Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
@@~~อีกหนึ่งเสียงและความรู้สึกดี ๆ ที่ได้จากการดูหนังเรื่องสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก~~@@  

อยากเป็นอีกหนึ่งเสียงและกำลังใจให้กับหนังไทยเรื่องนี้ สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก....ค่ะ...

หนังไทยเรื่องสุดท้ายที่ดูในโรงภาพยนตร์คือ...รถไฟฟ้ามาหานะเธอ..เรื่องนี้ดูไปสองรอบ เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ดูถึงสองรอบ...ขอบอกตามตรงว่าดูเพราะพี่เคนสุดหล่อ รอบที่สองไปดูเป็นเพื่อนน้องค่ะ เพราะพี่เคนเราเลยซื้อดีวีดีเรื่องนี้เก็บเอาไว้ ...

แต่...สำหรับหนังไทยเรื่องนี้ สิ่งเล็ก ๆ ....ครั้งแรกที่เห็นโฆษณาหนังในโรงภาพยนตร์...แว๊บแรกคือ...คงเป็นหนังของค่าย GTH ที่ทำเรื่องแฟนฉัน แนวทางคล้าย ๆ กัน ...ไม่ได้คิดอะไรมาก...มีเวลาอาจจะมาดู...อาจจะนะ...หนังไทยก็คงกุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ แบบเด็ก ๆ

พึ่งทราบภายหลังว่าหนังเริ่มฉายวันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่ วันหยุด ช่วงนั้นงานยุ่งมาก ๆ ตั้งใจจะไปดูก็ไม่ได้ดูซะที ฝนตกตอนเย็นทุกวัน ทำให้ไม่อยากออกจากบ้าน จนกระทั่งถึงวันพุธที่ 25 ฝนหยุดตกตอนเย็นบ้างแล้ว ชวนแฟนไปดูหนังกัน แฟนก็แปลกใจอยู่ดี ๆ ทำไมเธอเกิดอยากดูหนังไทยขึ้นมาได้ พี่เคนก็ไม่ได้เล่น ไหนบอกว่าไม่ค่อยเจ้ามาริโอ้นี่ไง เราก็..ไม่รู้สิ ก็อยากอุดหนุนหนังไทยบ้างไง น่าจะโอเคนะ คงคล้าย ๆ กับแฟนฉัน...

ไปถึงหน้าโรงแล้ว คุณท่านก็ยังถามย้ำว่าจะดูเรื่องนี้เหรอ ไม่ดูหลวงพี่เท่ง 3 เหรอ...เราก็บอกว่า...ไม่....เอาเป็นว่าเข้าโรงไปดูเรื่องนี้ แปลกใจที่หนังเข้ามาเป็นสัปดาห์กว่าแล้วคนยังแน่นโรง..ปกติสำหรับโรงหนังต่างจังหวัด ...จะไม่ค่อยได้เห็นอะไรแบบนี้ ถ้าหนังไม่ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างจริง ๆ

ตอนหนังเริ่มจะฉายก็ยังมีน้อง ๆ ใส่ชุดนักเรียนเดินกันเข้ามาอยู่เรื่อย ๆ เราไปดูรอบ 18.45 น. เพราะรอบต่อไปคือ 21.20 เลือกดูรอบแรก ทนหิวข้าวไปก่อน เพราะอยากดูหนังมาก ....

ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับหนังเรื่องนี้ แค่คิดว่าดูแล้วคงได้รอยยิ้มออกมาบ้างตามประสาหนังกุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ ...แต่หลังจากดูจบแล้ว...โอ้โห...หนังให้อะไรกับเราเกินกว่าที่คาดหวังเอาไว้มาก ๆ ...เป็นเรื่องแรกที่ดูจบต้องรีบก้มหน้าก้มตาเดินออกจากโรง..ไม่ใช่อะไรน้ำตามันยังไหลอยู่ อายน่ะ....ความรู้สึกคือ...ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วมันอิ่มเอมใจ....ไม่รู้จะบรรยายเป็นตัวอักษรยังไงดีค่ะ ความรักในตอนนั้นมันดีจริง ๆ นะ มันใสสะอาด มันทำให้เราอยากทำอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อคนที่เรารัก เพื่อคนที่เราแอบรัก เหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงมัธยมต้น ตอนที่เราใช้ความรู้สึกล้วน ๆ ในการทำอะไรเปิ่น ๆ เชย ๆ บางคนอาจเป็น น้ำ ในตอนนั้น บางคนอาจเป็น โชน...บางคนอาจเป็นน้องเค้กมะม่วง เป็นท๊อป...และสุดท้ายเราก็อาจเป็นได้แค่...เจ้าชายเขียดคนที่แอบชอบน้ำ..แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำดี ๆ ในครั้งวัยเยาว์ของเราทุกคน  เราคิดว่าหลาย ๆ คนที่ประทับใจกับหนังเรื่องนี้ จนต้องไปดูอีกหลาย ๆ รอบ จนกระทั่งกลายมาเป็นแฟนคลับ จัดมีตติ้งสำหรับคนรักหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ก็คงเพราะความประทับใจหลาย ๆ อย่าง ที่ได้จากหนังเรื่องนี้....สำหรับนักแสดงที่ประทับใจ...

