ความคิดเห็นที่ 1 1. การเมือง "หงส์เหนือมังกร" ในประวัติศาสตร์ยุคก่อน เรามักจะเห็นเพศหญิง ถูกกดขี่ทางสังคม และไม่ได้รับการยอมรับในเรื่องการบริหารบ้านเมือง แต่ไม่ใช่ในอาณาจักรชิลลา โดยเฉพาะในละครเรื่อง "Queen Seon Deok" ที่ผู้หญิงมีบทบาทอยู่แถวหน้าอย่างโดดเด่น มิชิล ก้าวมาจากตำแหน่ง วอนฮา (หัวหน้ากลุ่มฮวารัง - องค์รักษ์) และยังเป็น สนมของพระเจ้าจินฮึง อีกด้วย มีความดีความชอบ ช่วยพระเจ้าจินฮึงในการขยายอาณาจักรชิลลาจนกว้างไกล จนได้รับการยกย่อง ร่วมกับ มุนโน และ ซอวอน หลังจากสิ้นพระเจ้าจินฮึง มิชิลผลักดันพระเจ้าจินจิขึ้นครองราชย์ โดยมีข้อตกลงว่า จะต้องให้ตนเป็นพระมเหสี แต่พระเจ้าจินจิผิดคำสัญญา มิชิลจึงล้มล้างราชบัลลังค์ โดยล๊อบบี้ขุนนางผู้ใหญ่ (ข้อหาพระเจ้าจินจิย่อหย่อนต่อราชกิจ) และอ้างพระบรมราชโองการเดิม (ที่แท้จริง) ที่ว่าพระเจ้าจินฮึงยกราชบัลลังค์ให้กับพระนัดดา (พระเจ้าจินพยอง) ในรัชสมัยพระเจ้าจินพยอง มิชิลก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง เซจู (ที่ปรึกษาส่วนพระองค์) และพยายามจะขึ้นเป็นพระมเหสี แต่ไม่สำเร็จ แต่กระนั้น มิชิลก็กุมอำนาจบริหารอย่างเบ็ดเสร็จ ด้วยสภาขุนนาง และ ผู้คุมกำลังทหารทุกกลุ่ม ล้วนอยู่ในอาณัติของนางทั้งสิ้น จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:13:34

ความคิดเห็นที่ 2 ต๊อกมาน หลังจากทราบชาติกำเนิดของตัวเอง และองค์หญิง ชอนมยอง พี่สาว ต้องมาตายด้วยฝีมือมิชิล ทำให้เธอตัดสินใจ หันมาต่อกรกับมิชิลเต็มตัว โดยอาศัยที่ตนเองมีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ วางแผนจนได้กลับคืนสู่ตำแหน่งองค์หญิง ขั้นแรก องค์หญิงต๊อกมาน เข้ารับตำแหน่ง วอนฮา ผู้ดูแลฮวารัง เพื่อที่จะได้สามารถคุมกำลังทางด้านการทหารบางส่วน จากนั้น พยายามล้มล้างกลุ่มอำนาจเก่า โดยยุบตำหนักเทพ และออกนโยบายต่าง ๆ เพื่อสร้างความนิยม และ ดึงขุนนางบางส่วนให้เข้ามาเป็นแนวร่วม และหลังจากต๊อกมานขึ้นครองราชย์แล้ว ยังคงเดินหน้าในนโยบาย สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชนเช่นเดิม ด้วยนโยบายปฎิรูปที่ดิน ให้เิงินกองทุนหมู่บ้าน เอ๊ย กองทุนดอกเบี้ยต่ำ ปลดแอกวงจรอุบาทว์ให้ชาวบ้านไม่เป็นหนี้คนรวย ทางด้านการปกครอง ยังทำนุบำรุงศาสนา ส่งเสริมความสัมพันธ์กับราชวงศ์ถัง และปราบปรามกบฎต่าง ๆ ด้วย จะเห็นว่า สถานภาพของผู้หญิง(ชนชั้นปกครอง) ในละครเรื่องนี้ โดดเด่นเหนือกว่าผู้ชายมากนัก จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:15:10

ความคิดเห็นที่ 3 2. มิชิล vs ต๊อกมาน สู้กันด้วยนโยบาย รากฐานแห่งอำนาจของมิชิล มาจากสามีใหญ่ เซจอง (มหาเสนาบดี สูงสุดฝ่ายขุนนาง) และ สามีเล็ก ซอวอน (เ้จ้ากรมกลาโหม สูงสุดฝ่ายทหาร)  น้องชาย มีเซ็ง (เจ้ากรมพิิธีการ ดูแลฝ่ายใน) และนอกจาก มิชิล จะวางตัว ลูก ๆ และเครือญาติอยู่ในตำแหน่งสำคัญจนทั่วแล้ว นางยังมีเครือข่ายอันแน่นแฟ้น กับขุนนางและคหบดีทั่วชิลลาอีกด้วย และที่สำคัญที่สุด คือตัวของมิชิลเอง นอกจากจะดำรงตำแหน่งเซจู นางยังอยู่ในสถานะ "กึ่งเทพ" ในสายตาของประชาชน มิชิลอาศัยความรู้ด้านปรากฎการณ์ธรรมชาติ (ที่ได้มาจากปฎิทินที่ล้ำสมัยกว่าคนอื่นในยุคนั้น)  มาแอบอ้างเป็น "บัญชาสวรรค์" โดยมีตำหนักเทพ และธิดาเทพ เป็นตัวช่วย  ทำให้สามารถผลักดันหลายเรื่องให้เป็นตามที่นางต้องการได้ สถานะกึ่งเทพนี้ ทำให้แม้แต่พระเจ้าจินฮึง หรือพระเจ้าจินพยอง ก็สร้างศรัทธาในหมู่ประชาชนเทียบเท่านางไม่ได้ จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:16:24

ความคิดเห็นที่ 4 ต๊อกมาน หลังจากกลับคืนสู่สถานะองค์หญิง และหันมาเผชิญหน้ากับมิชิลเต็มตัว เพื่อจะล้มล้างกลุ่มอำนาจเก่า สิ่งแรกที่ทำ ก็คือ พยายามล้มล้างภาพลักษณ์กึ่งเทพของมิชิล  ด้วยการหันมาให้ความรู้กับประชาชน ว่า ปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะธรรมชาิติทำให้เป็นไป หาใช่เทพหรือผีสางต่าง ๆ ไม่ (แม้สิ่งนี้ จะขัดแย้งกับสถานะดาวแคยาง ผู้มากอบกู้แผ่นดิน ของต๊อกมานก็ตามที)  โดยการตั้งหอดูดาว สนับสนุนให้ประชาชน สังเกตุปรากฎการณ์ธรรมชาติด้วยตนเอง ไม่ต้องมารอ คำทำนายจากทางการ ยุบตำหนักเทพ และให้เปิดเผยข้อมูลทางด้านดาราศาสตร์ต่าง ๆ แก่ประชาชนทั่วไป ทางด้านความเชื่อ ต๊อกมาน ส่งเสริมและทำนุบำรุงศาสนา ทำให้ความเชื่อเรื่องผีสางของชาวบ้าน ค่อย ๆ ลดน้อยลงไป ขั้นต่อมา ก็ผลักดันนโยบายประชานิยม หันมาเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้ากับพวกคนรวย แต่ลดภาษีให้กับชนชั้นรากหญ้า นโยบายนี้ได้ประโยชน์สองทาง คือได้แรงสนับสนุนจากประชาชน และทำให้พวกขุนนาง เกิดความขัดแย้งและแตกแยกกันเอง อีกด้วย (ล้มฐานอำนาจและเครือข่ายที่มิชิลสร้างไว้) ยังมีการสนับสนุนเครื่องมือการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ (ใช้เหล็กอย่างดีเทียบเท่าการผลิตอาวุธ) และการปฎิรูปที่ดินทำกิน (แจกที่ดินให้เกษตรกรผู้ยากไร้) เพื่อตัดวงจรอุบาทว์  ถูกขูดรีดภาษี > เป็นหนี้ > ขายที่ทำกิน > เ่ช่าที่ทำนา > เป็นทาส ให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก  สนับสนุนให้ผู้ที่มีผลผลิตสูงให้ขึ้นมาเป็นผู้นำชุมชน  ให้กองทุนกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:18:22

