาง หนังแอคชั่นเน้นเอามันส์ ให้ความสำคัญกับการระเบิดภูเขาเผารถสปอร์ต ผมคิดว่า The A-team ทำหน้าที่ของตัวเองได้อยู่ในระดับ ดีมาก
รู้สึกพึงพอใจประมาณเดียวกับดูหนังไมเคิล เบย์ ยุค bad boys หรือ the rock คือ เป็นหนังฟอร์มยักษ์ทุนหนา ตูมตามโครมคราม แต่คนทำมีฝีมือที่ ไม่ได้ขายความหนวกหูจากเสียงปืนกับระเบิดอย่างเดียว (เหมือน หนังของ เบย์ เองบางเรื่องในยุคหลังๆ)
พล็อตเรื่องถือว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ เราเจอกันมาบ่อยแล้ว สูตรเดียวกับหนังประเภท รวมพลคนแมนๆ ผสม หนังสายลับสไตล์ Mission impossible อย่าง The Losers ที่เพิ่งฉายไป คือ กลุ่มนายทหารที่ได้ชื่อว่าเป็น ทีมสุดเจ๋ง แต่ละคนมีความสามารถเฉพาะตัว แต่กลับถูกหลอกให้ทำงานพลาด จนต้องโดนถอดยศ ติดคุก ทั้งสี่คนจึงต้องหาทางล้างมลทิน และ ออกล้างแค้นคนที่หักหลังกับป้ายสีพวกเขา
ผมไม่เคยดูต้นฉบับซีรี่ย์จึงไม่สามารถเปรียบเทียบความแตกต่าง และเมื่อไม่ได้นำมันมาเทียบกัน มองในฐานะ หนังใหม่ที่สร้างแบรนด์ A-team ขึ้นมา ผมคิดว่า หนังประสบความสำเร็จกับแบรนด์นี้พอสมควร
ในแผนกแอคชั่น- หนังประเคน ฉากแอคชั่นตูมตามเว่อร์ๆอารมณ์เดียวกับ Charlies angle เพียงแค่เปลี่ยนจาก สามสาว เป็น สี่หนุ่ม ลดความเปรี้ยวแบบสาวๆ แล้วใส่ความเข้มแบบแมนๆ
ผลลัพธ์จึงเป็นอย่างที่เห็นเช่น ฉากเครื่องบินตก แต่รอดตายเพราะ ติดชูชีพให้รถถัง เท่านั้นยังไม่พอ พวกเขาสามารถทำให้รถถังทรงตัวกลางอากาศได้พร้อมๆกับยิงเครื่องบินได้อีกต่างหาก!! หรือ ฉากเปิดเรื่องแนะนำตัวละคร ที่ถือว่ามันส์ non-stop และ ทำกระตุ้นอดรีนาลีนคนดูได้ดี
ในแผนกอารมณ์ขัน - หนังถือว่าเด็ด มุกหลายมุกยิงเข้าเป้า หยิบบุคลิกตัวละครแต่ละตัวมาเล่นมุกได้ดี (ขอแถม คนแปลซับ ที่ใช้คำได้ฮารึ่มเข้าไปได้อีก โดยเฉพาะซับ อนาถ กับ ควาย ที่ขอยกให้เป็น 'ซับ of the month' เพราะ สั้น กระชับ ตรงต้นฉบับ และ ขำได้อีก)
โดยแผนกอารมณ์ขันนี้ ต้องชื่นชม Sharlto Copley พระเอกพี่กุ้งจาก District 9 ในตอนนั้น เล่นดราม่าน่าเชื่อถือ ทำคนดูลุ้นกับซึ้ง แต่ไม่ฉายแววว่าจะปล่อยมุกฮา ไม่มีท่าทีว่าจะมาทางตลกได้ พอมาเรื่องนี้ พี่กุ้งแกทำเซอไพรส์ เพราะ ฮาเอาเรื่อง
ในแผนกบริหารสมอง แผนการแต่ละอย่างที่ใช้ นับได้ว่า สร้างความตื่นตาและตื่นเต้น อีกทั้งมี ความเท่ ผสมอยู่ คือ ไม่ใช่เป็น แผนบ้องตื้น ดูถูกสมองคนดู แต่ดูแล้วเรารู้ว่าเวอร์ แต่มันก็ เออ ช่างคิดแฮะ แถมบางแผนยังแฝงด้วยมุกตลก อย่าง แผนหนังสามมิติ นี่ ใช้ได้เลย
ในแผนกการแสดง - ทีมนักแสดงทั้ง 4 เข้าขากันดี ทุกคนมีเสน่ห์กันอย่างเท่าเทียม แม้คนที่ดังน้อยสุด อย่างคนที่รับบท B.A. Baracus ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า รัศมีของรุ่นลุงเลียม นีสัน หรือ ไม่โดนหุ่นสุดเฟิร์มกับความหล่อของ แบรดลี่ย์ คูเปอร์ มาบดบัง (ไม่ต้องพูดถึง Sharlto Copley ที่ดังเป็นอันดับ 3 แต่สามารถหาที่ทางให้ตัวเองสอดแทรกขึ้นมาทัดเทียมคนอื่น)
ซึ่งหนังที่จำเป็นต้องเล่นเป็นทีมเช่นนี้ การเลือก นักแสดงมาเข้าทีม ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางที คนนี้อยู่ในหนังเด่นกว่าคนนั้น หรือ เด่นดังกันหมดแต่เล่นไม่เข้าขา ทีมนี้ในแง่เข้าขาอาจไม่ถึงขั้น สมบูรณ์แบบ แต่ก็จัดได้ว่าดี
