|
|
|
|
|
|
|
|
| ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (44 คน) |
|
|
|
| |
| | | ชอบมาก ห้ามพลาด (182 คน) |
| | | ชอบ (163 คน) |
| | | เฉยๆ (111 คน) |
| | | ไม่ชอบ (22 คน) |
| | | ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (44 คน) |
| |
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 522 คน |
... เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + แสดงความเห็นเพิ่มเติม เก็บไว้ได้ที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=07-2010&date=05&group=14&gblog=224
... จากที่เคย ถอดใจกับเวอร์ชั่นหนังสือไปตั้งแต่เล่มแรก เริ่มถอดใจกับเวอร์ชั่นหนังตอน New Moon แต่ก็ยังคิดว่าจะดูต่อไป ประมาณว่า ตามกระแสหนังฟอร์มใหญ่ ไม่ดูกลัวเด๋วตกจะเทรนด์ (ไม่รู้จะกลัวไปทำไม) บวกกับ ดูมาแล้วก็ดูต่อไปเรื่อยๆ
แต่ก็เกรงว่า บทความชิ้นนี้อาจกระทบกระเทือนจิตใจ แฟนคลับทไวไลท์บางท่านเหมือนเมื่อคราวก่อนที่บล็อกนี้
2 ข้อที่ว่าด้วย 'ปรากฎการณ์ ทไวไลท์ อะไรกันนักหนา ?' + 8 ข้อที่อยากพูดถึง New Moon
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=23-11-2009&group=14&gblog=184
จึงจำเป็นต้องติดเรตล่วงหน้าว่า
11 ข้อต่อไปนี้ เรต ม.ท. ( = ไม่เหมาะสำหรับแฟนคลับทไวไลท์ที่รักเกินจะให้ใครมาแตะต้อง
)
1. ก่อนจะดูหนังก็คาดไว้ว่า ตัวเองน่าจะชอบภาคนี้มากที่สุด เพราะชื่อผู้กำกับ David Slade
ที่เคยชอบผลงานสองชิ้นก่อนเรื่อง 30 Days of Night หนังแวมไพร์เลือดสาดฉบับโหดจริงอะไรจริง นำเสนอเรื่องราวในเมืองอันหนาวเหน็บที่พระอาทิตย์ไม่ขึ้นสามสิบวัน แล้วดันทะลึ่งมีแวมไพร์มาอยู่ในเมือง กับ หนังจิตวิทยาระทึกขวัญแฝงตลกร้ายที่ดูแล้วชอบใจเรื่อง Hard Candy
เมื่อเทียบชื่อ David Slade กับรายชื่อผู้กำกับภาคอื่น ที่ภาคแรกผู้กำกับสตรีก็ออกอารมณ์ญิ๊งหญิง ภาคสองผู้กำกับก็ออกแนวหนังเด๊กเด็ก ส่วนผู้กำกับภาคสี่ Bill Condon ก็ออกแนวหนังเพลง(Dreamgirls) ก็เลยคาดว่า ภาคนี้น่าจะ แมนสุด และ น่าจะทำออกมาได้ มันส์สุด
ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง เพราะ ภาคนี้เป็นภาคที่ ผมสนุกกับ Twilight มากสุดเช่นกัน
David Slade กำกับฉากแอคชั่นออกมาได้เข้มโหดโดยที่ยังอยู่คงอยู่ในเรตหนังรักวัยรุ่น ฉากชายหนุ่มถูกทำร้ายในที่มืดตอนเปิดเรื่อง เหมือน 30 Days of Night เวอร์ชั่นซอฟต์คอร์ คือ เลือดไม่สาดแต่ก็ได้อารมณ์โหด
หาก ภาคสอง คือ ภาคที่ทำให้หนังดูเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องตามอารมณ์เบลล่า หาเหตุผลไม่ค่อยจะมี อารมณ์ชวนฝันคละคลุ้งเลื่อนลอย ภาคนี้ก็ดูมีน้ำมีเนื้อ มีเหตุมีผล มีประเด็นอะไรมากกว่า 'สองชั่วโมงของการอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน'