พี่โชน...มาริโอ้...สารภาพว่าเดิมทีไม่ค่อยชอบน้องโอ้เท่าไหร่ ข่าวทำให้เกิดอคติกับน้อง....แต่ดูเรื่องนี้...โอ้เล่นได้น่ารักมาก สายตา รอยยิ้ม ไม่มาก ไม่น้อย ธรรมชาติ... สัญญาต่อไป จะติดตามผลงานโอ้ทุกเรื่องจ้ะ...

น้องน้ำ....ใบเฟิร์น...ดูจบแล้วถามแฟนว่า...คนเล่นคนเดียวกันหรือเปล่า..ทำไมต่างกันจัง ...แฟนบอก คนเดียวกัน ดูปากก็รู้แล้ว...(พึ่งรู้ว่าคุณท่านสังเกตุแต่ปากน้องเฟิร์น..ชิ..) มีเถียงกลับว่า...แต่ดูสูงขึ้นนะ...หรือว่าพี่น้องกัน...ไปโน่นเลยเรา...ยิ่งตอนจบ...ทำไมสวยขึ้นได้ขนาดนี้น๊อออ...

เชียร์ กี้ นิ่ม.....คิดถึงแก๊งค์แฟนฉัน...โดยเฉพาะน้องเชียร์...เล่นได้น่ารักจริง ๆ

ครูอิน...ตุ๊กกี้...ประทับใจนักแสดงคนนี้อยู่แล้ว...เล่นเรื่องนี้เราว่า เป็นสีสันให้กับหนังได้ดีทีเดียว...บางช๊อตเธออาจเกินเลยไปบ้าง...เราก็ไม่ว่ากัน..ได้หัวเราะ ได้ยิ้มเพราะเธอตลอดทั้งเรื่อง...

ตอนดูรอบแรก...ตอนจบอาจขัดใจไปบ้าง สำหรับเรา..รู้สึกว่าจบเร็วไปหน่อย พยายามสรุปให้จบเร็วไป แต่ก็ยังดีกว่าจบแบบ ไม่แฮปปี้นะ...

ความรู้สึกที่มีต่อหนังสิ่งเล็ก ๆ รอบที่ 1 ....เมเจอร์ สาขาฉะเชิงเทรา

ดูแบบไม่ได้เก็บรายละเอียดอะไรมาก แต่ประทับใจหลายฉากอยู่เหมือนกัน

ฉากที่ 1 ที่เพื่อน ๆ ของน้ำช่วยกันขัดสีฉวีวรรณให้น้ำ แล้วน้องเค้าเต้นกันได้น่ารักดี โดยเฉพาะเจ้าน้ำ เต้นได้น่ารักมาก ๆ อมยิ้มเลยแหล่ะ...นี่แหล่ะน๊า...เพื่อนกัน ทำให้กันได้ทุกอย่างจริง ๆ ....ทั้งเพลง ทั้งนักแสดงลงตัวไปหมด..

ฉากที่ 2 ฉากที่น้ำร้องเพลงง้อเพื่อน ฉากนี้ถึงกับน้ำตาไหล ใครไม่ร้องไห้กับฉากนี้...ใจแข็งมากจริง ๆ ค่ะ

ฉากที่ 3 ฉากที่น้ำสารภาพรักกับพี่โชน...น้ำเสียงของนางเอกที่พยายามจะบอกถึงความรู้สึก...โดยเฉพาะประโยคท้าย...สิ่งที่น้ำควรจะทำคือบอกกับพี่ว่าน้ำชอบพี่โชนค่ะ....แต่แล้วผู้กำกับก็ใจร้ายมาก อารมณ์คนดูกำลังอิน...น้ำตาเริ่มคลอ..ไหลลงมาเป็นทาง...แล้วก็ตัดอารมณ์ให้ชะงักพรึ่บ...ด้วยการให้น้องน้ำเดินตกสระน้ำซะงั้น...ไม่ได้หัวเราะ..แต่มีเสียง..เฮ้ยย...ของคนดูข้าง ๆ .....

