Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บทบันทึกถึง กวน มึน โฮ :: ยินดีที่ไม่รู้จัก (จริงหรือ?) <<ถ้าไม่กลัวสปอยล์ก็เข้ามาได้ครับ>>  

กวน มึน โฮ :: ในแง่มุมของภาพยนตร์ ::

บอกตามตรงว่ารอบแรกที่ดู กวน มึน โฮ จบ ความรู้สึกคือ ค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้
ถึงขนาดทวิตไปเรื่อยเปื่อยว่า รายได้เปิดตัวคงสูงน่าดู หลังจากนั้นคงนิ่ง เพราะขาดกระแสปากต่อปาก
ที่ทวิตแบบนั้นเพราะตอนนั้นรู้สึกว่า ดูจบแล้ว เฉยๆ... หนังไม่มีอะไรให้พูดต่อ
ไม่ตลกอย่างที่คิด ไม่ซึ้งอย่างที่หวัง
เมื่อเทียบกับตอนโปรโมตหนังที่ทำไว้ดีมากในทุกรูปแบบ
ทั้งการดึง 25 hours ที่กำลังขึ้นหม้อมาทำเพลงประกอบ "ยินดีที่ไม่รู้จัก" ให้ ก็ฮิตกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง
ทั้งกระแสเกาหลีฟีเวอร์ ที่ทำให้สาวๆ ชาวซีรีส์กรี๊ดกร๊าดอยากไปดูหลังจากได้เห็นตัวอย่างหนัง
ทั้งสารพัดโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม ผ่านสื่อต่างๆ เช่น facebook / twitter / วิทยุ / โทรทัศน์ / ฯลฯ
ทำให้เกิดความคาดหวังว่าหนังน่าจะสร้างปรากฏการณ์ระดับ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ได้อีกครั้ง
แต่ก็อย่างที่บอกว่า รู้สึกว่าหนังทำได้ไม่ดีเท่าที่โปรโมต
ก็คงเป็นแค่หนังที่ดูผ่านแล้วก็ผ่านไป จบแล้วจบเลย
หารู้ไม่ว่า หลังจากไปดูรอบสอง จะเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้น

ความรู้สึกเหมือน ไปดูหนังคนละเรื่องกับรอบแรก




(ถ้าใครยังไม่ดู ควรจะข้ามย่อหน้าพวกนี้ แล้วไปอ่านย่อหน้าสุดท้ายทันที)


(เราเตือนคุณแล้ว)



เริ่มตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่หนูนาร่ำลาแฟนแล้วเดินเข้าสนามบินไปคนเดียว
รอบแรกที่ดู เตรียมตัวตลกเต็มที่ แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อหนังจงใจปล่อยมาแค่มุกเม็ดเล็กๆ
แต่รอบที่สองนั้น แค่เห็นนางเอกกำลังจะเดินเข้าสนามบินไป ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาทันที
ด้วยความที่เรารู้แล้วว่าตอนจบจะเกิดอะไรขึ้น เ
ลยทำให้เห็นภาพเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้าสมรภูมิรบโดยไม่รู้ว่าจะไม่ได้กลับมาในสภาพสมบูรณ์ครบ 32
หนูนาจะรู้ไหมว่าอีกไม่กี่วันจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
จะรู้ไหมว่าคนที่คอยเตือนเรื่องกระเป๋าตังค์ พาสปอร์ต หมากฝรั่ง .. จะไม่ได้มาเตือนแบบนี้อีกต่อไปแล้ว
แล้วจะรู้ไหมว่า คนที่คอยปลอบเรื่องนี้ตอนอยู่ต่างเมือง เค้าจะทำให้เสียใจหนักไปกว่าเดิมอีก
สงสารหนูนา....