(เทียบกับ The Losers ที่เห็นชัดเจนว่า ความดังไม่เท่ากัน เด่นไม่เท่ากัน และ ตัวละครไม่มีเสน่ห์ ขาดพลังมากพอจะผลักหนังไปข้างหน้าได้)
แม้ทั้ง 4 คนจะได้รับการเกลี่ย ความสำคัญได้อย่างสูสี ตัวละครที่น่าสงสัยที่รับบทโดย แพทริก วิลสัน ที่ระยะหลังรับบทออกแนว นายเจี๋ยมเจี้ยม เช่นใน Watchmen , Passengers , Lakeview Terrace ก็ไม่ได้ถูกลืม หนังใส่เสน่ห์กวนๆร้ายๆให้กับเขามาแข่งกับ 4 หนุ่มได้สมน้ำสมเนื้อ
ขนาดคนที่มีบทด้อยสุดอย่าง เจสสิก้า บีล ก็ไม่ได้ถูกหนุ่มๆกลบไปเสียหมด เธอยังเอาตัวรอดจากหุ่นเฟิร์มๆ หน้าสวยๆ และ บุคลิกเด็ดเดี่ยวพร้อมลุยอย่างพอไหว
(อีกข้อสังเกตคือ จาก Taken มาเรื่องนี้ ลุงเลียม นับได้ว่า หันมาเอาดีกับ บทแอคชั่นดูท่าจะรุ่งกว่าตอนหนุ่มๆเสียอีก)
ในส่วนของคนคุมทีม - ไม่เสียแรงที่ฝากความหวังไว้กับ Joe Carnahan ผู้กำกับอีกคนที่ถนัดทำหนังแมนๆ เช่น หนังพี่น้องตำรวจ Pride and glory ที่ส่วนตัวว่าจืดและตามสูตรซ้ำซากไปหน่อย แต่ที่เคยปลื้ม คือ หนังแอคชั่นสุดแนวสุดเท่ Smokin' Aces จบเรื่องนี้ทำให้ ตั้งเป้าชัดเจนว่าจะต้องหา หนังที่สร้างชื่อให้เขาอย่าง Narc มาดูให้ได้
( โปรดอย่านับรวม Smokin' Aces ภาคสอง ที่เพิ่งออกแผ่น เพราะเขาไม่ได้กำกับ ภาคสองส่งตรงมาเป็นแผ่นทันทีไม่ได้เข้าโรง และนับได้ว่าเป็นภาคต่อที่หากินกับของเก่าได้อย่างย่ำแย่อย่างที่สุด เพราะแทบจะลอกของเดิมแต่แย่กว่าทุกอย่าง)
งานสร้างหรืองานด้านเทคนิค เรียกได้ว่า ผลาญเม็ดเงินได้สมราคา ดูแล้วรู้สึกคุ้มค่า รู้สึกว่าคนทำทุ่มเท ( อาจจะมีฉากที่ท่าเรือตอนท้ายที่ดูหลอกๆตาอยู่บ้าง แต่ก็เป็นแค่ส่วนน้อยของหนัง)
สรุป ... ไม่เหมาะสำหรับ คนขี้รำคาญหนังโครมคราม หรือ ไม่ชอบอะไรเว่อร์ๆ แต่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนชอบหนังแอคชั่นเอามันส์ ดูสนุก มีฮา มีบ้านิดๆ มีคิดตามหน่อย
ป.ล. อีกส่วนที่ชอบ คือ ดนตรีประกอบของหนังรุกเร้ากดดัน ช่วยยกระดับหลายๆฉากให้ดูมีคลาสขึ้นมาโดยอัตโนมัติ บางฉากนึกว่ามาจาก The Dark knight อย่างฉากเช็ดกระจกก่อนวินาศสันตะโร หรือ ตอนตัดสินใจว่าจะยิงไม่ยิงในที่จอดรถ
ใครเล่น FB ชวนไปอ่านไปคุยกันต่อ กับ จขกท. ได้ที่ http://www.facebook.com/IbehindYou เน้อ (กด Like หลังชื่อก็สามารถเม้นท์และอ่านบทความใหม่ๆได้แล้วจ้า)
บทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้ (บทความนี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)
Changeling + Taken , ลูกฉันอยู่ไหน ? http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=14-08-2009&group=14&gblog=173
The Losers http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=05-2010&date=26&group=14&gblog=210
Kick Ass , 5 ข้อ ที่ขอเชียร์หนังเรื่องนี้ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=18-04-2010&group=14&gblog=202
Watchmen , หนังสำหรับคนรักลีลาแบบ Lost ผสมประเด็นแบบ The Dark knight ภายใต้ภาพลักษณ์แบบ Sin city http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=10-03-2009&group=14&gblog=145
จากคุณ |
:
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มิ.ย. 53 08:58:32
|
|
|
|  |