ความคิดเห็นที่ 1 ใช่ค่ะ น่าเห็นใจแล้วก็น่าสงสารพวกเขามากๆ แต่ยังไงก็ตามขอให้เหตุการณ์หลังจากนี้ผ่านไปด้วยดีทีเถอะ จากคุณ : Hello_matsu เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:13:51

ความคิดเห็นที่ 2 สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่น้อง จากคุณ : ทุ่งหัวช้าง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:17:36

ความคิดเห็นที่ 3 อยากช่วยชาวนาที่เดือดร้อน เราจะทำยังไงได้บ้าง จากคุณ : Blue_SapPhire เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:22:45

ความคิดเห็นที่ 4 สงสารมากเลยอะค่ะ ตอนที่ออกข่าวว่านาโดนน้ำท่วม พี่ผู้ชายเจ้าของนาข้าวให้สัมภาษณ์ไปก็ปาดน้ำตาไป จากคุณ : ~*นิกายแมวเหมียว*~ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:30:10

ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมรัฐบาลไม่เอาภาษีที่เราจ่ายกันปีนึงตั้งเยอะไปช่วยชาวนา...หรือไม่ก็ ทำเป็นแบบประกันความเสี่ยงนะ...หรือเป็นกองทุนก็ได้...เพราะทุกอย่าง มันขึ้นกับธรรมชาติที่พวกเขาไม่สามารถกำหนดได้....สงสารชาวนาไทย เราว่าการลงทุนทำนามีความเสี่ยงยิ่งกว่าเล่นหุ้นซะอีก...เล่นหุ้นหุ้นตกก็อาจ จะขาดทุนแต่ก็ยังพอถอนทุนคืนได้บ้าง.....แต่ทำนาพอธรรมชาติไม่เป็นใจ ก็หมดเลย...ไม่เหลืออะไรเลย...แถมเป็นหนี้อีก....น่าช้ำใจแทนชาวนา ชาวนาไทยน่าจะมีคำเตือนสำหรับคนที่คิดจะเป็นชาวนาไทยว่า "การทำนามีความเสี่ยง  ควรบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนการทำนา" จะมีทางช่วยเขาได้ยังไง...ทำไมไม่มีใครออกมารับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือ คนที่เดือดร้อนบ้าง...คนไทยด้วยกัน...ไม่มีชาวนาจะมีข้าวให้เรากินไหม.... ถ้าเราไม่ช่วยเหลือเขา...ซักวันจะไม่เหลือชาวนามาปลูกข้าวให้เรากินอีกเลย... แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 53 23:39:28 จากคุณ : น้ำอบหอม เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:37:09

ความคิดเห็นที่ 6 เข้ามาโหวตกระทู้นี้ ^________^ จากคุณ : >>น้องหมาตาโต๊โต<< เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:40:55

ความคิดเห็นที่ 7 เกษตรน่าสงสารทั้งนั้น เพราะต้องพึ่งพาธรรมชาติซึ่งเอาแน่นอนอะไรไม่ได้เลย จากคุณ : ความรักไม่เป็นเหตุยกเว้นโทษ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:41:32

ความคิดเห็นที่ 8 โหวตให้แล้วค่ะ จากคุณ : ความรักไม่เป็นเหตุยกเว้นโทษ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:43:38

ความคิดเห็นที่ 9   ก้อเอาเวลาไปกัดกันเรื่องวิคเตอร์ บูทอ่ะ เรื่องคนอื่น ชาติอื่นแท้ๆ ใครจะเอาไปก้อช่างมันสิค่ะ นักโทษชาติอื่น คนเลวชาติอื่น ก้อเอาเวลาไปเสียตรงนั้น ชาวนาไทย คนไทยกันเองเดือดร้อนแท้ๆ ไม่เห็นมีใครเคยพูดถึงเลย เอาหน้ากันอย่างเดียว เศร้ามาก ตอนเห็นชาวนาต้องลุยน้ำไปตัดข้าวขึ้นมาก่อน ที่ข้าวจะออกรวงเต็มที่ ตัดไปร้องไห้ไป มันแย่จริงๆน่ะ จากคุณ : เงอะงะ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 23:51:58 A:58.8.137.107 X: TicketID:248539

ความคิดเห็นที่ 10 เอ่อ... เราก็เห็นใจในเรื่องที่เกิดขึ้นนะคะ แต่เราคงไม่อาจด่ารัฐบาลอ่ะ คือพอดีว่าญาติของเราก็ทำนาค่ะ เขาบอกเราเองว่า ก่อนหน้านี้รัฐฯ ได้ประกาศแล้วว่า ขอให้เว้นช่วงทำนาไปก่อน ซึ่งถ้าทำยอมฟังและทำตามคงไม่เกิดเหตุการณ์นี้อ่ะค่ะ บ้านญาติเราช่วงนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรอ่ะค่ะ เพราะเว้นช่วงการทำนาตามที่หลวงประกาศ จากคุณ : ใบหม่อน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:00:11

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับข้างบนว่า รัฐบาลประกาศแล้ว แต่ชาวนาไม้รู้ว่าฟังหรือเปล่าหรือเชื่อตัวเองมากกว่า ก็ไม่ทราบไม่อยากจะซ้ำ เพราะคนเรามีสิทฺ แต่เมื่อคุณดื้อที่จะทำคุณจะโทษใครได้นอกจากตัวเอง จากคุณ : ไส้อั่วจิ้นหมู เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:16:07

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ที่เค้าบอกให้เว้นช่วงทำนาเพราะภัยแล้งที่ผ่านมาไม่ใช่หรอ ไม่ใช่จะโดนน้ำท่วม... น้ำไม่พอจะผลิตน้ำประปาไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะโดนน้ำท่วมจนนาข้าวเสียหายไม่ใช่หรอครับ ...(แทนที่จะหาทางช่วยเหลือให้เค้าทำนาได้โดยไม่ขาดน้ำ ดันมาบอกว่าอย่าทำนา) แล้วคุณคิดว่า จะมีสักกี่คนที่ถ้าไม่ลงมือทำนา แล้วจะยังมีกิน ชาวนาหลายคนก็จำยอมต้องเสี่ยง(เพราะการทำนามีความเสี่ยง) เนื่องจากถ้าไม่ทำ ก็ไม่มีข้าวขาย ไม่มีเงินไม่มีกิน หลายคนคิดว่าลองดู ยังไง เดี๋ยวฝนมันก็คงตก ประคับประคองให้รอดไปตอนนั้นได้อาจมีทางรอด แต่สุดท้ายมันก็เป็นอย่างที่เห็นกลายเป็นว่ายิ่งขาดทุน มันไม่ได้ผิวเผิน อย่างที่คุณคิดว่า เออ เค้าบอกอย่าทำ ก็ไม่ทำ ปัจจัยบีบคั้นมันเยอะกว่านั้นมากนะคุณ (อ๊ายย ...พิมพ์ผิดเยอะจัง ของขึ้น) แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 53 00:37:23 แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 53 00:35:59 จากคุณ : หมีน้อยร้อยรัก เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:18:57

ความคิดเห็นที่ 13 สู้ต่อไปค่ะ เราไม่ช่วยกันแล้วใครจะมาช่วยเรา..อย่างน้อยก็ช่วยเป็นกำลังใจล่ะนะ จากคุณ : เมรุมาศ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:33:08

ความคิดเห็นที่ 14 โอ้ย อย่างนี้ไม่ค่อยน่าช่วยหรอก มันต้องน้ำท่วมที่ปากีสถาน แผ่นดินไหวที่เฮติ นู้น รัฐถึงจะระดมทุน หรือจัดงานหาเงินช่วย จากคุณ : Rainbowhunter เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:38:50

ความคิดเห็นที่ 15 บางทีชาวนารู้ทั้งรู้ว่ารัฐให้หยุด แต่จะให้เค้าทำอย่างไรถ้าเค้าหยุดบางครอบครัวก็จะไม่มีรายได้เข้าครอบครัว เพราะบางทีทำนาได้แค่ปีละครั้ง ถ้าเลื่อนไปแล้ว ผิดฝาผิดช่วง ก็แย่ หรือหยุดทำนาในปีนั้นก็แย่ จะเอารายได้ที่ไหนมาจุนเจือครอบครัว ความคิดผมนะ จากคุณ : na (AraYo) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:40:35

ความคิดเห็นที่ 16 เรื่องห้ามทำนานี่  เราโกรธมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว รัฐบาลประกาศห้ามทำนา เพราะเขื่อนไม่มีน้ำ  ต้องสงวนให้ตัวเมืองและเมืองหลวงมีน้ำประชาใช้ เค้าเตือนว่าถ้าทำนา จะไม่มีน้ำทำนานะ เพราะแล้งมาก พอฝนมา ชาวนาทำนา  แล้วน้ำท่วม ไปโทษชาวนาได้เหรอไง   คนเราปล่อยเวลผ่านไป  ระหว่างนี้ เค้าไม่ต้องกินต้องใช้หรือไง ไม่ได้ทำงานออฟฟิตเหมือนเราๆหรอกนะ แทนที่รัฐบาล จะชุดไหนๆก็เหอะ  จะหาทางกักเก็บน้ำ ให้อยู่ได้นานๆไม่แล้ง แต่ไม่ทำกัน  เพราะโกงกินกันได้น้อย ทำไมเหรอ  ขุดลอก หนอง คู คลอง  ให้มันลึกๆ  กระจายๆ เพื่อจะเก็บน้ำ  ชะลอน้ำ  มันกินกันได้น้อย ไม่เหมือนทำถนน โกงได้ง่ายได้เร็ว จากคุณ : หวานตาลเฉาะ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:40:50