เป็นธรรมดาที่การดูรอบสอง จะไม่ขำเท่ารอบแรก
แต่การดูรอบสอง ทำให้เห็นว่าคำพูดบางคำที่เหมือนจะพูดไปอย่างนั้น
กลับเชื่อมกับความเป็นไปของเรื่องอย่าประหลาด

-เชื่อฉัน เดี๋ยวนายก็ได้ซวยไปตลอดชาติหรอก-
หนูนาพูดคำนี้กับเต๋อตอนอยู่ในกาสิโน ตอนที่กำลังเล่นรูเล็ตกัน
เพราะตอนนั้นเต๋อลงพนันตามที่หนูนาบอก ปรากฏว่าออกตรงข้ามตลอด
หนูนาเป็นตัวซวยในเรื่องพนันจริงๆ
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เต๋อเลือกจะเชื่อหนูนา
เพราะตอนที่หนูนาเป็นพี่อ้อยพี่ฉอด คอยช่วยเต๋อหาทางแก้ปัญหาเรื่องแฟน
แฟนคนที่เต๋อคบมา 8 ปี แต่โดนบอกเลิกเพราะเต๋อไม่อยากแต่งงาน
หนูนาบอกว่า โทรไปเค้าไม่รับ ก็เขียนไปสิ
เต๋อก็เลยเขียนไปหาก้อย ว่า "แต่งงานกันนะ" จริงๆ
ใครจะไปคิดว่า การเชื่อหนูนาครั้งนั้นจะทำให้เต๋อซวยจริงๆ
ความจริงก็ไม่ใช่แค่เต๋อที่ซวย หากแต่ซวยกันไปทั้งหมด
คิดดู... ถ้าวันนั้นเต๋อไม่เชื่อหนูนา ไม่เขียนไปหาก้อย
วันกลับบ้าน ทั้งคู่ก็คงช่วยกันกระเตงกระเป๋า ถ่ายรูปคู่กัน
ขึ้นเครื่องบินกลับมาไทย แล้วก็ได้กินจาจ้างเหมี่ยนฝีมือหนูนาในที่สุด
ความซวยเกิดขึ้นอย่างน่าเสียดายที่สุด...


-ฉันมันแค่ตัวประกอบ จะไปมีบทพูดได้ยังไง-
ในฉากดินเนอร์โรงแรมหรู ที่มีเบยองจุนตัวปลอมมานั่งทานด้วย
เบยองจุนตัวปลอม (ให้เสียภาษาไทยโดยเต๋อ) บอกว่าหนูนาถึงกับพูดไม่ออก
จากนั้นประโยคนั้นก็ดังออกมาจากปากหนูนา
ซึ่งในเวลาต่อมา ที่เต๋อกับหนูนาไปเจอก้อยโดยบังเอิญ
หนูนาก็ถูกยัดบทบาทตัวประกอบให้ทันที ต้องทนเห็นนางเอกหน้าซื่อตาใสกลับมาแย่งพระเอกไป
ถึงขนาดว่ารูปคู่ที่กะจะถ่ายด้วยกัน ต้องกลายเป็นรูปที่ตัวประกอบยิ้มหน้าเจื่อนๆ อยู่คนเดียว
แถมถูกถ่ายให้โดยนางเอกผู้แสนดีอีก
จากนั้นเราจึงได้เห็นตัวประกอบคนนี้ แบกกระเป๋าพะรุงพะรังขึ้นรถแท็กซี่ไปสนามบินคนเดียว
แล้วคนที่เป็นแค่ตัวประกอบ ก็ทำเอาหลายคนน้ำตาร่วงกับฉากที่ร้องไห้บนรถแท็กซี่....


-ฉันว่าเราไม่ต้องรู้จักชื่อกันดีกว่า ถ้าเรารู้จักกัน เราก็ต้องมาคอยแคร์กัน เป็นห่วงกัน-
-แสดงว่าถ้าผมว่าอะไรคุณ คุณก็ไม่โกรธงั้นดิ-
ประโยคที่เราเห็นตั้งแต่ตอนอยู่ในตัวอย่างหนัง
ไม่รู้ว่ากลายเป็นแรงบันดาลใจให้ตอนท้ายเรื่อง เต๋อปฏิบัติกับ "คนที่ไม่รู้จัก" อย่างหนูนาแบบนั้นหรือเปล่า
เต๋อเลือกที่จะไปแคร์ ไปห่วงใย "คนรู้จัก" อย่างก้อย
ในขณะที่ "คนที่ไม่รู้จัก" อย่างหนูนากลายเป็นแค่ "เพื่อนคนไทยที่มาเที่ยวด้วยกัน"
สุดท้าย คนที่ไม่รู้จักชื่อกัน ก็เป็นได้แค่คนที่ไม่รู้จักกันจริงๆ

