Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แนะนำอนิเมนอกกระแสเรื่องเยี่ยมตั้งแต่ปี 2000 Heroic Age - แนวไซไฟอวกาศ สงครามระดับอลังการ  

แวะมาแนะนำอนิเมเก่านอกกระแส แต่เนื้อหาชั้นยอดเมื่อประมาณ 5-6 ปี ซึ่งถือเป็นเรื่องท้ายๆจากยุครุ่งเรืองของค่าย Xebec สตูดิโออนิเมไซไฟชั้นยอดที่เคยสร้างชื่อโด่งดังสุดขีดเมื่อปลายยุค 90 และต้นยุค 2000 ด้วยผลงานระดับรางวัลกรังซ์ปรีอย่าง Martian of Nadesico และผลงานที่ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมายอย่าง Fafner และเป็นผู้กล้าเปิดประตูอนิเมแนวฮาเร็มเซอร์วิสอย่าง Love Hina


เรื่องนั้นคือ Heroic Age อนิเมแนวไซไฟ สงครามอวกาศระดับอลังการเต็มขั้น ที่มีสเกลของเรื่องใหญ่โตมากที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีอนิเมแนวไซไฟอวกาศกันมา


เนื้อเรื่องเริ่มแรกจะกล่าวถึงตำนานและเรื่องเล่าของชนเผ่าที่เรียกว่า เผ่าทอง ผู้มีอำนาจแลบะวิทยาการยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในจักรวาล พวกเขาเป็นผู้สร้างดวงดาวและอวกาศต่างๆขึ้นมากมาย จากนั้นจึงได้ทำการเรียกให้เผ่าต่างๆในอวกาศมาเข้าร่วมในอวกาศที่พวกเขาเพิ่งสร้างสำเร็จ มีสามชนเผ่าตอบรับคำเรียกนั้น คือ เผ่าเงิน เผ่าที่เปี่ยมสติปัญญา แต่ไร้ซึ่งอารมณ์  เผ่าทองแดง เผ่าของเหล่าแมลงแห่งอวกาศที่เคลื่อนไหวด้วยสันชาตญาณ  และเผ่า วีรบุรุษ เผ่าของนักรบผู้กล้าที่ทรงอำนาจ มีพลังขนาดทำลายล้างดวงดาวและอวกาศได้

จากนั้นเมื่อชนเผ่าทองกำลังจะจากไป กลับมีเผ่าสุดท้ายที่ใช้พลังขอเข้าร่วมในอวกาศแห่งนี้ด้วย เผ่านั้นคือเผ่าเหล็ก หรือที่เรียกว่ามนุษย์นั่นเอง

เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าใด เผ่าเงินได้กลายเป็นผู้นำของจักรวาล และบัญชาให้เผ่าทองแดง เข้าทำลายล้างเผ่าเหล็ก หรือก็คือมนุษย์ ซึ่งขณะนั้นมนุษย์ได้พัฒนาวิทยาการจนก้าวหน้า สามารถสร้างอาณานิคมต่างๆบนอวกาศ"ด้แล้ว แต่ก็ไม่อาจสู้กับพลังของเผ่าเงินและเผ่าทองแดงได้ กระนั้น ความหวังสุดท้ายก็ยังมีอยู่ เมื่อมีคำบอกเล่าที่ตกทอดมาในเหล่ามนุษย์ว่า เผ่าวีรบุรุษซึ่งแทบจะสาบสูญเพราะมีพลังมากไปและทำลายล้างตัวเองนั้น ยังมีตัวตนอยู่ และเผ่าวีรบุรุษนั้นจะตอบสนองต่อพันธสัญญาซึ่งเผ่าทองได้สั่งไว้แก่พวกเขาให้ทำกับเหล่ามนุษย์

เพื่อที่จะตามหาวีรุบุรษที่ว่า เจ้าหญิงเดียนิเอร่า สายเลือดแห่งราชวงศ์ผู้ปกครองเหล่ามนุษย์จึงออกเดินทางด้วยยานอวกาศยักษ์ซึ่งตั้งตามชื่อเรืองในตำนานของเจสัน นั่นคืออารโกนอส โดยมีเป้าหมายคือการตามหาวีรบุรุษซึ่งจะมาช่วยเหลือและเติมเต็มพันธสัญญาที่ให้แก่เหล่ามนุษย์ไว้ จนกระทั่งเจ้าหญิงได้เดินทางมาถึงดาวแห่งหนึ่งซึ่งกำลังจะล่มสลาย ที่นั่น เธอได้พบกับเด็กหนุ่มผู้แสนซื่อตรงแต่กลับเปี่ยมด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ที่แฝงเร้นไว้ในตัว ชื่อของเขาคือ เอดจ์ (Age)

และเอดจ์ผู้นี้เอง คือกุญแจสำคัญสำหรับเผ่ามนุษย์ในการที่จะค้นหาขุมพลังอันยิ่งใหญ่ที่เผ่าทองทิ้งไว้ให้


