|
|
|
|
|
|
|
|
| ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (18 คน) |
|
|
|
| |
| | | ชอบมาก ห้ามพลาด (145 คน) |
| | | ชอบ (192 คน) |
| | | เฉยๆ (77 คน) |
| | | ไม่ชอบ (9 คน) |
| | | ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (18 คน) |
| |
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 441 คน |
เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + แสดงความเห็นเพิ่มเติม เก็บไว้ได้ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=09-08-2010&group=14&gblog=233
... สายลับรัสเซียถูกจับได้ สารภาพในห้องคุมขังว่า อเมริกาจะเดือดร้อนแน่ เพราะ ทางรัสเซียส่งสายลับมือดีมาก่อวินาศกรรม และ มีแผนลอบสังหารบุคคลสำคัญ สายลับคนนั้นชื่อ สินเธาว์
เรื่องมันคงดำเนินตามแนวสายลับธรรมดาที่ ตัวละครฝ่ายดีออกตามล่าวายร้ายที่มาแฝงกายอยู่ในสหรัฐ แต่ มันไม่ธรรมดาก็ตรงที่ว่า แองเจลิน่า โจลี่ ที่ยืนเซ็กซี่สอบสวนผู้ต้องขังในฐานะซีไอเอ ดันเป็นคนชื่อ สินเธาว์ซะเอง
แถมเธอยังไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรที่ตานั่นพูดออกมาเลย แต่เมื่อ อเมริกาจะวายวอด ทางการก็ไม่อาจวางใจ จึงต้องการจับตัวเธอมาสอบสวน แต่ สินเธาว์ก็อยู่ไม่เป็นสุขเสียแล้วเมื่อสามีก็หายตัวไปกทันหัน
เอเวอลิน สินเธาว์ ที่จู่ๆก็กลายเป็น ผู้ต้องสงสัยตัวฉกาจ จึงต้องหาทางหนีเอาตัวรอดเพื่อไปช่วยสามี พร้อมๆกับสืบสวนไปด้วยตัวเองว่า ไอ้ตัวร้ายจริงๆที่จะมาตูมตามอเมริกาคือใครกัน หรือ เธอจะเป็นสายลับคนนั้นเสียเองแต่ถูกทำให้หลงลืมไป
... แม้หนังสายลับยุคหลังจะแป้กๆไปหลายเรื่อง (ดูอย่างปีนี้ที่ Knight and days คว่ำไปล่วงหน้าก่อนแล้ว ) แต่ Salt ก็มีแม่เหล็กดึงดูดชวนตีตั๋วตรงชื่อผู้กำกับที่เก๋าพอดูสำหรับหนังแอคชั่นดราม่าเกี่ยวพันประเด็นการเมืองประเภทเข้มข้นอย่าง ฟิลิป น้อยซ์
ที่หลายปีก่อนเคยทำหนังสายลับมาแล้วครั้งหนึ่งเรื่อง The Saint (นานแค่ไหนแล้ว ก็ถึงขนาดจำได้ว่า ตอนนั้นได้ดูในโรงฟรีเพราะเป็นสมาชิกของ ฮัทชิสัน เพจโฟน) หรือ หนังซัมเมอร์ดังๆที่คนดูคุ้นเคยอย่าง Patriot Games , Clear and Present Danger , The Bone Collector ก่อนที่ชื่อของ ลุงน้อยซ์ จะเงียบๆไปพักใหญ่
การกลับมาของ ฟิลิป น้อยซ์ ครั้งนี้ ไม่ทำให้คนดูต้องผิดหวัง ถ้าคิดถึง หนังสายลับออกแนวซับซ้อนซ่อนปม อารมณ์ประมาณ Mission impossible ภาคแรก เพราะ ถึง Salt จะไม่ได้มีสีสันขนาดนั้น แต่ เหลี่ยมมุมชั้นเชิงของหนังก็แพรวพราวเอาการ
