Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผมรักความ Feel Good ของสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก (สปอยล์เต็มๆ)  

“ Feel Good ” คงเป็นคำที่คุ้นเคยกันดีสำหรับคนดูหนัง ในการบ่งบอกประเภทของหนังที่ดูแล้วรู้สึกดี ไม่เป็นพิษเป็นภัย ดูแล้วอบอุ่นสบายใจ อิ่มเอมออกจากโรงหนัง สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกเลี่ยนว่า โลกจริงอะไรมันจะสดใสเหมือนในหนังกันเล่า แต่ในเมื่อความเป็นจริงมันโหดร้ายได้เพียงใด ในความเป็นจริงมันก็ยังมีมุมที่สดใสได้เพียงนั้นเหมือนกัน อยู่ที่ว่าใครจะเผชิญโลกมาแบบไหน

สำหรับผม ชอบความฟีลกู๊ดเป็นพิเศษ เพราะอย่างน้อย มันก็ช่วยให้ความวุ่นวายปวดหัวของการงานผ่อนคลายไปได้บ้าง บอกตรงๆว่า ไม่ได้คิดจะดูหนังเรื่องนี้มาก่อน หนังตัวอย่างก็ไม่ได้ดู บังเอิญเป็นเด็กยุคบุญชู เลยหาข้อมูลว่าจะไปดูบุญชูดีหรือเปล่า ก็เห็นมีคนพูดถึง “สิ่งเล็กๆฯ” กันเยอะ แต่มาตัดสินใจดู “สิ่งเล็กๆ” หน้าโรงนี่เอง เพียงเพราะรอบฉายบุญชูมันต้องรออีกสองชั่วโมง ในขณะที่เรื่องนี้ มีรอบดูได้เลย ระหว่างรอคิวเด็กข้างหน้ากลุ่มใหญ่เป็นเด็กผู้หญิง ม.ต้น เห็นคุยว่าจะดูเรื่องนี้เหมือนกัน ก็นึกในใจว่า ตูคิดถูกป่าวฟะ เป็นเด็กรุ่น“แฟนฉัน” เจือกจะมาดูหนังรัก เด็ก ม.ต้นเนี่ยนะ ดูคนเดียวอีกต่างหาก แต่เป็นไงเป็นกัน จัดไป…

จริงๆแล้วระหว่างดูผมกลัวหลายอย่างนะว่ามันจะมีฉากหักมุมเป็นช็อคโลกมั้ย อย่างที่เจอตอน Friendship ออกจากโรงมาอย่างหดหู่ แต่ สิ่งเล็กๆ ก็ไม่ทำให้ต้องผิดหวัง ได้ความอิ่มเอมกลับมาอย่างเต็มเปี่ยม จะมีขัดใจบ้างกับตอนจบที่รู้สึกว่ามันยังสุดได้อีก

แน่นอนความ feel good ได้จัดสรรไว้อย่างลงตัวในหนังเรื่องนี้ และผมรักจริงๆกับบทและการดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้…

น้ำ แม้เธอจะเป็นเด็ก ม.ต้น ที่มีความรักแบบ puppy love แต่เธอเป็นเด็กที่คิดดี และรักดีจริงๆ แปรเปลี่ยนความรักแบบเด็กๆ ออกมาเป็นพลังอย่างสร้างสรรค์ ตั้งแต่ สิ่งปรุงแต่งภายนอกอย่างการพยายามทำตัวเองให้ดูดีขึ้น ไปจนถึงการขยันหมั่นเพียรจนสอบได้ที่ 1 จากที่เคยได้แค่ที่ 30 ซึ่งจริงๆแล้ว “แรงบันดาลใจ”เรื่องการเรียน แท้จริงแล้วไม่ได้มาจากเรื่องรักด้วยซ้ำไป แต่เป็นเพราะเธออย่างไปหาพ่อที่อเมริกาต่างหาก ซึ่งฉากที่ผมชอบมากๆ คือ ฉากที่เธอร้องไห้เสียใจเพราะอกหัก แต่เธอร้องไห้อยู่หน้ากองหนังสือ และยังดูหนังสือไปด้วย! ทำให้เราได้รู้ว่า แม้เธอจะเสียใจเรื่องความรักมากแค่ไหน แต่น้องก็ยังไม่ละทิ้งการเรียน นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่พ่อ  ครูอินยังเป็น“แรงบันดาลใจ” ให้เธอฮึดสู้ ฝึกดรัมเมเยอร์อีกด้วย เธอพยายามอย่างหนักเพราะต้องไม่ให้เสียชื่อเด็กปั้นครูอิน theme หนังอาจเป็นเรื่องรัก แต่แรงบันดาลใจของเธอหลายๆอย่างมันไม่ใช่เรื่องรัก ซึ่งผมคิดว่าเป็นความชาญฉลาดของบทที่ส่งให้นางเอกของเราเป็นเด็กสมบูรณ์แบบจริงๆ นอกจากนี้ผมคิดว่า น้ำเป็นเด็กที่รักอย่างมีสติจริงๆ อย่างตอนท้ายที่แม้จะรู้ว่าโชนตกลงเป็นแฟนปิ่นแล้ว เมื่อเจอปิ่นโดยบังเอิญ เธอกำลังจะผละหนีไป แต่กลับฉุกใจคิดได้และไปกอดปิ่น ประทับใจจากนี้มาก เพราะแสดงให้เห็นว่า เธอรู้ดีกว่า เธอไม่สมควรโกรธปิ่นเพราะไม่ใช่ความผิดของปิ่น การที่น้ำกอดปิ่น ก็เหมือนกับเธอเข้าใจและยอมรับได้กับความสัมพันธ์ของทั้งสองคน