2. สาเหตุประการสองที่อยากดู Eclipse ล่วงหน้า คือมี Bryce Dallas Howardที่เคยหลงรักเธอมาตั้งแต่ The Village แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม งานที่เลือกหลังจากนั้น ถึงไม่เคยผลักเธอให้ดังจริงจังซักที ทั้งที่แต่ละเรื่องก็ฟอร์มยักษ์ชนิด Spider-Man 3 หรือ Terminator Salvation
แต่ พอได้ดูก็พบว่า การมาเล่นเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งการตัดสินใจที่คิดผิด เพราะความสามารถของเธอก็ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์มากนัก คงไม่ได้ช่วยให้ กลับมาอยู่แถวหน้า แถม จะมีเสน่ห์มากก็คงไม่ได้ ในเมื่อนี่มันหนังของ เราสามคน
Bryce Dallas Howard จึงเป็นได้แค่ส่วนเกินดูดี ที่ช่วยให้หนังมีประเด็นเพิ่มเติมขึ้นบ้าง
(อย่างน้อยก็ยังดีกว่า แม่ของน้องหล้า ออกมาแทบจะเป็นติ่งชนิดที่ตัดทิ้ง คนดู ก็ไม่รู้สึกอะไร)
3. เมื่อเทียบกับบรรดาเราสามคน ในขณะที่สองหนุ่ม ดูมีแววพัฒนาฝีมือการแสดงมากขึ้น Taylor Lautnerดูไม่ทื่อมากๆเหมือนภาคแรก ส่วน Robert Pattinsonก็ดูไปได้ไกลกว่าเพื่อนจากบทวัยรุ่นมีปัญหาในหนัง Remember Me
แต่ Kristen Stewart กลับดูไม่เห็นแววเลยว่า ถ้าพ้นบท เบลล่าเธอจะเล่นบทอื่นสไตล์อื่นได้อีกหรือไม่ เพราะ ดูจากสามภาคที่ผ่านมา แล้วไปลองเทียบกับหนังเรื่องก่อนๆที่เธอเล่น เวลาดูแยกเป็นเรื่องๆไม่ใช่ว่าเล่นแย่ แต่ พอดูไล่มาเรื่อยๆ ก็ไม่เห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปซักเท่าไหร่เช่นกัน เทคนิกทางการแสดงเธอคล้ายๆกันทุกเรื่องไปเสียหมด แถมบทหลายๆเรื่องที่รับเล่นยังมีบุคลิกคล้ายกันอีกต่างหาก
คลิปนี้ดูจะจงใจไปหน่อย แต่ก็จริงนะ นอกจากส่วนใหญ่จะตีสีหน้าท้องผูก แอคติ้งของน้องก็ถอดกันมารูปแบบเดียวกันหมดเลย
http://www.youtube.com/watch?v=uAPDS1RCVQU
4. เนื่องด้วยตัวเองเคยเลี่ยน บรึ๋ยๆ กับ New Moon มาจนสามารถสร้างภูมิกับฉากน้ำเน่าจึ๋ยๆทั้งหลายแหล่ พอมาภาคนี้ก็ต้องยอมรับว่า คนเขียน เก่งจริง(ชมจริงมิได้ประชด) ในการสร้างฉากเซอร์วิส ที่เรียกอารมณ์น้ำเน่า คือ คนอินก็จะวี๊ๆๆๆๆๆๆ
ส่วน คนหมั่นไส้ก็จะ อี๊ๆๆๆๆๆๆ
แบบไม่มีกั๊ก
ที่ชมว่าเก่งจริง คือ สามารถเขียนบท โดยที่ แต่ละสถานการณ์มีเหตุผลมารองรับ
เช่น ถึงหนุ่มๆจะฮื้อเฮ้อ
กับ ภาวะซิกส์แพ็คท่วมจอใน New Moon เพียงใด ก็ต้องยอมรับว่า การตั้งเงื่อนไขความร้อนในตัวหมาป่า ที่นำไปสู่เหตุผลในการโชว์ซิกส์แพ็กก็ดูมีเหตุมีผลอยู่
หรือ มาภาคนี้ พอเห็น แผนการในการกลบกลิ่น เบลล่า ก็ต้องชมอีกครั้งว่า แหม่ สะเด็ดจริง แค่แผนสู้กับเหล่าร้าย ยังหาทางใส่ฉากเซอร์วิส โชว์ซิกส์แพ็ก กอดสาวแนบเนื้อ สร้างความตาร้อนให้อีกฝ่ายไปพร้อมๆกัน แบบ มีเหตุมีผลได้ด้วย
