ความคิดเห็นที่ 1   จริงอยู่ว่าเราไม่มีมนต์วิเศษย้อนเวลากลับได้ แต่เราก็ยังมีก้อนเนื้อวิเศษเหนือคิ้วที่เรียกว่า “สมอง” ไว้เก็บความทรงจำสีชมพูวันวาน ขึ้นอยู่กับว่าความทรงจำสีชมพูที่เราตุนไว้คืออะไร? รักครั้งแรก? ของขวัญวันเกิดชิ้นแรก? หรือการ์ตูนโปรดเรื่องแรกที่เราไม่มีวันลืม? และ Toy Story ก็คือความทรงจำสีชมพูที่ข้าพเจ้าตุนไว้ยังสมองซีกขวาหลัง “อารมณ์ความรู้สึก ความผูกพัน” ไม่เคยจางหายไป... จริงอยู่ว่าพล็อตหนัง Toy Story 3 แลดูไม่แตกต่างกับภาค 2 มากนัก แต่คุณอย่าเพิ่งมองค่าภาค 3 ต่ำไป เพราะนี่คือผลงานที่รังสรรค์โดย Pixar จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:15:51

ความคิดเห็นที่ 2   หนังเปิดเรื่องด้วยจินตนาการฉากผจญภัยของนายอำเภอ Woody และผองเพื่อนแก๊งค์ของเล่น Andy ก่อนจะตัดเข้าสู่ฉากโลกความเป็นจริง Andy วัยเด็กที่ไร้เดียงสาล่วงเลยจน Andy โตเป็นหนุ่มมหาลัยสะใจอยู่กับเครื่องเล่นไฮเทคโนโลยี ปล่อยให้แก๊งค์ของเล่นต้องนอนเติ่งในหีบไม่มีใครเหลียวแล Woody ต้องเล่นแผนเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของให้เปิดหีบรำลึกอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล... จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:16:24

ความคิดเห็นที่ 3   ช่วง 10 นาทีแรกของหนังให้ความรู้สึกประทับใจกับคนดูเป็นอย่างมาก แม้ใครไม่เคยดูภาค 1, 2 มาก่อนก็ตาม โดยเฉพาะกับแฟนหนังยุค 90s ที่ตั้งไข่เติบโตมาพร้อมกับการ์ตูนเรื่องนี้ การได้เห็นแก๊งค์ของเล่น Andy ออกมาโลดแรด, ได้เห็น Andy เติบใหญ่เป็นหนุ่มหล่อ และบทเพลง You've Got a Friend in Me ที่คุ้นหูกระตุ้นความทรงจำสีชมพูสมองซีกขวาหลัง แค่นี้ก็เกินพอแล้วที่ข้าพเจ้าและสาวก Toy Story จะหลั่งน้ำตาให้กับหนังอย่างไม่รู้ตัว จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:16:42

ความคิดเห็นที่ 4   แน่นอนว่า Toy Story 3 ยังคงเล่นประเด็นเกี่ยวกับความกลัวเหมือนกับ 2 ภาคที่แล้ว ภาคแรก หนังเล่นประเด็น “ความกลัวในใจของ Woody ว่าเขาจะตกกระป๋อง” ภาคสอง “ความกลัวใจตัวเองว่าตัวเองจะเป็นของเล่นที่ถูกลืม” และภาคสามดูเป็นความกลัวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งไม่ได้ถูกนำเสนอผ่านจิตใจ Woody ตัวเดียว แต่เป็นทั้งแก๊งค์ เพราะตอนนี้ Andy โตเป็นหนุ่มมหาลัยที่คงไม่มานั่งเล่นของเล่นเหมือนตอนเด็กอีกแล้ว จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:17:15

ความคิดเห็นที่ 5   Woody และเพื่อน ๆ กำลังเผชิญกับปัญหาความไม่เที่ยงนี้ พวกเขาจึงต้องพยายามดิ้นรนหาทางเพื่อให้ Woody เล่นกับเขาเหมือนเดิม แต่โลกนี้ใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบตามที่คุณหวังเสมอไป คุณต้องเข้าใจว่านี่คือการ์ตูน Pixar ไม่ใช่การ์ตูน Walt Disney ที่จะมา Happy Ending จ๋าทุกระเบียดนิ้ว! จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:17:37

