Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มุมเล็กๆของหัวใจของ 2 ผู้กำกับเพื่อนซี้ ในหนัง สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก  

พอดีได้ไปอ่านเจอสัมภาษณ์ของผู้กำกับทั้งสองท่าน เลยเอามาฝากแฟนๆหนังสิ่งเล็กที่เรียกว่ารักกันนะครับ

ที่่มา : http://movie.mthai.com/movie-news/73162.html

หนังสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก หนังรักของวัยกระโปรงบานขาสั้นที่ได้ 2 เพื่อนซี้ “เสนาเพชร” และ “วศิน ปกป้อง” จับมือกันร่วมกำกับ งานนี้ลองมาฟังความคิดของทั้งสองว่าคิดยังไงกับหนังเรื่องนี้กัน

Q เป็นไงมาไงถึงคิดมากำกับหนังร่วมกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของทั้งสองคน

เสนาเพชร : คือเราเคยคุยด้วยกันว่าอยากทำหนังด้วยกันซักเรื่องหนึ่ง ผมรู้สึกว่าตัวเองบ่มมาหลายทางแล้ว รายการทีวีก็ทำแล้ว ละครเวทีก็ทำแล้ว ละครทีวีก็ทำแล้ว แต่เรื่องหนังเมื่อก่อนผมเล่น แล้วก็รู้สึกว่ามันห่างหายไปนานมากเลย พอดีคุณวสินเขาก็อยู่พวกเบื้องหลังมาเยอะ ทั้งเอ็มวีทั้งทีวี หรือภาพยนตร์ ก็เลยคุยกันว่าอยากทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ก็เลยมีการคุยกัน

วศิน : คือเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมแล้ว ร่วม 20 ปี แล้วไม่เคยทำงานเต็มๆร่วมกันซักที พอเจอกันก็เลยเอาว่ะ เอาเลยดีกว่า

Q จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์หนัง “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก”

เสนาเพชร : คือตอนแรกเราก็มองที่จะทำอะไรให้มันตลก เฮฮาให้หัวทิ่มหัวตำไปเลย คือตลกเรื่องเฮฮาคือตัวผม แต่พอไปคุยกับเพื่อนอีกหลายคน คือหนังแนวกระโปงบานขาสั้นมันหายไปนะ หนัง feel good หนังเด็กๆมันหายไป เราก็รับโจทย์มา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะนำเสนอประเด็นความรักแบบไหน ก็มานั่งคุยกันไปเรื่อย ตอนนั้นยังคุยเรื่องตลกกันอยู่เลย

วศิน : คือตอนนั้นก็มีหลายพล็อตที่คิดเอาไว้ มีแบบตลกแหลกลานเลย แล้วเราก็ถามไปเรื่อยว่าใครมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับความรักบ้าง เพราะเราตั้งใจจะดึงประสบการณ์ร่วมของคนที่เจ๋งๆ ที่เกี่ยวกับความรัก

Q แบบนี้ก็เท่ากับว่าต้องมีการรีเสิร์ทเพื่อหาประเด็นความรักที่โดนใจที่สุดเพื่อนำมาทำเป็นหนังเรื่องนี้

เสนาเพชร : คือในที่ทำงานจะมีน้องๆ ที่เป็นนักศึกษาอยู่เยอะมาก เราก็เลยถามว่า ใครมีเรื่องรักกุ๊กกิ๊กอะไรบ้างรึเปล่า แล้วก็มีน้องคนหนึ่งเขาเล่าเรื่องความรักของเขาให้ฟัง ว่าเขาแอบรักผู้ชายคนหนึ่งมานานแล้ว แล้วเป็นเรื่องตอนที่เขาอยู่ ม.1 พอเล่าเสร็จผมก็ยกโทรศัพท์โทรหา วสิน เลย ว่าเราเจอแล้วสิ่งที่เรากำลังพยามหาคำว่ากระโปงบานขาสั้น ลองมาฟังเรื่องนี้ดิ

วศิน : ผมก็เข้ามาฟัง ฟังเสร็จก็มองหน้ากัน นี่มันหนังชัดๆเลยนะ มีทุกอย่างที่ควรจะมีไว้ให้เราหมดแล้ว

Q คือกำลังจะบอกว่าไอเดียและที่มาของหนังเรื่องนี้มาจากเรื่องจริง

เสนาเพชร : คือ พอได้ฟังแล้วมันมีจุดหักเห จุดตลก จุดกุ๊กกิ๊ก จุดน่ารัก ซึ่งมีหมดเลยซึ่งเป็นเรื่องจริงของผู้หญิงคนหนึ่ง เราก็เลยมองว่าถ้ามันเป็นหนัง มันน่าจะบอกความรู้สึกของผู้หญิงได้หลายคนมาก ที่เคยอยู่ในอารมณ์นี้