สำหรับหนังสูตร สายลับถูกใส่ร้าย โครงเรื่องมักจะคล้ายๆกัน แต่ Salt แอบท้าทายกฎเดิมๆของหนังสูตรนี้เป็นระยะ เช่น ปกติไคลแมกซ์ของหนังแนวนี้จะมี ฉากสังหารบุคคลสำคัญที่มักอยู่ท้ายเรื่องเพื่อเปิดโปงหรือนำไปสู่ไคลแมกซ์ แต่เรื่องนี้โผล่มาตั้งแต่กลางเรื่อง , บอสใหญ่/ตัวละครสำคัญ มักตายแดดิ้นวินาทีสุดท้าย แต่เรื่องนี้ก็ไม่รอถึงตอนนั้น ฯลฯ
บทหนังที่เหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จเอาได้ง่ายๆแต่ก็มีการพลิกแพลงเกือบตลอดเวลา รวมถึง การสร้างคาแรคเตอร์ 'สินเธาว์' ที่ตอนแรกก็ดูจะเป็นสูตรสำเร็จประเภท
Who is salt ? - แม่สาวนาเกลือคนนี้คือใคร
อ๋อ เธอก็คงเป็นนางเอกที่ถูกใส่ร้าย แล้วสุดท้ายเธอก็จะวางแผนตลบหลังกระชากหน้ากากตัวร้ายเองนั่นแหละ
แต่พอดูไปเรื่อยๆ หนังก็เริ่มทำให้เราลังเลใจ เริ่มไม่มั่นใจว่า Salt จะเป็น คนดีจริงเหมือนสูตรสำเร็จของหนังซัมเมอร์จากฮอลลีวู๊ดส่วนใหญ่ที่ตัวเอกต้องเป็น นางเอกแน่ๆ
หนังประสบความสำเร็จเป็นเวลานานพอสมควรในการทำให้คนดูเดายากว่าเธอคือ คนดี หรือ คนร้าย ไม่เหมือนเรื่องอื่นๆที่ เทน้ำหนักให้เราเดาได้ง่ายๆตั้งแต่ต้น
ต้องยอมรับว่า เมื่อหนังเฉลยมาเรื่อยๆ ตัวเนื้อหาหลายตอนถือว่าเข้าขั้นเว่อร์มาก แต่ ฟิลิป น้อยซ์ สามารถดึงความเว่อร์ของหนังให้ลงมาดูสมจริงได้ดี ด้วยการเดินหน้าไปอย่างกระชับหนักแน่น บวกกับการแสดงของ แองเจลิน่า โจลี่ ที่สร้างความน่าเชื่อถือจนเราคล้อยตามอย่างไม่รู้สึกว่าเกินจริงมากไปนัก
ยิ่งได้รู้ว่า โจลี่ เล่นบทสตั๊นท์เองหลายฉาก ภาพเธอวิ่งสู้ฟัดปานประหนึ่งเฉินหลง ที่เป็นสายลับแต่กลับต้องวิ่งๆๆๆๆ สู้ๆๆๆ สลับตามหาความจริง กับการดำเนินเรื่องไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ก็ชวนคิดถึง เจสัน บอร์น เวอร์ชั่นสาวเอ๊กซ์เซ็กซี่
ปฏิบัติการณ์ day-X ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของบทหนังที่น่าสนใจ มันทำให้ผมนึกถึงหนังอย่าง Infernal affairs โดยเฉพาะ ฉากพรากชีวิตคนสำคัญ ที่ดูแล้วเจ็บลึกสะเทือนใจแทนตัวละคร และทำให้ หนังที่เดินหน้าไปอย่างรวดเร็วแฝงความเจ็บปวดรวดร้าวของตัวละครทวีคูณไปเรื่อยๆ
นั่นทำให้ ท่ามกลางฉากแอคชั่นวินาศสันตะโรกลางเมืองมากมาย แต่ ฉากที่ดีที่สุดของผมใน Salt คือ ฉากระบายแค้นในเรือ และ ฉากที่ราวบันไดตอนท้าย
... จากข้อมูลของหนัง แรกเริ่มเดิมที Salt คือสายลับผู้ชายและมีการวางตัว ทอม ครูซ ไว้ แต่เมื่อ ทอม บอกปัดเพื่อไปเล่นเป็นสายลับฉบับรั่วๆใน Knight and days ทีมงานเลยเขียนบทใหม่ให้เป็นผู้หญิงและเปลี่ยนมาเป็น แองเจลิน่า โจลี่