ความคิดเห็นที่ 17 แหะๆ คุณหมีน้อยคอยรักคะ สงสัยว่าเรื่องที่ว่าให้เว้นช่วงเพราะแล้งก็น่าจะจริงล่ะค่ะ (เราอาจจะเข้าใจผิดเอง) แต่ตอนนั้นก็ยังมีคนทำ แล้วสุดท้ายก็แย่งน้ำกันอยู่ดีอ่ะค่ะ คือเราเข้าใจเหมือนกันนะว่า ถ้าพวกเขาไม่ทำก็ไม่มีจะกินอ่ะค่ะ แต่เราก็แอบเอามาเทียบกับญาติเราไม่ได้อ่ะค่ะว่า ช่วงที่หยุดทำนา ญาติก็เข้าเมืองมาทำงานก่อสร้างบ้าง ทำขนม ทำผลไม้ดองออกขายบ้าง ทำนองนั้นอ่ะค่ะ อันที่จริง มันคงจะต้องเริ่มจากวางรากฐานกันใหม่ตั้งแต่ต้นเลยมั้งคะ ให้ความรู้กับพวกเขา มีคนลงพื้นที่เพื่อสร้างความเชื่อถือให้กับชาวบ้าน (วัดจากญาติเราอีกน่ะล่ะที่ไม่ค่อยเชื่อถือคำพูดของคนที่เขาไม่รู้จัก) อย่างน้อยก็สามารถมีงานให้ทำถ้าหากต้องเว้นช่วงทำนาอ่ะค่ะ คือเรามักจะรู้สึกว่า ชาวนาเป็นหนี้เพราะลงทุนไปแล้วขาดทุนตลอดเนี่ยล่ะค่ะ ถ้ามีวิธีที่ทำให้พวกเขาไม่ขาดทุนได้ เราเองก็จะดีใจมาก (ก็ญาติเราด้วยอ่ะ) จากคุณ : ใบหม่อน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:41:24

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับคคห.11 ค่ะ เราได้ยินข่าวมาเหมือนคุณค่ะ ที่ให้เว้นทำนาเพราะแล้งค่ะ ไม่ใช่เพราะน้ำจะท่วม บางคนสบายซะเคยตัว จนไม่เห็นถึงความลำบากของคนที่แย่กว่า อาชีพหลักของเค้าคือการทำนา บอกให้เลิกทำเพราะแล้ง แล้วเค้าจะเอาอะไรกิน ปลูกได้น้ำก็ท่วมอีก อยากให้รัฐมีมาตรการช่วยเหลือที่ดีกว่านี้จังค่ะ จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:41:27

ความคิดเห็นที่ 19   ยกตัวอย่างที่บ้านล่ะกันนะครับ เพราะบ้านผมก็ทำนาและทำไร่ ที่บ้านไม่คุ้ยเคยกับการใช้ชีวิตในเมืองหลวงหรอกนะครับ โดยเฉพาะคนเก่าคนแก่ มีความสุขกับการอยู่กับท้องไร่ท้องนา แม้จะลำบากก็อดทนเก็บหอมรอมริบ ใช้สอยอย่างประหยัด ความหวังเท่านั้นแหละที่ทำให้อยู่ได้ หวังว่าจะมีน้ำ หน้าน้ำก็หวังว่าจะไม่ท่วม ในเมื่อมีหวัง ก็เสี่ยง ไม่ได้กล้าหรือเชื่อมั่นในตัวเองใดๆ เลย แต่มันจำเป็นต้องเสี่ยง จากคุณ : ประณมกร เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 00:54:02

ความคิดเห็นที่ 20   คือ เราไม่ได้อยากจะออกมาว่าเป็นเพราะเจาะจงรัฐบาลนั้นนี้น่ะค่ะ แต่พอฟังข่าวแล้ว ได้ยินเกี่ยวกับ เรื่องการแก้ปัญหาการทำนาน้อยมาก เราว่าชาวนาเป็นอาชีพที่ต้องได้รับเกรียติมากน่ะค่ะ เค้าเหนื่อยมาก คือการให้หยุดทำนา ห้ามก้อห้ามเพราะน้ำแล้งน่ะค่ะ ไม่ใช่น้ำท่วม โดยลืมมองว่าบางทีอาชีพนั้นคือทางรอดเดียวของเขา ทำเขาไม่ได้ทำงาน มันจะเป็นปัญหาลูกโซ่ เค้าหมดรายได้ ทั้งที่ต้องกินต้องใช้อยู่ทุกวัน ถ้าเค้าเข้ามาในเมือง ก้อเกิดปัญหาแย่งงานอื่นๆอีกมากมาย แล้วเรายังไม่ได้ยินใครออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ยินทีไรก้อวิคเตอร์ บูท เราเลยงงว่าอะไรกันแน่ที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศเราตอนนี้ ประเด็นของเราคืออยากให้เค้ามองปัญหาตรงนี้บ้าง อย่างน้อยแสดงท่าทีบ้างก้อยังดี ไม่ได้ตั้งใจจะว่ารัฐบาล (เพราะส่วนตัวก้อสนับสนุนรัฐบาลนี้ นายกหล่อ^^) แค่นั้นอ่ะค่ะ จากคุณ : เงอะงะ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:54:31 A:58.8.137.107 X: TicketID:248539

ความคิดเห็นที่ 21 ให้เลี่อนทำนามาเดือนนึง เท่ากับเลื่อนมาก็เท่าเดิม ไม่ได้ข่าว ไม่ได้เงิน แถมเป็นหนี้เพิ่มอีก เฮ้อ......ทำไมชาวนาบ้านเรามันรันทดแบบนี้ฟะ จากคุณ : aka shuri เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 01:56:19

ความคิดเห็นที่ 22 สงสารชาวนา จากคุณ : ชะอมชุบไข่ทอด เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 02:39:13

ความคิดเห็นที่ 23 สงสารชาวนา ดูข่าว ให้สัมภาษณ์ปาดน้ำตา สงสารต้นข้าวจมน้ำ คนดูก็นั่งน้ำตาคลอ สงสารทั้งชาวนา ทั้งต้นข้าว T_T จากคุณ : กระบี่ในใจ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 05:10:34

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 15     บางทีชาวนารู้ทั้งรู้ว่ารัฐให้หยุด แต่จะให้เค้าทำอย่างไรถ้าเค้าหยุดบางครอบครัวก็จะไม่มีรายได้เข้าครอบครัว ^ ^ ครอบครัวคนที่ผมรู้จักหลายครอบครัวใช้วิธีเกษตรผสมผสานครับ ช่วงหน้าแล้งหรือหน้าน้ำท่วม จะเลี่ยงการทำนา ใช้พื้นที่นาไปทำประโยชน์อย่างอื่นแทน เห็นใจชาวนาตอนที่พวกเขาพูดไปปาดน้ำตาไปมากๆ  อยากให้มีการช่วยเหลือพวกเขาอย่างเป็นระบบครับ จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 06:16:36

ความคิดเห็นที่ 25 เราว่าน่าจะให้มีการทำประกันความเสี่ยงเหมือนกับว่าเวลาตึกโดนไฟไหม้นะ ก็จะได้เงินประกันมาทำทุนต่อ....อาจจะให้ชาวนาจ่ายครึ่งนึงรัฐจ่ายครึ่งนึง คล้ายๆกับทำประกันชีวิตนะ...เราว่าเหตุการณ์แบบนี้คงไม่ได้เกิดบ่อย.... และเงินที่ชาวนาจ่ายคงไม่ได้เยอะมากแต่ก็อุ่นใจ....เพราะหลักการลงทุนก็ หลักแสน....จ่ายก็อาจจะไม่กี่พัน....เพราะรัฐช่วยอีกครึ่งนึง.... เราเห็นฟาเมอร์ของต่างชาติที่ปลูกขาวสาลีรัฐเขาคุ้มครองมากเลย...และเป็น บุคคลที่มีเกียรติ...เขาจะให้ความรู้กับชาวนาเขาตลอด...การจัดการเขาดี.... จากคุณ : น้ำอบหอม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 07:10:03

ความคิดเห็นที่ 26   รัฐบาลต้องรีบหาทางช่วยก็ส่วนนึง...ประชาชนทั่วไปก็น่าจะมีส่วนช่วยได้ด้วย คิดยังไม่ออกอะนะ แต่อยากช่วยชาวนาไทยตอนนี้มากๆ จากคุณ : maddcoco เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 08:03:25

ความคิดเห็นที่ 27 ชาวนาทำงานจนหลังแข็ง แต่พวกคนเมืองอยู่สบายกินอาหารอย่างทิ้งขว้าง นักกการเองนายทุนยังเอาเปรียบ อยากให้มีใครทำเพื่อชาวบ้านชาวนาอย่างแท้จริงบ้าง ไม่ใช่แค่หาเสียงไปวันๆ แต่อย่างน้อยคนอย่างๆเราๆท่าน ขอร้องแถอะค่ะ อย่ากินข้าวเหลือ เพียงเพราะว่ากลัวอ้วน เบื่ออาหารเพราะชาวนาทำข้าวนามาให้คนอย่างเรากินลำบาก กินมันแต่พอดี อย่าสั่งข้าวเพิ่มทังที่ไม่มีปัญญาจะกิน จากคุณ : isobuty เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 08:47:50

ความคิดเห็นที่ 28 ลองให้นักการเมือง หรือพวกคนเมืองที่ชอบกินทิ้งกินขว้าง มาเป็นชาวนาซักปี สองปีสิ จะได้รู้ว่าชีวิตของชาวนามันเป็นยังไง อธิบายไม่ถูกจริงๆ T^T ตามให้กิ๊ฟ คนพูดถูกใจดีกว่า จากคุณ : Immimosa เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 09:28:39

ความคิดเห็นที่ 29 ต่อให้รัฐบาลประกาศห้ามทำนา ชาวนาเขาก็หยุดไม่ได้หรอก เพราะถ้าไม่ทำนา ก็เท่ากับว่าไม่มีรายได้ ชาวนาบางคนมีอาชีพแค่ทำนา ไม่มีอาชีพเสริม ถ้าไม่ทำนาก็อดตาย เท่าที่ได้เห็นเรื่องพวกนี้มา ไม่มีอะไรร้ายแรงเท่าน้ำท่วมนาที่กำลังจะเกี่ยวเลย พรุ่งนี้เกี่ยวข้าวก็ได้เงิน แต่วันนี้ฝนตกน้ำท่วมนาหมด อย่างเก่ง ก็จะได้ข้าวเปียกๆมาขาย จำนวนก็น้อยลง ราคาก็ต่างกันเป็นพัน หรือไม่งั๊นก็กลายเป็นศูนย์เลย คุณเอ๊ย... อยากช่วยแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงเลยแหล่ะ แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 53 09:34:13 จากคุณ : i love summer rain เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 09:28:51