ฉากที่ 4 ...ฉากที่โชนหยิบสมุดภาพที่ถ่ายรูปและเขียนเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อน้ำมาดูทีละหน้า...มันเหมือนกับว่า...เราสงสารนางเอกกันใช่ไหม...เราดูมาตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึงตอนนี้..ซึ่งต่อจากฉากที่นางเอกสารภาพรักแล้วพี่โชนก็ดันไปเป็นแฟนกับพี่ปิ่น.....เราสงสารนางเอกกันมาเกือบทั้งเรื่อง...แต่...
พอพี่โชนหยิบสมุดภาพเล่มนี้...มันเหมือนฉากนี้เปิดเผยความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับหนังที่เราดูมาตั้งแต่ต้นให้คนดูได้รู้ว่า... พี่โชนเองเค้าก็รักน้องน้ำมาตลอดนะ...น้ำตาไหลเลย...ขี้แง...สงสารพี่โชน....

คำถามในหัวที่ดูจบ...พี่โชนรักน้องน้ำตอนไหน...? ในสมุดภาพเขียนไรไว้บ้าง ดูไม่ทัน...สงสัยต้องดูอีกรอบ (แอบคิดในใจ)

รอบที่ 2 ดูพร้อมเพื่อน ๆ ในพันทิปที่รักหนังเรื่องนี้ที่มาบุญครอง มีตติ้งวันที่ 28 สิงหาคม....รอบนี้ตื่นเต้น ลากน้องสาวไปดูด้วย ตั้งใจดูมากกว่าเดิม..เก็บรายละเอียดหนังมากขึ้น...เก็บรายละเอียดกับจับผิด..มันเหมือนกันหรือเปล่า 555....ดีใจที่ได้ไปมีตติ้งค่ะ ได้พบปะนักแสดง ถึงไม่ได้ลายเซ็นต์ก็ตาม เพราะต้องรีบกลับบ้าน ...เสียดายไม่ได้โปสเตอร์ อยากได้มาก สมุดบันทึกด้วย พอเรารักหนังเรื่องนี้ ก็อยากได้ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับหนังไว้เป็นที่ระลึก....แต่ก็ยังดีได้เสื้อมา 2 ตัวมีลายเซ็นต์ผู้กำกับด้วย...

ตอนแรกยกมือถาม...ก็อยากจะถามว่าพี่โชนรักน้องน้ำตอนไหน แต่พอดีมีเพื่อนถามให้แล้ว...คำตอบกำกวม...พี่โชน..น้องโอ้บอกว่า รักตั้งแต่เห็นครั้งแรกตอนกระโดดลงมาจากต้นมะม่วงเลย...แล้วก็บอกว่ามั่ว...ให้ถามผู้กำกับ จำได้ว่าพี่วศินหรือพี่เพชรบอกว่า...ก็เริ่มชอบมาเรื่อย ๆ ค่อย ๆ สะสมมา...ตั้งแต่น้องยังหน้าปลวกนั่นแหล่ะ...

คำถามเยอะมากค่ะวันนั้น...โดยเฉพาะคำถาม..นัยยะ...มีนัยยะอะไรเกี่ยวกับ..มะม่วงหรือเปล่า..555...ทำไมต้องเค้กมะม่วง ทำไมต้องให้มะม่วง...

กระโดดลงมาจากต้นไม้...เพราะต้องการช่วยลูกแมว แต่มีมะม่วงติดมาด้วย...ต้องการสื่อว่าโชนเป็นคนใจดี จิตใจดี ชอบช่วยคนอื่น...

มีคนถามว่าฉากที่รีดเสื้อให้พี่โชนไปรับรางวัล..ยังมีรอยเท้าประทับอยู่....คือสื่ออะไร...พี่เค้าบอกว่าเป็นเรื่องจริงของพี่จิก...แล้วถ้าสังเกตุก็จะเห็นว่าเสื้อพี่โชนก็มักจะเลอะแบบนี้...อันนี้ไปดูรอบที่สามเมื่อวาน...ฉากนึงที่เห็นตามที่พี่เค้าบอกคือฉากที่พี่โชนเดินไปทักว่าน้ำขาวขึ้นตอนที่พวกน้ำยืนรอสมัครชมรมกันอยู่ แขนเสื้อข้างซ้ายพี่โชนเป็นรอยดำ ๆ ....

