ความคิดเห็นที่ 1 |
ฉากตัดไปยังงินที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่ท่ามกลางซากหักพังของเมือง อนุสติที่เลือนลางด้วยแรงปะทะและอาการบาดเจ็บสาหัสถึงชีวิต ดึงชายหนุ่มจากโลกแห่งความเป็นจริงลงสู่โลกแห่งความฝันจากห้วงอดีต
ในฝันมีเพียงม่านรัตติกาลดำสนิท ปุยหิมะขาวโพลนปกคลุมและเต้นระริกอยู่รอบกาย สายลมครางหวีดหวิวพัดต้องร่างในชุดกิโมโนตัวบางจนหนาวเสียดเข้าไปถึงไขกระดูก กระนั้น งินที่ครั้งนั้นยังเป็นเพียงเด็กชายคนหนึ่งก็ยังคงย่ำฝ่ากองหิมะมุ่งหน้าต่อไป ไม่ว่าปุยหิมะจะตกต้องร่างจนหนาวเหน็บสักเพียงใด
"งิน เจ้าจะไปไหนน่ะ!?" เสียงร้องแหลมเล็กคุ้นหูดังขึ้นที่เบื้องหลัง เด็กชายหันกลับไปมอง พบกับร่างบอบบางของรันงิคุเมื่อครั้งยังเป็นเด็กหญิงกำลังวิ่งฝ่าหิมะตรงมาหา เธอสวมชุดกิโมโนบางเบา มีเพียงเสื้อคลุมฮาโอริเพียงตัวเดียว...บางแทบจะไม่พอป้องกันความหนาวระดับหิมะตกเช่นนี้เสียด้วยซ้ำ...คลุมไหล่ทั้งสองข้างอยู่
"นั่นมันชุดยมทูตไม่ใช่เหรอ...! ไปเอามาจากไหนน่ะ" เด็กหญิงคาดคั้นทันทีที่เข้าถึงตัวงินได้ และสังเกตเห็นว่างินไม่ได้สวมเสื้อคลุมกันหนาวทับเสื้อกิโมโนอย่างที่เคยสวมเวลาต้องออกจากบ้านกลางฤดูหนาว แต่กลับสวมเสื้อคลุมสีดำคล้ายเสื้อของพวกยมทูตตัวหนึ่งทับไว้แทน
"ข้าตัดสินใจแล้ว" เด็กชายผมเงินกลับตอบไม่ตรงคำถาม "ข้าจะเป็นยมทูต"
คำตอบไม่คาดฝันของเด็กชายทำเอาเด็กหญิงถึงกับยืนเซ่ออยู่กับที่ อวดแววตกตะลึง สับสน ไม่เข้าใจเต็มสองตา
"ข้าจะเป็นยมทูตและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ" เขาบอกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นคล้ายจะย้ำว่าตนเองไม่ได้พูดล้อเล่น "เพื่อให้เรื่องจบลงโดยที่รันงิคุไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป"
รันงิคุยิ่งตะลึงกว่าเดิมเมื่อได้ยินชื่อของเธออยู่ในเหตุผลของการตัดสินใจของเด็กชาย ตอนนั้นเองที่เธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่างบนใบหน้าฉายแววแน่วแน่ของงิน เมื่อครู่รันงิคุเร่งวิ่งมาตลอดทางด้วยความร้อนใจที่อีกฝ่ายหายออกจากบ้านมาโดยไม่บอกกล่าว ทั้งงินเองก็ยืนห่อตัวกับชุดคลุมอยู่ จึงไม่ทันสังเหตุ แต่บัดนี้เมื่อพูดคุยกันต่อหน้า รันงิคุจึงค่อยเห็นว่าบนใบหน้าของเพื่อนรักนั้นมีคราบอะไรบางอย่างติดอยู่
...คราบสีคล้ำกึ่งแดงเข้มกึ่งดำคล้ำเป็นดวงเล็กๆ สองสามดวง มองไปมองมาคล้ายหยดเลือดที่กระเซ็นมาเปรอะใบหน้าไม่มีผิด...