และที่ สะมานาโฮ่ โซเดมาคอมสุดๆ คือ ฉากในเต๊นท์กลางขุนเขาที่นอกจากจะเข้าใจสร้างฉากอารมณ์ วี๊ๆๆๆๆ ด้วยเงื่อนไข หนาวเนื้อห่มเนื้อให้หายหนาว คนเขียน เข้าใจหาเรื่องให้พายุเข้าแล้วไม่มีผ้าห่มแถมบังเอิ๊ญแวมไพร์ก็ตัวเย็นส่วนหมาป่าก็ตัวอุ่น
ในส่วนเคมีของ เอ็ดเวิร์ด กับ จาค๊อบ ในเต๊นท์ ก็ให้กลิ่นอายอารมณ์ Brokeback ดีแท้ ชนิดที่ตอนเอ๊ดเวิร์ดพูดว่า นี่ถ้าเราไม่มาขัดแย้งกับเรื่องเบลล่า ชั้นว่า นายกับชั้นก็น่าจะ ... "ไม่อยากจะคิดต่อ แต่ มัน กึ๋ยๆ ดีนะ ดูจะเข้าท่าอยู่เหมือนกัน ถ้าตัดเบลล่าทิ้งให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
5. สำหรับเธอ น้องหล้า ถ้าเธอจะเกลียดใครซักคน จงเกลียดคนเขียนบท ที่สร้างให้เธอเป็นนางเอกนิยาย/หนัง ที่หาคนดูรักได้น้อยกว่าค่าเฉลี่ยนางเอกหนังทั่วไป เพราะ สาวๆก็คงหมั่นไส้อิจฉา ส่วน หนุ่มๆคนดูก็ดูจะ อะไรว้า หรือบ้างก็ รำคาญ กับเธอ
ฉายา วันทอง ที่มีคนตั้งไว้ ดูจะใจร้ายกับเธอมากไป เพราะ พรหล้า ยังไม่ถึงขนาดสองใจ แต่ ก็เหมือนวัยรุ่นเริ่มรักที่ยังไม่รู้จักหัวใจตัวเองชัดเจน แถมก็ดั๊น มีสองหนุ่มที่พร้อมจะปกป้องเธอพร้อมกันชนิดเลือกยากเพราะ ดีก็ดีทั้งคู่ แถม คนหนึ่งก็ฟิตเฟิร์มเกินมนุษย์มนา อีกคน ก็แนวผู้ดีเก่าเศรษฐีมีชาติตระกูล
การไหวไปเอนมายังพอเข้าใจได้ จะหลงรักสองคน ก็พอให้อภัย เพราะบางครั้งหัวใจมันก็เข้าใจยาก อาจมีเผลอมีพลั้งรู้สึกไป แต่ปัญหาที่คนเขาหมั่นไส้ทั่วบ้านทั่วเมือง คือ ถ้าเธอจะรู้จักรักษาน้ำใจคนที่เธอรัก(แฟน , เพื่อน , พ่อ)กันบ้างก็ดี
ตัวอย่างจาก พฤติกรรมต่อไปนี้ ที่ คนเขียนบทและคนเขียนนิยาย ช่างปั้น พรหล้า ให้เป็น นางเอกในหนังที่ชวนให้โดนด่า และ ส่งเธอให้เป็นตัวแทนไว้สอนเยาวชนรุ่นใหม่ สำหรับ ตัวอย่างของคนที่ไม่ค่อยคิดรักษาน้ำใจคนอื่น ไม่ว่าจะ หมายเลข 1 หรือ 2 ที่ต่างก็รักเธอ แต่พอ...
ทะเลาะกับ หมายเลข 1 สะบัดก้นไปซ้อนท้าย หมายเลข 2 ต่อหน้าต่อตา , , จูบ หมายเลข 1 ทำหวาน ต่อหน้า หมายเลข 2 , เจอหมายเลข 2 กอดแนบแน่นต่อหน้า หมายเลข 1, ไม่ใส่แหวนหมายเลข 1 แต่ทะลึ่งไปใส่สร้อยหมายเลข 2
ไม่ถูกเสือกไสไล่ส่งในหนัง หรือ ถูกเปลือกทุเรียนฟาดก็โชคดีแค่ไหนแล้ว
6. ในด้านหนึ่งถ้ามองอย่างเข้าใจ พฤติกรรมของน้องหล้า ก็ทำให้เราเห็นและเข้าใจ ธรรมชาติวัยรุ่น ได้มากขึ้น เพราะ ในอดีตเราทุกคนก็ย่อมมีจุดหนึ่งที่ ทำอะไรด้วยอารมณ์ ความรัก ความชอบ ความหลง ทุ่มให้กับ คน หรือ เรื่องใดเรื่องหนึ่ง มากเสียจนไม่ได้มองเหตุผลที่คนรอบข้างพยายามเตือน
