 |
ความคิดเห็นที่ 2 |
ก่อนที่จะถึงวันพฤหัสนี้ซึ่งเป็นวันแม่ 
ขอนำเรื่องราวระหว่างพ่อลูกคู่นี้...พี่เปิ้ล และ คุณพ่อ Mr. Fernand Desneiges ที่พลัดพรากจากกันเป็นเวลานานกว่า 35 ปี มาให้อ่านกันค่ะ
บทความนี้ถ่ายทอดโดยกัลยาณมิตรของพี่เปิ้ล คือ ป้าจิ๊ อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณนะคะ
ขอบคุณ ข้อมูลจากเวบไซต์พี่เปิ้ล จารุณี, นิตยสารดิฉันและลิปส์, คุณiamjunenumberone และ คุณเจ้าชายน้อย ด้วยค่ะ 
เรียบเรียงจาก...
www.jarunee.net
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A2969554/A2969554.html
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A2969554/A2969554.html
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
"ตามหาพ่อ...ให้เพื่อน"
จากนิตยสารดิฉัน ฉบับที่ 497 15 พฤศจิกายน 2540
คนเราจะเศร้า จะเก็บกด เก็บตัวอะไรได้ถึงขนาดนี้ เป็นสิ่งแปลกที่ฉันไม่เข้าใจ โดยเฉพาะคนที่ทำงานร่วมกัน จารุณี ปรียานุช และฉัน ได้แสดงละครโทรทัศน์ด้วยกันทางช่อง 7 สี เรื่อง "คือหัตถาครองพิภพ" ฉันรู้จักปรียานุช มาเกือบสิบปีแล้ว นับแต่แสดงละครเมียหลวงด้วยกัน นุชเป็นคนสม่ำเสมอตลอดเวลาที่รู้จักกัน ติดต่อกันไม่เคยขาดระยะ แต่ไม่เคยรู้จักคบคุ้นกับจารุณี ครั้งหนึ่งนักแสดงอาวุโสท่านหนึ่งมาบอกฉันว่าไปเตือนจารุณีหน่อย เขาอารมณ์รุนแรงมาก ฉันจะไปเตือนได้อย่างไร ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย มาได้พูดกันครั้งแรกที่สนามบินดอนเมือง เมื่อหลายปีมาแล้ว จารุณีกำลังจะเดินทางไปร้องเพลงต่างจังหวัด จำได้ว่าวันนั้นฉันยืนรอ เช็คตั๋วอยู่ จารุณีหันมาไหว้อย่างนอบน้อม ฉันยังจำคำของนักแสดงอาวุโสท่านนั้นได้ แต่ฉันพูดไปเพียงว่า ดีใจที่เปิ้ลมาเป็นนักร้องของค่ายดัง ๆ ตั้งใจทำงานนะหลายคนพอถึงจุดหักเหของชีวิตแล้วก็ไปเลย เมื่อมีโอกาส ทำให้เต็มที่ ขอให้โชคดี นั่นก็เป็นครั้งเดียวที่ได้พูดกัน
มาเมื่อได้ร่วมแสดงละครด้วยกัน ฉันต้องแสดงกับจารุณีแทบทุกฉาก พอหมดฉาก เขาก็จะหายวับไปทันที แรก ๆ ก็ยังไม่ได้สนใจ เพราะมักจะมีเรื่องพูดคุยกับปรียานุชมากมาย แต่พอทุกครั้งทุกวัน ฉันอารมณ์เร็วกว่าปรียานุช ชักจะอึดอัดเพราะการแสดงต่อเนื่อง ต้องอ่านบทต้องท่องบทด้วยกัน ฉันก็เลยต้องท่องกับลมกับแล้ง ในที่สุดก็รู้ว่าจารุณีเข้าไปนั่งอยู่ในรถ ฉันบอกกับนุชว่า สงสัยจารุณีเขาจะชอบควันรถนะ ติดกลิ่นควัน เผลอละก็เป็นไม่ได้ กลับเข้ารถไปทันที ยิ่งแสดงมากเข้า ละครก็ยิ่งเข้มข้น ฉันก็ยิ่งรำคาญใจ จะดูบทจะต่อบทก็เหลือฉันอยู่ในฉากคนเดียว
วันหนึ่งความอดทนถึงที่สุด กับบรรยากาศเงียบ อารมณ์แห้งของจารุณี ฉันถามเขาว่าอะไรนักหนา ไปขลุกอยู่แต่ในรถขณะพักเปลี่ยนฉาก แทนที่จะได้มาดูบทท่องบทกัน จารุณีเงียบ คงไม่มีใครเคยไปยุ่งไปวุ่นวายกับเขา ฉันบอกกับเขาว่าทำงานร่วมกันมันต้องสร้างอารมณ์หน่อย ตัวละครในเรื่องสองตัว ทั้งคุณหญิงศรีและแม่เมี้ยน แทบจะเกาะเท้ากันทุกฉากอยู่แล้ว แล้วนี่อะไรกันเปลี่ยนฉากทีหายไปที จารุณีบอกว่าเขาท่องบทอยู่ในรถ ฉันบอกเขาว่าการท่องบทต้องพูดด้วยกัน ไม่ใช่ไปพูดอยู่หลังพวงมาลัยรถคนเดียว ได้ผลนิดหน่อย จารุณีไปอยู่ในรถน้อยลง