ความคิดเห็นที่ 6   ในส่วนของความบันเทิงภาคนี้ยังมีครบครันและน่าจะฮากว่า 2 ภาคที่แล้วด้วย! โดยยังเป็นการผจญภัยนอกบ้าน Andy แบบพล็อตเรื่องภาคก่อน ๆ ”การผจญภัยเหล่าของเล่นเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังเป็นที่ต้องการของ Andy เสมอ” แต่อย่างที่ข้าพเจ้าว่าไปแหละครับ Andy ในภาคนี้โตหนุ่มมหาลัยแล้ว หนังจึงได้สร้างภวังค์ให้คนดูกังวลแทนทุกเสี้ยววิ... “ถ้าพวกเขากลับถึงบ้านปลอดภัยแล้ว Andy จะยังเล่นกับพวกเขาเหรอ?”, “ถึง Andy เอา Woody ไปมหาลัยก็คงปล่อยทิ้งปล่อยขว้าง”, “ชะตากรรมห้องใต้หลังคาแก๊งของเล่นจะเป็นยังไง?” Toy Story 3 เล่นประเด็นคาบเกี่ยวสัจธรรมของโลก “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” ไม่มีใครหนีความเที่ยงได้ถึงคนดูได้อย่างชาญฉลาด และชะตากรรมเหล่าของเล่นก็เดินมาถึงวาระนี้แล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:18:19

ความคิดเห็นที่ 7   ผู้กำกับ Lee Unkrich ที่เคยผ่านงานตัดต่อ Toy Story ทั้ง 2 ภาคมาก่อนถือว่าสอบผ่านและมีโอกาสสูงที่เขาจะได้เข้าชิงออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมในปีนี้ด้วย แม้ตัวละครในภาคนี้จะเยอะ แต่ Lee Unkrich ก็สามารถกระจายบทตัวละครทุกตัวได้อย่างทัดเทียมกัน ถ้าให้เปรียบความเป็นเอกของ Toy Story 3 ก็คงเกือบเทียบเท่า The Godfather ที่สามารถเล่าเรื่องได้อย่างกระชับ การกระจายบทเสมอภาค แสดงสั้น น้อย ตีโจทย์แตก อาทิ เจ้าหมีสีชมพู - ทุกฉากที่โผล่มาทำให้คนดูตีโจทย์แตกไม่ยากว่านี่คือ “ตุ๊กตาชั่วจอมปลอม”, ความเซ่อซ่า ติงต๊อง ของเจ้าไดโนเสาร์ยังคงเอกลักษณ์บ้า ๆ บวม ๆ เหมือนทุกภาค และ Bonnie สาวน้อยผู้รักและให้เกียรติของเล่นทุกตัว ปูเหตุผลน่าเชื่อถือนำไปสู่บทสรุปในตอนจบ จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:19:07

ความคิดเห็นที่ 8   ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของหนัง เป็นช่วงที่ทรมานหัวใจสาวก Toy Story อย่างข้าพเจ้านัก “งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา” สัจธรรม “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” เป็นสิ่งไม่เที่ยง แม้ของเล่นอย่าง Woody และผองเพื่อนจะไม่มีอายุขัยแต่เมื่อใดที่ Andy ไม่เล่นกับเขาอีกต่อไป มันก็ไม่ต่างอะไรกับการตายทั้งเป็น แต่อย่างที่ข้าพเจ้าบอกไปแหละครับว่านี่คือการ์ตูน Pixar สตูดิโอลูกหม้อ Disney มากเสน่ห์ไปด้วยฉากจบแฝงแง่คิดปรัชญาชีวิต Lee Unkrich เข้าใจดีว่า ในโลกแห่งความเป็นจริง Andy คงไม่มีทางมาบ้าบอเล่นของเล่นเหมือนเด็ก ๆ อีกต่อไป เขาจึงหาบทสรุปหนังด้วยการให้ Andy ส่งไม้ต่อของเล่นที่เขารักให้ Bonnie อย่างเคารพและให้เกียรติ จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:19:40