ฉากที่ดีมากฉากหนึ่งในหนังคือ ฉากที่ Rosalie เผยความในใจของเธอออกมา เล่าถึง ทางเลือกในชีวิตคน ข้อคิดเธอสามารถให้สติเตือนวัยรุ่นให้รู้ว่า แม้เธอจะไม่มีโอกาสสร้างทางเลือกให้กับตัวเองในวัยรุ่นเพราะถูกคนอื่นบีบบังคับให้เป็นในสิ่งที่เธอไม่ได้ต้องการ แต่ อย่าง เบลล่าหรือวัยรุ่นอีกจำนวนมาก ยังมีทางเลือกในมือที่จะตัดสินใจว่าจะโตไปเป็นผู้ใหญ่หรือใช้ชีวิตอย่างไร
ถ้ารีบใช้อารมณ์นำหน้า เราอาจเห็น ทางเลือก ในชีวิตอยู่ทางเดียวซึ่งเมื่อล้มเหลวก็มักจะมาโกรธหรือโทษตัวเองในภายหลัง แต่ การใช้ เหตุผล มาประกอบ อารมณ์ ในการเลือก จะช่วยให้เราพบ ทางเลือกมากขึ้น และช่วยให้พบ ทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
(เสียดาย อุทธาหรณ์ของ Rosalie ก็เป็นแค่ลมปากที่พัดเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา น้องหล้า)
7. แต่ถึงคนดูจะ อะไรว้า กับเบลล่า ซักเพียงใด
คำพูดของเธอในฉากปิดท้ายก็เป็นอีกหนึ่งประโยคที่ดีที่ผมชอบ และคิดว่าคนเขียนบท ลดความตื้นเขินของเบลล่าลงได้ ทำให้เธอดูดีมีความคิด ที่ว่า การตัดสินใจเลือกของเธอไม่ใช่เลือกใครคนใดคนหนึ่งดีกว่าใคร แต่คือ การเลือกระหว่างตัวตนในอดีตกับปัจจุบัน
ความจริงแล้ว จุดอ่อนเดียวในการสร้างคาแรคเตอร์ เบลล่า คือ บทหนังไม่ทำให้เห็นว่า ชีวิตเธอก่อนเจอเอ๊ดเวิร์ด มันทรมานพิกลพิการแค่ไหน ถึงทุ่มชีวิตชนิดทิ้งทุกอย่างให้ผู้ชายคนนี้
เพราะแค่ที่ว่า พ่อแม่แยกทางกัน มันก็เหมือนรูปแบบชีวิตของคนอีกจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่ได้ออกมา ติดหนุ่ม มากเช่นเธอ
การขาดความลึกในบทนี้เป็นจุดอ่อนเล็กๆที่มีผลมหาศาล เพราะทำให้ ตัวละครตัวนี้ ดูตื้นเขินติดผู้ชายหรือลดความอยากเอาใจช่วยไปเยอะ
8. ทัศนคติ เลิฟเลิฟ ในหนังเรื่องนี้แหล่มมาก มันช่าง ไม่ไหวจะเคลียร์ อ่อนเพลียเกินกว่าจะตามทัน
เช่น
ตะขบ
ยอมทุกอย่างอ้อนวอนให้ พรหล้า หันมารักหนุ่มชนบทอย่างเขา ตื๊อจะเอาทั้งที่สาวก็มีแฟนแล้ว ถึงขนาดบอกว่า เธอรักฉันกับรักเขาพร้อมกันสองคนก็ได้หนิ (สงสารตะขบมาก อยากไปตบไหล่แล้วบอกว่า ขนาดพ่อ หล้ามันยังไม่เลือกเล้ยยย แล้วจะนับประสาอะไรกับเอ็ง)
พรหล้า
สาวรุ่นใหม่ ที่ เรื่องแต่ง(งาน)เรื่องเล็ก เรื่อง xxx เรื่องใหญ่ แหล่มมากเพิ่งเห็นหนังฝรั่งที่ วัยรุ่นชายบอกไม่เอ๊าไม่เอา ขอแต่งก่อนโซเดมาคม แต่ วัยรุ่นสาวบอกว่า ฉันไม่อยากแต่งแต่ฉันขอโซเดมาคม
( แถมการตัดต่อ ก็ส่งเสริมความน่าหมั่นไส้ให้น้องหล้ามาก อยู่บ้านประกาศชัดเรื่อง virgin ให้พ่อสบายใจหมาดๆ ตัดฉับ ฉากถัดมาก็ขอบอกลาสถานภาพนี้ทันที)
(อ่านต่อที่ ความเห็น 1)
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 53 15:12:42
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 53 13:14:54
แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 53 11:41:27