ความคิดเห็นที่ 5 จะเห็นได้ว่า มิชิลเป็นตัวแทนของการปกครองแบบเก่า คือ อาศัยความไม่รู้และความงมงายของประชาชน อาศัยการสร้างเครือข่าย ในหมู่ชนชั้นปกครอง (วางคนของตัวเข้ากุมอำนาจ ดองกับกลุ่มอำนาจอื่นด้วยการแต่งงาน+ผลประโยชน์) ส่วนต๊อกมาน ใช้วิธีที่ทันสมัยกว่า คือ ใช้ศาสนามาแทนที่ความเชื่อที่งมงาย ให้ความรู้กับประชาชน ลดการพึ่งพาทางการ เลิกการกดขี่ประชาชน ด้วยการตัดวงจรอุบาทว์ต่าง ๆ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ หรือถ้าจะเปรียบกับการเมืองในยุคปัจจุบัน มิชิลและพวกพ้อง ก็เหมือนพรรคการเมืองใหญ่ ที่ผูกขาดอำนาจมานับสิบปี มีเครือข่าย สส.และ ผู้มีอิทธิพลของแต่ละพื้นที่ เกี่ยวดองกับพวกตน ไม่ทางธุรกิจก็ทางเครือญาติ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม จึงไม่จำเป็นต้องฟังเสียงเรียกร้องใด ๆ  เพราะขอเพียงตนเองควบคุมเครือข่ายเอาไว้ให้ได้ ก็เท่ากับควบคุมมวลชนได้แล้ว และในสายตาของชาวบ้าน มิชิลเป็นตัวแทนแห่งอำนาจ ที่ประชาชนทั้งยำเกรงและหวาดกลัว(อิทธิพล) ส่วนต๊อกมาน ก็เปรียบเสมือนทายาทนักการเมืองที่เคยสร้างชื่อในอดีต มีต้นทุนทางสังคมสูง มาลงสนามเลือกตั้ง แต่การจะพลิกเกมมาสู้กับพรรคการเมืองใหญ่ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่าย ๆ เธอจึงพยายามหาจุดต่าง ต๊อกมานสู้ด้วยสองวิธีไปพร้อม ๆ กัน คือ ทางหนึ่ง โจมตีภาพลักษณ์ของมิชิล ว่าไม่ได้เป็นผู้วิเศษ ไม่ได้รับโองการสวรรค์จริง   เปรียบการเมืองในปัจจุบัน ก็เหมือนการหาข่าวเอ๊กซ์คลูซีฟมาทำลายภาพพจน์ ของคนในระดับหัวหน้าพรรค  และที่ทันสมัยมาก คือการเผยแพร่ความรู้ของตำหนักเทพ เปรียบกับปัจจุับัน ก็เหมือนการเผยแผนพัฒนาแห่งชาติ ให้ประชาชนมีส่วนรับรู้และตัดสินใจ   อีกทางหนึ่ง คือ ขายนโยบายให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี (ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางมิชิลไม่เคยใส่ใจ) เน้นการเมืองภาคประชาชน แทนที่จะเน้นการเมืองโดยกลุ่มจัดตั้ง หรือหัวคะแนนอย่างที่เป็นมา ให้ความนิยมของมวลชน บีบบรรดาหัวคะแนน เอ๊ย ขุนนาง ในฝ่ายมิชิล ให้หันมามองอนาคตใหม่ ว่าควรจะอยู่กับฝ่ายมิชิลต่อไป หรือจะแปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายองค์หญิงต๊อกมานดี จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:19:47

ความคิดเห็นที่ 6 3. การเมืองชิลลา - สภาขุนนาง และ ระบบเสียงเอกฉันท์   ชิลลาปกครองด้วยระบบราชาธิปไตยก็จริงอยู่ แต่สภาขุนนางก็มีสิทธิ์โต้แย้ง พระราชดำริ หรือ นโยบายในด้านต่าง ๆ ได้ ส่วนนี้นับเป็นข้อดี ที่ทำให้มีการคานอำนาจ กษัตริย์ไม่สามารถกระทำการตามอำเภอใจ โดยไม่ผ่านการเห็นชอบจากเหล่าขุนนางได้ จะเห็นได้จากการถอดถอนพระเจ้าจินจิ มิชิลแม้จะมีกำลังทหารอยู่ในมือ แต่ก็ยังต้องล๊อบบี้สภาขุนนางให้เห็นชอบด้วยก่อน แต่ระบบที่ ต้องให้การออกเสียงเป็นเอกฉันท์จึงจะผ่านได้ นับเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาบ้านเมือง เพราะนโยบายที่ดีหลาย ๆ อย่าง ขอเพียงขัดผลประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นโยบายนั้นก็มักจะถูกค้านจนตกไปเสมอ - ฮวารัง องค์รักษ์ ที่เป็นมากกว่ากองกำลัง ผมไม่แน่ใจว่า ตัวเองเข้าใจ "ฮวารัง" ถูกต้องหรือเปล่า ฮวารังน่าจะคล้ายกับ กองกำลังรักษาพระองค์ ใช่หรือไม่ แต่ในเรื่อง ฮวารังมีบทบาทกับบ้านเมืองมาก ทั้งเป็นกองกำลังพิเศษ คอยจัดการเืรื่องสำคัญ โดยรับบัญชาจากวอนฮา (องค์หญิง) หรือบางครั้งก็จากกษัตริย์โดยตรงก็มี  ฮวารังยังได้รับโอกาส ทำหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และออกหน้าในพิธีการที่สำัคัญต่าง ๆ ที่สำคัญที่สุด หลายครั้งเราจะเห็น เหล่าฮวารัง ออกมาโต้แย้งเรื่องที่พวกตนไม่เห็นด้วย โดยมาร้องเรียนโดยตรงหน้าที่ประทับ ตั้งข้อสังเกตว่า หัวหน้ากลุ่มฮวารังกลุ่มต่าง ๆ มักจะเป็นลูกขุนนางผู้ใหญ่ เป็นเชื้อพระวงศ์ก็มี  ดังนั้น จะด้วยตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือสถานะทางสังคม ก็เป็นที่ยอมรับอย่างสูง จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:21:13