ความคิดเห็นที่ 9   ตลอดเรื่องหนังได้ตอบโจทย์เราไปแล้วว่า Bonnie เป็นเด็กที่รักและให้เกียรติของเล่นขนาดไหน ทำไม Woody ถึงต้องวางแผนให้ Andy ส่งไม้ต่อเพื่อน ๆ ของเขาให้ Bonnie แม้ในหนังจะมีฉากของเธอไม่เยอะนัก แต่ Lee Unkrich ก็ได้ใช้วิธีให้เหล่าของเล่นในห้อง Bonnie เป็นผู้บอกเล่าความรัก ความเมตตา ของเธอที่มีต่อของเล่นทุกตัวแทน เพิ่มน้ำหนักฉากจบให้ตรรกะ Woody ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น แววตาฉากที่ Andy สาธยายถึงของเล่นทุกตัวให้ Bonnie ฟังมันเป็นฉากที่มอบทั้งความสุขและความทุกข์กับคนดูในเวลาเดียวกัน ความสุข... สุขที่รู้ว่า Andy ไม่เคยลืมเลือนหน้าที่ ความน่ารัก ของเล่นทุกตัวใต้ก้นหีบแห่งความเหงา ทุกคำพูดที่เขาสาธยายล้วนกลั่นกรองมาจากสมองซีกขวาหลัง “อารมณ์ ความรู้สึก ความผูกพัน และความรัก” ของ Andy โดยตรง ความทุกข์... ทุกข์ที่รู้ว่า อนาคตในไม่อีกกี่นาทีข้างหน้านี้จะไม่มี Andy และ Woody เคียงข้างกายกันอีกแล้ว... จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:21:15

ความคิดเห็นที่ 10   ฉากจบที่ Andy ขับรถจากไป พลันมองมาที่ Woody ของเล่นที่เขารัก ถือเป็นฉากที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดชีวิตการเป็นคนรักหนังของข้าพเจ้า จะไม่มี Toy Story 4 อีกต่อไป... แม้ตัวจะห่างกันแต่มิตรภาพเราไม่เคยจาง... Toy Story 3 ถือเป็นบทสรุปภาคอวสานเอกสมบูรณ์แบบ “You've Got a Friend in Me” “เวลาแล่นผ่านเร็วพลันแต่ความรักและความไร้เดียงสาทุกครั้งที่ข้าพเจ้าดู Toy Story Series จะไม่มีวันตายจาก” จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:21:39

ความคิดเห็นที่ 11   ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะขอรับ ชอบไม่ชอบยังไงพยายามอย่าดราม่ากันอ่ะนะ หวังว่าซีรีย์การ์ตูนเรื่องนี้จะเข้าไปอยู่ในความทรงจำเบื้องลึกใจคุณแบบที่ข้าพเจ้าเป็นอยู่นะขอรับ... จากคุณ : Chrono_Trigger เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:23:10

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบมากค่ะ เรื่องนี้ ยังไม่ไปดูภาค 3 เลย แต่พออ่านแล้วยิ่งไม่กล้าดู กลัวร้องไห้ T.T ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านนะคะ เขียนดีมากๆเลย ^0^ จากคุณ : tungift เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:46:48

ความคิดเห็นที่ 13 เขียนเก่งจัง จากคุณ : Giant-Garuda เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:50:36

ความคิดเห็นที่ 14 กลับมาอ่านอีกครั้ง ทำน้ำตาซึมอีกแล้ว โหวตให้ครับ จากคุณ : พระรถเสน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 16:54:07

ความคิดเห็นที่ 15 เพิ่งดูไปเมื่อวาน ร้องไห้เลยอ่ะ ตั้งใจว่าจะไม่แล้วนะ แต่ฉากก่อนจบนั่นล่ะ ร้องออกมาฮั่กๆๆเลย จากคุณ : น้องบึ๋ย เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 17:05:45

ความคิดเห็นที่ 16 ชอบมากค่ะ.....ขอบคุณที่บรรยายให้ฟัง คนรักหนังเรื่องนี้เหมือนกันเข้าใจหัวอกกันดี สำหรับเรื่องนี้เหมือนโตมาด้วยกันกับแอนดี้ เหมือนมีเหล่าเพื่อน toy อย่าง woody&buz เคียงข้างมาตั้งแต่เด็ก เมื่อได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากหายไปนานเป็นสิบปี ความผูกผันทุกอย่างก็ย้อนเข้าหัวทุกฉาก แม้กระทั้งภาพตัวเองตอนนั้งดูหนังเรื่องนี้ที่บ้านกับน้องอีกสามคนด้วย I love you Toy story >< จากคุณ : onlybi เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 17:08:02

ความคิดเห็นที่ 17 เขียนเก่งมากๆครับ 15 นาทีสุดท้าย ดูยังไงก็น้ำตาซึม เป็น 15 นาทีสุดท้ายที่มีทั้งความสุขและความเศร้า ผสมปนเปกัน แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 19:06:57 จากคุณ : bigwores เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 17:35:09