ถ้าถามว่า ใครเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดใน กวนมึนโฮ

บางคนอาจจะตอบว่า ก้อย ... ที่สุดท้าย "คุณด่าง" ก็ยังเลือกที่จะโทรเข้ารายการพี่อ้อยพี่ฉอด
เผื่อข้อความจาก "ด่าง" จะส่งถึง "ตัวประกอบหนังไทยที่เคยยืนข้างพระเอกมาแล้ว" ได้บ้าง

บางคนอาจจะตอบว่า เต๋อ ... เพราะอุตส่าห์ตัดใจจากก้อยได้แล้ว แถมกำลังจะเริ่มต้นกับคนใหม่อีกต่างหาก
แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป แล้วไม่เป็นเหมือนเดิมอีกเลยทั้งทางใหม่และทางเก่า

บางคนอาจจะตอบ... เหมือนผม
ผมสงสาร "ตัวประกอบ" ที่สุด
การดูสองรอบ ทำให้ผมได้แต่ซึมในทุกอย่างที่เห็น "ตัวประกอบ" อย่างหนูนามีความสุข
เพราะรู้ทั้งรู้ว่าตอนจบ ทุกรอยยิ้มที่เกิดขึ้นในเกาหลีจะเป็นเรื่องที่ทำให้เธอร้องไห้บนแท็กซี่
แต่ละคำพูดที่เคยระบายให้ "คนแปลกหน้า" ฟัง.. ก็เป็นแค่การระบายจริงๆ ที่ไม่ทำให้เธอดีขึ้น
กลับทำให้แย่ลงด้วยซ้ำ
คำถามที่หนูนาถามเต๋อว่า ตั้งแต่กินข้าวด้วยกันมาชอบมื้อไหนที่สุด
เต๋อตอบว่าชอบมื้อ จาจ้างเหมี่ยน
หนูนาตอบว่า... ชอบมื้อนี้
หลังจากวันนั้นไป หนูนายังจะชอบมื้อนั้นอยู่ไหม...
หนูนายังจะชอบ เบยองจุน อยู่ไหม...
หนูนายังจะปลื้มกับวัฒนธรรมเกาหลีอยู่ไหม...
ในเมื่อทุกอย่างที่กล่าวมานั้น เป็นฉากหลังของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ที่ทำให้ฉากร้องไห้บนรถแท็กซี่ เป็นฉากที่เศร้าที่สุดในรอบปี
และกับคำถามสุดท้าย ที่คนดูอย่างผมได้แต่ถามหนูนาอยู่ในใจ ว่า
หนูนายัง "ยินดีที่ไม่รู้จัก" อยู่อีกไหม....


สิ่งที่ชอบ ::

-มีสองประโยคในหนัง ที่หนูนาพูดได้เป็นธรรมชาติมากๆ และผมชอบสองฉากนี้มากๆ
"เฮิร์ทเหรอจ๊ะ?" (เสียงได้ สีหน้าได้ กวนกว่าเต๋อเป็นร้อยเท่าทันที)
กับ .... "ก็ไม่ได้ห้ามนี่" (เขินได้น่ารักที่สุด ดนตรีดังขึ้นพร้อมกับตอนที่กอดเต๋อพอดี ฮ้า...)

