 |
สอง ธิดาเหวี่ยง ประจำวงการ พลอย แตงโม ระวังจะถูกโหวตออก !!!!!!!!!!!
|
|
http://www.siamrath.co.th/?q=node/65626
จากหนังสือพิมพ์ สยามรัฐ คอลัมน์ - ตบจูบบันเทิง (ไม่มั่นใจว่าข่าวเก่าแค่ไหนนะคะ เนื่องจากไม่มีวันที่ระบุไว้)
อาการ ดารา เหวี่ยง ใส่สื่อ ดูท่าจะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ เท่าที่ติดตามข่าววงการบันเทิงมา ดูเหมือนจะมีดาราสาวอยู่สองรายที่ออกอาการ เหวี่ยงใส่สื่อ ให้เห็นอยู่บ่อยๆคือ พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ กับ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีรพงศ์
เป็นเรื่องที่เข้าใจกันว่า ดารา กับ นักข่าว นั้นเป็น ของคู่กัน แต่ไอ้ ของคู่กัน นี่แหละ ที่ เป็นเรื่อง มาหลายครั้งแล้ว ที่กระทบกระทั่งกันจนเป็นเรื่อง เมื่ออีกฝ่าย อยากรู้ แต่อีกฝ่าย ไม่อยากตอบ ถามมากๆเข้าก็เลยเกิดอาการ ของขึ้น จนวงแตกมากหลายงานแล้ว
แต่ด้วยอาการ เหวี่ยงสื่อ ของสองดาราคู่นี้ มีบางมุมที่แตกต่างกันที่อยากจะชี้ชัดให้พิจารณากัน
พลอย นั้น เมื่อ องค์จะเริ่มลงประทับร่าง เธอจะเริ่มออกอาการ เธอจะมีคำพูดประมาณว่า ไม่เอาอ่ะ พี่ๆอย่าถามอย่างงี้สิ หรืออะไรประมาณนี้ แต่ถ้าสื่อยังดันทุรังถามต่อ เธอก็ออกอาการให้เห็นชัดเลยว่า ไม่อยากตอบ เธอก็จะบอกว่า ไม่เอาแล้ว ขอไม่ตอบนะคะ ขอบคุณค่ะ แล้วก็ไหว้นักข่าวแล้วเดินจากไป วิธีการนี้ถึงนักข่าวจะมึนๆ แต่ก็พอจะเข้าใจใน วิถีอารมณ์ ของเธอ
แต่สำหรับ แตงโม พักหลังนี้เธอดูจะแรงขึ้นทุกที เมื่อเจอคำถามที่ ไม่สบอารมณ์กี๋ เธอก็ทำ หน้านิ่ง นัยน์ตาเริ่มขวาง ออกอาการ ปี๊ดแตก ใส่นักข่าวทันที มีทั้ง ต่อว่า พูดจาเสียดสี ตำหนิติเตียนพร้อมสรรพ เธอจัดให้ชุดใหญ่ เช่น พี่ไม่ทำการบ้านเลยนะคะ ไม่ตอบค่ะ คราวที่แล้วก็ตอบไปแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการไป ต่อก็อกสอง ในเฟสบุ๊ค เข้าให้อีก ทั้งเหยียดหยาม เย้ยหยัน ท้าทายสารพัด เรียกว่า ประจานสื่อ ผ่านสื่อ(ออนไลน์) กันซะงั้น
ขณะที่ พลอย อาการเหวี่ยงของเธอจะดูเหมือน เด็กสาวแสนงอน ออกแนวตัดพ้อ แต่ แตงโม จะออกแนว แรงมา แรงไป เหมือนพร้อมจะตอบโต้ศัตรูที่เข้ามารุกรานชีวิตส่วนตัวของเธอ อาการ ไม่แคร์สื่อ ที่พูดๆกัน หาดูได้จากพฤติกรรมของ แตงโม คนนี้นี่เอง!
