บันทึกเด็กเกรียนดูหนัง ตอนที่ 12 : สงครามการเมืองที่บู๊กันสุดมันส์

บันทึกเด็กเกรียนดูหนัง ตอนที่ 11 : เมื่อหนังแนวหักมุมหักหลังเปิดฉาย vote [แจ้งลบ]  

ตอนที่แล้ว
ตอนที่ 1 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9435890/A9435890.html
ตอนที่ 2 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9493206/A9493206.html
ตอนที่ 3 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9500044/A9500044.html
ตอนที่ 4 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9515022/A9515022.html
ตอนที่ 5 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9575889/A9575889.html
ตอนที่ 6 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9578897/A9578897.html
ตอนที่ 7 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9581511/A9581511.html
ตอนที่ 8 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9602571/A9602571.html
ตอนที่ 9 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9628459/A9628459.html
ตอนที่ 10 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9631662/A9631662.html
ตอนที่ 11 - http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9654087/A9654087.html

หมายเหตุ : มีการสปอยเรื่องเล็กน้อย
หมาย เหตุ  2 : เด็กเกรียนที่ว่านี้ก็คือเป็นเด็กที่อยู่ในช่วงม.ต้น วัยกำลังคะนอง จำอวดไปทั่ว แต่ฐานะทางบ้านไม่ดีนัก :-) บางส่วนไม่ได้ไปโรงเรียน


ผมเองก็ฉายหนังแนวสงครามมาให้เด็กดูบ้าง (อย่างพวกนาร์เนียอะไรแบบนี้) แต่สำหรับแนวสงคราวย้อนยุคไม่เคย แล้วก็เลยลองไปซื้อโรบินฮู้ดมาดู ก็พบว่า เฮ้ย มันมีมากกว่าคำว่าสงครามและชายพเนจรในชุดฮู้ดอีกนะ ก็เลยลองเอามาให้เด็กดู เพราะอยากรู้ว่าเด็กจะมีปฏิกิริยายังไง

โรบินฮู้ดเป็นหนังที่เป็นการกำเนิดของบุรุษในชุดฮู้ด เพิ่งจะขายไม่นานนี้ โดยก่อนหน้านี้ผมเคยเปิดโรบินฮู้ดฉบับของดิสนีย์ (การ์ตูน) ให้ดูไปแล้ว จึงอยากดูความสนใจของเด็กว่าจะมีความเห็นยังไง


- จากเดิมของเรื่อง A-Team ที่ออกคล้ายๆกัน ในตอนก่อน จึงทำให้งวดนี้ผมต้องมานั่งอธิบายแต่ละฉากให้เด็กฟังตลอด (เดี๋ยวมันไม่ดู)
- ไม่มีใครสนใจตรงเรื่องย่อที่เกร่นก่อนหนังเริ่ม ทำให้แต่ละคนดูกันครั้งแรกตอนที่ราชารีซาร์ตบุกปล้นปราสาทในฝรั่งเศสมองว่า "พวกเขากำลังรบกัน โดยที่ฝ่ายพระเจ้ารีซาร์ดเป็นฝ่ายถูก"
- ไม่มีใครรู้เรื่องสงครามครูเสด ดังนั้นเมื่อถึงฉากที่โรบินทูลพระราชาเกี่ยวกับความหดหู่ของการเข้าร่วมสงคราม จึงไม่มีเด็กสนใจ (ก็ต้องอธิบายให้ฟัง)
- ตอนที่ทหารฝรั่งเศสเอาซุปมาให้เพื่อนทหารกิน มีเกรียนคนนึงบอกว่า ":-)กินกันเอง"
- เด็กบอก ตัวละครหน้าตาคล้ายกันทุกคนเลย
- ตอนที่ไอ้โล้น ไปคุยกับคนของเขาเพื่อลอบโจมตีเจ้าชายรีซาร์ต แล้วโดนหอยกัด เด็กงงว่าหอยมันกัดได้ยังไง แถมมีเด็กคนนึงบอกว่า หอยเซลเหรอ
- กระเทยที่มาดูหนังด้วยส่งเสียงร้องกรี๊ดกับฉากหลายๆฉากในหนัง (เน้นที่ตอนต้นและตอนท้าย) เช่น ฉากเรือโคลง หรือ ฉากสู้กัน (ร้องเหมือนโหยหวนเลย =_= lll)
- ไม่รู้คิดไปเองไหมว่า ตอนฉากที่เสด็จแม่ไปตักเตือนเจ้าชายจอห์นตอนกำลังโจ๊ะกับเจ้าหญิงฝรั่งเศส แล้วเจ้าชายจอห์นลุกขึ้นมาบนเตียงโดยที่ยังโป๊อยู่ เหมือนเห็นกระเทยแลบลิ้นด้วย
- ตอนที่เจ้าชายจอห์นกำลังจะมอบแหวนและฉกแหวนคืนนั้น เด็กคนนึงมีความเห็นว่า "ตอนแรกๆตั้งใจจะให้อยู่แล้วเว้ย แต่:-)เกรียน สงสัยหวงแหวนรุ่นมัน"
- เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มีเด็กถามผมเป็นระยะมากที่สุด
- เด็กชอบใจที่โรบินได้เมียในวันเดียว
- ช่วงหนังกลางๆเรื่องที่ไม่ค่อยมีฉากสู้ เด็กบางคนเริ่มลุกไม่ดู
- ตอนหนังดำเนินไปเกือบ 2 ชั่วโมง แล้วเป็นฉากมืดที่เงียบ เด็กคนนึงถามว่า "ไม่เปลี่ยนแผ่นที่ 3 เหรอ"
- มีกระเทยคนเดียวที่สงสัยว่าการถ่ายทำนั้นถ่ายกันยังไง นอกนั้นดูแบบไม่ได้คิดอะไรเลย
- ตอนที่เจ้าชายจอห์นเอาใบสัญญาเผาต่อหน้าประชาชน เกรียนบอก "กษัตริย์เกรียน"