ความคิดเห็นที่ 30   น่าสงสารมากๆเลย วันก่อนดูข่าวนาข้าวท่วมหมด แต่ชาวนายังลงไปเก็บ นักข่าวถามว่าเก็บไปทำไม ชาวนาตอบว่า ไม่อยากให่แม่โพสพจมน้ำ T T อยากให้รัฐบาล นักการเมือง คิดถึงชาวนาให้มากๆ คนพวกนี้เป็นรากฐานเศรษฐกิจของชาติโดยแท้จริง ไม่ใช่พวกอุตสาหกรรมต่างๆ ของต่างชาติที่รัฐบาล ประเคนทุกสิ่งทุกอย่างให้ สุดท้ายเราก็เป็นได้แค่เพียง ฐานแรงงานและรับจ้างผลิต - -' คนพวกนี้เสียสละมากๆเลยนะ พอแล้งห้ามทำนา เพื่อให้คนกรุงมีน้ำใช้ พอน้ำท่วม นาก็ท่วมเพื่อระบาย น้ำไม่ให้ กทม.น้ำท่วม เฮ้อ.... ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม พอมีการประท้วงต่างๆนาๆ ถึงออกมาเรียกร้องตลอด ถ้าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองต่างๆ เริ่มที่คนกลุ่มนี้เถอะค่ะ อย่าทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นพลเมืองชั้น 2 ถึงได้ถูกชักจูงทางการเมืองได้ง่าย จากคุณ : หางนกยูงสีแดง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 09:46:00

ความคิดเห็นที่ 31 ทำมาหากินกับธรรมชาติเนี่ยช่างเหนื่อยจริงๆเดี๋ยวแล้งเดี๋ยวน้ำท่วม. ขอเป็นกำลังใจให้ชาวนาชาวไร่ทุกคนค่ะ. จากคุณ : บูบู้แจม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 11:02:17

ความคิดเห็นที่ 32   ฉันคนหนึ่งเป็นลูกชาวนาฉันไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดใหนจริงใจกับชาวนาแล้งนำท่วมถ้าไม่ทำนาก็อดตายคุณไม่เป็นชาวนาคุณไม่รู้หรอกว่าเรารอแต่ดินฟ้าอากาศอย่างไรชีวิตเราป็นอย่างไรปีใหนข้าวแพงเราก็เจอน้ำท่วมปีใหนข้าวถูกเราเจอโรคระบาด คห ที่11 คุณดูถูกชาวนามาก ก็ในเอทำนามาตลอดชีวิตถ้าหยุดทำกินดินได้แล้ว จากคุณ : ปลายฝน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 11:36:26 A:124.157.218.75 X: TicketID:286972

ความคิดเห็นที่ 33   เห็นด้วยกับความเห็น4 ตอนพี่ชาวนาปาดน้ำตา เราก้อน้ำตาร่วงตาม จากคุณ : kajib เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 11:37:32 A:118.172.123.32 X: TicketID:212942

ความคิดเห็นที่ 34 โหวตให้ค่ะ จากคุณ : jobee_p เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:08:13

ความคิดเห็นที่ 35 เราว่าปัญหาที่เจอก็ปัญหาเดิมๆ แล้งซ้ำซาก ท่วมซ้ำซาก แต่ทำไมแก้ไขไม่ได้สักที รัฐบาลผ่านมากี่ชุดต่อกี่ชุดๆ ก็เจอแต่ปัญหาเดิมๆ เห็นด้วยกะคห.16 ขุดลอก หนอง คู คลอง  ให้มันลึกๆ  กระจายๆ เพื่อจะเก็บน้ำ  ชะลอน้ำ  มันทำยากมากนักรึยังไง ไม่น่าจะใช่นะ เรียนรู้ที่จะกักเก็บน้ำ ไม่น่ายากนะ จากคุณ : Baby_I Know_U Know เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:17:28

ความคิดเห็นที่ 36   บ้านเราก็ทำนาค่ะ รัฐประกาศให้หยุดทำ เพราะฝนแล้งค่ะ น้ำท่วมออกข่าวทุกวัน ยังไม่มีใครลงไปช่วยแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลย มีแต่ อบต. ไปถ่ายรูป แล้วบอกว่าจะแจ้งจังหวัดให้ นี่เป็นอาทิตย์ แล้ว จากแม่โพสพ ยังไม่ตาย ยังไม่เน่า จนเค้าตาย และเน่าไปแล้ว ยังไม่มีใคร มาดูอีกเลยค่ะ จากคุณ : OOY เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:20:42 A:58.137.81.34 X: TicketID:286983

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตให้ด้วยครับ จากคุณ : Power Tough Guy เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:39:14

ความคิดเห็นที่ 38 ในฐานะลูกชาวนาคนหนึ่ง หลาย ๆ ความเห็นต้องยอมรับว่าโดนใจมากครับ มาช่วยโหวตกระทู้ครับ+ จากคุณ : นมผงผสมน้ำผึ้ง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:42:35

ความคิดเห็นที่ 39 ข้าวสาร 5 kg ราคา 120 บาท ตก kg ละ 24 บาท หุงกินได้อย่างน้อย 10 มื้อ/คน  ตกมื้อละ 2 บาท 40 สตางค์ อิ่ม  แต่ยังมีหลายคนบ่นว่าข้าวสารแพง ขนมปังหนึ่งแถวราคา 10-50 บาท  ไม่อิ่ม แต่อร่อย ซื้อได้ ไม่บ่น ผมเป็นคนนึงที่ไม่เคยบ่นเลยที่ราคาข้าวจะขึ้น  ถึงจะขาย กก. ละ 40 ผมก็ยังเต็มใจซื้อ  เพราะราคามันสมเหตุสมผล แต่มันคงเป็นแค่จินตนาการ ที่จะให้ชาวนาไทยขายผลิตผลได้คุ้มค่าแรงและการลงทุน จากคุณ : -เครื่องรางยมทูต- เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:46:35

ความคิดเห็นที่ 40 สงสารชาวนา ชาวบ้านจริงๆ ฝนแล้ง ประกาศให้หยุดทำนา แล้วให้ทำอะไรต่อ? นอนรอฟ้าฝนเป็นใจเหรอ บางคนเค้าก็ยอมเสี่ยง เพราะอย่างน้อยก็ได้ลุ้นผลผลิต แล้วบาง คห ในนี้ ยังบอกว่าทำไมไม่ไปหางานทำในเมือง พออพยพมาทำงานในเมือง ก็มีคนว่าเห็นแก่เงิน ไม่รักถิ่นฐาน พากันมาลำบากในเมืองทำไม แทนที่รัฐบาลจะแก้ปัญหา มีโครงการอะไรมารองรับ ไม่ว่าจะแล้งหรือจะท่วม ก็ควรมาช่วยเค้า ไม่มีชาวนาแล้ว พวกเราจะเอาข้าวที่ไหนกิน   คนเราถ้ามีความแน่นอนในชีวิต ไม่มีใครอยากย้ายไปไหนหรอก มีแต่อยากจะอยู่บ้าน ทำงาน ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา พัฒนาไร่นาของตัวเอง จากคุณ : Aphrodite of Milos เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:46:36

ความคิดเห็นที่ 41   เราประชาชนธรรมดาต้องเดือนร้อนเพราะกินข้าวไงครับ ราคาเเพงถูกก็ต้องควักเงินซื้อ เเต่คนพวกนั้นมันกินอิฐ หิน ปูน ทราย เงินไม่ต้องควักซักบาท พวกนี้เค้ากินได้ทั้งปีไม่มีอิ่ม เอาใจช่วยชาวนาทุกคนครับ จากคุณ : สะบัดช่อ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:48:36 A:10.2.10.56 X:119.46.164.211 TicketID:233214

ความคิดเห็นที่ 42 ผมว่าคนที่ไม่ได้เป็นชาวนาจริง แล้วทำเป็นมาว่ารัฐบาลไม่ช่วยผมว่าหยุดพูดซะทีเถอะครับ เพราะบ้านผมทำนา ทำไมจะไม่รู้ว่ารัฐช่วยอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ประกันราคาข้าว การให้ส่วนต่างราคาข้าว อันนี้จำเป็นมา เพราะได้เป็นเงินสดๆเข้าบัญชีชาวนาเลย หรือแม้แต่โครงการโรงเรียนชาวนา ที่ให้ชาวนามารวมกลุ่มกันแล้วมีการซื้อพันธ์ข้าวจากโรงเรียนชาวนา แล้วพอได้ผลผลิตก็มีการซื้อคืนในราคาที่สวยงาม แล้วใครว่าชาวนาจนน่าสงสารผมบอกเลยว่า ไม่จริง ขนาดบ้านผมทำนาปีละหนึ่งครั้ง ยังมีเงิน + ข้าวกินตลอดปี แล้วยิ่งชาวนาส่วนใหญ่สมัยนี้ ทำนาปีละหลายครั้ง ผมเห็นบางคนทำนาต่อปี ถึง 4 ครั้ง แล้วพอขายไม่ได้ราคา ก็ออกมาประท้วงไร้สาระ พอแล้งก็ออกมาด่า พอน้ำท่วมก็ออกมาร้องไห้ แล้วที่ผมดูข่าวส่วนใหญ่ที่บอกว่าน้ำท่วม ล้วนแต่เป็นข้าวตั้งท้องเป็นรวงแล้วทั้งนั้น ถ้าเป็นข้าวนาปี จริงๆ จะมาเป็นรวงอะไรตอนนี้มันต้องเป็นช่วงใกล้หนาวซิ แสดงว่ามันเป็นข้าวนาปลัง ดังนั้นเมื่อรุ่นนี้น้ำท่วมพอน้ำลดเดียวเค้าก็ทำอีก เค้าไม่เดือดร้อนอะไรหรอก มีแต่พวกนักข่าวกับพวกไม่รู้เรื่องมาคอยวิ่งเต้นว่าชาวนาเดือดร้อนจริงๆ แต่นั้นแหละครับ จากคุณ : มะเกลือใหม่ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 12:57:29

ความคิดเห็นที่ 43 คลิป อันนี้หรือเปล่าคะ พอดีอยู่ต่างประเทศ อยากดูคลิปมาก พยายามไปหามา จุกมากค่ะ สัญญากับตัวเองไว้ว่า จะขอใช้ความรู้หลังเรียนจบที่มีกลับไปช่วยประเทศเท่าที่คนตัวเล็กๆคนนึงจะทำได้ค่ะ T_T จากคุณ : น้ำพุกลางทะเลทราย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:01:59

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านแล้วรู้สึกว่า ประเทศไทยทำไมเศร้าจัง มีนักการเมืองคนไหนรักประเทศไทยแบบ"จริงๆ"มั้ยเนี่ย.. จากคุณ : Tsukiaki เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:06:55

