 |
<<< ดูแล้วมาคุยกัน ... Inception , โลกลวงที่งดงาม หรือ ความจริงที่เจ็บปวด (ฉบับ ฝันชั้นสอง ) >>>
|
|
| | | | | | | | | ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (8 คน) |
|
| |
| | | | | ชอบมาก ห้ามพลาด (588 คน) | | | | ชอบ (158 คน) | | | | เฉยๆ (38 คน) | | | | ไม่ชอบ (7 คน) | | | | ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (8 คน) | | | จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 799 คน |
บทความ Inception - โลกลวงที่งดงาม หรือ ความจริงที่เจ็บปวดของ จขกท. แบ่งเป็น 3 ตอน 
โดย แบ่งลงใน
facebook (ฝันชั้นแรก),
Blog / กระทู้ (ฝันชั้นสอง)
และ นิตยสาร Filmax ฉบับเดือนสิงหาคม (ชั้น Limbo)
ทั้งสามตอน มีเนื้อหาไม่ซ้ำกัน แต่เป็นความต่อเนื่อง ที่เลือก สื่อตีพิมพ์ ตามความเหมาะสมของเนื้อหา และ เพื่อเติมเต็มบทความให้สมบูรณ์ครบถ้วน
เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + แสดงความเห็นเพิ่มเติม เก็บไว้ได้ที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=07-2010&date=20&group=14&gblog=227
... ผมเชื่อว่าว่า ถ้ามีผู้กำกับเดินดุ่มๆไป เล่าเรื่องย่อหนัง พร้อมขายไอเดียให้นายทุนฟัง เกี่ยวกับ เหล่านักล่าฝัน เข้าไปจารกรรมความลับและเปลี่ยนความคิดในความฝันคน พวกเขาฝันครั้งแล้วครั้งเล่าจนฝันโคตรโคตร โดยมีไคลแมกซ์อยู่ตรงเมียพระเอกถือมีดรอ
เชื่อเถอะว่า นายทุนไม่มีทางควักตังค์ให้มาผลาญมหาศาลปานนี้แน่ ถ้าไม่ใช่ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่มีเครดิตในฐานะผู้กำกับที่คุมสเกลหนังฟอร์มยักษ์ออกมาดี พร้อมๆกับที่ สามารถเอาใจนักวิจารณ์กับคอหนังช่างคิด ด้วยบทหนังฉลาดๆ และประสบความสำเร็จได้ตามเม็ดเงินเทียบจากผลงานที่ผ่านมา
ผลที่ออกมาจึงกลายเป็น Inception หนังที่ผมอยากเขียนถึง 9 ประการดังนี้
1. นวัตกรรมใหม่สำหรับคนช่างคิด : โนแลน สร้าง Inception ให้เป็นมากกว่า หนังที่สร้างความบันเทิง แต่ สร้างประสบการณ์ใหม่ๆในการดูหนัง เหมือนที่ เจมส์ คาเมรอน ทำกับ Avatarโดยใช้ การรับรู้ของคนดูเป็นตัวหลัก (ระบบสามมิติสุดล้ำ)
หรือ อภิชาติพงศ์ ทำกับ ลุงบุญมีฯ ที่ฉีกกฎรูปแบบการเล่าเรื่องแล้วทิ้งช่องว่างให้สมองคนดูต่อเติมรายละเอียดในช่องว่างที่วางไว้ และ
Inception ก็เหมือน puzzle ที่ระดับหนึ่งให้ความบันเทิงคือ ต่อให้คุณดูไม่รู้เรื่องทั้งหมด คุณก็ยังสนุก
ต่อให้คุณดูรู้เรื่องระดับหนึ่ง คือ เข้าใจเนื้อหาคร่าวๆว่ามีที่มาที่ไปยังไง แล้วไม่อยากคิดต่อ คุณก็ยังดูสนุก
และ ถ้าคุณเป็นคนช่างคิด กลับมาคิดต่อในแต่ละจุด ว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร, มันมีความหมายอย่างไร คุณก็จะยิ่งสนุก
ความสนุกคิดในหนังของโนแลน อาจจะต่างจากหนังอย่างเจ้ยหรือเป็นเอกหรือหนังอาร์ตจ๋าๆส่วนใหญ่ ที่ ทิ้งช่องว่างมากมายให้ จินตนาการคนดูเติมเต็ม
แต่ใน Inception โนแลน โยนข้อมูลมหาศาลให้คนดู ให้ค่อยๆนั่งเรียบเรียง แล้วถึงจะเรียบเรียงเสร็จ ก็ยังไม่สมบูรณ์ เรายังต้องเติมเต็มเรื่องราวด้วยจิตใต้สำนึกของเราอีกครั้ง เป็นเหมือน แบบฝึกหัด หรือ ของเล่นลับสมอง ที่สนุกสนานมากมาย
2. นอกจาก Inception จะมีความเชื่อมโยงกับหนังเก่าๆของโนแลนหลายประการ เช่น ตัวละคร , ธีมของการทำผิดและการไถ่บาป ฯลฯ เรื่องนี้ยังมีจุดแตกต่างที่เพิ่งพบเห็นนั่นคือ อารมณ์ขัน ซึ่งแทบจะไม่เคยพบเลยในหนังของโนแลนที่เต็มไปด้วยความเครียด เช่น มุกฮาๆจาก อีมส์, ความน่ารักเล็กๆของ ไซโตะ หรือ มุกขโมยจูบ วี๊ดวิ้ว ระหว่างปฎิบัติงาน
3. พูดถึงตัวละคร : ตัวละครที่น่าสงสารที่สุด - ฟิชเชอร์ =ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องไปยุบความภูมิใจ ของพ่อทิ้งซะงั้น แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่แลกมาด้วย ความรู้สึกดีกับพ่อ ที่ถูกกลุ่มพระเอก inception เข้าไป,