โชน เป็นพระเอกในอุดมคติจริงๆ สำหรับเด็ก ม.ปลายที่อายุแค่นี้ ดูเป็นหนุ่มฟีลกู๊ดที่ดูแล้วยังสงสัยว่า เด็กอายุเท่านี้จะมีใครโรแมนติคและแมนขนาดนี้ได้ แมนตั้งแต่การที่ชอบน้ำ ตั้งแต่ยังเป็นปลวกที่ใครๆก็มองไม่เห็น ไปจนถึงความรักเพื่อน ยอมรักษาสัญญาว่าจะไม่จีบน้ำ หากแต่ความฟีลกู๊ดของช่วงสองหนุ่มนี้ ผมกลับขอยกให้กับบทของท็อปมากกว่า บอกตรงๆว่า บทท็อปเห็นทีแรก ผมหวั่นใจว่า จะมีบทประเภทหลอกนางเอกไปปล้ำหรือเปล่า เพราะมันส่อเหลือเกินตั้งแต่แรกว่า เจ้าท็อปนี้ เจ้าชู้เหลือหลาย แต่รู้สึกดีจริงๆ ที่ผู้เขียนบทไม่ยัดเยียดบทแบบนั้นมาให้ ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนเลว ไม่จำเป็นต้องโกรธแค้น เมื่อสาวปฏิเสธ เพียงแต่มันห้ามเพื่อนไปจีบเท่านั้นเอง(ฮา)

ปิ่น เป็นรุ่นพี่ที่เท่จริงๆ แม้เป็นหญิงแต่นิสัยเธอ“แมน”มาก เห็นได้จากไปช่วยน้ำ เรื่องโค้กใส่น้ำปลา ถึงกับคว้ามือคู่อริน้ำเลยทีเดียว เธออาจดูห้าวๆ แต่ก็มีความหญิงเต็มเปี่ยม เป็นแค่เด็ก ป.ปลาย แต่มีฝีมือแต่งหน้าได้ขนาดนี้ถือว่าเก่งมากเลยทีเดียว

น้องดรัมเมเยอร์สองคน สิ่งที่ผู้กำกับได้สอดแทรกไว้แต่ไม่แน่ใจจะคนส่วนใหญ่สังเกตกันหรือไม่คือ เจ้าน้องดรัมเมเยอร์สองคนที่ทะเลาะตบตีกันจะเป็นจะตายเพราะผู้ชาย จนบาดเจ็บกันทั้งสองคน ภายหลังสองคนนี้ก็ยังตัวติดกันตลอดไปไหนมาไหนด้วยกัน ไปดูบอลด้วยกัน แสดงให้เห็นว่าเพื่อนมันก็ยังคงเป็นเพื่อน ถึงจะเคยเลือดตกยางออกกันมาแล้ว ก็ยังคืนดีกันได้

ผมชอบเพราะมีคนดีในเรื่องนี้เต็มไปหมดเลย ผู้เขียนบทใส่ใจรายละเอียดของความรู้สึกและความสัมพันธ์ แม้จะดู ideal ไปบ้าง แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกดีจริงๆ ที่ดูหนังเรื่องนี้ ขอขอบคุณผู้กำกับและทีมงานที่ได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆ เรื่องนี้ออกมาให้เราชมกัน

แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 23:42:42

จากคุณ : โอบ๊อท
เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 20:22:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com