ความคิดเห็นที่ 45   ผมกลับเห็นว่า การช่วยเหลือชาวนาโดยใช้ระบบประกันราคาหรือจำนำนั้นเป็นการบิดเบือนตลาด ที่จะทำให้ชาวนาไม่มีการพัฒนา สักแต่ว่าปลูกแล้วก็บังคับให้คนซื้อในราคาแพง ดังนั้นถ้าหากว่าปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ใครปลูกแล้วไม่รอดก็ต้องเลิกไป ผลที่ตามมาคือ ซัพพลายน้อยลงราคาก็แพงขึ้นเอง สิ่งที่ชาวนาควรทำก็คือศึกษาและพัฒนาตนเองให้สามารถทำอย่างอื่นได้ด้วยไม่ใช่หวังแต่ว่าจะรอแต่ความช่วยเหลือจากคนอื่น เพราะถ้าคิดดูให้ดี ชาวนาแทบไม่เคยเสียภาษีเลย แต่รัฐต้องเอาภาษีของพนักงานบริษัทไปอุดหนุนชาวนาซึ่งผมเห็นว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมนัก สมัยผมทำงานอยู่ต่างจังหวัดได้สัมผัสกับคนที่ทำนากันจริงๆ แล้วพบว่ารายได้ที่ชาวนาได้นั้นก็ไม่น้อยเลย บางฤดูเก็บเกี่ยวได้ราคาดีก็ไม่เคยวางแผนถึงฤดูกาลหน้า โดยใช้เงินผิดวัตถุประสงค์แทนที่จะเก็บเงินบางส่วนไว้เป็นทุนกลับนำไปซื้อมือถือบ้าง ทีวีบ้าง ออกรถใหม่บ้าง และภาวนาให้ขายได้ราคาแบบนั้นทุกฤดูกาล ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ความจริงสิ่งที่รัฐควรทำคือ พัฒนา ระบบตลาดซื้อขายล่วงหน้าให้คนทั่วไปยอมรับและใช้กันแพร่หลาย ห้ามทำการแทรกแซง เพราะจะทำให้ความน่าเชื่อถือของระบบด้อยลงเหมือนกับที่เกิดมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว ชาวนาก็จะสามารถวางแผนการทำนาได้ล่วงหน้า เหมือนกับที่รัฐบาลมาเลย์เซียได้ทำให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ส่วนเรืองน้ำท่วมนั้น ความจริงชาวบ้านแถบนั้นน่าจะพอทราบดีอยู่แล้วว่าพื้นที่ส่วนไหนเสี่ยงต่อน้ำท่วมก็ไม่ควรดันทุรังปลูก และ รัฐบาลก็ควรจะทำการศึกษาให้ข้อมูลแก่ชาวนาว่าพื้นที่ไหนควรปลูกหรือไม่ควรปลูก ปัญหาน้ำแล้ว ก็เช่นกัน เรื่องนี้พูดยาก เพราะการที่จะทำให้น้ำเพียงพอใช้สำหรับการปลูกทั้งปีนั้น ก็คือการสร้างเขื่อนให้มากขึ้น ปัญหาที่จะตามมาก็คือการทำลายป่่าไม้และธรรมชาติเพื่อแลกกับการให้ชาวนามีพื้นที่ปลูกข้าวมากขึ้น จากคุณ : ขอแจมด้วย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:07:28 A:58.11.65.248 X: TicketID:286993

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 42 ผมว่าคนที่ไม่ได้เป็นชาวนาจริง แล้วทำเป็นมาว่ารัฐบาลไม่ช่วยผมว่าหยุดพูดซะทีเถอะครับ เพราะบ้านผมทำนา ทำไมจะไม่รู้ว่ารัฐช่วยอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ประกันราคาข้าว การให้ส่วนต่างราคาข้าว อันนี้จำเป็นมา เพราะได้เป็นเงินสดๆเข้าบัญชีชาวนาเลย หรือแม้แต่โครงการโรงเรียนชาวนา ที่ให้ชาวนามารวมกลุ่มกันแล้วมีการซื้อพันธ์ข้าวจากโรงเรียนชาวนา แล้วพอได้ผลผลิตก็มีการซื้อคืนในราคาที่สวยงาม แล้วใครว่าชาวนาจน น่าสงสารผมบอกเลยว่า ไม่จริง ขนาดบ้านผมทำนาปีละหนึ่งครั้ง ยังมีเงิน + ข้าวกินตลอดปี แล้วยิ่งชาวนาส่วนใหญ่สมัยนี้ ทำนาปีละหลายครั้ง ผมเห็นบางคนทำนาต่อปี ถึง 4 ครั้ง แล้วพอขายไม่ได้ราคา ก็ออกมาประท้วงไร้สาระ พอแล้งก็ออกมาด่า พอน้ำท่วมก็ออกมาร้องไห้ แล้ว ที่ผมดูข่าวส่วนใหญ่ที่บอกว่าน้ำท่วม ล้วนแต่เป็นข้าวตั้งท้องเป็นรวงแล้วทั้งนั้น ถ้าเป็นข้าวนาปี จริงๆ จะมาเป็นรวงอะไรตอนนี้มันต้องเป็นช่วงใกล้หนาวซิ แสดงว่ามันเป็นข้าวนาปลัง ดังนั้นเมื่อรุ่นนี้น้ำท่วมพอน้ำลดเดียวเค้าก็ทำอีก เค้าไม่เดือดร้อนอะไรหรอก มีแต่พวกนักข่าวกับพวกไม่รู้เรื่องมาคอยวิ่งเต้นว่าชาวนาเดือดร้อนจริงๆ แต่นั้นแหละครับ จากคุณ   : มะเกลือใหม่ ความคิดเห็นคุณช่างร้ายกาจ อยากจะพูดคำที่แรงกว่านี้แต่เกรงจะไม่สุภาพ ที่เขาช่วยพูดเนี่ย เพราะอยากเป็นหนึ่งในแรงกระตุ้นที่ให้ชาวนามีอยู่มีกินมากกว่านี้   หรือที่เป็นอยู่ทุกวันนี้คุณพอใจแล้วเหรอครับ ???? คุณตอบแทนชาวนาได้รึ??? คุณรู้ได้ไงว่าชาวนาส่วนใหญ่ทำนาได้หลายครั้ง หรือ 4 ครั้ง/ปี ???   ถึงไม่ใช่ชาวนาแต่ผมคลุกคลีอยู่กับชาวนา ทำไมผมจะไม่รู้ว่าชาวนาลำบากแค่ไหน ถามคุณจริงๆเหอะ คุณเป็นลูกชาวนาจริงรึ??? จากคุณ : -เครื่องรางยมทูต- เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:07:31

ความคิดเห็นที่ 47 พ่อเราเป็นลูกชาวนา ปู่เราเป็นชาวนา เราก็หลานชาวนาเหตุการณ์แบบนี้น่าสงสารชาวนามาก พ่อเราบอกว่าในชีวิตพ่อก็เจอมาหลายครั้งหลายหน แม้ตอนนี้อาชีพทำนาจะเป็นอดีต แต่เราฟังเรื่องราวของพ่อแล้วเราเคารพอาชีพนี้มากๆค่ะ จากคุณ : Love At First Click เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:07:51

ความคิดเห็นที่ 48 เห็นข่าวตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ ตั้งใจว่า ต่อไปนี้จะกินข้าวให้หมดทุกเม็ด ไม่กินทิ้งกินขว้างอีกต่อไป เวลาไปร้านข้าว ก้อบอกเค้าเลยว่า ขอข้าวนิดเดียว จะได้ไม่เหลือทิ้ง จากคุณ : coverleaf เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:16:02

ความคิดเห็นที่ 49 ใช่ค่ะ สะท้อนใจถึงเหล่าสุภาพสตรีหลายๆคน ยิ่งที่เห็นอยู่ทุกวัน นักศึกษาบางคน กลัวอ้วน ข้าวจานนึงกินไปได้ไม่ถึงคำ ที่เหลือเททิ้ง พอทักว่าทำไมไม่บอกให้คนขายตักน้อยๆ ดันมาทำหน้าแบบ"เรื่องของตู" แถมหัวเราะคนกินข้าวเกลี้ยงจานอีกแหนะ เค้าคิดว่ามันเป็นค่านิยมอะไรของเค้า ?? จากคุณ : PiggY_BeLLe เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:23:42

ความคิดเห็นที่ 50 งบทำนา จะมีไปทำไม ประเทศเราทำนากันที่ไหน ต้องงบกองทัพสิ รบกันบ่อยจะตายยยยยยย??? จากคุณ : Bearlandia เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:36:26

ความคิดเห็นที่ 51 ทำไม ชาวนาที่ญี่ปุ่น ถึงมีความเป็นอยู่ที่ดี...? เป็นเพราะรัฐบาลเขาเอาใจใส่คนกลุ่มนี้ใช่หรือไม่... เหลียวมองดูชาวนาของไทย กับความเอาใจใส่ของนักการเมือง ก็ได้แต่ร้อง เฮ้อ.... จากคุณ : ออกหลวงมงคล เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:36:45

ความคิดเห็นที่ 52 เราได้คุยกับชาวนาหลายคน ถึงเหตุการณ์น้ำท่วมรอบนี้ที่จังหวัดสุโขทัย ไม่ได้มีการตั้งตัวกันเลย เพราะน้ำไม่ได้ท่วมมาหลายปีแล้ว เป็นเพราะ เขื่อนขนาดเล็กที่คลองต้นข้อพัง น้ำจึงไหลมาท่วม ทุกทีจะท่วมที่ตัวเมือง รัฐก็ไม่ได้เตือน ไม่ได้ห้ามให้ทำ เพราะปกติมันไม่ท่วม และก็ไม่แล้ง น่าสงสารที่สุดคือ บางรายกำลังจะเกี่ยวได้แล้ว เห็นเงินอยู่รำไร น้ำมาคืน เดียว หมดเลย 30 กว่าไร่ บางคนก็เพิ่งจะหว่านปุ๋ยรอบที่ 2 ไป ก็หมดเหมือนกัน โอเค รัฐฯอาจจะช่วยก็จริง แต่อยากให้เข้าใจค่ะ บางคนกู้เงิน ธกส. ได้ พอบ้างไม่พอบ้าง ก็ต้องกู้นอกระบบ ช่วงที่รอขายข้าว เค้าก็ต้องซื้อต้องกิน ค่าข้าวปลูก ค่าปุ๋ย ค่ายา ที่ลงไปกับนา มันคือหนี้สินทั้งนั้น หนี้สินมันไม่ได้ หายไปกับน้ำท่วมนะคะ ถึงจะได้ผ่อนผันการชำระหนี้ แต่ก็ไม่ได้ยกให้เลย ยังไงก็ต้องใช้อยู่ดี ถึงจะโดนน้ำท่วม ขาดทุนกันขนาดนี้ ถามกี่คนก็ได้คำตอบเหมือนกันหมด คือ ยังไงก็ต้องทำนาต่อไป ความหวังยังมี นับถือน้ำใจจริงๆ จากคุณ : lovenannan เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:37:44