-สารพัดมุกที่อยู่ในหนัง
ทั้ง "โทนี่จา" / "หมึกสดรสติดปาก" / "เตารีดกับเป๊บซี่" / เบยองจุน / ฉากคุยโทรศัพท์ก่อนขึ้นเครื่อง
ทำให้รู้สึกว่า ค่อยเหมาะกับชื่อหนังที่อุตส่าห์ขายว่า "กวน" หน่อย

-ฉากที่เต๋อกับหนูนาไปซื้อเสื้อคู่มา แล้วก็ไปเต้นตัวสั่นๆ เหมือนตุ๊กตาข้างถุนน
ถึงจะเป็นฉากสั้นๆ แต่ขอยกให้เป็นฉากที่น่ารักที่สุดในเรื่องนี้

-ฉากที่คนแปลกหน้าอย่างเต๋อขับรถตามหาคนแปลกหน้าอย่างหนูนา
ต่างคนต่างไม่รู้จักชื่อ เต๋อทำได้แค่ตะโกนเรียก คุณ คุณ คุณ
จะไปบอกใครเขาว่าใครหายไปก็บอกไม่ได้
เป็นฉากที่กดดันอารมณ์มาก
(แล้วก็อาจจะทำให้เต๋ออารมณ์เตลิด บอกรักหนูนาในที่สุด)

-วิธีโปรโมตหนัง ทุกวิธีตามที่ได้บอกไปแล้ว

-โปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม ที่เยอะมากๆ
สรุปแล้ว ผมดูหนังเรื่องนี้ไปสองรอบ โดยเสียเงินแค่ 60 บาท

-เพลงประกอบหนัง "ยินดีที่ไม่รู้จัก" และ "รักไม่ต้องการเวลา"
ทั้งสองเพลงโดยวง 25 hours และ klear ถูกนำมาใช้อย่างเหมาะที่สุดกับหนังเรื่องนี้
โดยเฉพาะ "รักไม่ต้องการเวลา" เวอร์ชั่นหนูนา ที่ทำเอาชายไทยเกิน 1 คนเพ้อไปไกลมาก

สิ่งที่ไม่ชอบ ::

ถ้าเขียนหลังจากดูรอบแรกจบ... คงมีสารพัดอย่างมาอัดอยู่ตรงนี้
แต่เนื่องจากการดูรอบสองที่ทำให้ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เห็นจากรอบแรก
จึงขอละพื้นที่ตรงนี้ไว้ในความเข้าใจ
เว้นอยู่อย่างเดียวที่รู้สึกจั๊กจี้ทุกครั้งที่ได้ยิน
คือสโลแกนที่ผู้กำกับและนักแสดงพยายามเน้น ว่าหนังเรื่องนี้คือ...
"โฮแมนติก กวนเมดี้"

ควรไปดูไหม ::

เป็นหนังที่ทำได้ตามมาตรฐาน GTH
ส่วนจะทำได้ตามมาตรฐาน รถไฟฟ้ามาหานะเธอ หรือไม่ ต้องรอดูอีก 2-3 สัปดาห์ต่อจากนี้
เคยถามหลายคนว่าทำไมอยากดูหนังเรื่องนี้
บ้างก็ว่า ชอบหนัง GTH
บ้างก็ว่า ชอบเกาหลี
บ้างก็ว่า เพลงประกอบน่าสนใจ
บ้างก็ว่า ตัวอย่างตลกดี
โดยรวมๆ แล้ว ใครใคร่ขำก็ได้ขำ ใครใคร่โฮก็ได้โฮ
ถึงจะไม่สนับสนุนให้เสียเงินในราคากดขี่ข่มเหง
แต่ก็คิดว่า ราคาเต็มข้อ 180 บาทสำหรับที่นั่งแถวบนสุดในวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับ กวน มึน โฮ
น่าจะคุ้มกว่าใช้โปรโมชั่น 60 บาท ไปดูหนังบางเรื่องที่ได้เห็นแค่ตัวอย่างก็รู้แน่ๆ ว่าน่าผิดหวัง
ลองไปพิสูจน์กันดู... ว่าคุณคิดว่าเรื่องนี้ มีส่วนไหนมากกว่ากัน ระหว่าง
กวน
มึน
โฮ

 
 

จากคุณ : parawarm
เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 53 21:51:33




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com