ซึ่งบท 'เอเวอลีน สินเธาว์' ของเธอ ทำให้ผมต้องยกให้เธอเป็นยอดหญิงแห่งปี ด้วยคุณสมบัติ 4 ข้อต่อไปนี้
ฉลาดเป็นกรด แผนการที่ต้องเอาตัวรอด ต้องปกป้องคนรัก ต้องเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ เป็น งานเขียนบทที่อาจไม่ได้ฉลาดแบบซับซ้อนเลิศเลอ แต่ก็เป็น บทที่ฉลาดในการเล่นกับขนบเดิมๆแบบไม่ซ้ำซาก ไม่ดูถูกคนดู ทำให้คนดูสนุกที่จะลุ้นไปจนจบ
อดทนเป็นคนเหล็ก นึกภาพ หญิงสาวคนหนึ่งกระโดดจากตึกสูงตกลงไปบนรถสิบล้อที่ห้อขึ้นทางด่วนลอยฟ้าบูรพาวิถี แล้วกระโดดลงจากชั้นลอยฟ้ามาชั้นล่างอีกทีหล่นท้ายลงปิคอัพบนถนนสุขุมวิท จากนั้นกลิ้งโค่โล่ แล้ว วิ่งหนีต่ออีกเกือบสิบกิโล สุดท้ายก็ได้มาแค่แผลน้อยๆที่บั้นเอว นั่นแหละ คนเหล็กตัวจริงเสียงจริง
ฉากแอคชั่นในเรื่องทำออกมาหวือหวาตื่นเต้นได้ลุ้นตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
เซ็กซี่เป็นหลัก เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ที่เริ่มรู้สึกว่า โจลี่ เริ่มมีอายุแล้ว (ดูต่างจากตอน Wanted ที่ยังดูสาวกว่านี้มาก) แต่กระนั้น ถึงจะไม่มีเลิฟซีนหรือฉากโชว์ความเอ็กซ์ เธอก็ยังคงรักษาความเซ็กซี่ไว้ได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
รักสามียิ่งชีพ ฉากแฟลชแบ็คความสัมพันธ์ ของ นางเอกกับสามี ที่ทำให้เห็นภาพฝ่ายชายมอบความรักและเชื่อมั่น แม้จะรู้ว่า คนรักหลอกลวง แต่เขาก็รักเธออย่างที่เธอเป็น พยายามทุกอย่างที่จะได้เธอกลับมาอยู่ในอ้อมอก ตัดสลับกับ ฉากแอคชั่นที่นางเอกพยายามจะช่วยสามีกลับคืนมา ในช่วงแรก ดูเหมือนจะเป็นส่วนเกินที่ไม่จำเป็นเท่าไหร่
แต่เมื่อมาถึงจุดสำคัญกลางเรื่อง มันกลับมีประโยชน์ในการสร้างอารมณ์ร่วมของตัวละครและคนดู และทำให้เรา เข้าถึงการตัดสินใจของ ตัวละคร Salt ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
ต้องชม โจลี่ ด้วยในส่วนการแสดงที่เธอถ่ายทอดอารมณ์ของความห่วงใย ความแค้น และ การเก็บกดแต่เจ็บลึกได้ดี ซึ่ง ความจริงคุณลักษณะข้อนี้ คือ จุดที่ส่งให้ แองเจลิน่า โจลี่ ยังอยู่เหนือกว่า นักแสดงสาวเซ็กซี่น้องใหม่หลายคน เช่น เมแกน ฟอกซ์ หรือ ใครก็ตามที่พยายามจะก้าวตามรอยของเธอ
เพราะ จุดแข็งจริงๆของ แองเจลิน่า โจลี่ ที่เธอมีดีพอๆกับความเอ๊กซ์เซ็กซี่ ก็คือ ฝีมือทางการแสดง ที่ไม่แพ้รูปร่างของเธอเลย (หากใครคุ้นกับโจลี่แค่ ตู้ม ไรเดอร์ กับ Original sins ขอเชียร์ให้ลองหยิบ Gia, Girl, Interrupted , The Good Shepherd หรือ Changeling มาดูสักครั้ง)
บวกกับ ออร่า หรือ พลังดาราของเธอ ที่มันช่วยให้เธอสามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้ด้วยตัวเธอเพียงคนเดียว คือ พรสวรรค์และความสามารถที่ต้องยกนิ้วให้ 'แองเจลิน่า สินเธาว์ โจลี่ ' ไปเต็มๆ