ความคิดเห็นที่ 7 - ตำหนักเทพ ธิดาเทพ มิชิลสร้างบารมี และภาพลักษณ์ของตน ผ่านตำหนักเทพ และธิดาเทพ โดยอ้างว่าตนได้รับ "บัญชาสวรรค์" ในเรื่องต่าง ๆ หากินอยู่บนความไม่รู้ และความงมงายของประชาชน ดังนั้น ขอเปรียบตำหนักเทพเป็น สำนักงานโฆษณาชวนเชื่อแห่งชาติ หรือถ้าเป็นองค์กรธุรกิจ ก็ต้องเป็นบริษัทล๊อบบี้ยิสต์ต่าง ๆ - หน่วยความมั่นคง (นำโดย มิชิล) เป็นหน่วยงานที่ มิิชิล รวบอำนาจตั้งขึ้นมา เพื่อที่จะควบคุมสถานการณ์ และต้องการจะขุดรากถอนโคนฝ่ายต๊อกมานให้ได้ โดยมี เซจอง มิชิล และ ซอนวอน เป็นผู้นำ มีอำนาจบัญชาการขึ้นตรงต่อกษัตริย์ และสถานะอยู่เหนือสภาขุนนางอีกขั้นหนึ่ง มีหน้าที่ไต่สวนและตรวจสอบผู้ที่(คาดว่า)จะเป็นภัยต่อราชสำนัก รวมทั้งประกาศกฎอัยการศึก ห้ามผู้ใดนอกจากทหาร พกพาอาวุธ รวมทั้งห้ามประชาชน หรือผู้หนึ่งผู้ใด ชุมนุมเกิน 5 คน หน่วยงานนี้ ขำ ๆ ว่า คล้ายกับหน่วยงานนึงของบ้านเรา ในสถานการณ์ฉุกเฉินและประกาศเคอร์ฟิว จังเลย จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:23:02

ความคิดเห็นที่ 8 - หน่วยตรวจการณ์ฺ (นำโดย พีดาม) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ ตรวจสอบการทำงานของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขุนนาง หรือฝ่ายทหารก็ตาม ว่ามีใครที่ำทำการทุจริต ซ่องสุมกำลัง หรือ กระทำการใด ๆ ที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของราชสำนัก สามารถควบคุมใครก็ได้ไปไต่สวน โดยไม่ต้องรายงานกับสภาขุนนางก่อน  ผู้นำของหน่วยนี้ คือ พีดาม มีอำนาจล้นฟ้า เพราะขึ้นกับพระนางต๊อกมานโดยตรง หน่วยงานนี้ อยากเทียบกับ หน่วยเกสตาโป ของเยอรมันในช่วงสงครามโลก เลยทีเดียว ยิ่งใหญ่และน่ากลัวใกล้เคียงกัน จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:24:32

ความคิดเห็นที่ 9 4. คมคำ คำคม ใน ราิชินีซอนต๊อก **" การลงโทษต้องทำให้เฉียบขาดและรวดเร็ว ส่วนรางวัลก็ให้ทีละเล็กละน้อย นี่คือวิธีปกครองโดยพื้นฐาน " - มีชิล มิชิลพูดถึงการปกครองว่า หากไม่ใช้ทั้งพระเดชและพระคุณ หวังเพียงทำความเข้าใจกับราษฎรเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำดีกับเด็กที่ไม่รู้จักโต รู้จักแต่ขอนั่นขอนี่ และจะกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งของผู้ปกครอง **"ข้ามีชิล ใช้สวรรค์เป็นข้ออ้าง แต่ไม่เคยเคารพสวรรค์  เข้าใจความเป็นไปของชีวิต แต่ไม่เคยก้มหัวให้ชะตากรรม ดูคนเป็นและใช้คนเป็น แต่ไม่เคยหวังพึ่งกำลังจากใคร  แล้วพวกเจ้าจะมีความหมายอะไร พวกเจ้าทำอย่างข้าได้ไหม"  - มิชิล เป็นคำของมีชิล ที่ฝากต๊อกมานไปบอกองค์หญิงชอนมยอง ว่าถ้าไม่แกร่งจริง อย่ามาหาญตั้งตัวเป็นปริปักษ์กับนางเลย **"ใจดีกับคนข้างกาย เข้มงวดกับราษฎร นับเป็นทรราชย์  เข้มงวดกับคนข้างกาย เมตตากับราษฎร จึงเป็นผู้ปกครองที่ดี" - ต๊อกมาน ราชินีต๊อกมาน ตรัสกับพีดาม เพื่อที่จะบอกว่า ทำไมจึงทำดูเหมือนไม่ไว้วางใจคนรอบตัวเสียบ้างเลย ที่จริงยังมีอีกเยอะ ใครจำได้ช่วยเสริมด้วยครับ จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:27:51

