 |
Taxi Driver ...ดู(นาน)แล้วอยากแชร์ความรู้สึก Martin Scorsese กับด้านมืดในใจคน,สังคม,และมหานคร
|
|
เคยเขียนกระทู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เอาไว้เมื่อนานมาแล้วตอนเพิ่งดูจบใหม่ๆ ปัจจุบันก็หายสาบสูญไปตามกาลเวลา ไม่ได้เซฟไฟล์เวิร์ดเก็บเอาไว้ด้วย จะถือว่ากระทู้นี้เป็นฉบับ Rewrite ก็ว่าได้นะครับ...
เนื้อเรื่องของหนังว่าด้วยเรื่องของ Travis Bickle (Robert De Niro) อดีตทหารผ่านศึกผู้ใช้ชีวิตกะดึกด้วยการรับจ๊อบเป็นคนขับแท็กซี่เพื่อขจัดความเปล่าเปลี่ยวไปวันๆ...ถ้าจะให้เล่าแบบไม่สปอยล์ เนื้อเรื่องย่อๆของหนังก็มีแค่นี้แหละครับ
Taxi Driver เป็นหนังที่"แจ้งเกิด"ให้ผกก. Martin Scorsese อย่างแท้จริงครับ(หลังจากเปิดตัวไปกับ Mean Streets)
หนังเรื่องนี้ได้คะแนน(โหวต)จากสมาชิกเว็บ IMDb ไปถึง 8.6/10,ได้คะแนนจากเว็บมะเขือเน่า (Rotten Tomatoes) ไปถึง 98% มะเขือสด,ติดอันดับที่ 47 จากการจัดอันดับ 100 ภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบร้อยปีของสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน (AFI),เข้าชิงออสการ์สี่สาขา,ได้รางวัล Palme d'Or (ปาล์มทองคำ)จากคานส์(รางวัลเดียวกันกับที่หนังลุงบุญมีระลึกชาติของคุณเจ้ยได้ไป),
และที่สำคัญ...หนังเรื่องนี้เป็นหนังของ Martin Scorsese ที่ผมชอบมากที่สุดอีกด้วย(มันสำคัญขนาดนั้นเชียวเร้อ...? อวยกันสุดๆเลย พี่น้อง)
มหานคร...แม้ว่าแนวหนังที่"สองคนนี้"ทำมันจะต่างกันสุดขั้ว แต่ผมว่าในความ"ต่าง"ของ Martin Scorsese กับ Woody Allen ก็ยังคงมีความ"เหมือน"อยู่ในนั้น เหมือนกันยังไงน่ะหรือ?
นอกจากมาดคุณลุงผมหงอกใส่แว่นขอบดำหนาเตอะแล้ว ก็ตรงที่ลุงๆทั้งสองแกเป็นชาวนิวยอร์กโดยกำเนิดยังไงเล่า(ลุง Marty เกิดที่ควีนส์ ส่วนลุง Woody เกิดที่บรู๊คลิน) จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม หนังส่วนใหญ่ของลุงๆทั้งสองถึงมักจะมีแบ็คกราวด์เป็นนิวยอร์ก
โฟกัสไปที่หนังของลุง Marty (เพราะนี้มันกระทู้ Taxi Driver ไม่ใช่กระทู้ Annie Hall ) ลุงแกเคยทำมาหมดแล้วตั้งแต่นิวยอร์กยุค 70's อันเต็มไปด้วยแสงสีและย่านชานเมืองอันคราครํ่าไปด้วยผู้คนใน Mean Streets ยันนิวยอร์กยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนเมื่อร้อยกว่าปีก่อนใน Gangs of New York