ตัวละครที่อยู่ดีไม่ว่าดี เคน The tourist = เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ถึงจะรวยล้นฟ้า ถ้าไม่รู้อะไรจริง อย่าริทะลึ่งเอาชีวิตไปเล่นหรือข้องเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่มีประสบการณ์
ตัวละครสุดเจ็บ - ลีโอ = เล่นหนัง 3 เรื่อง เมีย(ในหนัง)ป่วยจิต สามเรื่องติดเลย , แอเรียดเน่ = ตัวละครน่าชื่นชม มีสติ , มีปัญญา ช่วยแก้ปัญหาได้ทุกสถานการณ์, Marion Cotillard เล่นดีเหลือเกิน
และสามารถสรุปได้ว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน นอกจากตัวเองจะมาดเท่เอง เขายังทำให้ ตัวละครในหนังของเขา มี ความเท่ ทุกอณูขุมขนมาติดๆกันสามเรื่องติด
4. เสียงที่ได้ยิน : เสียงหวูดหลอกหลอนใน The dark knight ทำให้เห็นภาพแค่ปิดตา ช่างน่าจดจำ มาเรื่องนี้ ฮานส์ ซิมเมอร์ สร้างสกอร์ในระดับที่ผมคิดว่าดียิ่งกว่า โดยเฉพาะ ธีม Mind heist ที่ใช้ในเทรลเลอร์ของ Zack hemsey ที่ ตึ่ง ตึง ตึ๊ง หวู่ หวู่ หวู่ หวู่ นี่สุดยอดจริงๆ ทั้งทรงพลังทั้งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะหนังที่ได้ยินเพลงก็นึกถึงหนังได้ทันที อีกทั้ง Non, Je Ne Regrette Rien ที่ใช้เตือนปลุก ก็หลอนเหลือเกิน
5. มั่นใจว่า คนดูหลายคนดูหนังจบ ต้องไปแอบค้นอายุของ เอลเลน เพจ เนื่องจาก ความหน้าเด๊กเด็กของเธอ
6. ซีเควนซ์ kick ทีละระดับแบบสโลว์โมชั่น ตัดสลับ รถตู้ตก, ลิฟต์ตก, รพ.ถล่ม, ฝันชั้นสี่ล่ม = ซู้ดยอดดดด มหัศจรรย์ พรึงเพริศ!!! 
7. สิ่งหนึ่งที่ทุกๆคน จะมีเหมือนกัน คือ ดูจบ เรามีความเข้าใจอย่างหนึ่ง แต่ ความเข้าใจนั้นจะถูกสั่นคลอนทันที เมื่อเข้ามาอ่าน ความเห็นของคนอื่นๆที่ได้ดูมา เราเริ่มหวั่นไหวไม่มั่นใจว่า เข้าใจถูกหรือเปล่า และ เราก็จะเริ่มคิดว่า ไปดูอีกรอบดีกว่า นั่นแหละ .... โนแลน inception
.
8. บทสนทนาในหนัง สำคัญมากๆ เพราะมันใช้อธิบาย ทุกตรรกะ ได้หมด รวมถึง กฎ ที่หนังสร้างขึ้นมา แยกได้เป็น
แนวคิดที่เป็นจริง เช่น เรื่องฝันกับจิตใต้สำนึก, Lucid dream, ทฤษฎีเม็ดเลือดขาวต่อต้านเชื้อโรค, การสร้างแรงจูงใจในทางลึก ฯลฯ
แนวคิดใหม่ในโลกของ Inception เช่น นิยามของ Limbo (เฉพาะในหนัง), กระบวนการแชร์ฝัน, การที่จิตใต้สำนึกสร้างภาพต่อจากสิ่งทีสถาปนิกวาด และ อันตรายของการสร้างภาพจากความทรงจำ, วิธีการแยกว่ากำลังฝันหรือตื่น (โทเท่ม , การคิดย้อนหลังหาที่มาไม่ได้ ฯลฯ), วิธีการตื่น หรือ กลไกของการ kick ฯลฯ
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด ที่จะสนุกกับการเล่น puzzle ชิ้นนี้คือ ต้องแม่นยำใน กฎกติกาพื้นฐาน ของหนัง เช่น นิยามของ Limbo, กติกาของการ kick เพื่อตื่น ฯลฯ ก่อนที่จะ ตีความและขยายประเด็น เพราะ บทหนังเรื่องนี้เปิดช่องทางให้เราตีความหรือคิดต่อยอดไปได้หลายทาง
แต่ เมื่อใดก็ตามที่เราคิด โดยไม่ได้ยึดตรรกะหรือกฎในหนัง เราจะรู้โดยอัตโนมัติว่ามาผิดทาง เพราะ แนวทางของเราที่คิดไปเรื่อยๆจะยิ่งพบ รูโหว่ มากขึ้นเรื่อยๆ
9. ในหนังอาจมีประเด็นให้ถกกันมากมาย แต่ มีอยู่สองจุดที่รบกวนผมมาก จนเป็นเหตุให้ต้องเสียตังค์เสียเวลาเพื่อไปดูสองสามรอบ จนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่กล้าฟันธงว่าตัวเองถูก แต่ขอนำเสนอแนวคิดตัวเองเกี่ยวกับ ปฏิบัติการณ์ฟิชเชอร์กับฝัน 4 ชั้น และ ฉากจบ
ก่อนจะพูดถึงสองประเด็นนั้น ขอทบทวนนิยามจำเป็นก่อน
**********
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 53 16:35:05
จากคุณ |
:
"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
|
เขียนเมื่อ |
:
วันอาสาฬหบูชา 53 13:44:16
|
|
|
|  |