ความคิดเห็นที่ 53   คห.42 คุณอย่าเหมาว่าชาวนามีกินมีใช้เหมือนครอบครัวคุณสิ ครอบครัวคุณอาจจะพอกินพอใช้ในระดับหนึ่ง คุณ"อาจ"จะว่างไม่มีอะไรทำก็เลยไปทำนา แต่อีกหลายครอบครัวก็ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ค่อยเชื่อนะว่าคุณทำนาจริง ถึงครอบครัวคุณทำนา แต่คุณอาจจะไม่เคยเอาเท้าลงดินเลยก็ได้ ก็เลยไม่รู้ว่าสันหลังของชาติมันเป็นยังไง จากคุณ : 000 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:42:48 A:124.121.252.52 X: TicketID:129362

ความคิดเห็นที่ 54 ขอสวนกระแสนิดนึง เื่รื่องกินข้าวทุกเม็ดจนหมดจานเป็นการช่วยชาวนา จริงหรือ ? จริงอยู่ที่ข้าวทุกเมล็ด ชาวนาผลิตขึ้นมาด้วยความยากลำบาก สมควรกินอย่างรู้คุณค่า แต่ให้นึกถึงการตลาดนิดนึง ถ้าผู้ผลิต ผลิตสินค้า แล้วผู้บริโภคใช้สินค้านั้นจนหมด หรือผลิตไม่พอใช้ ไม่ว่าผู้ปริโภคนั้น จะบริโภคด้วยวิธีการใดก็ตาม น่าจะเป็นผลดีกับผู้ผลิตมากกว่า เพราะจะสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ ตามหลักดีมานด์ ซัพพลาย ฉะนั้น อยากให้ผู้บริโภคข้าว บริโภคจนหมด ด้วยความสำนึกในความเหนื่อยยากของชาวนา แต่ก็อย่าไปว่าคนที่กินข้าวไม่หมดจาน เพราะนั่นคือ เขากำลังช่วยเหลือชาวนาทางอ้อม ตามกลไกการตลาด ถ้าจะว่า ควรว่าคนที่ทำให้ชาวนาเดือดร้อน ขายข้าวไม่ได้ราคาแทนจะถูกต้องกว่า เช่น โรงสีที่กดราคาข้าวจากชาวนา แต่เอาไปขายต่อในราคาแพง ทำให้ข้าวสารแพง รัฐบาลที่ไม่ช่วยหาตลาดใหม่ ให้ชาวนาขายข้าวได้มากขึ้น นายทุน ที่ให้ชาวนากู้เงินด้วยดอกเบี้ยแพงๆ ในยามที่ชาวนายังทำนาไม่ได้ แต่ต้องใช้เงินอยู่ เหล่านี้เป็นต้น แต่เนื่องจากไม่ได้ติดตามข่าวคราวของราคาข้าวมานาน ก็เลยสงสัยว่า ทำไมราคาข้าวสมัยนายกฯทักษิณ หรือนายกฯสมัครรึไงเนี่ยเคยขายได้ถึงเกวียนละเป็นหมื่น ถึงราคาตกต่ำในปัจจุบัน ทั้งๆที่ช่วงแล้ง น่าจะทำให้ข้าวราคาแพงกว่านี้ มีใครพอจะตอบได้บ้างหรือไม่ บางทีคำตอบ อาจมีส่วนช่วยชาวนาบ้างก็ได้นะ ปล.แ้ก้ไขพิมพ์ตก แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 53 13:54:48 จากคุณ : kit_108 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 13:51:20

ความคิดเห็นที่ 55 โหวตเลยครับไม่กดไม่ได้แล้ว.. กระดูกสันหลังของชาติ...สู้ๆๆ จากคุณ : Graphic.grap เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:01:42

ความคิดเห็นที่ 56 นั่งอยู่ตรงนี้ก็พูดได้ล่ะครับ ไม่ได้ไปยืนทำนาหลังขดหลังแข็ง จากคุณ : ผีหลอก เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:06:24

ความคิดเห็นที่ 57   คุณ คห ที่42 คะดิฉันเป็นลูกชาวนาที่ปีนึงทำนาได้แค่ปีนึง1 ครั้งปีนี้รัฐบาลประกาศไม่ให้ทำนาปรังเราก็ไม่ทำคุณเป็นลูกชาวนาจริงต้องรู้ซิว่าข้าวมีข้าวหนักข้าวเบาสำหรับข้าวเบาถ้าปลูกชวงทำนาปีข้าวเบาก็จะตั้งท้องออกรวงประมาณนี้ ความคิดเห็นของคุณฉันรับไม่ได้จริงๆถ้าปีนึงทำนาได้4 ครั้งก็คงไม่มีชาวนาที่ยากจนอยู่หรอกค่ะ จากคุณ : ปลายฝน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:09:50 A:124.157.218.75 X: TicketID:286972

ความคิดเห็นที่ 58   คุณ คห ที่42 คะดิฉันเป็นลูกชาวนาที่ปีนึงทำนาได้แค่ปีนึง1 ครั้งปีนี้รัฐบาลประกาศไม่ให้ทำนาปรังเราก็ไม่ทำคุณเป็นลูกชาวนาจริงต้องรู้ซิว่าข้าวมีข้าวหนักข้าวเบาสำหรับข้าวเบาถ้าปลูกชวงทำนาปีข้าวเบาก็จะตั้งท้องออกรวงประมาณนี้ ความคิดเห็นของคุณฉันรับไม่ได้จริงๆถ้าปีนึงทำนาได้4 ครั้งก็คงไม่มีชาวนาที่ยากจนอยู่หรอกค่ะ จากคุณ : ปลายฝน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:10:12 A:124.157.218.75 X: TicketID:286972

ความคิดเห็นที่ 60 เฮ้อ...ชีวิตชาวนา เมืองไทยส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่อาชีพชาวนาไทยส่วนมากก็ยังจน  ทำไม่มันไม่สัมพันธ์กันอ่ะน่าสงสารชาวนาไทย จากคุณ : บั๊ค ซน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:21:24

ความคิดเห็นที่ 61 เคยเข้าไปสัมผัสกับชีวิตชาวนาตามชนบทค่ะ เป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องทุ่มเท แรงกาย แรงใจมากๆ สำหรับชาวนาตามต่างจังหวัดที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง น่าสงสารมากค่ะ บางคนต้องกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อทำนา ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าอะไรเยอะแยะ...เบ็ดเสร็จดูแล้ว บางทีได้กำไรน้อยมาก แต่ก็ต้องทำ เพื่อจะได้มีเงินมาหมุน ปัญหาสะสมหลายอย่าง เช่น การคอรัปชั่นในพื้นที่ บางครั้ง กู้หนี้จากภาครัฐก็ทำได้ยาก ถ้าไม่ใช่คนของเขา รัฐบาลอาจมีนโยบายที่ดีจริง แต่ถ้าผู้มีอำนาจในพื้นที่ยังปฏิบัติงานไม่ซื่อสัตย์ ก็คงแก้ไขปัญหาจริงจังยาก ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ก็เข้าใจนะคะ ชาวนาบางคนไม่มีอาชีพสำรองเลย ต่อให้รัฐบาลประกาศเตือน ก็ยังมีคนทำอยู่ ส่วนตัวคิดว่า คงต้องหาอาชีพเสริมมาทำช่วงเว้นวรรคการทำนา อย่างที่บางหมู่บ้านเขารวมตัวกันได้ หาอาชีพอื่นมาทำ ตรงนี้ คงต้องส่งเสริมให้มีการดูงาน มีเจ้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำ เป็นกำลังใจให้ กระดูกสันหลังของชาติค่ะ ขอบคุณที่ปลูกข้าวดีๆ ให้รับประทานกัน จากคุณ : Yimie เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:22:40

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาสงสารชาวนา และเป็นกำลังใจให้ ส่วนเรื่องรัฐบาล ออกความเห็นไม่ได้ เพราะไม่ได้ทราบจริงๆ ว่าเค้าช่วยเหลือ หรือไม่ช่วยยังไง!!~ รู้แต่ที่บ้านนอก พ่อกับแม่ก็เป็นเกษตรกร ปลูกนั่นนี่นิดๆ หน่อยๆ แต่เวลามีภัยธรรมชาติ น้ำท่วมผลผลิต ก็มีเงินมาช่วยเหลือนะคะ ถึงจะไม่มากมายอะไรนัก และรอนานมาก (ถึงมากที่สุด) แต่เค้าก็ช่วย จริงๆ นะคะ ก็พอเป็นกำลังใจให้ชาวไร่ (ชาวนาเราไม่รู้จริงๆ) ได้บ้าง จากคุณ : Girl_of_Monsterteam เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:24:03

ความคิดเห็นที่ 63 แง๊ อยากเอาเงินตั้งหลายล้าน ที่เอามาปรับภูมิทัศน์ทำเนียบมาช่วยแก้ปัญหาชาวนาก่อนจัง จากคุณ : amnok เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:24:17

ความคิดเห็นที่ 64 คห 42 คุณแน่ใจนะคะว่าคุณเป็นลูกชาวนา ???? เพื่อนๆ พอจะทราบบ้างไหมคะว่า เราจะสามารถช่วยชาวนาที่กำลังเดือดร้อนอยู่ได้ทางไหนบ้าง จากคุณ : touch_sky_like_bird เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:25:43

ความคิดเห็นที่ 65 ช่ายๆๆ ตอนดูข่าวเค้าร้องไห้ด้วย น่าสงสาร จากคุณ : Bawitty. เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:25:47