...แล้วด้านมืดของนิวยอร์กล่ะ? แน่นอนว่าทุกๆมหานครบนโลกต้องมีด้าน มีเหลือบ มีมุมมืดแฝงอยู่...ซึ่งก็แน่นอนอีกนั่นแหละว่าลุง Marty ต้องไม่พลาดเอามาทำเป็นหนัง และหนังเรื่องนั้นก็คือ Taxi Driver
ทิวทัศน์ของนิวยอร์กยามค่ำคืน พื้นถนนเปียกแฉะ แสงไฟนีออนติดๆดับๆจากข้างทาง เต็มไปด้วยพวกเด็กแก๊ง,แมงดา,โสเภณี,และสวะสังคมอีกมากมายเกินจะนับไหว ลุง Marty ถ่ายทอดภาพบรรยากาศในด้านมืดของนิวยอร์กออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม(ถ้าใครเคยค้นข้อมูลมาก่อนจะรู้เลยว่าบางย่านในนิวยอร์กสมัยนั้นมันไม่ใช่สถานที่ที่น่าไปเหยียบเลยสักนิด) ผสมโรงด้วยเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันของ Bernard Herrmann ก่อเกิดเป็นภาพสากลในภาพยนตร์ที่ประชากรของมหานครทั่วทุกมุมโลกต้องเคยเห็นมาแล้วในชีวิตจริงอย่างน้อยสักครั้ง
แต่ถ้าไม่เคย...ลองปิดตา นึกภาพมหานครที่คุณอยู่(ไม่ว่าจะกรุงเทพฯยันโอ๊คแลนด์ )แล้วลองจินตภาพให้มันเป็น"มหานครที่เราอยู่ในมุมมืด"ดู หลังจากนั้นลองเปิดดู Taxi Driver ...พนันสามกิฟท์เลยว่าถ้าไม่เหมือนอย่างน้อยก็ต้องคล้าย(ที่ว่าพนันน่ะ ผมล้อเล่นนะ เดี๋ยวเกิดมีคนเล่นมุข"ไม่เห็นเหมือนเลย ก็นู๋เด็กเทพฯมันจะไปเหมือนเด็กยอร์กได้ไง" ผมยิ่งตบมุขไม่เก่งอยู่ด้วยสิ )
หรือไม่ก็ลองนึกถึงภาพและบรรยากาศของกรุงเทพฯ,พัทยาในหนังไทยเปี่ยมคุณภาพ(แต่เจ๊งเรื่องรายได้)เรื่อง"เฉือน"ดูครับ ทำนองนั้นเลย
สังคมและใจคน...เพราะหยิบมาดูรอบสองถึงได้รู้(สึก)ว่า Taxi Driver ก็มีความคล้ายคลึงกันกับ First Blood หนังลุง(แรม)โบ้ภาคแรกตรงพล็อตเรื่องเกี่ยวกับอดีตนายทหารมะกันที่พยายามกลับไปใช้ชีวิตเยี่ยงปุถุชนอีกครั้งแต่สังคมกลับไม่ยอมรับ
ผมเคยเห็นมีคนออกความเห็นเกี่ยวกับ Taxi Driver เอาไว้ว่า"หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เล่าเรื่องจากมุมมองของคนขับแท็กซี่"...หากมองลึกๆแล้ว ความเห็นนี้ถือว่า"จริง"มาก เพราะคนส่วนใหญ่เวลานั่งแท็กซี่,รถเมล์,มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ฯลฯ เราย่อมต้องมองในมุมมองและในฐานะของ"ผู้โดยสาร/ลูกค้า"
แต่กับหนังเรื่อง Taxi Driver ... Taxi Driver เป็นหนังที่เลือกที่จะตีแผ่ชีวิตสภาพสังคมคนเมืองผ่านมุมมองของคนขับแท็กซี่ผู้ทำงานกะดึก (Travis) ตีแผ่ให้คนดูผู้เป็นชาวเมืองผู้กลับมาจากงาน/กลับมาจากเรียน ถึงบ้านก็กินข้าวให้อิ่ม,อาบน้ำให้ชื่นฉ่ำ,ฟุบลงนอนพักผ่อนให้เพียงพอให้ได้รู้ว่า"ด้านมืด"ยามรัตติกาลของเมืองใหญ่ มันเป็นเช่นไร?