วศิน : เรื่องราวราวมันเป็นสมัยพี่อยู่ มส.1 อยู่ ป.7 กับเรื่องที่ทุกคนเจอ รุ่นใหม่ก็จะเป็น ม.1 ก็จะเป็นแบบนี้ ซึ่งพี่เองก็มีเหมือนกัน คือมีเรื่องราวที่ไปแอบชอบเขา คือจริงๆ ก็อยากทำหนังแบบนี้เหมือนกัน แต่มันหาเรื่องไม่ได้ คือมันเป็นความรู้สึกที่โรแมนติกมาก คือแบบความรู้สึกนี้ หรือที่เรียกว่าความรัก คือตลอดทั้ง 2-3 ปีนั้นมีความสุขมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลยนะ

เสนาเพชร : เคยมั้ยคือแค่ให้เขาเดินผ่านแล้วได้กลิ่นยาสระผมของเขาก็ชื่นใจแล้ว คือผู้ชายก็เป็นอ่ะ

วศิน : เห็นรองเท้าหน้าห้อง โหยเราเกิดมาคู่กัน

เสนาเพชร : คือทุกคนมีหมด เราก็เลยคิดว่าน่าจะทำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับภาพยนตร์

วศิน : เพราะฉะนั้นมันก็เลยมีความรู้สึกร่วมเยอะ แล้วเราอยากทำหนังแบบนี้อยู่แล้ว แล้วมันเหมือนไฟท์บังคับว่าทุกคนต้องผ่านช่วงเวลานี้ แล้วมันมีอยู่แค่ 3 ปีในชีวิตคนเรา แล้วหลังจากนั้นไอ้ความรู้สึกโรแมนติกในตอนนั้นมันหายไปแล้วนะ คือถามคนอื่นได้เลยนะว่าความรู้สึกตอนนั้นกับตอนที่เราอายุเยอะขึ้นมันต่าง กันอย่างไร

Q จากไอเดียตรงนั้นเรามาสานต่อเป็นเรื่องราวของ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” ออกมาในแบบไหน

วศิน : มัน เป็นเรื่องของเด็ก ม.1 ที่ไม่สวยเลย หรือจะเรียกว่าหน้าปลวกก็ได้ แต่ไปหลงรักพี่ม.4 ที่หล่อเท่ที่สุดในโรงเรียน สาวในโรงเรียนกรี๊ดเขาหมดอ่ะ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือมันเปลี่ยนแปลงตัวเองจนกลายเป็นดาวของโรงเรียน เพื่อให้พี่เขาสนใจหรือหันมามองซักครั้งนึงอ่ะครับ

เสนาเพชร : สรุปก็คือเขาทำทุกอย่าง กว่าจะขึ้นมาเป็นดาวของเขา มันด้วยเหตุการณ์หลายๆ อย่างทำให้เขาเป็นดาวโรงเรียนอย่างน่ารัก

Q มุมมองหรือประเด็นความรักที่หนังเรื่องนี้กำลังจะสื่อสารคืออะไร

เสนาเพชร : ผมคิดว่ามันคือความประทับใจแรกของคำว่ารัก เราจะเก็บสิ่งนั้นไว้อยู่ในใจตลอดเวลาว่า ผู้หญิงคนนี้เรารักนะ อย่างถามผมว่าผู้หญิงคนนี้ชื่ออะไร ผมจะจำได้แม้กระทั่ง ชื่อจริง ชื่อเล่น นามสกุล หรือชื่อพ่อ หรือลองถามทุกคนเขาก็จำชื่อผู้ชายที่เขาชอบได้หมดทุกคนทั้งชื่อเล่น นามสกุล พ่อชื่ออะไร นามสกุลอะไร มันเป็นความจำที่ซ่อนอยู่ในใจ พองัดออกมาก็สามารถพูดได้ตรงเป๊ะเลย นี่คือความประทับใจ ในมุมของผมนะ

วศิน : ที่จริงมันพูดถึงมุมที่ใช้ความรักในด้านบวกอ่ะครับ คือแทนที่ตัวละครจะใช้ความรักในแง่ลบ กินเหล้า ยั่วยวนผู้ชาย แต่เรากลับเอาความรักมาพัฒนาตัวเองให้มันดีทุกอย่าง นี่คือนิยามของเรื่องนี้

เสนาเพชร : คือเอาความรักเป็นตัวตั้ง และก่อประโยชน์ให้ตัวเองให้ได้มากที่สุด

วศิน : ใช่ คือใช้ในแง่บวกทั้งหมด แล้วเวลาเราใช้มันมีพลังมหาศาลเลย มันสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกเยอะเลย

จากคุณ : ma-hnong
เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 53 13:03:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com