ความคิดเห็นที่ 66 จะช่วยอะไรพี่ ป้า น้า อา  ที่ทำนาให้เรามีข้าวกินได้บ้าง ส่งใจไปช่วยนะค่ะ จากคุณ : j maxnison เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:39:01

ความคิดเห็นที่ 67 ผมเชื่อว่าทางการไม่นิ่งเฉยแน่ๆครับ จากคุณ : fog_tgr เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:41:14

ความคิดเห็นที่ 68 รอไปเถอะครับ ความช่วยเหลือจากรัฐ ชาตินี้ พะ-นะ-ท่าน คงจะมาสนใจดูและหรอก เพราะพวกคุณคือ............ รากหญ้า............... จากคุณ : มัจฉาเสียบฉึก เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 14:45:31

ความคิดเห็นที่ 69 รอเลือกตั้งครั้งหน้าก่อนเถอะ ... จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 15:06:42

ความคิดเห็นที่ 70   หึ......แล้วมาดูกระทู้ยาสีฟันอันถัดมาสิ จิตสำนึกชาวนามีมากกว่าคนกรุงเสียอีก จากคุณ : .............. เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 15:19:38 A:202.149.29.81 X: TicketID:274420

ความคิดเห็นที่ 71   เรื่องช่วยเหลือชาวนา ควรจะเป็นวาระแห่งชาตินะครับ จากคุณ : ปากกาสีเทา เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 15:23:47

ความคิดเห็นที่ 72 เห็นใจชาวนามากครับ ผมเคยดูข่าวอยู่ข่าวหนึ่ง พื้นที่ไหนไม่ทราบนะครับ ชาวนาต้องทำนาก็ต่อเมื่อมีฝน คือรอมาเกือบทั้งปียังทำนาไม่ได้ พอมีฝนรัฐก็ประกาศว่าไม่ให้ทำนาเพราะน้ำจะไม่พออาจมีผลกระทบได้ ชาวนาคนนั้นบอกว่ายังไงก็ต้องเสี่ยงทำเพราะไม่อย่างนั้น เหมือนกับว่าทั้งปีไม่ได้ทำเลยแล้วจะเอาอะไรกิน อยากให้ทุกคนเข้าใจนะครับ ต่างคนต่างวาระต่างพื้นที่ อาจจะพบเจอสิ่งที่ต่างๆกันไป อยากให้ผู้มีหน้าที่ช่วยแก้ไขปัญหา ให้ตรงจุดด้วยนะครับ จากคุณ : Kun.POP เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 15:30:26

ความคิดเห็นที่ 73 เป็นอย่างนี้แล้วใครจะอยากเป็นชาวนา เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ประเทศไทยน่าจะดูแบบอย่างจากประเทศที่พัฒนาแล้วบ้างนะ อย่างเช่น ญี่ปุ่น อาชีพเกษตรกร ได้รับเงินช่วยเหลือมากมายจากรัฐบาล เสมือนเป็นพนักงานของรัฐฯคนนึงเลย ไม่ต้องมากังวลเรื่องผลผลิตมากน้อย เค้าก็อยู่ได้ แถมยังภูมิใจในอาชีพของตนเองอีกด้วย จากคุณ : sweet lion เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 15:34:15

ความคิดเห็นที่ 74 เอา 5 บาท 10 บาท นี้ ไปช่วยชาวนาบ้างได้มั้ย ยินดีจ่ายให้ ถ้าทำได้ จากคุณ : kit_108 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 15:37:29

ความคิดเห็นที่ 75 ช่วยด้วยการร่วมกันลดโลกร้อนค่ะ เพราะภัยธรรมชาติเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจาก ภาวะโลกร้อนใช่มั๊ยคะ ลดการใช้ถุงพลาสติก ลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ปลูกป่า และอีกมากมายค่า จากคุณ : เม่นน้อยขนพริ้ว เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 15:55:22

ความคิดเห็นที่ 76   คนที่ทำนาแล้วจน ควรไปทำอย่างอื่น ปล่อยให้คนทำนาแล้วรวยเขาทำน่าจะดีกว่านะ จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:18:28

ความคิดเห็นที่ 77 เวลาแล้งก็แล้งจนไม่มีน้ำทำนา แผ่นดินแห้งแตกระเเหง แต่พอฝนตกน้ำก็ท่วม ซึ่งมันก็เป็นที่เดิมๆจังหวัดเดิมๆ ไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลไหนคิดจะแก้ปัญหาตรงนี้บ้างไหมคะ ช่วงฝนตกน้ำเยอะๆอย่างนี้ไม่มีวิธีที่จะเก็บน้ำไว้ให้มากๆๆให้เพียงพอใช้ในหน้าเเล้งบ้างเหรอคะ เหตุการณ์มันเกิดทุกๆปี น่าจะหาวิธีแก้ไขหรือป้องกันได้แล้วนะ ปัญหานี้มีเป็นสิบๆๆปีเเล้ว จากคุณ : น้ำแข็งใส ใส่น้ำหวาน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:20:59

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านแล้วอยากจะร้องไห้แทนชาวนา จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:25:20

ความคิดเห็นที่ 79 ไม่ได้ทำนาแต่ได้สัมผัสกับชาวนาโดยตรง บรรพบุรุษเองก็เป็นชาวนา ปัญหาของชาวนาเป็นปัญหาที่คาราคาซังมานาน จะบอกว่ารัฐบาลไม่ช่วยเลยก็คงจะไม่ได้ รัฐบาลช่วยและช่วยเยอะนะเมื่อเทียบกับสาขาอาชีพอื่นๆ โดยส่วนตัวแล้วกลับคิดว่าที่ปัญหามันมีแบบไม่รู้จบเป็นเพราะรัฐบาลช่วยง่ายเกินไป ให้มากเกืนไปหรือเปล่า ทำให้ชาวนา(หลายๆคน)เฝ้าแต่รอ-ขอ-รอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเดียวโดยไม่ได้พยายามช่วยเหลือตัวเองเหมือนคนที่ทำอาชีพอื่นๆเขาทำกันหรือเปล่า  ได้เงินมาก็มองแค่วันนี้-ใช้วันนี้ ไม่มองเผื่ออนาคตเพราะเชื่อว่าถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมารัฐบาลต้องช่วยหรือเปล่า   เรื่องน้ำท่วมมันก็ท่วมทุกปี ชาวนาที่มีนาสี่ยงกับการถูกน้ำท่วมก็น่าจะมองออกว่าถ้าทำนาไปแล้วถึงเวลาน้ำมาน้ำจะท่วมหรือเปล่า มันน่าจะเตรียมการแก้ไข/ป้องกันไว้ก่อนได้นี่นา ไม่ว่าอาชีพใดก็ทำงานโดยวางแผนให้ดี กำหนดการใช้จ่ายการเก็บออม คิดเผื่ออนาคตไว้ด้วย คิดป้องกันความเสียหายที่อาจจะมีไว้ล่วงหน้า  มันดีกว่ารอรับความช่วยเหลืออย่างเดียวมิใช่หรือ แล้วจะโดนข้อหาไม่เห็นใจชาวนาไหมเนี่ย จากคุณ : พระอาทิตย์ทรงกลด เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:27:48

ความคิดเห็นที่ 80 ผมคิดว่านักการเมืองต้องคิดแบบนี้น่ะ "ชาวนาห้ามรวยให้มันจนดักดานอยู่แบบนี้แหละดีแล้ว กรูจะได้ซื้อเสียงได้ง่าย ระบบอุปถัมภ์ยังต้องมีอยู่ต่อไป" จากคุณ : กระเฉด เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:28:25

ความคิดเห็นที่ 81 ดูข่าวนี้ตอนเช้า (เรื่องเล่าเช้านี้) ร้องไห้ตอนคุณลุงชุดส้มเอามือปาดน้ำตา พูดไม่ออก รู้สึกจุก ข้าวก็โคตะระแพง แต่ชาวนาลำบาก - -" จากคุณ : poope12 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:41:39

ความคิดเห็นที่ 82 ได้ดูข่าว ชาวนาพูดว่า "ไม่อยากให้แม่โพสพจมน้ำ" โอ้ว น้ำตาซึมเลย ทำไมบ้านเราไม่ยกย่องชาวนาเป็นชนชั้นสูงเหมือนญี่ปุ่นบ้างนะ YoY จากคุณ : cm_pn เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:42:20

