Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...บอกเล่าความรู้สึกที่มี จากสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก (สปอยล์อย่างรุนแรง)...  

ขออนุญาตเขียนถึงความประทับใจกับหนังเรื่อง "สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก" อีกสักคนนะคะ...



โดยส่วนตัวแล้ว หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มใจและประทับใจมากจนอยากบอกต่อให้คนรอบๆ ตัวไปดู
แม้ว่าลึกๆ แล้วจะไม่ค่อยชอบฉากสัมภาษณ์ในตอนท้ายสุดสักเท่าไหร่นัก แต่อารมณ์โดยรวมของหนังมันดีมากจนเกินคาด

ความจริง หม่อนตัดสินใจไปดูหนังเรื่องนี้จากเสียงเชียร์ของเพื่อน (รวมทั้งกระแสที่เห็นในพันทิพ) ซึ่งดูแล้วไม่ผิดหวังเลย และจะไปแนะนำเพื่อนต่อไปอีกแน่ๆ ค่ะ :D


ประทับใจมากกับธีม "You're my inspiration - เธอคือแรงบันดาลใจ"

แรงบันดาลใจของน้ำ
...การที่น้ำพยายามทำทุกอย่างโดยมีพี่โชนเป็นแรงบันดาลใจ
...การที่น้ำพยายามตั้งใจสอบให้ได้ที่หนึ่ง โดยมีแรงบันดาลใจจากการไปหาพ่อ
...การที่น้ำพยายามฝึกเป็นดรัมเมเยอร์ให้ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ โดยหวังว่าจะช่วยกู้หน้าให้ครูอิน

หนังแสดงให้เราเห็นว่า ถึงแม้เราจะมีรักในวัยเรียน แต่ถ้าเรารู้จักนำความรักนั้นมาเป็นแรงบันดาลใจที่ดี มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายมากมายอย่างที่ผู้ใหญ่มักเป็นห่วง
เห็นได้จากฉากที่แม่โกรธที่น้ำสนใจเรื่องรักทั้งๆ ที่สัญญาว่าจะตั้งใจเรียน แต่สุดท้ายน้ำก็ทำให้เห็นว่า หากมีแรงบันดาลใจแล้วทุกอย่างย่อมเป็นจริงได้


นอกจากนี้ หม่อนยังประทับใจไปกับความรักของเพื่อน
ทั้งเพื่อนของน้ำที่คอยให้กำลังใจไปกับความรักของเพื่อน ช่วยกันวางแผน คอยปลอบใจ ทำให้น้ำมีแรงฮึดสู้
ความรักเพื่อนของโชนที่ทำให้ท็อปสะกัดดาวรุ่งสำเร็จ
ความรักและความเชื่อใจที่สมาชิกชมรมฟุตบอลมีให้กันจากฉากลูกโทษ
ความรักของสองสาวดรัมเมเยอร์ที่แม้จะตีกันจนเจ็บขนาดนั้น ก็ยังไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด


หนังยังช่วยแสดงความเป็นจริงของโลกอันโหดร้ายให้เราเห็นด้วย กับการที่สังคมมักให้ความสำคัญกับหน้าตาและบุคลิกก่อน
ด้วยฉากที่ครูอรเลือกฝนกับฝัน (จำผิดไหมนี่) ให้เข้าชมรมแล้วเคียะกลุ่มน้ำทิ้งไป
(แอบเจ็บปวด เพราะเคยโดนคัดทิ้งมาเหมือนกัน กระซิกๆ)


หนังเรื่องนี้สามารถทำให้คนอินได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคนที่เคยมีความรักในวัยเรียน
ทุกฉากทุกตอนพาให้ความทรงจำในวัยเยาว์ของเราแวะกลับมาทักทาย
...อมยิ้มไปกับสิ่งที่มีใครสักคนทำให้เราเหมือนที่โชนได้รับ
...คิดถึงคนที่เราอาจจะเคยทำทุกอย่างเพื่อเขาเหมือนน้ำ
...เสียใจไปกับตอนที่เราเคยผิดใจกับเพื่อน
...อึดอัดกับการที่เพื่อนขอให้เราห่างจากคนที่เรารักเพียงเพราะเพื่อนรักเขา


นักแสดงเรื่องนี้เล่นได้ดีจริงๆ ค่ะ
ไม่ค่อยได้ดูมาริโอ้เล่นหนัง แต่เรื่องนี้คิดว่ามาริโอ้ไม่ได้เล่นแข็ง จำฉากเจ้าชายได้ไหมคะ ฉากนั้นมาริโอ้ทำให้เห็นเลยค่ะว่า การท่องบทอย่างแข็งทื่อเนี่ยเป็นยังไง :P
แบบเฉพาะฉากนี้เท่านั้นที่มันต่างไปจากฉากอื่นๆ ในเรื่องโดยสิ้นเชิง
(แต่เนื่องจากหม่อนเป็นคนชอบฟังเสียง เลยคิดว่า ถ้าจะมีข้อด้อยก็เป็นเรื่องอารมณ์ที่อยู่ในเสียงนั้นล่ะค่ะ
บางฉากเหมือนมันขัดๆ นิดนึง เสียงไม่ไปกับหน้าตาอ่ะ แต่จำไม่ได้แย้ว)
ส่วนใบเฟิร์น เล่นได้ดีมากจนน่าอิจฉา เด็กบ้าอะไร น่ารักแล้วยังเก่งอีก :D
นักแสดงทุกคนทำให้เชื่อได้จริงๆ ว่าแต่ละคนเป็นคนเหล่านั้น