ความคิดเห็นที่ 10 - การตอบโต้คลาสสิค ระหว่าง มิชิล - ต๊อกมาน เกี่ยวกับ แนวทางการปกครองราษฎร “ต่อไปเมื่อมีหอดูดาวแล้ว ไม่ว่าใครก็จะสังเกตการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้าได้ และนับแต่นี้ จะไม่ให้ตำหนักเทพที่ศึกษาเรื่องนี้   หรือแม้แต่ใครคนใดคนหนึ่ง....อาศัยความไม่รู้ของราษฎรแต่งเรื่องยังไงก็ได้เพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของตัวเอง” “แปลว่าองค์หญิงจะยอมสละอำนาจของตัวเองด้วยหรือ” มีซิล ทูล “ข้ามีความคิดอย่างงั้นอยู่” “องค์หญิง โลกนี้ นอกจากทางสายตรงแล้ว เราอาจมองเป็นทางขวางได้อีก” “ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด” “ถ้ามองทางตรงก็จะแบ่งได้ดังนี้คือ.... ชาวแพ่กเจ โกคูรยอ และชิลลา และในแคว้นชิลลา ยังมีแบ่งคนที่ภักดีต่อองค์หญิง และภักดีต่อหม่อมฉัน มีซิล แต่ถ้ามองในอีกแง่ ลักษณะของทางขวาง มนุษย์จะแบ่งเป็นสองประเภทเท่านั้น คือผู้ปกครอง กับผู้อยู่ใต้ปกครอง ถ้าเรามองในทางขวาง องค์หญิงกับหม่อมฉันก็คือพวกเดียวกัน เราต่างมีหน้าที่ในการปกครองบ้านเมือง ในเมื่อชิงอำนาจจากหม่อมฉันไป องค์หญิงก็ควรรักษาให้ดี” มีซิล กล่าวทูล “ถ้าอย่างงั้น วันหนึ่งก็จะมีคนแย่งไปจากข้าอีก” “เพราะกลัวถูกแย่งเลยยอมทิ้งก่อนหรือ” “นี่ไม่ใช่การทิ้ง แต่เป็นการคืนอำนาจให้แก่ราษฎร” “ความหมายก็คือทิ้งนั่นแหละ ไม่มีอำนาจแล้วเราจะปกครองได้ยังไง” “จริงอยู่ องค์หญิง ตอนนี้เราเหมือนกำลังชิงอำนาจอยู่ แต่การช่วงชิงก็ควรมีกฎเกณฑ์บ้าง     ทรงทำแบบนี้ ก็เท่ากับผิดกติกาชัด ๆ  ไม่งั้นองค์หญิงจะสร้างอำนาจให้เป็นที่ยำเกรงของผู้คนได้ยังไง” “องค์หญิงจะใช้อะไรปกครองชาวชิลลาของเรา” “ข้าจะใช้ความจริงใจ” “ความจริงใจ อะไรคือจริงใจขององค์หญิงไม่ทราบ ในขณะที่ราษฎรร้องตะโกนต้อนรับธิดาแห่งสวรรค์คนใหม่ องค์หญิงจะมอบอะไรให้พวกเขา” “ข้าไม่รู้อะไรเลย ข้าไม่มีพลังวิเศษในตัวหรอก”  “นี่คือความจริงใจงั้นหรือ” “การค้นคว้านั้น ไม่เพียงให้รู้ที่มาของสรรพสิ่งในโลก ยังจะคลี่คลายสัจธรรมบางอย่างด้วย” “แล้วยังไง” “ในขณะที่ท่าน....อ้างว่าต้องการหาความรู้ในสรรพสิ่ง แต่กลับนำสิ่งที่ได้มาสร้างภาพลวง  ให้ตัวเองดูราวกับเป็นเทพจุติลงมา” “ชาวบ้านก็ต้องการภาพลวงอยู่แล้ว ฝนแล้งก็อยากให้มีฝนตก ต้องการใครก็ได้ที่สามารถบันดาลในสิ่งที่พวกเขารอคอย ผู้นำคนไหน ที่สนองตอบในจุดนี้ได้ก็จะเป็นผู้ปกครองที่ยั่งยืน” “ผิดแล้ว แท้ที่จริง พวกเขาต้องการความหวังต่างหาก” “ต้องการความหวังหรือ..องค์หญิง คำว่าราษฎร หรือแม้แต่มวลชนนั้น มีความน่ากลัวแค่ไหน ทรงรู้หรือเปล่า” “ความหวังของราษฎร  ก็คือความโลภ  องค์หญิงไม่รู้หรอกว่าความโลภเป็นสิ่งน่ากลัวแค่ไหน” “ใช่ เพราะข้าไม่เคยกลัวพวกเขา อย่างน้อยที่สุด  สิ่งที่พวกเขาต้องการก็แค่กินอิ่มนอนหลับในแต่ละวัน   มีความเป็นอยู่ดีขึ้นเท่านั้น  ไม่ได้หวังอะไรมากกว่านี้เลย” “ชาวบ้านน่ะ ไม่อยากรู้หรอกว่าทำไมฝนถึงตกหรือไม่ตก พวกเขา....ไม่อยากรู้ว่าสุริยคราสเกิดเพราะอะไรและทำไมถึงเกิด ขอแค่มีคนทำให้ฝนตก มีคนช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดอาเพศที่มากับสุริยคราส แค่นี้ก็พอแล้ว นี่แหละคือความโง่ของราษฎร” “นั่นเพราะว่า พวกเขาไม่มีความรู้” “ใช่ ไม่มีความรู้ ไม่คิดจะศึกษา หรือแม้แต่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรด้วย” “แต่ถ้าชาวบ้านมีปฏิทิน พวกเขาจะรู้เรื่องฤดูกาล รู้ว่าเมื่อไหร่เหมาะแก่การเพาะปลูก  ถึงตอนนั้น แม้จะไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดฝนตก แต่อย่างน้อย     เมื่อมีประสบการณ์ก็จะรู้ว่า ไม่ควรใช้น้ำจนหมด ให้เผื่อไว้ตอนหน้าแล้งบ้าง หลังจากนั้น พวกเขาจะค่อย ๆ ปรับตัวและเรียนรู้เรื่องธรรมชาติ นี่แหละคือราษฎร” “คนที่รู้มาก ยิ่งฉลาดหลักแหลม แท้จริงมันเป็นความทุกข์มากกว่า การสอนให้พวกเขารู้เยอะ ๆ มันเป็นงานที่เหนื่อยและหนักมาก” มีซิล กล่าว “แต่ความหวัง....จะทำให้คนยอมอดทน รับความเจ็บปวดทุกอย่าง ราษฎรที่มีความหวัง จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้บ้านเมืองเจริญขึ้น ข้าต้องการคนที่มีความมุ่งมั่นเหมือนกัน เพื่อจะสร้างชิลลา ให้เป็นเมืองใหม่” “องค์หญิง สิ่งที่หม่อมฉันพูดคือภาพลวงตาของชาวบ้าน ในขณะที่องค์หญิง รับสั่งถึงความหวังของราษฎร แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นภาพลวงตา หรือความฝันอันสวยงาม....สุดท้ายก็สู้ความจริงอันโหดร้ายไม่ได้อยู่ดี ” บทสรุปเรื่องแนวคิดในการปกครองของมิชิลและต๊อกมาน อยู่ในบทพูดนี้จนหมดสิ้น ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติมใด ๆ จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:31:57

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นละครที่เนื้อหาลึกซึ้ง และโปรดัคชั่นก็อลังการมาก จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:38:25

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ได้่เขียนแ่ง่มุมเรื่องความรักในเรื่องนี้เลย ใครถนัดมาตั้งกระทู้ให้หน่อยครับ จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:40:17

ความคิดเห็นที่ 13 หอดูดาว หรือ ชอมซองแด (Cheomseongdae) ผลงานสำคัญของ พระนางต๊อกมาน จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:46:31

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นมุมมองที่น่าสนใจมาก   เรามองว่าละครเรื่องนี้ไม่ใช่ละครประวัติศาสตร์ แต่เป็นละครที่ใช้ประวัติศาสตร์เล่าเรื่อง ประวัติศาสตร์เป็นเพียงเปลือกของเรื่องเท่านั้น แต่วิธีคิดและการดำเนินการทางการเมืองของตัวละครเป็นเรื่องราวของวิธีมองการเมืองในปัจจุบันมากกว่า  และเป็นวิธีมองการเมืองแบบคนเกาหลีที่ไม่รู้จักสถาบันกษัตริย์  (ไม่ได้หมายความว่าเขาผิดหรือถูก แต่เป็นเรื่องของความแตกต่าง) คนเขียนบทเรื่องนี้ไม่ได้นำเอาสภาพแวดล้อม วิถีชีวิต และวิธีคิดแบบคนในประวัติศาสตร์มาดำเนินเรื่องแต่อย่างใด และเรายังมองว่าละครนี้มีการโฆษณาชวนเชื่อเรื่องการรวมแผ่นดิน หรือการรวมเกาหลีเหนือใต้อยู่อย่างชัดเจน เราว่าการแสดงความคิดเห็นของใครมันก็ไม่ใช่บทสรุปนะ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนคห.กันมากกว่า จากคุณ : tomatolatte เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 15:52:34

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องนี้ ขอคารวะ คนเขียนบท คนเดียวเลย สุดยอดมาก จากคุณ : จี๋จ๋า เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 16:47:21

ความคิดเห็นที่ 16 ผู้เขียนบท คือ คุณ คิมยองฮยอน และ คุณ ปาร์คซังยอน ครับ เชิญอาจบทสัมภาษณ์ได้ น่าสนใจมาก สำหรับผู้ชื่นชอบละครเื่รื่องนี้ http://twssg.=ไม่ใช่ลิขวิด=.com/2010/03/kim-young-hyeon-parkqueen-seon-duk.html เครดิต : BYJ & Hallyu Star Thailand แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 53 17:29:45 แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 53 17:28:38 จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:03:20