ความคิดเห็นที่ 83   ตอบความเห็นข้อ 54 ครับ ที่สมัยทักษิน ราคาข้าวเปลือกสูงก็มีอยู่สองสาเหตุ 1 เพราะว่ารัฐบาลชุดนั้น ประกาศรับจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาดมาก ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นก็คือ ชาวนาเอาข้าวไปขายรัฐ จนโรงสีไม่มีข้าวสี ผลที่ตามมาก็คือ ต่างชาติชลอการซื้อข้าวเพราะคิดว่าอย่างไรก็ตามรัฐบาลจะต้องเอาข้าวที่รับจำนำไปออกมาปล่อยราคาถูกๆในตลาดแน่นอน เพราะยิ่งเก็บข้าวไว้นาน ค่าเช่าพื้นที่ค่าดูแลรักษาก็มากขึ้นตามไปด้วย สุดท้าย รัฐบาลก็ปล่อยข้าวออกมาราคาถูกตามที่ต่างชาติคาดการณ์ไว้ โดยส่วนที่ขาดทุนหลายหมื่นล้านนั้น รัฐบาลก็เอาเงินภาษีของประชาชนไปอุ้มไว้ 2. แต่ถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2550 ถึงต้นปี 2551 ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นส่วนหนึง มาจากที่พายุเข้าเวียดนาม และอินเดียก็ประกาศห้ามส่งออกข้าว ทำให้ผลพลอยได้ตกลงมาที่ไทย ความจริงการขาดแคลนในช่วงนั้นราคาจริงไม่ควรสูงขนาดนั้นด้วยซ้ำ ที่สูงขึ้นมากเกินความเป็นจริงก็เนื่องจากมีการปั่นราคาในตลาดล่วงหน้าที่อเมริกาด้วย พวกโบรกเกอร์ต่างชาติ มาซื้อข้าวจากผู้ส่งออกไทยด้วยราคาอ่อยเหยื่อที่สูงกว่าตลาดจริงประมาณ 10-20 USD ต่อตัน แต่ให้ส่งมอบหลังจากสัญญาประมาณ 5-6 เดือน ระหว่างนั้นทางโบรกเกอร์ต่างชาติก็พยายามปั่นราคาในตลาดโลกให้สูงขึ้น จนสุดท้ายราคาตอนส่งมอบสูงกว่าเดิมถึง 300-400 USD ต่อตัน ปีนี่นผู้ส่งออกเจ๊งกันเป็นแถบ เนื่องจากไม่สามรถส่งมอบสินค้าได้จนต้องต่อรองขอทำการล้างสัญญา โดยต้องจ่ายชดเชยให้ต่างชาติ 60-100 USD ต่อตัน ที่เป็นเช่นนี้ต้องเข้าใจว่า แม้ไทยจะเป้นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก แต่ราคาและการซื้อขายในตลาดโลกถูกควบคุมโดย โบรคเกอร์รายใหญ่ที่อยู่ใน สวิสซอร์แลนด์ อเมริกา อังกฤษ อินเดีย และ ฝรั่งเศส ที่มีอยู่ไม่เกิน 20 บริษัทเท่านั้น ความจริงวิธีแก้ไขที่ดีนั้นควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดมากกว่าที่จะเอาเงินภาษีไปอุ้มเพราะการอุ้มแบบนั้นในระหว่างกระบวนการจะเอื้อให้มีการคอรับชันมาก สิ่งเดียวที่รัฐบาลควรทำก็คือพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีผลผลิตต่อหน่วยที่สูงขึ้น และ ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ชาวนา แต่ก็อย่างว่าแหละ วิธีหลังนี้คอรับชันกันลำบาก จึงไม่มีรัฐบาลไหนอยากทำ คำว่าน่าสงสารแล้วต้องคอยช่วยอยู่ตลอดเวลานั้นไม่ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นหรอกครับ ต้องทำให้ชาวนาสามารถยืนด้วยตัวเองให้ได้ ความจริงแล้วสมัยก่อนชาวนาแต่ละท้องที่ก็มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่เนื่องจากการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์อย่างต่อเนื่องและไม่บริหารเงินให้ดีเช่น การพนัน เหล้า รถ เหล่านี้ทำให้สุดท้ายต้องขายที่กิน พอขายที่แล้วก็ไม่ได้เตรียมตัวไว้ว่าจะไปทำอาชีพอะไร ก็เลยต้องไปเช่าที่ทำนาจากคนที่ตัวเองขายที่ไป จากคุณ : ขอแจมด้วย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:47:20 A:58.11.65.248 X: TicketID:286993

ความคิดเห็นที่ 84   ตอบความเห็นข้อ 54 ครับ ที่สมัยทักษิน ราคาข้าวเปลือกสูงก็มีอยู่สองสาเหตุ 1 เพราะว่ารัฐบาลชุดนั้น ประกาศรับจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาดมาก ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นก็คือ ชาวนาเอาข้าวไปขายรัฐ จนโรงสีไม่มีข้าวสี ผลที่ตามมาก็คือ ต่างชาติชลอการซื้อข้าวเพราะคิดว่าอย่างไรก็ตามรัฐบาลจะต้องเอาข้าวที่รับจำนำไปออกมาปล่อยราคาถูกๆในตลาดแน่นอน เพราะยิ่งเก็บข้าวไว้นาน ค่าเช่าพื้นที่ค่าดูแลรักษาก็มากขึ้นตามไปด้วย สุดท้าย รัฐบาลก็ปล่อยข้าวออกมาราคาถูกตามที่ต่างชาติคาดการณ์ไว้ โดยส่วนที่ขาดทุนหลายหมื่นล้านนั้น รัฐบาลก็เอาเงินภาษีของประชาชนไปอุ้มไว้ 2. แต่ถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2550 ถึงต้นปี 2551 ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นส่วนหนึง มาจากที่พายุเข้าเวียดนาม และอินเดียก็ประกาศห้ามส่งออกข้าว ทำให้ผลพลอยได้ตกลงมาที่ไทย ความจริงการขาดแคลนในช่วงนั้นราคาจริงไม่ควรสูงขนาดนั้นด้วยซ้ำ ที่สูงขึ้นมากเกินความเป็นจริงก็เนื่องจากมีการปั่นราคาในตลาดล่วงหน้าที่อเมริกาด้วย พวกโบรกเกอร์ต่างชาติ มาซื้อข้าวจากผู้ส่งออกไทยด้วยราคาอ่อยเหยื่อที่สูงกว่าตลาดจริงประมาณ 10-20 USD ต่อตัน แต่ให้ส่งมอบหลังจากสัญญาประมาณ 5-6 เดือน ระหว่างนั้นทางโบรกเกอร์ต่างชาติก็พยายามปั่นราคาในตลาดโลกให้สูงขึ้น จนสุดท้ายราคาตอนส่งมอบสูงกว่าเดิมถึง 300-400 USD ต่อตัน ปีนี่นผู้ส่งออกเจ๊งกันเป็นแถบ เนื่องจากไม่สามรถส่งมอบสินค้าได้จนต้องต่อรองขอทำการล้างสัญญา โดยต้องจ่ายชดเชยให้ต่างชาติ 60-100 USD ต่อตัน ที่เป็นเช่นนี้ต้องเข้าใจว่า แม้ไทยจะเป้นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก แต่ราคาและการซื้อขายในตลาดโลกถูกควบคุมโดย โบรคเกอร์รายใหญ่ที่อยู่ใน สวิสซอร์แลนด์ อเมริกา อังกฤษ อินเดีย และ ฝรั่งเศส ที่มีอยู่ไม่เกิน 20 บริษัทเท่านั้น ความจริงวิธีแก้ไขที่ดีนั้นควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดมากกว่าที่จะเอาเงินภาษีไปอุ้มเพราะการอุ้มแบบนั้นในระหว่างกระบวนการจะเอื้อให้มีการคอรับชันมาก สิ่งเดียวที่รัฐบาลควรทำก็คือพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีผลผลิตต่อหน่วยที่สูงขึ้น และ ให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ชาวนา แต่ก็อย่างว่าแหละ วิธีหลังนี้คอรับชันกันลำบาก จึงไม่มีรัฐบาลไหนอยากทำ คำว่าน่าสงสารแล้วต้องคอยช่วยอยู่ตลอดเวลานั้นไม่ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้นหรอกครับ ต้องทำให้ชาวนาสามารถยืนด้วยตัวเองให้ได้ ความจริงแล้วสมัยก่อนชาวนาแต่ละท้องที่ก็มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่เนื่องจากการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์อย่างต่อเนื่องและไม่บริหารเงินให้ดีเช่น การพนัน เหล้า รถ เหล่านี้ทำให้สุดท้ายต้องขายที่กิน พอขายที่แล้วก็ไม่ได้เตรียมตัวไว้ว่าจะไปทำอาชีพอะไร ก็เลยต้องไปเช่าที่ทำนาจากคนที่ตัวเองขายที่ไป จากคุณ : ขอแจมด้วย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:47:43 A:58.11.65.248 X: TicketID:286993

ความคิดเห็นที่ 85   เจอปัญหาแล้วก็คิดหาวิธีช่วยชาวนาไทยดีกว่าไหมครับ ดีกว่าจะมากระแนะกระแหนกันแล้วก็มองหาแพะ พวกคุณเธอๆทั้งหลายเถียงกันไปชีวิตชาวนาไทยก็ไม่ดีขึ้นหรอกครับ จากคุณ : นะจ๊ะ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 16:49:46 A:114.128.134.225 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 86 ราคาข้าวของชาวนา ที่จริงควรจะพุ่งให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงได้แล้วครับ ไหนจะค่าไถที่ (2-3 รอบ) + ค่าเมล็ดพันธุ์เพาะกล้า (บางเจ้า) + ค่าสูบน้ำ(ค่าน้ำมัน) + ค่าจ้างคนหว่าน/ดำ + ค่าปุ๋ย + ค่ายาฆ่าแมลง + ค่าจ้างคนเกี่ยว + ค่าจ้างคนแบก + ค่าจ้างตัวเอง ขายได้กิโลละไม่เกิน 15 บาท (ถือว่าบุญโขแล้ว) สมมติว่า 1 ไร่ ทำได้ 400 กก. เงินได้ = 6,000 บาท/ไร่ แต่ต้นทุน เท่าไหร่ กำไรอย่างนั้นหรือ...... เมื่อไหร่ รัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างจริงจังซะที คนที่ทำงานหนักที่สุด ทำไมต้องกลายเป็นคนที่จนที่สุดด้วย RIP! จากคุณ : Invisiblesane เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 17:09:15

ความคิดเห็นที่ 87 จังหวะนี้แหละ พวกพ่อค้าคนกลาง ห้างร้านต่างๆ จะแอบขึ้นราคาข้าวสารถุง ขอให้กระทรวงพาณิชย์ควบคุมราคาข้าวสารถุงตอนนี้ และตรวจสอบอย่าให้คนพวกนี้กักตุนข้าวสารถุงด้วย จากคุณ : จอมโจรแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 17:18:08

ความคิดเห็นที่ 88   เมื่อเช้่าก็ดู สงสารชาวนาจริงๆ ข้าวเกวียนละสองพัน แต่คนเมืองดูหนังทีละห้าร้อย ดูคอนเสิร์ททีละหมื่น อาบอบนวดทีละห้าพัน นับวันช่วงห่างระหว่างคนเมืองกับคนชนบท คนรวยกับคนจนจะห่างกันมากขึ้นๆๆๆๆๆๆ มันไม่ได้เกิดเพราะรัฐบาลนี้อย่างเดียว แต่มันเกิดจากแผนพัฒนาชาติที่ผิดพลาดมาห้าสิบปี เมื่อไหร่ชาวนาไทยจะยืดอกได้อย่างอเมริกา ญี่ปุ่นบ้าง จากคุณ : มีบัตร - ผ่าน เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 17:18:31 A:10.200.62.99 X:202.28.35.3 TicketID:271027

ความคิดเห็นที่ 89 ชาวนาทำไรก็ผิดหมดหล่ะ(เพราะก- รูมันจน) หน้าแล้งห้ามทำนา หน้าฝน ห้ามทำนา   ไม่ได้โทษรัฐบาลว่าไม่ยืนมือเข้ามาช่วยคนจน เพราะที่ผ่านๆมาก็เห็นๆอยู่ว่าช่วยแต่คนระดับกลางขึ้นไป จากคุณ : รักคนธรรมดา (รักคนธรรมดา) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 17:59:55