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบหนังของ Pixar ทุกเรื่อง  โดยเฉพาะเรื่อง  UP ทำให้รู้สึกว่ามันไม่ใช่การ์ตูน มันมีความเป็นจริงของชีวิต  ดูแล้วมันมีความสุข  เราประทับใจกับฉากจบ ของ ทอย สตอรี่มาก  และแล้ว ทุกตัวก็ได้เล่นกับแอนดี้เป็นครั้งสุดท้าย.... จากคุณ : **ความจริงในใจ** เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 17:37:55

ความคิดเห็นที่ 19 PIXAR นี่มหัศจรรย์มาก กับหนังเรื่องนี้ ผมรัก 15 นาทีสุดท้ายของมันมากๆครับ จากคุณ : *omega* เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 18:11:57

ความคิดเห็นที่ 20 หนังเรื่องนี้ สำหรับผม มันเป็นยิ่งกว่าหนัง... เป็นเหมือนเพื่อนคนนึงที่เติบโตมาด้วยกัน..และผมจะเก็บความทรงจำเกี่ยวกับพวกเค้าไปตลอดกาล... "ลาก่อน คู่หู" T^T จากคุณ : To Infinity and Beyond (P_Pond_P) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 19:55:28

ความคิดเห็นที่ 21 ชอบมากค่ะ รักเลย หนังเรื่องนี้ แซงหน้าขึ้นแท่นอันดับ 1 หนังแอนิเมชั่นในดวงใจไปเรียบร้อย.. จากคุณ : S@iYoJang เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 22:18:21

ความคิดเห็นที่ 22 ดูมา 3 รอบแล้วครับ ชอบมาก ๆ ซึ้ง และประทับใจจริง ๆ 10 นาทีสุดท้าย เกือบร้องไห้ ใจมันหาย น้ำตาซึม ๆ เศร้าได้อีก แต่ประทับใจจริง ๆ ปล. ไม่มีภาค 4 หรอ อยากให้มีมาก ๆ ทิ้งช่วงห่างอีก 10 ปี ก็จะรอ จากคุณ : Carrot & Whip เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 22:19:29

ความคิดเห็นที่ 23 สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : thisname เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 22:45:58

ความคิดเห็นที่ 24 สนุกดี ดูแล้วปลง เกิดแก่เจ็บตาย จากคุณ : hydrophobia เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 00:05:29

ความคิดเห็นที่ 25 ฉากวูดดี้มองตามรถของแอนดี้เราน้ำตาซึมนะ มันอาลัยอาวรณ์บอกไม่ถูก มันเหมือนกับต้องจากกันแล้วจริงๆ ปล.แต่ยังอุตส่าห์แอบจินตนาการต่อ มันน่าจะเป็นแบบโลลิค่อนเนาะ แบบพี่แอนดี้แวะมาดูของเล่นดูน้องบอนนี่อะไรงี้ เกิดรักต่างวัยขึ้นมา แหะๆ ไปกันใหญ่แล้วอิชั้น แต่สรุปคือไม่อยากให้มันจบเลยจริงๆ รักทอย สตอรี่จัง จากคุณ : ณ มน เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 00:22:38

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ผิดหวังกับการ์ตูนอันดับหนึ่งในใจตลอดกาล เป็นการจบที่สมบูรณ์แบบสมการรอคอยมากค่ะ ^^ 10 นาทีหลังเราร้องไห้ตลอดเลย พอได้มาอ่านแล้วร้องไห้อีกรอบ T^T เป็นเรื่องที่ดูไปหัวเราะและยิ้มทั้งน้ำตาจริงๆนะ :')   ตอนเด็กๆเคยรัก Toy Story ยังไง โตมาก็ยังรักอย่างนั้น...รักมากกว่าเดิมซะด้วยสิ "You've Got a Friend in Me" ขอบคุณที่เขียนให้ได้อ่านกันนะคะ อยากดูอีกจัง :) จากคุณ : huasheng เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 00:49:49