ความคิดเห็นที่ 17 ^^ คนเขียนบท ไม่ได้เอาประวัติศาสตร์มาเขียน แต่เอา ประวัติการเมือง ที่เกิดในประเทศทั่วโลก มา เขียนรวมๆกัน แล้ว แปะประวัติศาสตร์ ของเกาหลี ไป อย่างละนิด ละหน่อย การเมือง หมายถึงการปกครองประเทศ โดยมี ชนผู้นำ และชั้นผู้ตาม เรื่อง QSD จุดประกาย ด้วยดวงดาว สร้างปาฏิหารย์ความเชื่อ โดยเริ่มต้น ว่า จะมี ผู้ วิเศษ กำเนิดมาจากดวงดาว และ ทำนาย ด้วยความเชื่อ ถึงเรื่องฝาแฝด หญิง ใน วงศ์ กษัตริย์ จะอาเพท ทำลาย บัลลังก์ ให้ สั่นคลอน นี่คือ ความคิด ที่ซ่อนนัย ว่า มีคนเดียว ก็พอ ถ้ามี สองต้องแย่ง อำนาจ เพราะ กลิ่น อำนาจ หอมหวานกว่า กลิ่นใดๆ การแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น เพราะ มีตัวเลือกมากกว่า หนึ่ง จึงทำนายต่อว่า ถ้ามีแฝดหญิง มีลูกชายเกิด มาจะต้องตาย การทำนายที่น่ากลัวนี้ ยังลามถึง ว่าหากมีลูกชาย ต้องฆ่าแฝดหญิงนั้นทิ้ง เพื่อตัดรากถอนโคน ด้วยมากคนมากเรื่อง เพราะอำนาจ ของคน มักยอม ผู้ชายให้เป็นตัวเลือกแรก จะดีจะเลว ไม่ใช่ประเด็น แค่ คำทำนายที่ยอกย้อนของ ผู้สืบทอด ก็ เข้าการเมืองแล้วในเรื่องนี้ แฝดหญิง ของ พี่สาวและด๊อก มัน จึง จุติ ให้เป็นการพลัดพราก แล้วลากให้ ด๊อกมัน ออกไป เรียนรู้ สะสมความเก่งกาจ มาเป็น คู่แข่งของ ผู้มีอำนาจ คนหนึ่งคือ มิชิล บท เขียนให้ เจ้าหญิงองค์พี่ ต้องถอยร่น จากวงจร อำนาจ การปกครอง เพราะสู้เหลี่ยมคูของ ผู้ กุมอำนาจ คือมิชิลไม่ได้ สงครามการแย่ง ประชาชน จึงเหลือ แค่ สองคน  ต่อสู้ฟาดฟันกัน และต่างมีคนถือข้าง ต่างสะสม บารมี พรรคพวก และ เอาตำแหน่ง เข้าเดิมพัน ทั้งใน การปกครองและการทหาร เรื่องราวใน เรื่องนี้ ชี้ถึง ความไม่จริงใจ ของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายมิชิล กักตุนสินค้า ฮุบที่ดิน ฝ่ายอำมาตย์ ของ ด๊อกมัน ก็ กักตุน ซื้อสินค้า ไว้ขายเก็งกำไร เช่นกัน แม้กระทั่ง ที่ดิน ต่างก็ละโมบ เก็บตุน เเละกลัวถูกแบ่งปันให้ ประชาชน นี่คือการเมืองที่ ตีสองหน้า เรื่อง Queen Seon Deok แฉเป็น ระยะๆ แค่คิดก็สนุก ที่ได้มาร่วม วิแคะ แกะ เรื่อง ท่านที่เห็นแย้ง เชิญ รับต่อ ถ้ามีประเด็นใด  พอเข้าร่วมได้ จะ แคะไค้ต่อ  จ้า !!!! แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 53 17:25:38 แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 53 17:21:55 จากคุณ : กัมปู้จู้ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:15:57

ความคิดเห็นที่ 18 จำมาจากกระทู้ในห้องเฉลิมไทย มิชิลเปรียบเสมือน เด็กเก่งแต่เรียนภายในประเทศ มาเจอ ต๊อกมานที่จบนานาชาิติ ดังนั้น ความคิดของต๊อกมาน จึงก้าวไกล กล้าคิดนอกกรอบ และเป็นสากลกว่า เปรียบได้น่าสนใจดี  (ภาพประกอบเอามาฝากคนรักไอชองครับ) จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:25:09

ความคิดเห็นที่ 19 ปกติไม่ค่อยดูพีเรียด เรื่องนี้ดูบ้างของช่อง 3 ครับ แต่ไม่ค่อยปะติดปะต่อ ชอบมีซิลมาก แสดงได้นิ่งมาก อาจจะเป็นบทที่ต้องทำหน้านิ่ง ไม่แสดงอารมณ์ แต่ไอ้หน้าที่ไม่แสดงอารมณ์นี่มันได้อารมณ์จริงๆ ยิ่งตอนยิ้มมุมปาก มันหมั่นเขี้ยว.. จากคุณ : AB Rh+ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:39:45

ความคิดเห็นที่ 20 ขอวิแคะ เหลี่ยมคูของ ทั่นผู้นำ มิชิล >> ในเรื่องปฎิทิน คนฉลาด จะทำการสิ่งใด เพื่ออำนาจแล้ว ดูน่ากลัวววว ถ้าได้รู้เบื้องหลัง มิชิล เก็บปฎิทินที่คำนวน อากาศ ตามเวลาที่ โลกหมุนเวียนไป กระแสลม กระแสน้ำ จะ มีขึ้น มีลง ตอนใด เพราะ แรงดึงดูด ของ ดวงอาทิตย็ โลก ดวงจันทร์ ศาสตร์ลึกลับที่ค้นคิดได้โดยการสังเกต ของปราชญ์ ที่ศึกษา ดวงดาว ใช้ การบันทึก จนสามารถคำนวนได้ใกล้เคียงว่า วันใด จะมีเหตุการณ์ที่ แปลกประหลาด ซึ่งธรรมชาติจะปรากฎ เช่น สุริยคราส พายุโหมกระหน่ำ ประชาชน เห็น เรื่องปรากฎการณ์ นี้เป็น ปาฎิหารย์ เป็น บงการของสวรรค์ เกิด ความกลัว และ หลงเชื่อว่า จะมีเหตุเภทภัย มิชิล ใช้ สิ่งที่ตัวรู้ หลอกลวง อำพราง ประชาชน ให้ เข้าใจผิด คิดว่า นางเป็น คนศักดิ์สิทธิ์ รู้ เรื่องเหนือมนุษย์ เก่งเกิน คนธรรมดา เพราะแก้ไขได้ ด้วย พิธีกรรม ประชาชน เดินเซื่อง ๆ สู่กับดัก เหลี่ยมอันแพรวพราว ยอมยอบสยบ และ ก้มกราบ สรรเสริญ มิชิล ช่างลึกล้ำ เกินคนใด คาดคิด ตามทัน หรือ สงสัย แต่ เหนือ ฟ้า ยังมีเมฆ เหนือ มิชิลมีพีดาม ศัตรู จากเลือดเนื้อ คนนี้ เหมือน พิษร้ายที่ สะสมจากแม่ คือมิชิล งู เห่า แพ้ ปี่แขก ยัง มิสู้ เล่ห์กลใกล้ตัวที่ ยอกย้อน ถองเอาที่ปลายคาง ผู้นำ อย่าง มิชิล เคยคิดไม๊ว่า กระดาษ ที่เรียกว่า ปฎิทินที่ใช้เป็นอาวุธ ล้างสมอง ประชาชน สุดท้ายแล้ว จะกลายเป็น หอก หันมาเสียบ อกตัว  !!!!! จากคุณ : กัมปู้จู้ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 17:55:13