โดยเนื้อเรื่องคร่าวๆ ก็บ่งได้ไม่ยากว่าฉากทั้งหมดในเรื่องจะอยู่ในอวกาศ ซึ่งก็เป็นจริงๆ เนื้อหาทั้งหมด 26 ตอนนั้น เป็นฉากในอวกาศมากถึง 23-24 ตอน เรียกว่าเอียนกันไปเลย ขณะเดียวกัน สเกลของสงครามในเรื่องนี้ถือว่าใหญ่โตมากเท่าที่เคยมีการสร้างอนิเมแนวไซไฟอวกาศ ไม่ว่าจะเทคโนโลยี และวิทยาการ ที่ก้าวไกลสุดๆ ฝ่ายมนุษย์ในตอนเริ่มเรื่องนั้นก็มีวิทยาการที่ไปไกลถึงระดับใช้อำนาจจิตในการควบคุมเทคโนโลยีต่างๆแล้ว แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นไซไฟอวกาศ แต่น่าแปลกและแหวกแนวมากคื่อ เรื่องนี้ไม่เน้นที่หุ่นรบ พระเอกในเรื่อง ไม่ได้เป็นนักบินบังคับหุ่นยนต์ เหตุเพราะหุ่นยนต์ในเรื่องนี้เป็นแค่เทคโนโลยีระดับล่างๆ ที่แทบจะทำอะไรในสงครามไม่ได้มากนัก และตัวพระเอกของเรื่อง เอดจ์นั้น เป็นอะไรที่เหนือยิ่งกว่านั้นมากมายนัก


ดานเนื้อหาแล้ว เรื่องนี้เรียกว่าได้กลิ่นอายไซไฟเรื่องดังๆมามากมาย เช่นงานของอาซิมอฟ เอไฮน์ไลน์ หรือ สกอตการ์ด เรียกว่าหากเป็นคนอ่านนิยายไซไฟแล้ว การันตีว่าจะต้องคุ้นกับหลายอย่างในเรื่องนี้มาก เพราะมันรวมไว้หมด อีกจุดที่น่าชื่นชมสำหรับเรื่องนี้คือการเสนอแนวคิดแบบสันติที่ยอดเยี่ยม คนที่ดูเรื่องนี้อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเหรียญคนละด้านกับเรื่อง Fafner ซึ่งเป็นงานของค่ายเดียวกันและคนออกแบบตัวละครคนเดียวกันด้วย ซึ่งเรื่องนี้เสมือนการพยายามทำในสิ่งที่เรื่อง Fafner ทำไม่สำเร็จให้เป็นจริง

ด้านงานภาพ ถือว่าโอเคระดับหนึ่ง และทำได้เยี่ยมในช่วงท้ายๆ โดยเฉพาะฉากเกี่ยวกับอวกาศที่แสดงความอลังการออกมาจนเรารุ้สึกได้จริงๆเมื่อดูเรื่องนี้ว่า อวกาศมันช่างกว้างใหญ่และลี้ลับนัก

การเดินเรื่อง ถือว่าทำได้น่าติดตาม มีจุดชวนไคลแมกซ์ในแทบทุกตอน ที่น่าเสียดายคือการที่เนื้อหาแทบทั้งหมดอยู่ในอวกาศ อาจจะทำให้คนดูหลายคนรู้สึกเอียนได้เหมือนกัน

ด้านตัวละครนั้น เรื่องนี้มีตัวละครหลักจริงๆอยู่ไม่กี่คน แต่จุดดีคือ ทุกคนล้วนมีความสำคัญและส่งผลต่อความเป็นไปของเนื้อเรื่องและเรื่องราวทั้งหมด ชนิดที่หากขาดใครไปแม้แต่คนเดียว เรื่องอาจจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้เลย

ในด้านงานเพลงนั้น เพลงประกอบถือว่าชวนเข้ากับธีมในเรื่องได้ดี และเพลง ED ก็ถือว่าเป็นเพลงขึ้นหิ้งของเรื่องทีเดียว

สุดท้าย บทสรุปของเนื้อหาและฉากจบของเรื่องนี้ในตอนสุดท้ายอยู่ในระดับ "มาสเตอร์พีซ" มันเป็นการพูดเว่อร์เกินไปหรือไม่ ขอแนะนำให้ลองหาชมกันเอง


จุดที่น่าเสียดายเพียงอย่างเดียวของเรื่องนี้คือ มันขายไม่ออก -___-' เรื่องนี Xecbec ระดมเงินทุนเพื่อเข็นออกมาในช่วงที่สตูดิโอกำลังประสบปัญหา และในตอนแรกนั้นก็ดูจะฮือฮาด้วย แต่เพราะเหตุใดก็ไม่ทราบได้ เรื่องนี้จึงมียอดขายที่ไม่ดีนัก อาจเพราะแรงโปรโมตต่ำเกินไป และตัวละครที่มีบุคลิกสามารถดึงดูดกลุ่มคนดูในหลายๆระดับมีน้อยเกินไปก็ได้ อีกจุดคืออาจเพราะเนื้อหาที่หนักแน่นเกินไปในบางจุดตามแบบไซไฟ ก็อาจทำให้คนดูรู้สึกงงงวยเช่นกัน

 
 

จากคุณ : eagle1000
เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 53 01:37:30




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com