ความคิดเห็นที่ 27 สุดยอดมากมายครับคุณ Chrono_Trigger  [Bloggang] ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ดูทั้ง 3 ภาค (โดยดู ภาค1 2 แล้วไปดู 3 ในโรงเลย) หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เริ่มและสรุปได้อย่างสมเหตุสมผลมากครับ สามารถทำให้ หนังไม่ใช่เป็นหนังไทยได้ครับที่ต้องจบแบบhappy ending เหมือนละครไทยหลายๆเรื่อง แต่เป็นหนังที่ทำให้คนดูนึกถึงสมัยที่ตนเองยังเป็นเด็กเรื่อยมาจนลืมไปเลยว่าเรายังมีของเล่นชิ้นโปรดอยู่ จนมาถึงเมื่อเราอยู่มหาลัย ทำงาน สิ่งต่างๆที่ผ่านสายตาของเราไปทั้งสังคม แฟร์ชัน หญิงสาว ฯลฯ ทำให้เราหลงลืมอะไรไปบางอย่างหลงลิมของเล่นชิ้นโปรด ขอบคุณมากมายครับ Pixar ที่ทำให้เราทุกคนต้องย้อนนึกไปจนถึงอดีตที่เราหลงลืมไป และคุณChrono_Trigger  [Bloggang] สามารถเขียนได้ซึ่งตริงใจมากมายครับ จากคุณ : Math man เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 11:57:07

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าการ์ตูนจะทำให้ผมเสียน้ำตาได้.. ฉากที่เอาของเล่นไปให้น้องผู้หญิงอะ..ดูแล้วน้ำตาซึมเลย จากคุณ : ก้องบ้า เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 13:49:16

ความคิดเห็นที่ 29 ดูหนังก้อร้องไห้ค่า มาอ่านกระทู้ก้ออิน รักเรื่องนี้เลยค่า รอซื้อ Blueray เลยค่า ชอบมาก จากคุณ : แตงกวาจิ้มน้ำพริก เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 14:08:32

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นการยกระดับ และ เราต้องตั้งคำถามไปเรื่อยๆ ว่า เรื่องต่อไป จะไหวเหรอ เรื่องนี้ทำไว้ได้ดีขนาดนี้ ไล่มาที่ประทับใจ ก็เริ่มหลังจาก ตีกันกับดีสนี่ย์ แล้วทุกอย่างลงตัว ก็ไล่มาเลยจาก Car ยกระดับมาตรฐานมาในระดับหนึ่ง หนูน้อยพจญอาหาร ก็ขึ้นมาในความประทับใจ WALL-E นี่พีค สุดๆ แต่ UP ก็ทำให้ลึมไปเลยว่า WALL-E ดีแค่ไหน มาถึงล่าสุด Toy3 นี่มันจะมีอะไรที่ สุด กว่านี้อีกหรือ ทั้งประทับใจ ทั้งเรียกน้ำตา UP แค่ซึมๆ แต่พอ Toy3 น้ำตาแตกกันเลยทีเดียว ปีหน้า CAR2 จะออกมาได้แค่ไหนน๋อ แง่ม แง่ม จากคุณ : Deucers เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 16:08:28

ความคิดเห็นที่ 31 ฉากที่แอนดี้เล่นกัีบของเล่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะขับรถไป เป็นฉากที่ดูแล้วมันรู้สึกมีความสุขและเติมเต็มมาก แบบมีความสุขแทนเหล่าของเล่นทั้งหลายที่ได้เล่นกับเจ้าของเป็นครั้งสุดท้าย ตอนแรกไม่ได้หวังอะไรกับหนังเรื่องนี้เลย แต่พอดูแล้วมันโคตรจะมีความสุข เหมือนกับเราผูกพันธ์และเติบโตมากับเหล่าตัวละครในเรื่อง มุกภาคนี้เด็ดมากๆ เป็นหนังที่ทำให้ผมฮาก๊ากๆได้ในโรงอย่างไม่อายใคร เพราะคนข้างๆก็ฮาก๊ากกันแบบไม่ยั้ง ไม่ได้ฮาแบบนี้ในโรงมานานมากแล้วนะเนี่ย จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 53 17:02:44

ความคิดเห็นที่ 32 เพิ่งไปดูมาเมื่อวาน  ทำเอาน้ำตาซึม ไปเลย ชอบมากมาก จากคุณ : inner_out เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 09:08:28

ความคิดเห็นที่ 33   อยากดูจังเลย ยังพอมีฉายที่ไหนบ้างมั๊ยคะ จากคุณ : ป้าติง (ลุงหงาป้าติง) เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 53 20:50:24

ความคิดเห็นที่ 34 รักเรื่องนี้มากที่สุดในโลกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : fear gal เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 18:54:34