Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
<< ดูแล้วมาคุยกัน ... [Day & Night] & Toy Story 3 – คืนวันที่ผันผ่าน กับ วันวานและความผูกพัน >>  

  ชอบมาก ห้ามพลาด (205 คน)
  ชอบ (27 คน)
  เฉยๆ (5 คน)
  ไม่ชอบ (0 คน)
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (1 คน)

 86.13%
  ชอบมาก ห้ามพลาด (205 คน)
 11.34%
  ชอบ (27 คน)
 2.10%
  เฉยๆ (5 คน)
 0.00%
  ไม่ชอบ (0 คน)
 0.42%
  ไม่ชอบมาก เสียดายตังค์ (1 คน)

จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 238 คน


เลือกอ่านบทความนี้พร้อมรูป + อ่านความเห็นอื่นๆ + แสดงความเห็นเพิ่มเติม เก็บไว้ได้ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=18-08-2010&group=14&gblog=235


... ผมคิดว่าปีนี้คือ ปีแห่งการจากลา cry

อาทิตย์ก่อน บุญชู, ครอบครัว และ เพื่อนพ้อง ฝากให้คนดูจดจำพวกเขาไว้ในใจตลอดไป หลังจากผ่านความทรงจำร่วมกันมายาวนานหลายปี และ ฉากที่ทำเสียน้ำตาคือฉากที่พาเราย้อนความหลังกลับไปช่วง บุญชูเพิ่งรู้จักกับโมลี

ย้อนไปเดือนก่อน พลพรรค คนรักเกาะ(Lost)  แยกย้ายกันไปสู่จุดหมายปลายทางของแต่ละคน หลังจากร่วมทุกข์ร่วมสุขหนีควันดำกันมาหกเจ็ดปี และ ฉากที่ทำเสียน้ำตา คือ episode สุดท้าย ที่ปมทั้งหลายก็ไม่ได้คลี่คลายซักเท่าไหร่ แต่คนเขียนบทเล่นด้านอารมณ์เอาคนดูตายคาจอ ตอนหวนรำลึกความทรงจำในวันเก่าๆที่เราเคยมีร่วมกัน

Toy story 3 ก็เช่นกัน นี่เป็นแอนิเมชั่นจาก Pixar ที่ผมอยากบอกคนที่ไม่เคยดูสองภาคแรกว่า ถ้ายังไม่เคยดูมาก่อน โปรดอย่าเพิ่งดูภาค 3 ตอนนี้

ไม่ใช่ว่า การไม่ดูสองภาคแรก จะทำให้ดูภาค 3 ไม่รู้เรื่อง เพียงแต่ คุณจะรู้สึกว่า Toy story 3 ก็เป็นแอนิเมชั่นที่ดีมาก แต่ ความรู้สึกที่สำคัญที่สุดและจะไม่มีวันสัมผัสได้ หากไม่เคยดูสองภาคแรก นั่นคือ ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้คุณต้องเสียน้ำตา จากสิ่งที่เรียกว่า ความผูกพัน

ความผูกพันระหว่าง ตัวละคร และ คนดู เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ การร่ำลาครั้งนี้เหมือน แฟนๆบุญชูโบกมือลาบุญชู , แฟนๆแจ๊ค , เฮอร์ลี่ย์ , เบน ฯลฯ ปาดน้ำตาส่งกลุ่มคนติดเกาะ เป็น ความรู้สึกที่เศร้าแต่ก็เต็มไปด้วยความสุข ที่ได้เติบโตมาพร้อมพวกเขา


To infinity and beyond จะไปบอลโลก

... สมัยเด็กๆ ผมเชื่อว่า เด็กส่วนใหญ่ในทุกมุมโลกไม่ว่าจะเป็นเด็กไทย, อินเดีย, เซอร์เบีย หรือ บราซิล ก็มักจะมีของเล่นชิ้นโปรดหรือของเล่นคู่กายเป็นตัวหุ่น ตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา

และ เมื่อเราอยู่ตามลำพัง เราก็จะหยิบตุ๊กตุ่นตุ๊กตาเหล่านั้นมาคุยด้วย สร้างสถานการณ์เหมือนกับว่ามันมีชีวิต และถ้าวันไหน หาตุ๊กตุ่นตัวโปรดไม่เจอ ก็จะหงุดหงิดกระวนกระวาย

พอโตขึ้นมา ถึงเวลาที่พ่อแม่ให้ขนของเล่นเก่าๆ,การ์ตูนเก่าๆ นิตยสารเก่าๆ ไปทิ้งหรือยกให้คนอื่น เราก็จะบ่นไม่อยากให้บริจาคของเหล่านั้นไป และ พ่อแม่ไม่เข้าใจก็จะบอกว่า เราหวงของ ซึ่งเราก็คิดไม่ออกว่าจะอธิบายอย่างไร เพียงแต่ ณ.จุดนั้นมันไม่ใช่อารมณ์หวง

เมื่อโตขึ้นมา เราจึงรู้ว่าอารมณ์ตรงนั้นมันคือ ‘ความผูกพัน’

ถึงจะไม่ได้เล่น ไม่ได้อ่าน แต่ มันก็รู้สึกว่ามีความผูกพันกับสิ่งเหล่านั้นมาหลายปี โตมาด้วยกัน เล่นมาด้วยกัน

ตอนไม่มีใคร ก็มีแต่ตุ๊กตุ่น หุ่นยนต์พวกนั้นเป็นเพื่อน ถึงมันไม่คุยกับเรา แต่เวลาเราคุยกับมัน เราก็รู้สึกเหมือนมีเพื่อนอยู่ข้างกาย

ถึงโตขึ้นมา ระดับการรับรู้ของเราจะเป็นผู้ใหญ่ที่รู้ว่า ของเล่นตรงหน้า เป็นวัตถุไม่มีชีวิต แต่ ความผูกพันที่มีร่วมกันมา กับ ความรักที่เราเคยมีให้ แม้ตุ๊กตุ่นตุ๊กตาตัวนั้นไม่มีลมหายใจ แต่เราก็รู้สึกได้ถึงการมีชีวิตของมัน

และนั่นคือสิ่งที่แอนิเมชั่นอย่าง Toy story ถ่ายทอดประสบการณ์ในวัยเด็กของเรา ฉายกลับมาให้เราคิดถึงอีกครั้ง

คิดถึงวันและคืนเก่าๆ ที่เราเคยมี ของเล่น เป็น เพื่อนที่แสนดี



Day and Night เดือนเพ็ญ

... เอกลักษณ์หนึ่งในแอนิเมชั่นของ Pixar คือ หนังสั้นฉายปะหัว

ความร้ายกาจระยะหลังคือ ประเด็นของหนังสั้นมีความสัมพันธ์กับหนังยาว เช่น Partly cloudy มีความลึกที่โยงเข้ากับ Up ได้อย่างแนบเนียน

Toy story 3 มาพร้อมกับ Day and Night แอนิเมชั่นที่มาพร้อมงานด้านภาพสไตล์น้อยแต่มาก ให้อารมณ์แอนิเมชั่นยุโรปสุดๆ ถ้าไม่บอกว่า Pixar ยังนึกว่าแอนิเมชั่นฝรั่งเศสหรือที่อื่นทำมาฉาย

และไม่ว่าจะมีความตั้งใจหรือไม่ ผมก็คิดว่า Day and night ช่างเหมาะสมกับ Toy story เพราะ ประเด็นของ Day and night นอกจากจะช่วยเติมเต็ม ยังเป็นเหมือนการโหมโรงบอกภาพรวมของ Toy story ทั้งสามภาคและสรุปแก่นหลักของภาคนี้ไว้ในเวลาเพียงห้านาที

... แรกเริ่มที่ Day มาพบกับ Night ต่างฝ่ายก็เป็นคนแปลกหน้า ที่แบกความเป็นตัวเอง เฝ้าแอบมอง ชื่นชมแกมอิจฉา สิ่งดีๆของอีกฝ่าย กลัวที่จะทำความรู้จักหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เป็น เหตุการณ์ที่เหมือนเสียงออกอากาศของสถานีวิทยุในหนังช่วงท้ายที่ประกาศว่า

Fear of the unknown. They are afraid of new ideas.