ความจริงที่อยากจะบอกและตอกย้ำก็คือ ดารา กับ นักข่าว เป็นของคู่กัน ไม่ว่าอย่างไรก็หนีกันไม่พ้นหรอก ฉะนั้น สิ่งที่พึงกระทำก็คือ จะทำอย่างไรให้เราอยู่ร่วมกันได้ ดำเนินชีวิตไปด้วยกันได้
ที่อยากจะแนะนำก็คือ เวลารับงานอีเวนต์ คุณก็รู้อยู่แล้วว่า เมื่อเจอหน้านักข่าวจะต้องถามเจาะทะลุทะลวง ฉะนั้นจงเตรียมตัวให้พร้อม ทำใจให้รู้สนุก และท้าทาย ที่จะตอบคำถามสื่อ ถ้าคุณไม่พร้อม ก็อยู่บ้าน นั่งถักนิตติ้ง หรือ นั่งนับขนจั๊กกะแร้แฟน ไปซะดีกว่า จะออกงานไปทำไมให้อารมณ์เสีย
เพราะต่อให้คุณไปบน พระ9วัด สวดภาณยักษ์50กัณฑ์ ก็ไม่มีทางทำให้ นักข่าวเลิกถามคุณได้หรอก นั่นเป็น สัจธรรมของวงการบันเทิง ที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ มิฉะนั้น คุณก็สมควรลาออกจากอาชีพ ดารา แล้วหันไปเป็น โคโยตี้ พริตตี้ หรือ สาวเชียร์เบียร์ ไปซะดีกว่า
ดารานั้น มักจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ณ วันที่ตนเองฮอตฮิตติดกระแส เขาหรือเธอ มักจะคิดไปเองว่า ตนเองคือ ศูนย์กลางของจักรวาล ที่ทุกคนต้องให้ความสนใจ
แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ บรรดาสื่อ จะสนใจก็เฉพาะแค่ในช่วงที่ คุณมีกระแส เท่านั้น เพราะหากไม่มีกระแส สื่อก็พร้อมจะเมินคุณทันที ลองคุณหยุดพักงานไปสักปีหนึ่งสิ กลับมาอีกที สื่ออาจจะถามให้ควั่กก็ได้ว่า แตงโม... เอ๊ะ... แตงโมไหนเหรอ? ชื่อไม่คุ้นเลยนะตัว
อย่ามองแต่ด้านลบของสื่อ เพราะการที่สื่อถามคุณ แสดงว่าเขา ให้ความสนใจคุณ เพราะเมื่อคุณตอบ คุณก็จะเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีชื่ออยู่ในกระแส มีงานต่อเนื่อง
ดาราทั้งหลาย จงอย่าลืมวันที่ คุณเปิดร้าน เปิดตัวหนังสือ หรือ ทำธุรกิจส่วนตัว ทั้งของตัวเอง และญาติโกโหติกา หรือ วันที่คุณมีความคับข้องหมองใจอยากระบาย ขอให้ใครช่วย ณ วันนั้นเห็นคุณ วิ่งเข้าใส่สื่อ แล้วพร่ำบอกว่า พี่ๆช่วยหนูหน่อยนะคะ... จงอย่าลืมวันเช่นนั้น!
สำหรับ หนูแตงโม อย่าลืมส่องกระจกมองตัวเองนิดนึง ว่ากันที่ เรื่องงาน ละครของเธอก็ไม่มีเรื่องไหนที่เปรี้ยงปร้างจริงๆ เล่นร้อยเรื่องเหมือนเรื่องเดียว ทุกวันนี้ ยังชีพอยู่ได้ ก็ด้วย ข่าวเรื่องรักกัน หนุ่มแต๊งค์ เท่านั้นเอง
และขณะที่ ช่อง7 กำลังอยู่ในช่วงที่ กำลังจะ ผลัดใบ นักแสดง รุ่นเก่าก็เริ่มหน้าช้ำซ้ำซาก ไม่ร้อนเหมือนเก่า มีดาราหน้าใหม่พาเหรดกันเข้า ช่อง7 กันคึกคัก รุ่นของเธอกำลังจะเป็น สินค้าตกรุ่น เธอพร้อมจะเล่นบท แม่ ป้า ย่า ยาย ในอนาคตอันใกล้นี้ เวลาสำหรับบท นางเอก ของเธอน้อยลงทุกที
เบิร์ด ธงไชย อั้ม พัชราภา คือ ตัวอย่างที่ดีในการ รับมือกับสื่อ นั่นคือ คราใดที่ออกงาน เขาและเธอ ก็พร้อมที่รับมือกับสื่อ ในแบบ พร้อมตอบทุกคำถาม แต่จะตอบมากตอบน้อยอย่างไรก็ว่ากันไป บางเรื่องสื่อถามแรง (ตามสไตล์สื่อที่ต้องเล่นคำถามแรง เพื่อให้เกิดประเด็น) ทั้งสองก็จะอาจจะเบี่ยงประเด็นทำให้เป็นเรื่อง ชิล ชิล ฮาๆ ณ วันนี้ทั้งสองจึงยัง ได้ใจสื่อ ออกงานทีไร สื่อรุม กันแน่นขนัด
อาการ ฉันมั่น ฉันเป็นฉันเอง นั่นก็ใช่... คุณไม่ผิดที่จะชัดเจนในตัวของตัวเอง แต่ ในฐานะที่คุณเป็น คนของประชาชน คุณอาจต้องรู้จักปรับระดับให้ได้สมดุลย์ โจทย์ที่คุณต้องตีให้แตกคือ
จะทำอย่างไรที่จะรักษาบัลลานซ์ระหว่าง ความเป็นตัวของตัวเอง กับ การเป็นคนของประชาชน ให้จงได้!