ฉากประทับใจ
...ฉากสระน้ำสารภาพรัก (รวมไปถึงฉากกอดปิ่น) ตอนที่น้ำบอกว่า "ทั้งๆ ที่สิ่งที่ควรทำคือการสารภาพกับพี่" เนี่ยมันกระแทกใจอย่างแรง
แล้วพอคิดว่าโชนกับปิ่นเป็นแฟนกันแล้ววิ่งมาเจอปิ่น ตอนน้ำกอดปิ่นแอบคิดไปว่าเรากอดปิ่นเพราะจะฝากความรักที่มีให้โชนไปกับปิ่นด้วย
...ฉากโชนเอาสมุดมาวางหน้าบ้านน้ำ แล้วเดินผ่านใต้หน้าต่างที่น้ำกำลังร้องไห้ไป
...ฉากที่เชียร์เลือกเค้กวานิลาที่น้ำชอบ ทั้งๆ ที่มันเป็นเค้กวันเกิดของตัวเอง แต่น้ำก็ไม่มางาน จังหวะนั้นเข้าใจอารมณ์เชียร์เลยว่า ทำไมถึงได้เสียใจขนาดนั้น
...ฉากที่น้ำไปเป่าเค้กเก้อ และฉากที่เพื่อนเดินหนี ชวนให้เกิดความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ
...ฉากที่น้ำพยายามง้อเชียร์ด้วยเพลง แอบเชื่อว่าหลายคนคงเสียน้ำตาไปกับฉากนี้ไม่น้อย
พอเห็นน้ำพยายามยังไงเชียร์ก็ไม่พูดด้วย จนต้องไปนั่งห่างๆ อยู่คนเดียว ตอนนั้นรู้สึกเหมือนอึ้ง เหมือนท้อและเสียใจ (อินสุดๆ)
แล้วพอน้ำเริ่มร้องเพลงปุ๊บ ก็เริ่มภาวนาช่วยให้เชียร์ใจอ่อน ซึ่งพอเชียร์ร้องเพลงไปด้วยเท่านั้นล่ะ ไม่รู้น้ำตามาจากไหนไหลพรากเลย T^T
ซีนนี้จับอารมณ์ไปได้เต็มๆ เลยค่ะ

ง่า...ชอบอีกเยอะเลย ทำไงดี



สิ่งที่ไม่ชอบในเรื่องนี้
- ฉากรายการโทรทัศน์ แอบรู้สึกว่าอารมณ์มันไม่ต่อกับฉากก่อนหน้า อาจจะรู้สึกขัดๆ เพราะเพื่อนของน้ำไม่โตขึ้นเลย (ใบเฟิร์นพอจะดูว่าโตขึ้นอยู่คนเดียว)
แล้วก็คิดว่าเรื่องการเรียนต่อของน้ำที่อเมริกามันดูเป็นไปได้ยาก ทำให้เกิดความรู้เชื่อไม่ลงขึ้นมา
พลอยส่งให้ฉากสารภาพรักหลังจากนั้นไม่ราบรื่นในอารมณ์ของหม่อนน่ะค่ะ
พูดตรงๆ ว่า ถ้ามีฉากน้ำชิงทุนเรียนต่อที่อเมริกาได้ คงจะรู้สึกดีกว่านี้อ่ะค่ะ

(ช่วงคิดไปเอง) ความจริงแล้ว หลังดูจบ หม่อนไม่ชอบฉากสารภาพรอบสองนี้มากมากกกกกก แต่ผ่านไปวันนึง ความคิดเริ่มตกตะกอน ความรู้สึกก็เปลี่ยน
หากมองเฉพาะตอนที่โชนเดินออกมาเนี่ย หม่อนกลับรู้สึกบทว่าค่อนข้างดีใช้ได้ทีเดียวค่ะ
คือหม่อนคิดไปเองอีกแล้วว่า จังหวะนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างไม่รู้ว่าอีกคนคิดอย่างไร ทำให้เรื่องที่โชนเลือกเอามาพูดเป็นเรื่องคุณกระดุม
แต่มันก็ทำให้น้ำรู้ว่า โชนยังใส่ใจเธออยู่นะ (ไม่งั้นกระดุมคงโดนทิ้งไปแล้ว เล็กขนาดนั้น แถมไม่ใช่ของตัวเองอีก)
ส่วนคำถามของน้ำ น่าจะเป็นผลมาจากความรู้สึกเมื่อคราวสารภาพรักริมสระน้ำที่น้ำพูดประมาณว่า สิ่งที่ควรทำคือบอกความรู้สึกตัวเองออกมาตรงๆ
พอเอามารวมกับความเชื่อที่เคยมีว่า โชนรักกับปิ่น จึงทำให้ออกมาเป็นคำถามนั้น
แต่แหม... ไม่น่ารีบสารภาพเลยว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกโชน ไม่งั้นคงได้รู้สึกอารมณ์พลิกกลับมากกว่านี้อ่ะค่ะ (แอบคิดไปว่า ปิ่นมีลูกกับท็อป ฮา)