They are loaded with prejudices, not based upon anything in reality, but based on… if something is new, I reject it immediately because it’s frightening to me.

What they do instead is just stay with the familiar.

ความกลัวในสิ่งที่ยังไม่รู้ กลัวกับอะไรใหม่ๆ ทำให้ในความคิดบรรจุไว้ด้วยอคติที่อาจไม่ได้ตัดสินสถานการณ์หรือโลกตรงหน้าตามความเป็นจริง

เมื่อเป็นเช่นนี้ ในขณะที่พบอะไรใหม่ๆ เราก็จะรีบปฏิเสธไปในทันที ยอมเลือกที่จะอยู่กับสิ่งเก่าๆที่คุ้นเคยมากกว่า



ความกลัวที่จะพบการเปลี่ยนแปลง ปิดโอกาสที่เราจะได้พบสิ่งดีๆที่อาจเดินผ่านหน้าเราไป แต่เมื่อ Day และ Night กล้าเปิดใจรับอีกฝ่ายเข้ามาในชีวิต ผูกมิตรกัน

ถึงจะมีความแตกต่างมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็ค่อยๆเริ่มเห็นสิ่งที่มีร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และ ได้พบ ช่วงเวลาดีๆร่วมๆกันที่ไม่ใช่เป็น เวลาของฉัน หรือ เวลาของเธอ แต่เป็น เวลาของเรา (ช่วงเย็น กับ เช้ามืด)


... Day กับ Night ก็คงไม่ต่างอะไรจาก การพบกันครั้งแรกของ วู๊ดดี้ และ บั๊ซ ไลท์เยียร์

การมาของ บั๊ซที่เป็นของเล่นชิ้นใหม่ทันสมัย มาพร้อม ความกลัวในใจของวู๊ดดี้ ที่ว่าแอนดี้จะเปลี่ยนไปเล่นกับบั๊ซมากกว่า เมื่อบั๊ซเกือบจะต้องไปจากบ้าน แวบแรก วู๊ดดี้ แทบจะไม่ยอมช่วยกลับมาเสียด้วยซ้ำ

พอถึงภาคสอง ความกลัว ก็เปลี่ยนแปลงมาเป็นว่า กลัวตัวเองจะกลายเป็นของเล่นที่ถูกลืม

แต่สองภาคที่ผ่านไป ไม่ว่าจะเจอ การเปลี่ยนแปลงอย่างไร ท้ายที่สุด วู๊ดดี้ ก็พบว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นไม่ได้เลวร้ายน่ากลัวอย่างที่คิด แถมการที่เขาเปิดใจ เขายังได้เพื่อนใหม่ที่แสนดี ที่เป็นเพื่อนรักรู้ใจกันมาถึงสิบปีอย่างบั๊ซ ไลท์เยียร์ ตามมาด้วย เจซซี่ โคบาลสาวที่เขาช่วยทำให้เธอกลับมาศรัทธาใน ความรักและการผูกพันอีกครั้ง

แต่ภาคสามนี้ เป็น การเปลี่ยนแปลงที่ต่างออกไป และ มันก็สมเหตุสมผลที่วู๊ดดี้และผองเพื่อนจะหวาดกลัวมากกว่าทุกๆครั้ง เพราะ ตอนนี้ แอนดี้โตเป็นหนุ่มเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย

สัจธรรมที่เกิดมารอบโลก ทุกยุคสมัย คือ อายุของแอนดี้ในตอนนี้ หมดวัยที่จะเล่นกับตุ๊กตาของเล่นอย่างพวกเขาแล้ว ชะตากรรมของ ของเล่นในมือเจ้าของที่ย่างเข้ามหาวิทยาลัย หากมิใช่ถูกเก็บใส่ลัง , ถูกบริจาคหรือส่งต่อไปยังเจ้าของใหม่

และที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ถูกทิ้ง

นั่นคือจุดเริ่มต้นของ

Toy Story 3




(อ่านต่อที่ ความเห็น 1)

แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 22:56:20

แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 16:34:16

แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 15:15:37

จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 13:43:55




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com