หากยังไม่ทันได้ถามถึงที่มาของหยดเลือดนั้น เด็กชายก็ตลบเสื้อยมทูตขึ้นกระชับร่างให้แน่นเข้า แล้วหันกลับกลับเดินจากไปในความมืดของรัตติกาล...
-----------------------------------------------------
"งิน!!!"
เสียงกรีดร้องเรียกชื่อที่ดังมากระทบโสตประสาท เรียกสติที่ล่องลอยอยู่ในความฝันของงินให้กลับสู่โลกแห่งความจริงในบัดดล
ดวงตาที่พร่าเลือนมองเห็นร่างของรันงิคุกระโดดตัวลอยตรงมายังที่ที่เขานอนอยู่ สีหน้าขวัญหายเหมือนกำลังเห็นภาพเลวร้ายที่สุดในชีวิต
สีหน้าแบบที่เขาไม่อยากให้ปรากฏบนใบหน้าของเธอที่สุด...ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน
รันงิคุ...
ข้าพลาดเสียแล้ว...
สุดท้าย ข้าก็ไม่อาจนำสิ่งที่รันงิคุถูกช่วงชิงไปกลับคืนมาได้...
ผัสสะทั้งมวลในร่างเริ่มด้านชา ขณะที่ความมืดตอบรับเขาเป็นเพื่อน ยมทูตหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกปลดปล่อยจากความอึดอัดทรมานทั้งปวง ไม่อาจสัมผัสถึงสิ่งใดแม้แต่ความเจ็บปวดจากบาดแผลสาหัสบนร่าง เสียงร้องตะโกนของหญิงสาวเบื้องหน้า บัดนี้กลับฟังดูห่างไกลราวชั่วกัปชั่วกัลป์
เหลือแต่เพียงดวงตาเท่านั้นที่ยังมองเห็นร่องรอยเจ็บปวดบนใบหน้างดงามนั้น...แม้ภาพที่เห็นจะพร่าเลือนเต็มที
อา...
นึกแล้ว...
ดีจริงๆ...
ที่ขอโทษไปในตอนนั้น...
พร้อมๆ กับห้วงคำนึงสุดท้ายนั้น สติสัมปชัญญะของงินก็ร่วงดิ่งลงสู่ความมืดอันไร้ก้น
ไม่มีโอกาสได้เห็นสีหน้าตะลึงลาน ที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นปวดร้าวถึงที่สุดของรันงิคุ
ไม่มีโอกาสได้ยินเสียงกรีดร้องร่ำไห้ของรันงิคุ
ไม่มีโอกาสได้สัมผัสถึงน้ำตาอุ่นๆ ของรันงิคุที่ร่วงพรูจากสองตา ตกต้องลงบนใบหน้าและร่างกาย
ไม่มีโอกาสได้รับรู้อะไรอีกต่อไป...
--------------------------------------------------------
ตั้งแต่ต้นจนจบตลอดเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ไอเซ็นเพียงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับตัวทำอะไร ไม่แม้แต่จะแสดงทีท่าว่าจะทำร้ายต่อรันงิคุผู้กำลังร่ำไห้ต่อหน้าร่างไม่ไหวติงของงินเลยสักนิด
หากประกายเย็นชาไร้ความปราณีในดวงตาดำสนิทคู่นั้นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเจ้าแห่งความชั่วร้ายผู้นี้คงไม่คิดจะปล่อยให้ผู้ใดในที่นี้รอดชีวิตกลับไปเป็นแน่
ชั่วขณะที่ทุกคนได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเจ็บแค้นว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้วนั้นเอง...
เสียงลงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นที่ด้านหลัง เจ้าแห่งอธรรมผินหน้ากลับไปมอง พบกับภาพที่คาดหวังจะให้ปรากฏตรงหน้ามากที่สุดในตอนนี้...แม้จะยังเร็วไปสักหน่อยก็ตาม
ณ ที่นั้น ร่างสูงโปร่งของคุโรซากิ อิจิโกะ ยืนจังก้าอยู่โดยมีร่างไร้สติของอิชชินผู้พ่อพาดอยู่บนบ่าซ้าย เขายังสวมชุดเสื้อคลุมชายยาวอันเป็นสัญลักษณ์ของร่างหลังปลดปล่อยสวัสดิกะอยู่เหมือนเดิม ผิดกันที่แขนเสื้อข้างขวาขาดหายไป เผยให้เห็นลำแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง รอบแขนมีโซ่สีดำเส้นโตพันไว้แน่นตั้งแต่ต้นแขนติดกับไหล่ ไล่ลงมาเชื่อมกับโซ่ตรงปลายด้ามดาบ "เท็นสะซันเงสึ" ในมือข้างขวา มือขวาที่ถือดาบนั้นก็เปลี่ยนจากมือเปล่ามาเป็นสวมบางอย่างคล้ายถุงมือหรือเกราะมือติดไว้ เรือนผมสีฟางแห้งที่เคยสั้นเกรียน บัดนี้งอกยาวขึ้นมาเล็กน้อยจนแทบปรกใบหน้า
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเด็กหนุ่มทอประกายมุ่งมาด จ้องตอบประกายเย็นชาของไอเซ็นแทบเป็นดวงเดียวกัน!!
อ่านตอนนี้จบด้วยความรู้สึกประหลาดชอบกลแฮะ ทั้งๆ ที่เป็นคู่ที่ผมรอดูฉากย้อนอดีตมากที่สุดแท้ๆ น่าจะซึ้งกับดราม่าตอนนี้ได้มากกว่านี้ แต่ลงเอยก็กลับซึ้งไม่ถึงที่สุดยังไงก็ไม่รู้ เหมือนอาจารย์แกยังกั๊กๆ ความจริงบางส่วน (ที่เราต้องไปนึกเชื่อมโยงกันเอาเอง) ไว้ไม่ยอมเผยทั้งหมดเหมือนคราวโทเซ็น
ส่วนเรื่องอารมณ์ จริงๆ ผมว่าตอนนี้น่าจะซึ้งนะ แต่ทำไปทำมาก็เหมือนที่บอกข้างบนนั่นแหละครับ มันซึ้งแบบกั๊กๆ ไงไม่รู้ ไม่เหมือนตอนอุลคิโอร่าที่ซึ้งเต็มสูบไปเลย (ถึงจะมาซึ้งแตกตอนเจ้ายามีกลายเป็นเอสปาด้าอันดับ 0 ก็เถอะ) ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องน่าจะบิวต์ความซึ้งได้มากกว่านี้ ไม่รู้เพราะเวลาไม่พอกับที่อิจิโกะต้องปรากฏตัวมาสกัดดาวรุ่งไอเซ็นในช่วงท้ายตอนนี้ด้วยรึเปล่า ถึงได้ต้องรวบรัดไปทั้งอย่างนั้น
บอกตรงๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอ.แกจะเขียนขยายเรื่องราวของงินกับรันงิคุต่อหลังจากนี้ ไม่ก็มีตอนพิเศษเป็นเรื่องของงินกับรันงิคุโดยตรงเพื่อเชื่อมโยงส่วนที่ขาดหายไปแบบเดียวกับที่เขียนตอนพิเศษเรื่องของฮิซึกายะนะ (และเชื่อว่ามีคนอยากให้เขียนเยอะเลยล่ะ เหอๆๆ)
ยังเดาไม่ออกแฮะว่างินจะเท่งทึงตอนนี้มั้ย ถึงเห็นสีหน้าของรันงิคุในตอนนี้แล้วจะชวนให้หวั่นนิดๆ ก็เถอะ แต่ยังไงก็พยายามเชื่ออยู่ละครับว่าอย่าเพิ่งเท่งทึงตอนนี้เลย (ไม่ได้ระเบิดหายไปดังโพละแบบเดียวกับโทเซ็น คงหวังได้บ้างละนะ)
ว่าแต่อิจิโกะฝึกวิชาสำเร็จเร็วจริงแฮะ ผ่านไปไม่กี่ตอนจะมาซัดกับท่านผู้นำเข้าซะแล้ว เปลี่ยนร่างคราวนี้จะมีฝีมืออะไรติดตัวกลับมาบ้างหว่า
รอดูตอนต่อไปโลดครับ
จากคุณ |
:
Drake
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ส.ค. 53 20:26:11
|
|
|
|