|
ความคิดเห็นที่ 7 |
ตอบ คห. 6 สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเพลงสรรเสริญพระบารมี ชุด "หยาดฝน" หรือเปล่าครับ เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งก่อนที่โรงหนังเอสเอฟจะทำฟิล์มเพลงสรรเสริญ ฯ เป็นของตนเอง ก็จะใช้ชุด "หยาดฝน" ครับ
โรงภาพยนตร์เอสเอฟเป็นของตระกูล "ทองร่มโพธิ์" ครับ เริ่มตั้งแต่คุณพ่อ "สมาน ทองร่มโพธิ์" มาจนถึงรุ่นลูก ก็คือ "สุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์" มีสายหนังทางภาคตะวันออกในชื่อ "สมานฟิล์ม" ดังนั้นชื่อตัวย่อภาษาอังกฤษ SF จึงมาจากคำว่า "สมานฟิล์ม" นั่นแหละครับ
ตอบ คห. 5 วิธีสังเกตว่า โรงไหนยังใช้รีลใหญ่ ซึ่งเรียกว่า "ทาวเวอร์" หรือใช้แพลตเตอร์ แบบที่เมเจอร์ และเอสเอฟใช้นั้น ดูไม่ยากครับ (สังเกตเอาขณะดูหนัง)
ถ้าเป็นแพลตเตอร์ ฟิล์มก็ไหลไปเรื่อย ๆ พอถึงช่วงรอยต่อ (เพราะต้องตัดหัวหนัง6 5 4 3 และท้ายหนังที่มีภาพมืด ๆ ทิ้ง) ก็จะปรากฏแค่แวบเดียวเท่านั้น แต่ก็สังเกตได้จากหนังที่จะปรากฏรอยมาร์คเป็นจุดดำ ๆ หรือมีรอยขูดฟิล์มเป็นวงกลม หรือเป็นขีดดอกจันบ้าง กากบาทบ้าง บางทีก็ไม่มีเลย ส่วนรอยต่ออันเนื่องมาจากฟิล์มหนังขาด กับรอยต่อที่ใช้เครื่องต่อฟิล์มแบบอัลตร้าโซนิค (ใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค ไปละลายฟิล์มที่ต่อนั้นให้ติดกัน ตัวเครื่องเล็กนิดเดียว แต่ราคาโหดได้ใจ คือหลักแสน) จะเห็นชัดเจนครับ
ถ้าเป็นทาวเวอร์ ตัวรีลของมันสามารถใส่ฟิล์มได้เต็มที่ คือ 6,000 ฟุต (เท่ากับ 3 ม้วนที่ใส่ฟิล์มขนาด 35 มม. ม้วนละ 2,000 ฟุต) เกินกว่านั้นมอเตอร์และสายพานทำงานหนักมาก ดังนั้นจึงต้องใช้เครื่องฉาย 2 เครื่องสลับกันครับ แต่ก็ยังเห็นรอยต่อแวบหนึ่ง แล้วก็ช่วงตอนเปลี่ยนเครื่องฉาย
บางโรงยังใช้วิธีแบบเก่าคือ สลับเครื่องฉาย แต่ใช้รีล 2,000 ฟุตแบบที่ใช้กันทั่วไปทั้งในโรงและหนังกลางแปลงครับ พอเห็นรอยมาร์คแวบแรกก็เดินเครื่องไปก่อนหน้า เพราะมันเป็นช่วงของห้วม้วน ต่อมาเมื่อมีรอยมาร์คแวบครั้งที่สอง จึงเปิดแสงจากเตาของอีกเครื่องหนึ่งได้เลยครับ
แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 53 22:23:29
จากคุณ |
:
หนามเตยแมน (หนามเตยแมน)
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ส.ค. 53 22:03:03
|
|
|
|
|