คำถามที่คาใจ
- ทำไมต้องเขียนทับคำว่า "ได้ไหม" จากประโยคเต็ม "ปิ่นรักโชนได้ไหม" บนเสื้อโชนในวันเรียนจบ
(คือโชนเขียนทับ เพราะอยากให้น้ำเข้าใจผิด
หรือเขียนทับเพราะเป็นแฟนกันแล้วไม่จำเป็นต้องเป็นคำถาม
หรือปิ่นเขียนทับเพราะแค่อยากบอกให้รู้ถึงจะอกหัก)
คิดเองว่าไม่อันแรกก็อันสุดท้าย เพราะฉากก่อนสุดท้ายเหมือนปิ่นจะแซวโชนเรื่องรายการ ทำนองว่ารู้นะว่ายังคิดถึงน้ำอยู่
- ใครเอาสมุดในตำนานไปให้ทางรายการอ่ะคะ? น้ำแสดงท่าทีตกใจ แปลว่าไม่ใช่น้ำ หรือว่าแป้ง? ไม่รู้จะคาใจทำไม แต่มันอยากรู้จริงๆ อ่ะค่ะ ฮา


ทั้งหมดทั้งมวลที่เขียนมานี้ มาจากสมองและอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวของหม่อนล้วนๆ นะคะ
คิดเห็นต่างกันอย่างไร ช่วยบอกเล่าเก้าสิบให้ฟังด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยค่ะ


ป.ล. เริ่มรู้สึกว่าดูหนังรอบสื่อหรือพิเศษเนี่ย สบายกว่ารอบธรรมดาเยอะ เพราะไม่ต้องผจญกับผีบีบี (เปรียบเทียบตอนดูกวน มึน โฮ กับ สิ่งเล็กเล็กน่ะค่ะ)
หรือว่าเราควรจะให้เขาเก็บมือถือก่อนเข้าโรงหนังดี?


===============================================

มาเพิ่มเติมความรู้สึกหลังดูรอบสองค่ะ ^^


ไปดูรอบสองมาแล้วค่ะ เหมือนไปดูหนังคนละเรื่องเลยจริงๆ

ได้สังเกตอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นจากที่เคยดูในรอบแรก

อย่างเช่น...

...ได้เห็นว่าพี่ที่เล่นเป็นเจ้าชายเนี่ยก็ชอบน้ำมาก คอยตามติดตลอดโดยที่น้ำเองไม่ได้มีเขาอยู่ในสายตาเลย
เหมือนกับว่าในบางทีที่เรามัวแต่มองหาใครสักคนอยู่ เราอาจจะไม่ทันได้มองรอบตัวว่า มีใครที่เขาคอยมองแต่เราอยู่เหมือนกัน

...ได้เห็นสีหน้าและการกระทำของพี่โชน (ซึ่งอาจจะเป็นการคิดไปเองของหม่อน ฮา)
ฉากไปเที่ยวเขื่อน ขณะที่น้ำโทรศัพท์อยู่ ก็เป็นจังหวะให้โชนแอบหันกลับมาเก็บภาพไว้
ฉากซ้อนมอเตอร์ไซต์ท็อปหลังดูโชนซ้อม ทำให้เข้าใจว่าทำไมโชนถึงได้ทำหน้าแบบนั้น

...และคำถามที่เกิดขึ้นใหม่ในใจว่า ท่าขาแพลงนี่ น้องเฟย์เค้กมะม่วงเอามาจากครูอร หรือครูอรเรียนรู้จากเด็กกันแน่หนอ
ท่าเดียวกันเด๊ะ ตอนมาเจอครูพละคนใหม่ ^^;



แต่ที่สำคัญที่สุด

การที่คนในโรงหนังเปลี่ยนไป มันทำให้อารมณ์ในการดูหนังต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ

พี่คะ หนูไม่เข้าใจว่า ฉากน้ำง้อเพื่อนด้วยการร้องเพลงนี่มันตลกตรงไหนคะ
น้ำตาหนูกำลังจะไหล เจอเสียงหัวเราะพี่เข้าไป เซ็งขึ้นมาทันทีเลย
(หรือมีแต่เราที่มีอารมณ์ร่วมเพราะเคยโดนเพื่อนงอนแบบน้ำก็ไม่รู้)


แล้วก็ ไม่ว่าพี่จะดูซ้ำกี่รอบ ก็ช่วยอย่าขำล่วงหน้าได้ไหมคะ
สงสารคนที่เขาดูรอบแรกกันบ้างเถอะค่ะ งือ T^T


-------------------

แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 53 00:09:41

จากคุณ : ใบหม่อน
เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 53 01:17:21




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com