วิเคราะห์

ดูเหมือนว่าเด็กบางคนจะยังไม่มีความรู้เรื่องของ DVD แม้ว่าผมจะเปิดด้วยแผ่น DVD 80 % ตลอดการฉายเกือบหนึ่งปีของผม อาจเป็นเพราะว่าผมไม่เคยเอาปกหรืออะไรวางโชว์ ทำให้เด็กยังยึดติดกับคำว่า VCD (เอาอะไรมากกับที่ทางบ้านฐานะปาณกลางจนถึงเอาตัวรอดไปวันๆ) โดยเด็กพวกนี้ไมได้สนใจความคมชัดของภาพหรือเสียงที่แตกต่างกันของ DVD และ VCD แต่อย่างใด

ฉากส่วนใหญ่ของโรบินฮู้ด นั้นเป็นฉากพูดคุยที่จะมีปรัชญาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง กระนั้นเด็กที่ดูก็ไม่เข้าใจ เหตุเพราะดูกันไม่ทุกตอน ไม่น่าแปลกเพราะผมดูเองบางฉากผมยังแอบหาวเลย

ฉากการต่อสู้และความสมจริงสมจริงของหนังนั้นช่วยกระตุ้นให้เด็กดูต่อได้ แต่นับตั้งแต่ผมเปิดเรื่องแนวสงครามแบบนี้ให้ดู ผมสังเกตมาตั้งแต่เจ้าชายแห่งเปอร์เซียแล้ว ถ้าเป็นหนังแนวสมัยก่อน ความสนใจของเด็กจะลดลงไปกว่าครึ่ง ซึ่งอาจยกเว้นบางเรื่อง เช่น พระนเศรวรมหาราช (อันนั้นมันแน่นอน) หรืออย่างนาร์เนีย ความสนใจในเรื่องของหนังในเด็กๆนั้นจำเป็นต้องเป็นหนังที่ภาพดูเข้าใจง่าย เหนือจินตนาการ ไม่งั้นก็ต้องเป็นหนังที่ไม่ต้องเอาอะไรเลย เพราะส่วนใหญ่ พวกนี้ก็ยังดู "เอามันส์"

ในขณะเดียวกัน หนังเรื่องนี้ผมสังเกตว่า มันช่วยเสริมสติปัญญาของเด็กมากขึ้น เหมือนกับเรากำลังสอนประวัติศาสตร์ให้กับเด็ก แต่ทั้งนี้ ไอ้ความรู้เหล่านั้นจำเป็นต้องมีครูสอน ซึ่งผมสรุปได้ว่า หากใครต้องการสอนอะไรกับเด็ก เช่น เกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือความรู้อะไรบางอย่าง เราเอาหนังที่มีแนวนี้หรือสาระนี้มาเกี่ยวข้อง มาเปิดฉาก เด็กจะสนใจดูมากกว่านั่งเรียนไปวันๆ แต่ความสนใจจะไม่ยั่งยืนตลอด เพราะสมาธิของเด็กก็ยังน้อยและหากไม่ได้อยู่ในความสนใจของตน ก็จะไม่ค่อยสนใจกัน จึงจำเป็นต้องมีคนอธิบายและบอกตลอด และถ้ามีคนอธิบายและบอกตลอดแล้วไซร้ ความสนใจของเด็กก็จะยังอยู่กับหน้าจอ หมายความว่า ถ้าเราคอยสอนเด็กตลอด เขาจะเริ่มมีความสนใจในเนื้อหาสาระมากยิ่งขึ้น พูดง่ายๆ เราช่วยเติมเต็งภาพให้เด็กๆมองออกกันนั่นเอง

กรณีศึกษานี้ ผมสังเกตมาตั้งแต่งานสัมมนาหรืองานแถลงข่าวต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นงานเปิดตัวเกมออนไลน์เกมใหม่ เวลาเขาเปิดเทลเลอร์โชว์ขึ้นมา โดยส่วนมากมักจะมีพิธีกรคอยพูดแทรกอธิบายให้กันตลอด ถึงแม้ว่าผมจะรำคาญเพราะอยากดูเงียบๆ แต่ทว่าสื่อมวลชนนั้นกลับให้ความสนใจกันอย่างยิ่ง แต่พอมาเปิดและอธิบายด้วยตนเองแบบนี้ มันทำให้ผมเข้าใจแล้วว่า ของแบบนี้จำเป็นต้องมีคนบอก หากต้องการให้คนดูสนใจ

ความสงสัยของเด็กนั้นมีตลอด แต่ถ้าความสงสัยของเขานั้นไม่มีคำตอบ ความสนใจนั้นก็จะมลายหายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว ถ้าต้องการให้เด็กๆมีความรู้ ก็ต้องช่วยกำกับและบอกเด็กๆเหล่านี้ เหมือนเช่น ครูที่สอนความรู้ให้กับลูกศิษย์ครับ

จากคุณ	: patiweshchan
เขียนเมื่อ	: 12 ก.ย. 53 09:13:52