พอถึงเวลาทานข้าว นุชจะเป็นคนจัดการ เราจะทานพร้อม ๆ กัน จารุณีไม่ทานกับเรา ทั้ง ๆ ที่เราเรียกเขาทุกครั้ง นุชบอกว่า นุชไม่เอาแล้ว นุชไม่อดทน เรียกครั้งสองครั้งพอ พี่จิ๊จะอดทนก็คนเดียวเถอะ วันหนึ่งได้โอกาสจัง ๆ ฉันบอกจารุณีว่า นี่ขอพูดอะไรหน่อยเถอะ เราสามคนเล่นละครกัน ทั้งสามคนในเรื่องต้องสานกันตลอด เราสองคนก็พยายามจะเป็นเพื่อนด้วย ทำไมแยกตัวตลอดเวลา มันทำให้บรรยากาศในการทำงานอึดอัดรู้ไหม ทำตัวให้ง่าย ๆ สบาย ๆ สิ อย่าเครียด เริ่มได้พูดแล้ว ฉันก็เลยสาธยายความเสียยาวทั้งเรื่องงาน เรื่องการทำตัวไม่ให้คนรอบข้างอึดอัด เพราะฉันไม่เคยทำงานแล้วเจอคนที่ทำงานด้วยแล้วอึดอัดอย่างนี้ มันเก็บมาเป็นเดือน ฉันเลยพูดอยู่คนเดียวเสียยาว ลืมฟังเสียงตอบจากจารุณี เพราะเขาเงียบไม่พูดสักคำ ฉันบอกเขาว่า มันจะอะไรกันนักหนา ทำตัวขม ๆ ขื่น ๆ ทั้งในละครทั้งในชีวิตจริง คนอื่นเขาแย่กว่าเรามีเยอะแยะ นี่งานก็มีทำ บ้านก็มีอยู่ รถก็มีขับ เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ หรือก็คนรู้จักทั่วประเทศ แล้วจะยังไงอีก ทำตัวง่าย ๆ สบาย ๆ สร้างความสดชื่นในการทำงานหน่อย ฉันพูดคนเดียวเหมือนทำนบพัง แต่พอจารุณีเริ่มพูด ซึ่งเป็นการพูดที่คงจะยาวที่สุดในการทำงานร่วมกันเป็นเดือน ฉันก็เป็นฝ่ายเงียบบ้าง และเครียดแทน
แต่จากวันนั้น ฉันก็เอาเขาออกมาจากรถได้สำเร็จ ฉันอยากให้เขามีเพื่อน ให้เขามีความวางใจ ไม่หวาดระแวง ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ หรือผู้คนต่าง ๆ จะเหมือนเหตุการณ์เหมือนผู้คนที่เขาผ่านมา ชีวิตเขาหนักหนาสาหัสสากรรจ์ จากเรื่องราวที่เขาได้ถ่ายทอดให้ฟัง ฉันไม่ได้ติดตามข่าวคราวในวงการบันเทิง จึงไม่ค่อยรู้เรื่องต่าง ๆ มากนัก ที่รู้ก็เพียงเรื่องอุบัติเหตุใหญ่ ๆ ในชีวิตสองครั้ง และปัญหาสุขภาพ เมื่อจารุณีไว้วางใจฉันในระดับหนึ่ง เขาก็เริ่มเล่าเรื่องของเขาให้ฟัง ตั้งแต่ชีวิตวัยเด็ก การเข้าสู่วงการบันเทิง การทำงานการดำเนินชีวิต แทบทุกเรื่องมันน่าตื่นเต้นตกใจ เมื่อฉันมานึกเกี่ยวกับชีวิตของตัวเองที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ แล้วก็เลยรู้สึกเห็นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา ฉันรู้สึกและสัมผัสได้ว่า จารุณีเป็นคนหัวใจพร่อง และคงจะเติมให้เต็มได้...ไม่ง่ายนัก
สิ่งแรกที่ฉันมองเห็นคือความว้าเหว่ในใจ ที่ปกปิดด้วยบุคลิกที่เข้มแข็งในภาพที่ใคร ๆ ชินตา ฉันว่าเขาขาดความอบอุ่นอย่างมาก เบื้องต้นจากครอบครัว เราเคยได้ข่าวกันแต่เรื่องแม่ ไม่รู้เรื่องพ่อ ฉันเลยถามเขาว่าคุณพ่อเป็นใคร จารุณีหยุดนิ่งแล้วหันมาสบตา พูดเรียบ ๆ ว่า พรุ่งนี้จะเอารูปมาให้พี่ดู และนี่คือต้นเหตุของการ ตามหาพ่อ...ให้เพื่อน
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 21:21:43
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 01:45:06
แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 53 23:57:22
แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 53 23:48:58
จากคุณ |
:
Yimie
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ส.ค. 53 23:31:24
|
|
|
|
 |