ความคิดเห็นที่ 21 ^^ มาดูเล่ห์กล ของการเมือง ตัวสำคัญเล่น ตามบท แค่เมล็ดถั่ว ที่รากงอก ออกต้น เป็นไอเดียเก๋ ตั้งแต่ หนังสือ ชื่อดัง เรื่อง คนขี่เสือ ของอินเดีย ขุดหลุมใส่ เมล็ดถั่ว พรมน้ำ แล้ว บ่น งึมงำ เป็นภาษา คดเคี้ยว สักประเดี๋ยว ดินก็ ดัน พระพุทธรูป โผล่ขึ้นมา ไอเดีย เริ่ด ก็คล้าย คนตกทอง  หากิน ได้ บ่อยๆ ไม่เสื่อมมนต์ขลัง ประชาชน แตกตื่น กับ พระพุทธรูปโผล่กลางเมือง สมัยมิชิล ที่มิเเซง น้องชายสร้าง อิทธเดชให้ พี่สาว มิชิล ตามคำทำนาย ในวันที่เสริมดวง ให้ มิชิล คือผู้วิเศษ เสียง ฮือฮา ปานว่า มิชิลเป็น เทวดานางฟ้า ถึงขั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โผล่กลางเมือง กลนี้ พีดามเล่นบ้าง เพื่อ ตีฆ้องให้ตัว วิเศษ เช่นกัน   ได้ผล ประชาชน โดนเป่ามนต์ เชื่ออีกว่า พีดาม เป็นผู้ วิเศษ อีกคน หมอดู หมอเดา หมอผี จับจุดอ่อนของคนได้ฉันใด ผู้ อยากมีอำนาจ อยากมีบารมี ก็ จับทาง ประชาชนได้ฉันนั้น ประชาชน คือเหยื่อ มาแต่ สมัย โชซอน เพ็คเจ โคคูริว ยัน โซล ลามปาม แผ่ ไปทั่ว เพราะ ความเชื่อ ความศรัทธา เส้นแบ่ง ใกล้ชิด กับความงมงาย !!!! จากคุณ : กัมปู้จู้ เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 18:14:32

ความคิดเห็นที่ 22 เสียดายจัง ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้  แต่ซื้อเก็บไว้แล้วคร๊าบบบบ ซีรีส์เรื่องนี้มีคนชื่นชมมากมาย แม้กระทั่งคอลัมนิสต์ใน นสพ รายวันหลายฉบับ  อยากเห็นละครไทยเอา ปวศ มาสร้างให้ได้ดีอย่างซีรีส์เกาหลีมั่ง จากคุณ : กรีน..ที เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 21:21:28

ความคิดเห็นที่ 23 ทั้งเรื่องเวทย์มนต์เก๊ (ใช้ถั่วขยายตัวมาดันพระพุทธรูป) และเรื่อง ปฎิทินที่ล้ำสมัย (ดอกเหมยแห่งซาตาฮัม) ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ผู้เขียนบทบอกเราว่า ความรู้คืออาวุธ ผู้ที่โง่เขลากว่าย่อมตกเป็นเหยื่อ และสิ่งเร้นลับไม่มีในโลก ผมรู้สึกนับถือ ที่ผู้สร้างวางแนวทางเรื่องนี้ ให้มีเหตุมีผลตามความเป็นจริง ไม่มีปาฏิหาริย์ใด ๆ ทั้งที่ตามบท ถึงจะใส่อภินิหารใด ๆ เข้าไปบ้าง (แบบหนังจีน) ก็ไม่ถึงกับทำให้โครงเรื่องเสียหาย (เรื่องดาวลูกไก่ 8 ดวงก็อาจเป็นแค่ปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่ไม่ส่งผลใด ๆ ในความเป็นจริง) บทบู๊ ฉากสงคราม ก็ไม่ได้เก่งเว่อร์ แผนการต่าง ๆ ของทุกฝ่าย ก็ล้วนเป็นไปได้ ไม่ได้เต็มไปด้วยความบังเอิญ ที่เราเห็นจนเจนตาในเรื่องนี้ คือ ฉากนั่งโต๊ะประชุม ปรึกษากันว่าจะทำยังไงต่อดี เป็นละครที่แต่ละฝ่าย ต่อสู้กันด้วยสติปัญญาล้วน ๆ จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 21:38:59

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณที่มาวิเคราะห์ให้ เป็นซีรีย์ที่ซื้อเก็บโดยไม่เสียดายเงินเลย ขอรับฟังอยู่วงนอกแล้วกัน ^^ อำนาจหอมหวานแต่ไม่ยั่งยืน การเสียสละแม้เพียงครั้งเดียวแต่ยั่งยืนยาวนาน จากคุณ : หัวใจข้างซ้าย พวงมาลัยข้างขวา เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 15:47:23

ความคิดเห็นที่ 25 ผมคงดูจบคืนนี้ล่ะครับ เหลือแค่สองตอน และเมื่อคืนได้ฟังคำคมมาอีกคำ " การจะครองใจใครซักคน ยากเสียยิ่งกว่าการครองแผ่นดิน.. แต่.. การจะตัดขาดจากคนคนนั้น ยากยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด.."  - ต๊อกมาน ประโยคแรกแสดงถึงว่า ต๊อกมานให้ความสำคัญกับ "บุคลากร" เป็นอย่างสูง และ "คน" ก็คือปัจจัยสำคัญในการได้มาซึ่งอำนาจ แต่ประโยคหลัง ก็แสดงความโดดเดี่ยว ยิ่งสูงยิ่งหนาว ออกมาอย่างแจ่มชัด หลังจากต๊อกมานขึ้นครองราชย์ ดูเธอไม่มีความสุขเอาซะเลย น่าสงสาร จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 16:02:29

ความคิดเห็นที่ 26   ขอร่วมแจมอีกซักนิด ปกติ ดูซีรี่ย์ เรื่องใดที่มีบทคมๆ มักจะชอบ แต่ไม่จำเพราะ เยอะเกินสมองบันทึก จำแต่ภาพรวมๆ จำได้ว่า ดู QSD เวลา สองสิงห์สาว ประคารมกันจะชอบมาก ได้ ข้อคิดมาเยอะแยะและถูกใจ ดังที่ จขกท ยก มา ^^ ^^ เนื้อเรื่องทันสมัย เฉียบคมมาก เช่น เรื่องการ ปกครอง เพื่อให้ได้ใจ ประชาชน มีวิธีการใด ทั้งทางตรง ทางอ้อม ต่างก็ งัดมาใช้ จุดมุ่งหมายเพื่อแย่งมวลชน เป็นซีรี่ย์ ที่ ดูแล้ว มิใช่แค่ ความสนุก แต่ ดูแล้วนำมาตรึกตรอง ว่าเรื่องราวในหนังกับชีวิตจริงไม่ต่างกัน คำพูด ที่กล่าวถึง ประชาชน ในเรื่อง ความรู้ ความเชื่อ ความคิดเป็นจุดเด่น เมื่อมองไปรอบๆ นอกตัวหนัง การที่มีหนัง ดี ออกมาให้คนดู ได้ เสพ นอกจากความบันเทิง การเรียนรู้ เพื่อ เอาไปใช้ในชีวิตจริง คือ ผลที่ได้รับ QSD สอน ประชาชนที่ดูหนังเรื่องนี้ มองขึ้นไป แล้วจะเห็นว่า ทำไม บางคน ที่คิดว่า เก่งกว่า สูงกว่าก้มมองมา ด้วยสายตา และความคิด ที่น่าสงสาร ดูถูก คนที่ต่ำกว่า หรือ ใครกันแน่ ที่ยังไม่เข้าใจ ความจริง นี่คือ ความท้าทาย ขณะที่ดู Queen Seon Deok โดยส่วนตัว ชอบบท พูดมากที่สุด บทรัก ไม่ซาบซึ้ง เท่าพีเรียดอื่น เพราะ เรื่องเน้น การเอาชนะด้วยการใช้ปัญญาแก้ปัญหา ตัวอย่างคือ มิชิล จะมีบทนั่ง มากที่สุด ในการสั่งงาน !!! จากคุณ : แฟนมิชิล เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 16:37:00 A:115.87.95.26 X: TicketID:268797