ทำไมน้องเค้กมะม่วงมีฉากนึงส่งสายตาไปให้ท๊อป..ก็ต้องการสื่อว่าปิ๊งท๊อป แล้วตอนท้ายก็อาจเป็นแฟนท๊อปเพราะได้ซ้อนท้ายรถ

บนเสื้อโชนที่ปิ่นเขียนว่า ปิ่นรักโชนได้ไหม...ทำไมถึงมีรอยขีดคำท้ายได้ไหมทิ้งไป...ก็โชนขีดทิ้งเพื่อตอบปิ่นว่า...รักได้...(เศร้าได้อีกนะนี่)

ปิ่นมีลูกกับใคร...อันนี้ฮา...พี่ผู้กำกับ...ตอบประมาณว่าก็มีกับแฟนเค้านั่นแหล่ะ...คือ...คนดูแอบอยากรู้ไง...ทั้งที่ในหนังก็บอกว่าไม่ใช่ พี่โชน แต่ก็ยังสงสัยน่ะค่ะพี่วศิน....

คำว่า Love ที่ติดอยู่หลังเสื้อพี่โชน...ตอนหันหลังให้น้องน้ำหลังจากเอากุหลาบไปให้แล้วบอกว่าเพื่อนฝากมา...มีนัยยะแอบแฝงหรือเปล่า...ฮาอีก..อันนี้ไม่มีนะ...ผู้กำกับคิดไม่ถึง..แต่คนดูจินตนาการไปได้อีก...พี่โชนแอบสารภาพรักหรือเปล่า...

มีอีกหลายคำถาม รู้สึกจะมีแฟน ๆ ที่ไปงานมาโพสต์รวมไว้ในกระทู้เดิม ๆ ค่ะ...ตอนนี้ไม่มีเวลาไปขุด เพราะใกล้เลิกงานแล้ว อิอิ....

รอบที่ 3  เมเจอร์ ฉะเชิงเทรา วันที่ 1 กันยายน...

คนเกือบครึ่งโรงค่ะ ถือว่าเยอะสำหรับโรงหนังต่างจังหวัด..แต่ก็แอบใจหายว่าหนังจะฉายถึงวันไหนนะ...อยากให้ได้ซักร้อยล้าน...

รอบนี้ไปดูคนเดียว แอบหนีไปดูคนเดียว...บางคนอาจไม่เข้าใจว่าดูแล้วดูอีกไม่เบื่อหรือไง...มันจะชอบอะไรกันนักหนา ต้องไปดูกันหลายรอบ มีคนดูสิบรอบ มากกว่าสิบรอบก็ยังมี....มีเงินเหลือใช้เหรอ...บลาๆๆๆๆ.........เอ่อ...มันเป็นความชอบน่ะค่ะ...นาน ๆ จะมีหนังไทยที่ทำให้รู้สึกดีได้ขนาดนี้...เราต้องช่วยกันอุดหนุนหนังไทย ผู้สร้าง ผู้กำกับ นักแสดงจะได้มีกำลังใจทำหนังดี ๆ ออกมาให้เราได้ดูกันอีกค่ะ....

เราว่าพี่ผู้กำกับเค้าก็ตั้งใจกันมาก ๆ นะคะ รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พลาดไปบ้าง หลุดไปบ้าง ก็อย่าไปใส่ใจเลยค่ะ ไปดูหนังเพื่อไปรับความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ อาจมีน้ำตาไหลออกมาบ้าง ก็เป็นความสุขอีกรูปแบบนึง...

ดูรอบนี้พบว่า...ชอบทุกฉาก....ยกเว้น...ฉากที่พี่โชนโผล่ออกมาจากกล่อง...ทาสีภายใน...ฉากนี้เหมือนมุขฝืด ๆ ที่ให้น้องโอ้ใส่ที่คาดผมกระต่ายแถมฟันกระต่ายด้วย...ว่าจะถามพี่วศิน...ว่าต้องการสื่ออะไร...จะสื่อว่าพี่โชนแอบมาดูน้องน้ำซ้อมละครเหรอ...