และนอกจากในแง่ของการตีแผ่อะไรใหญ่ๆอย่าง"เมืองใหญ่(นิวยอร์ก)"แล้ว Taxi Driver ยังเป็นหนังที่ตีแผ่อะไรที่"เล็ก"แต่"ลึก"ไม่แพ้กัน(หรือเผลอๆจะลึกกว่า)อย่าง"ใจคน"ในแง่ของจิตวิทยาด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้วนี่อาจจะเป็นฟันเฟืองหลักของเรื่องด้วยซ้ำ ผ่านตัวละครนำของเรื่อง Travis Bickle
Taxi Driver เป็นหนังที่ได้รับการยอมรับมาอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนังแนว Character study ที่ล้ำเลิศ คนดูจะได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของ Travis ตั้งตอนเปิดเรื่องที่เขาไปสมัครงานเป็นคนขับแท็กซี่ยันท้ายเรื่องที่เขาเริ่มดำเนินการตาม"แผนการ" ทุกๆสิ่งที่ Travis ทำและทุกๆสิ่งที่ Travis คิดและทุกๆอย่างที่เป็น Travis คนดูจะได้รู้หมดทุกซอกทุกมุมเพราะตัวหนังปลอกเปลือกตัวละครตัวนี้ให้คนดูได้เห็นจนหมดเปลือก
นั่นจึงอาจจะเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงไม่มีตัวละครตัวไหนในเรื่องดูจะเข้าใจ Travis เลย ก็เพราะว่า Travis มี"คนดู"เป็นคนที่เข้าใจเขาอยู่แล้วนั่นเอง ต้องชื่นชมนักแสดงผู้ที่ทำให้ตัวละคร Travis Bickle มีชีวิตขึ้นมาบนแผ่นฟิล์มอย่างลุง Robert De Niro เป็นอย่างยิ่ง...
มาว่ากันในส่วนของนักแสดงแบบเต็มๆกันบ้าง เริ่มด้วยคนที่เด่นที่สุด(เพราะเป็นศูลย์กลางของเรื่อง)และเล่นดีที่สุด... Robert De Niro ในบท Travis Bickle
นอกจาก Taxi Driver จะเป็นผลงานการกำกับของลุง Marty ที่ผมชอบมากที่สุดแล้ว บทบาทของลุง Bobby (ชื่อเล่นของลุง De Niro แก)ในหนังเรื่องนี้ยังเป็นบทบาทของลุงแกที่ผมชอบมากที่สุดด้วย ผมจึงมักจะให้นิยาม Taxi Driver ว่าเป็น"งานระดับท็อปฟอร์มของ Scorsese กับ De Niro"
การแสดงของลุง De Niro ในบท Travis มันยอดมวากกกกกก!!!!!! ยอดที่สุด ยอดโคตรๆ ใบอ่อนหรือก็คือสุดยอดนั่นเอง เก็ทบ่ๆ? โดยเฉพาะในฉาก "You talkin' to me?" ในตำนาน
ส่วนตัวแล้วผมยกให้บทบาทในหนังเรื่องนี้ของลุงแกเหนือกว่าทุกๆบทบาทในทุกๆเรื่องที่ลุงแกเคยแสดงมา เหนือกว่าทั้ง The Godfather: Part II, Raging Bull, The Deer Hunter, Once Upon a Time in America, Meet the Parents (หา?) เหนือกว่าทุ๊กกกกกกเรื่องงงงงงที่ลุงแกเคยแสดงมาจริงๆ ดีที่สุดของลุงแกเลยเอ้า
(จริงอยู่ที่ถ้าตัดสินกันด้วยใจที่เป็นกลางแล้ว Raging Bull ย่อมต้องเป็นงานที่ดีที่สุดที่แท้จริงของลุง De Niro (ส่วน Taxi Driver ก็คงมาวินไม่ที่สองก็ที่สาม)...แต่ตอนนี้มันวัดกันด้วยความชอบของผมนี่นา อวยไงอวยกัน(เฟ้ย) )