ความคิดเห็นที่ 27 ต้องคาราวะผู้เขียนบทค่ะ เพราะทำเรื่องพีเรียดที่ละเมียดละไม เต็มด้วยอารมณ์ และแฝงด้วยสาระ ตั้งแต่แดจังกึม ถึง ซอนต๊อก ------------------------------------------- เราไม่ใช่คอละครพีเรียดแถมหลังไปอิงกับแดนยุ่นและยุโรป มากกว่า จากคุณ : isobuty เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 17:51:47

ความคิดเห็นที่ 28 มาชื่นชมผู้วิแคะทุกคน ดูละครแล้วเก็บรายละเอียดได้ยอดเยี่ยม ยอมรับว่าตั้งแต่ดูละครพีเรียดมา เรื่องนี้ทันยุคได้ทุกสมัย เนื้อเรื่องเฉือดเฉือน ใครครองอำนาจก็จะหลงในอำนาจ อยู่ที่ว่าหาเหตุ และผลอย่างไรตามต้องการ สร้างเหตุ ให้ได้ผลนั้น แม้กระทั่งเมื่อคืน ดูจบ ก็ยังคิดว่า ต็อคมาน ก็คือผู้ที่ต้องการคุมอำนาจคนหนึ่ง ใช้ข้ออ้างเรื่องประชาชนและความเป็นหนึ่งเดียว โดยไม่ยอมรับความเห็นที่แตกต่าง แม้จะใช้ข้ออ้างว่าให้โอกาสแล้ว แต่ก็ยังคิดระแวงว่าคนเหล่านั้น ยังตั้งกองกำลังรอชิงอำนาจ ไม่ได้แยกแยะว่าด้วยผลงานที่ตนเองทำลงไปได้ผลทางจิตใจคนส่วนใหญ่หรือไม่ ถ้าทำให้ประชาชนมีสุขจริง ใครจะคิดแยก กองกำลังที่มีก็เป็นเพียงส่วนน้อย หากสืบเสาะแล้วให้ทางออก ก็จะได้ใจจากคนที่ยังไขว้เขวได้ เพียงคำพูดที่ผิดหู ซอนต็อคก็ลุแก่โทสะ กำลังรอว่าตอนต่อไป ยูซินที่ภักดีจะทำอย่างไร จากคุณ : ogod (เฒ่าไม่เก่า) เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 11:01:31

ความคิดเห็นที่ 29 แต่ผมยังเข้าข้างต๊อกมานครับ คุณ ogod ต๊อกมานก็เหมือนผู้สมัคร สส.หน้าใหม่ ที่ไม่มีสังกัดพรรค เป็นผู้สมัครอิสระ ต้องมาแข่งกับ ทั่น สส.ผู้ยิ่งใหญ่ มิชิล ที่ได้รับเลือกตั้งมาสิบสมัยซ้อน บารมีล้นเหลือ มิิชิลมีเครือข่ายหัวคะแนนอยู่เต็มพื้นที่ ถึงจะไม่พัฒนาท้องถิ่นเลย ก็ยังได้รับเลือกตั้งแน่ ๆ เพราะ หนึ่ง มีคะแนนเสียงจัดตั้งหนาแน่น สอง ใช้เงินซื้อเสียงเป็นประจำ และข้อสาม สำคัญที่สุด ชาวบ้านไม่รู้จะเลือกใคร และถ้าเลือกคนนั้นมาแล้ว จะทำงานได้หรือเปล่า (อาจถูกอิทธิพลมืดบีบ) ดังนั้น ต๊อกมานจะทำยังไงให้ได้รับเืลือกตั้ง หนึ่ง ใช้เล่ห์กลนิด ๆ เพื่อ ดิสเครดิต มิชิล สอง สร้างภาพตัวเอง ว่าเป็นมิชิลเบอร์สอง สาม ดึงหัวคะแนนบางส่วนโดยใช้ผลประโยชน์่ล่อ และอาจมีข้อสี่ คือ ซื้อเสียงสู้กับเขาด้วยบางส่วน การใช้เล่ห์กลของต๊อกมาน ไม่สำคัญ สำคัญเมื่อได้รับตำแหน่งมาแล้ว ต้องทำงานเพื่อประชาชนจริง ๆ และที่เราเห็นในเรื่อง ต๊อกมานก็ทำตามสัญญาประชาคม เน้นการกินดีอยู่ดีจริง ๆ ส่วนเรื่องการระแวงพรรคพวก ก็อย่างที่บอกครับ ตอนเลือกตั้ง ต้องทำอะไรหลายอย่างเพื่อให้ได้รับเลือก ก็เป็นธรรมดาที่ต้องระแวงบ้าง อะไรบ้าง แล้วพวกที่หันมาช่วยเรา จะมีซักกี่คน ที่สนับสนุนด้วยความจริงใจ ส่วนใหญ่ก็หวังผลประโยชน์เหมือนกัน ซึ่งพวกนี้ นานเ้ข้าก็ออกลาย เห็นใจต๊อกมานครับ ต้องคุมพวกเสือสิงห์กระทิงให้ได้ เลยต้องเครียดอย่างที่เห็น (กระทั่ง คิมซอยอน พ่อคิมยูชิน ก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้นะครับ ถ้าเรายังจำได้ คิมซอยอนเคยคิดจะฆ่าต๊อกมานเหมือนกัน เพื่อให้ยูชินได้เป็นราชบุตรเขย) จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 12:25:56

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนเรื่องที่ต๊อกมานระแวงพวกกลุ่มโพยา ก็มีมูลความจริงครับ แวยาซ่อมสุมกำลังจริง ๆ  ถ้าเราจะบอกว่า แวยาและกลุ่มโพยา หนุนต๊อกมานแล้วจะไม่มีความคิดก่อการเลย คงบอกไม่ได้ สำหรับที่ต๊อกมาน มีอาการไม่เชื่อใจคิมยูชินนั้น ขอให้ดูไปเรื่อย ๆ ครับ ผมว่า ต๊อกมานเธอไว้ใจยูชินมากกว่าใครทั้งหมด เพียงแต่การแสดงออกของคนที่เป็นประมุข ต้องรอบคอบ หากการแสดงออกไม่เหมาะสม จะทำให้เหล่าขุนนางคิดเป็นอื่นได้ง่าย แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 53 13:37:43 จากคุณ : Mad Bull เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 12:37:30