ไม่เข้าใจที่เขียนว่า  น้ำทำสำเร็จตั้งแต่แรกแล้ว...แล้วภาพถ่ายไปที่สมุดภาพซึ่งในนั้นมีรูปหนังสือตำราสูตรรักพิชิตใจ...จะสื่อว่าโชนเริ่มชอบน้ำตั้งแต่น้ำทำข้อแรกแล้วเหรอ...อันนี้ไม่เข้าใจจริง ๆ ขนาดดูรอบที่สาม สงสัยต้องมีรอบที่สี่ อิอิ

ร้องไห้เพิ่ม ตอนที่โชนเปิดสมุดภาพไปเรื่อย ๆ แล้วมาถึงตอนท๊อปสารภาพรักกับน้องน้ำ...พี่โชนเอามือจับหัวแล้วทำสีหน้า...สะเทือนใจม๊ากกก ...

ตอนที่พี่โชนเอาสมุดภาพไปวางไว้หน้าบ้านน้ำ...แล้วฉากตัดกลับไปตอนที่ท๊อปบอกให้โชนสัญญาว่าจะไม่จีบน้ำ....ตรงนี้ผู้กำกับต้องการสื่อว่า...โชนตัดใจจากน้ำเพราะต้องการรักษาสัญญาที่มีให้กับท๊อป เลยตกลงเป็นแฟนกับปิ่น ประกอบกับต้องไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ แล้วก็เลยตัดสินใจให้สมุดภาพเล่มนี้แก่น้ำ...เพื่อบอกให้น้ำรู้ว่าเค้ารู้สึกยังไง....ใช่หรือเปล่าคะ..

ฉากจบ...เราว่าที่คนบอกว่าพี่โชนทำไมเลิกเล่นบอล...ทำไมดูโทรม ๆ หัวยุ่ง ๆ เหมือนคนไม่ประสบความสำเร็จ...เราว่า...เพราะเค้าต้องการให้เห็นความแตกต่าง...จะเห็นว่าพี่โชนคล้ำลงเพราะไปเป็นนักบอลอยู่หลายปี..ผมยุ่ง ๆ ก็พยายามทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น....ไม่ขาวใสปิ๊งวิ๊งเหมือนตอนมัธยม...เพียงแต่เจ้าโอ้เค้าจิ้มลิ้ม โอโม่มาก...ทำยังไงก็ทำให้ดูแก่ไม่ค่อยได้...มั้งคะ....

แล้วก็ฉากตัดสลับหน้ากันไปมา เพื่อรอฟังคำตอบพี่โชน ดูกี่รอบก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะได้ยินเสียงฮือฮาขัดใจของคนดูทุกรอบที่ดูเลยหล่ะค่ะ....

แต่พี่ปิ่นแต่งหน้าได้ใจสุด ๆ ดูแตกต่างมาก ๆ ...เหมือนสาวมั่น สาวออฟฟิศ...เลือกหน้าตาลูกชายได้ถูกใจอีก หน้าน้องออกฝรั่ง ๆ หน่อย ๆ แต่นั่นทำให้ตอนต้นเรื่องคนดูหลงเชื่อไปว่าเป็นลูกพี่โชนจริง ๆ ...แล้วจะแบบว่านางเอกตายไปเหลือแต่พระเอกเลี้ยงลูกหรือเปล่า....

ดูมาถึงรอบนี้ ความไม่ชอบฉากจบก็เปลี่ยนไป..ขอบคุณพี่วศินกับพี่เพชรมาก ๆ ค่ะ ที่เลือกจะทำให้คนดูมีความสุข...กับการจบแบบสมหวัง...รักแท้ยังมีจริงอยู่นะคะในโลกนี้...อยู่ที่ว่าเราจะหามันเจอหรือเปล่า....

สรุปเขียนมายืดยาว....เป็นครั้งแรก ก็อยากจะแชร์ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อหนังเรื่องนี้เท่านั้นค่ะ....ใครชอบก็เข้ามาคุยกัน แชร์กันนะคะ...เป็นหนังไทยในดวงใจในรอบสิบปีของเราเลยค่ะ...อยากให้ทุกคนไปดู...ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่...จะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก คุณยาย คุณย่า คุณปู่ คุณตา...เราว่าทุกคนต้องเคยมีประสบการณ์เหมือนในหนังเรื่องนี้บ้างแหล่ะค่ะ...เพียงแต่ว่าประสบการณ์ของเราจะไปตรงกับตัวละครไหนในเรื่องเท่านั้น...


ขอบคุณค่า...มีความสุขกับการดูหนังนะคะ

แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 53 11:14:51

 
 

จากคุณ : Baolinyan
เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 16:45:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com