เคยได้ยินมาว่าลุง De Niro แกลงทุนไปรับจ๊อบเป็นคนขับแท็กซี่จริงๆเพื่อเตรียมเนื้อเตรียมตัวแสดงหนังเรื่องนี้ด้วย ก็ถือว่าที่ลุงแกลงทุนไปไม่เสียเปล่าแถมยัง(โคตร)คุ้มค่าเหนื่อยละนะครับ เสียดายนิดๆตรงที่ว่าปีนั้นลุงแกชวดออสการ์สาขานำชาย(แพ้ให้คุณปู่ Peter Finch นักแสดงผู้ล่วงลับจาก Network) ไม่งั้นลุงแกคงมีออสการ์ไปนอนกอดสามตัวแข่งกับลุง Jack Nicholson แล้ว
Jodie Foster สมัยยังเอ๊าะๆในบท Iris โสเภณีเด็ก...ครั้งหนึ่งเคยชมการแสดงของ Natalie Portman สมัยยังจิ๋ว(แต่จี๊ด)ใน Leon: The Prefessional ว่า"โอ้วววววว... Portman เธอฉายแววตั้งแต่ยังเด็กเลย แสดงเป็น"ด.ญ.เปรี๊ยวเปรี้ยว" ได้ดี๊ดี"
แล้วพอมาเห็น Jodie Foster ใน Taxi Driver ..."โอ้วววววววว...เจ๊ Jodie วัยแรกแย้ม ทำเอานู๋ Natalie (ในตอนนั้น)จืดไปเลยกับบทบาท"ด.ญ.เปรี๊ยวเปลี้ยวแถมแรงด้วยนะเค๊อะ"ของเธอ"(แต่ยังไงๆ ป๋า...เอ๊ย!!? ป๋มก็รักทั้งสองคนน้าาาาาา)
ฉายแววรุ่งตั้งแต่ยังเด็ก...ปัจจุบันนี้เธอโตเป็นผู้ใหญ่ มีออสการ์ไปไว้ในครอบครองแล้วสองตัวพร้อมผลงานชั้นดีอีกเป็นพรวน...นักแสดงชั้นดีก็ยังคงเป็นนักแสดงชั้นดีอยู่วันยันค่ำแหละน้า...
Harvey Keitel ในบท Matthew 'Sport' Higgins แมงดาป๋าใหญ่ของ Iris ...ตอนผมดูครั้งแรกก็ผิดหวังนิดๆประมาณ"ระดับ Harvey Keitel แท้ๆ แต่ในเรื่องนี้กลับเป็นแค่ตัวประกอบหรือนี่?" แต่พอดูรอบสองถึงได้รู้(สึก)ตัวว่า..."เฮ้ย...ลุง Keitel นี่ ถึงแกเป็นตัวประกอบโผล่มาไม่กี่ฉาก แต่แกก็เล่นดีแถมแย่งซีนใช่เล่นเลยนิหว่า!!?"
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฉากเต้นรำท่ามกลางแสงเทียนระหว่างตัวละครพี่แมงดาของลุงแกกับตัวละครน้องโสของเจ๊ Foster เป็นฉากเดียวที่ไม่ได้เล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของ Travis และเป็นฉากที่ลุง Keitel ได้ปล่อยพลังนักแสดงแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด(เพราะไม่มีลุง De Niro มาปล่อยพลังข่มกัน)
หลังจากเขียนมาซะยืดยาว สรุปเลยแล้วกัน...ถามสั้นๆสองข้อ คุณชอบดูหนังรึเปล่า? และคุณคิดว่าตัวเองเป็นคอหนังรึเปล่า? ถ้าคำตอบคือ"ใช่"ทั้งสองข้อละก็...มัวรอช้าอยู่ไย? รีบไปหามาดูโดยไวกับ"งานระดับท็อปฟอร์มของลุง Marty กับลุง Bobby" นามว่า Taxi Driver...
You talkin's to me? You talkin' to me? Who the f*ck do you think you're talkin' to?
แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 53 15:37:40
แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 18:04:45
แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 03:50:54
แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 53 16:07:02
จากคุณ |
:
Apple101
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ส.ค. 53 15:16:49
|
|
|
|  |