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนที่ดูเรื่องนี้ ยิ่งท้ายๆเรื่องยิ่งเหมือนการเมืองบ้านเรามากเลย จะขอพูดถึงพวกแม่ทัพและขุนนางในเรื่องนะคะ ก็เหมือนกับส.ส.ค่ะ คือฝ่ายไหนให้ผลประโยชน์มากกว่าก็เข้าข้างฝ่ายนั้น อย่างเช่นฮวารังหรือขุนนางบางคนที่เคยอยู่ฝ่ายมิชิลก็หันไปอยู่ฝ่ายต๊อกมานและหลังสุดก็อยู่ฝ่ายพีดาม สาเหตุเพราะคิดว่าตัวเองนั้นต้องสูญเสียผลประโยชน์ จากคุณ : ehja เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 13:39:42

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ เอ๊ะ พีเรียด ทุกเรื่องที่ดูมา  เหมือน บ้านเรายังกะ มานั่งเขีนบทในนี้ เจาะลึก แคะล้วง ได้แสบทรวง เวลาดู กับคนในบ้าน จะว่า เหมือนๆ คนนั้น คนนี้ แล้วก็ หัวเราะ ชอบใจ เหมือน คนบร้าๆๆๆ เก็บกด 555555555555555555555 จากคุณ : กัมปู้จู้ เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 14:08:17

ความคิดเห็นที่ 33 #32  ตอนออกประกาศห้ามชุมนุมเกินห้าคน ผมว่าหลายคนนึกขำแน่นอน จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 14:18:41

ความคิดเห็นที่ 34 32-33  ตอนนั่งดูอุทานว่าเฮ้ยเอาเรื่องของบ้านเราไปเขียนแน่ๆเลย จากคุณ : ehja เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 14:31:06

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่แปลกใจเลยที่ซีรีย์นี้ได้รับความนิยมเกิน40%อยู่ถึง6เดือน ตอนนี้ระบาดมางอมแงมกันไปทั่วประเทศเลยทีเดียว ซาวเสียงดูทุกคนบอกว่าเหมือนประเทศนืงเลย (คุณ sianpa แอบมาอยู่นี่เอง คาเฟ่โดนกระชับพื้นที่ไปแล้ว) จากคุณ : goodji เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 14:54:19

ความคิดเห็นที่ 36 หวัดดีครับคุณข้าวจี่ ขอสารภาพผิดว่า เพราะมาหลงอยู่ที่โซล เลยกลับโตเกียวไม่ถูก กำลังจะคิดประเด็นไปแตกคาเฟ่ใหม่ครับ ร้านที่แล้วได้คุณบีมช่วยชีวิตเอาไว้ แต่ตอนนี้ ซีรีย์ญี่ปุ่นแทบไม่ได้ดูเลย หัวสมองเลยค่อนข้างตีบตันพอสมควร ตรงกันข้าม มีซีรีย์เกาหลีจ่อคิวดูต่อจากซอนต๊อกอีกสองสามเรื่อง สภาพอย่างนี้ มีหวังได้หลงอยู่โซลอีกพักใหญ่เป็นแน่ จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 15:11:01

ความคิดเห็นที่ 37 คุณโก้คะ ตอนนี้ใครๆเค้ากำลังติด Mr. Brain คุณแม่เพื่อน(วัย59)ขอรบกวนยืมแผ่นแล้วตอนนี้ ส่วนตัวก็ชอบหนังที่กวนๆด้วยอยู่แล้ว เลยชอบมากขึ้น จากคุณ : goodji เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 15:41:59

ความคิดเห็นที่ 38 ขอโทษคุณๆด้วยนะคะ นอกเรื่องนิดนึง แหะๆ จากคุณ : goodji เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 15:43:46

ความคิดเห็นที่ 39 พูดถึงมิสเตอร์เบรน เขินจังตอนเห็นกระทู้รายงานสดของน้องโม เพราะเคยรับปากว่าจะไปแจม นี่ตัวเองกลับหายต๋อมไปเลย  = =" จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 16:07:15

ความคิดเห็นที่ 40 ถ้าไงก็ไปแจมก่อนซีรีย์จบเนาะ j-series เค้ามาเร็วไปเร็ว จากคุณ : goodji เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 16:24:02

ความคิดเห็นที่ 41 ปกติจะดูลครแบบไม่หลับไม่นอนรวดสองรวดก็จบแล้ว ที่ยังไม่ได้ดู QSD รอตั้งหลักดูฤกษ์ยามให้ดีๆ เรื่องยาวเกิน 16 ตอน.... นี้กลัวมาก กลัวจะเป็นลมก่อนจะดูจบ 555 ระหว่างดูฤกษ์งามยามดี ก็ดูหนังเกาหลีที่ซื้อมาจากโซลตั้งแต่มีนาที่แล้ว Jang Dong gun แสดงทั้งสองเรื่อง เรื่อง Good Morning President และเรื่อง Friend ซับภาษาอังกฤษ Good Morning President เป็นเรื่องราวของสามประธานาธิบดี ในสถานะการณ์ที่แตกต่างกัน ชอบบทที่บอกว่าชีวิตประธานาธิบดีก็ไม่ต่างไปจากเรา "People think that Presidents are  special persons but what we often forget is that at cirtain moments  they are someone's husband, wife or parents. Their joy, sadness & happiness are not all different from ours" แต่เราในฐานะคนดูอยากบอกว่า "ถึงชีวิตไม่แตกต่างกัน แต่ความเป็นอยู่แตกต่างกันจ้า ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครอยากเป็นประธานาธิบดีหรืออีกนัยหนึ่งนักการเมืองหรอก" Friend ตามหาเรื่องนี้หลังจากดู Friend, Our Legend ชอบบทที่ Hyunbin แสดง ในหนังเป็นบทของ Jang Dong gun หนังเรื่อง Friend นี้ บทสรุปอาจทำให้คนดูแต่ละคนสรุปได้ต่างกันเพราะขาดรายละเอียดที่จะทำให้เราเข้าถึงความรักเพื่อน (คือต้องเดาเอาล้วนๆ แน่นอนคนดูแต่ละคน ย่อมเดาไม่เหมือนกันอยู่แล้ว)....ไม่เหมือนกับในลคร ปล พรุ่งนี้จะเริ่มดู QSD กว่าจะดูจบ อิฉันคงตก Trend ไม่ร่วมสมัยกับหนูๆแน่นอน จากคุณ : I am Young เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 19:12:19

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณที่แนะนำหนังครับพี่ยั่ง  Good Morning President น่าสนใจจัง แต่ติดตรงซับอังกฤษ เด๋วนี้ผมขี้เกียจอ่านอย่างแรง ส่้วน Friend คิดว่าเคยดูแล้วครับ เป็นหนังติดอันดับบ๊อกซ์ออฟฟิซของเกาหลีเรื่องหนึ่ง เมื่อปีก่อน (หรือสองปีก่อนไม่แน่ใจ) เขาเอาเรื่องนี้มาทำซีรีย์นะครับ ในชื่อ Friends, our legend บินนี่แสดงนำ QSD ดูเถอะนะครับ คิดว่า คงเป็นตำนานเหมือน Dae Jung Guem ไปอีกหลายปี จากคุณ : sianpa เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 20:31:22

ความคิดเห็นที่ 43 เยี่ยมมากกก จากคุณ : nuni_kumi เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:47:04