สรุป ... นับเอาความสนุกเอามันส์ของหนังแอคชั่นปีนี้ ขอจัดให้ Salt เข้าไปอยู่ในชั้นเดียวกับ The A-Team และ Kick Ass ที่ดูแล้วรู้สึกคุ้มค่า รู้สึกว่าคนทำหนังไม่ดูถูกคนดู ถึงจะมีจุดอ่อนตรงความเว่อร์อยู่บ้าง หรือ การเดินเรื่องที่เร็วแบบไม่เว้นพัก แต่ เอเวอลีน สินเธาว์ ก็มีดีในตัวมากมาย ที่เรามองข้ามจุดอ่อนเหล่านั้นไปได้
และจุดเด่นที่ต่างจาก The A-Team กับ Kick Ass คือ หนังมีความ จริงจังในตัวมากกว่า มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า เป็นหนังแอคชั่นที่อาจไม่ได้ แนวๆ แต่ก็เก๋าและคอหนังรุ่นเก่าๆไม่ควรพลาด
ของเค้า เค็มแต่ดี จริงๆ
สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FB ชวนมาคุย มาอ่านกันต่อได้ใน FB ที่ชื่อ IbehindYou เข้าไปแล้วกด Like ก็ตามอ่านตามคุยได้โลด
บทความที่อ้างอิงถึงในกระทู้
(บทความนี้เคยนำมาลงในกระทู้แล้ว)
Knight & Day - อีธาน ฮันต์ เวอร์ชั่น กระโดดบนโซฟาโอปร่าห์ & นางฟ้าชาร์ลี เวอร์ชั่น รั่ว
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=26-06-2010&group=14&gblog=220
Wanted , โอ้ว่าด้วยแอคชั่นปรัชญา และ ความตื่นตาในระดับ 'แม่เจ้าประคุณรุนช่องเอ๊ย'
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=01-07-2008&group=14&gblog=100
Changeling + Taken , ลูกฉันอยู่ไหน ?
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=08-2009&date=14&group=14&gblog=173
Kick Ass , 5 ข้อ ที่ขอเชียร์หนังเรื่องนี้
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=18-04-2010&group=14&gblog=202
The A-team - มันโคตรจะเว่อร์ เว่อร์โคตรจะมันส์
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=27-03-2007&group=1&gblog=227
The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=27-03-2007&group=1&gblog=227
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 12:47:31
แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 53 00:26:40
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 53 16:52:14
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 53 11:17:17
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 53 11:15:31
<< ดูแล้วมาคุยกัน ... Salt , ยอดหญิงชื่อ สินเธาว์ (ฉลาดเป็นกรด-อดทนเป็นคนเหล็ก-เซ็กซี่เป็นหลัก-รักสามียิ่งชีพ) >>
ความคิดเห็นที่ 1
รักเพื่อนบ้านเสมอ