ถ้าทำไม่ได้ นั่นแสดงว่า คุณยังไม่ใช่ มืออาชีพ ตัวจริง!
นี่คือการ เตือนภัยก่อนวายวอด ด้วยความหวังดีจากใจจริง เพราะในอีดตมี พระเอก นางเอก หลาย
คนที่ออกอาการ ไม่แคร์สื่อ เช่นนี้ และเมื่อเจออาการ สื่อไม่แคร์ แบบ ยินยอมพร้อมใจกัน เข้าให้บ้าง เขาและเธอเหล่านั้นต้องออกจากวงการไปแล้วหลายคน
อาทิ พระเอก พ. ลุคแบดบอยที่ขยันขึ้นหน้าหนึ่งเป็นประจำ ที่ถูกแบนต้องอำลาวงการออกไปเลี้ยงลูก, นางเอก ว. จากนางแบบหน้านิ่ง สู่นางเอกหน้าเชิ่ด ที่ออกงานไหนสื่อเมินไม่มีใครสัมภาษณ์เธอสักคน สุดท้ายงานหดจนต้องออกจากวงการไป กลับเข้าวงการอีกทีก็ต้องเล่น บทแม่ บทป้า เข้าไปแล้ว ถึงตอนนี้ เหนียงยานจน เหวี่ยงไม่ออกซะแล้ว อนิจจา...กำ!,
พระเอก จ. ที่ทำกร่างไล่สื่อออกงานงานวิวาห์ ที่กำลังดังสนั่นเป็นยุคทองของตนเอง เลยวูบลงทันตาเห็น สุดท้ายทำธุรกิจส่วนตัวต้องให้พีอาร์มาอ้อนวอนขอให้สื่อช่วยลงข่าวสุดฤทธิ์, นักร้อง อ. ทายาทไฮโซตระกูล ทำเป็น ไฮโซติสท์แตก ออกอาการขบถ เหวี่ยงและวีน เลียนแบบศิลปินฮอลลีวู้ด
(คงคิดว่าทำแล้วเท่สาด...) เล่นหนังละครก็แป้ก ร้องเพลงก็เดี้ยง ตอนหลังออกงานเพลง ต้องทำหน้าปกซีดีเป็นรูปการ์ตูน เพราะกลัวว่านักข่าวเห็นหน้าจริงแล้วจะไม่ยอมลงข่าวให้ สุดท้ายสื่อเมินจนโลกลืม
คุณมีโอกาสมากกว่าใครอีกหลายล้านคน สู้เก็บช่วงเวลา ชีวิตในวงการบันเทิง ไว้ให้เป็น ช่วงชีวิตที่สวยงาม ควรค่าต่อการระลึกถึงไม่ดีกว่าหรือ...?
อยากจะให้ สื่อรัก หรือ อยากจะโดนแบน หรือ ถูกโหวตออก
คุณได้รับสิทธิ์ให้เลือกได้ด้วยตัวเอง
วันแม่ เพิ่งผ่านมาไม่นาน แม่แดง7สี ทำเพื่อลูกๆมามากแล้ว ขอร้อง... อย่าทำให้แม่ต้องหนักใจอีกเลย.
| จากคุณ |
:
penpitchar 
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 ก.ย. 53 15:25:46
|
|
|
| |