ความคิดเห็นที่ 90 แล้งก็แล้งกันทุกปี น้ำท่วมก็ท่วมกันทุกปี น่าสงสารชาวนาจัง จากคุณ : TrojanTHM เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 18:09:14

ความคิดเห็นที่ 91 ประเทศไทย ส่งออก ข้าวเป็น อันดับ ๑ ของโลก แต่ชาวนาก็ยัง ยากจนเหมือนเดิม เพราะ ไทย ส่งออกข้าวได้เงิน ปีล่ะประมาณ หนึ่ง แสน ล้าน บาท ชาวนาไทย มีกี่คน ผมไม่ค่อย แน่ใจ ตีว่ามีสักล้านคนแล้วกัน (ความจริง คงมากกว่านี้) หารกันกี่ได้ปีล่ะแสน ยังไม่หักต้นทุน ค่าปุ๋ย ค่าน้ำมัน ค่าโรงสี ค่านั้นๆนี่ๆ แล้วมันจะพอกินได้ยังไง จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 18:13:53

ความคิดเห็นที่ 92 เมื่อคืนดูรายการกระบี่มือหนึ่งของทีวีบูรพา เห็นโฆษณาโครงการเกี่ยวกับช่วยชาวนาเลยลองไปหาข้อมูลเจอ ถ้อยแถลง “เครือข่ายคนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา” เครือข่าย คนกินข้าวเกื้อกูลชาวนา คือ ข่ายแห่งความเกื้อกูล ผูกพัน ระหว่างคนปลูกข้าวกับคนกินข้าว ก่อตั้งขึ้น โดย บริษัททีวีบูรพา จำกัด ผู้ผลิตรายการสารคดี คนค้นฅน และกบนอกกะลา ร่วมกับ กลุ่มชาวนาคุณธรรม จาก 4 จังหวัด คือ ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร และ อุบลราชธานี มีเจตนารมณ์ชัดแจ้งในการ สร้างสังคมแห่งการเกื้อกูล และการผูกเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างชาวนากับคนกินข้าว ให้เป็นมากกว่า “ผู้ผลิต” กับ “ ผู้บริโภค ” เป็นมากกว่า “ คนขายข้าว” กับ “คนซื้อข้าว ” แต่เป็นการประสานมือและใจร่วมกัน ระหว่าง “คนปลูกข้าว กับ คนกินข้าว” เพื่อสร้างสังคมกัลยาณมิตร บนความเกื้อกูลซึ่งกันและกัน... ประมาณว่าสมาชิกสามารถสั่งซื้อข้าวจากกลุ่มชาวนาได้โดยตรง โดยข้าวนี้เป็นข้าวที่มีคุณภาพจากกลุ่มชาวนาเกษตรอินทรีย์ อ่านดูแบบเร็วๆ นะคะ ยังไงลองเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tvburabha.com/invisionboard/upload/index.php?showtopic=13792 เราช่วยอะไรชาวนาโดยตรงไม่ได้ ทำแบบนี้อาจจะพอช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาบ้าง สักนิดหน่อยคนละไม้ละมือก็ยังดีค่ะ จากคุณ : absolutelyme เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 18:38:57

ความคิดเห็นที่ 93 นี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมกินข้าวแบบกินทิ้งกินขว้าง เพื่อให้ชาวนาได้ขายข้าวได้เยอะๆ อย่างน้อยก็ผมคนหนึ่งละที่กิน 1 ทิ้ง 1 จากคุณ : กัดจัง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 18:58:17

ความคิดเห็นที่ 94 ดูการทำการเกษตรกรรมของต่างชาติ กลับมาดูตัวเอง  สงสารเหล่าเกษตรกรจริงๆนะ ทั้งๆที่เมืองเราเป็นแหล่งอู่ข้าว อู่น้ำของโลก แต่คุณภาพเกษตรกรอีกหลายคนทำไมถึงยังไม่ดีขึ้นละ ไม่เข้าใจ... จากคุณ : มาดามชะนี เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 18:58:25

ความคิดเห็นที่ 95 มีแต่คนโทษ นู้น โทษนี่ จะมีสักกี่คน ลงมาแก้ปัญหา ลงมาทำในสิ่งตนที่เห็นปัญหา ประเทศเรามีแต่คนเก่ง แต่คนที่่เสียสละทำงาน จะมีสักกี่คน จากคุณ : ILoveGunpla เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:06:52

ความคิดเห็นที่ 96 หึๆ ปัญหาเรื่องน้ำ จากคุณ : pipek (yukraider) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:07:13

ความคิดเห็นที่ 97   http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9689021/A9689021.html นี่ัมันสะท้อนอะไรบางอย่างไหม จากคุณ : อืมม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:09:32 A:114.128.134.225 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 98   http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9689021/A9689021.html นี่ัมันสะท้อนอะไรบางอย่างไหม ว่าประเทศไทยเป็นประเทศของคนทำงานด้วยปากอย่างเดียว จากคุณ : อืมม เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:10:19 A:114.128.134.225 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 99 วันไหนไม่มีข้าวกินก่อนละมั้งถึงจะช่วยเหลือชาวนาจริง ๆ จัง ๆ กันซักที เราอยู่ไกลบ้าน ซื้อข้าวที ถุงละ 5 กิโลเกือบ 800 บาท อยากรู้ว่าเงินถึงชาวนาไทยกี่บาท? เคยซื้อข้าวที่มาจากที่อื่นไม่ใช่ข้าวไทยกิน เพราะข้าวไทยที่นี่แพงมาก แต่รู้ไหมว่ามันไม่อร่อยยยยย ข้าวไทยดีที่สุดในโลก แต่ทำไมชาวนาไทยยังลำบากยากจน ไม่เข้าใจ ที่นี่เกษตรกรได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ถึงแม้ว่าราคาผลผลิตที่ออกมาจะมีต้นทุนสูงกว่า สินค้าที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่รัฐบาลเค้าก็ยังอัดเงินช่วยเหลือ เพราะเค้าเกรงว่าวันใด วันนึงหากประเทศอื่นไม่ส่งสินค้าเกษตรมาขาย หรือ  up ราคา คนในประเทศเป็นอันอดตายกันหมด ตอนนี้รัสเซียงดส่งออกเมล็ดธัญพืชถึงเกือบสิ้นปี เค้ากักไว้ให้คนในประเทศกินก่อน food crisis กำลังเป็นปัญหา ประเทศไหนที่มีศักยภาพผลิตสินค้าเกษตรได้น่าจะได้เปรียบด้วยซ้ำ แต่ชาวนาไทยส่วนใหญ่ยังลำบากยากจนไม่มีเปลี่ยนแปลง!? มัวจะไปเมืองแฟชั่น, เทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกกันอยู่ได้ วันไหนไม่มีข้าวกินแล้วจะรู้สึก แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 53 19:20:56 จากคุณ : beebah เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:15:25

ความคิดเห็นที่ 100 ต้องบอกว่า ชาวนาในแต่ละภาค ทำนาได้ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นชาวนาภาคกลาง ปทุม นนทบุรี น้ำเยอะ ทำนากันปีละ 3-4 ครั้ง แต่ชาวนาทางภาคอีสาน ทำนา 1 ครั้ง นอกจากบางที่ที่มีระบบชลประทานดี อาจจะทำนาปรังอีก 1 ครั้ง เป็น 2 ครั้ง  แจ้งให้ทราบค่ะ จากคุณ : วัง_เวียง เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:17:47

ความคิดเห็นที่ 101   วันนี้ผมกลับได้รับรู้อีกด้านหนึ่งของชาวนาที่ตรงข้ามกับจขกท.อย่างสิ้นเชิง เพื่อนร่วมงานผมเล่าว่าเมื่อวานต้องพาแม่ไปรพ.เพราะแพ้สารเคมี พอดีแม่เค้าเดินผ่านนาแปลงที่เจ้าของเพิ่งพ่นยาฆ่าหญ้า (พ่นตอนเช้า แม่เค้าเดินไปนาตอนเกือบเที่ยง) เลยเวียนหัวคลื่นไส้จนอาเจียนไม่หยุด ลูกหลานต้องพาส่งรพ.กันวุ่นวาย โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก จากคุณ : Furusato เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 19:28:47

ความคิดเห็นที่ 102 น่าสงสาร.. ประเทศไทย สั่งสอนกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ.. เป็นสิบเป็นร้อยปี... ก็จนและลำบากเหมือนเดิม.. จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 20:09:42

ความคิดเห็นที่ 103 ดูข่าวนี้เหมือนกัน ดูแล้วน้ำตาซึมเลย สงสารชาวนา จริง ๆ แล้วคนไทยก็กินข้าวกันทุกคน ทำไมชาวนาไม่รวย ในเมื่อข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย คนที่รวยเป็นพวกโรงสี พ่อค้าคนกลาง อยากให้ชาวนาไทยทุกคนรวยขึ้น ๆ จากคุณ : เบญจลักษณ์ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 20:34:11

ความคิดเห็นที่ 104 จะให้เมืองไทยเป็นคลังอาหารโลก โฮะ โฮะ  นโยบายหรู  ดูน่าใฝ่ฝัน โพด..... ผู้ผลิตยังเป็นหนี้บานเบอะแบบนี้   ใครจะมาผลิตอาหารใส่คลังให้คู้ณ.... ดูแลรากหญ้าให้ดีๆสิคะ....ตัวต้นจะได้แข็งแรง  ไม่ล้มง่าย จากคุณ : ข้ามห้องนะเนี่ยนะ (mame4dongs) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 20:38:11

ความคิดเห็นที่ 105 รัฐบาลมันอ่อน เพราะเอาพ่อค้ากับนักเลงมานั่งในสภา เอาคนจบอีกอย่างมาดูแลอีกอย่าง ไม่มีความรู้โดยตรง แล้วจะดูแลชาวนาได้ยังไง ! กี่ปีๆแก้ปัญหาไม่ได้ซักที กี่อย่างแล้ว ไม่แล้งก็น้ำท่วม ชาวนาจะเป็นหนี้ตายอยู่แล้ว ไม่เห็นมีอะไรพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย กี่รุ่นต่อกี่รุ่น แล้วเราจะโทษใคร ถ้าไม่ใช่คนที่มีอำนาจแต่ไม่ทำอะไรเลย.. โทษใคร ? แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 53 20:49:17 จากคุณ : sAilOvEnOk เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 20:48:03

ความคิดเห็นที่ 106 คุยในประเด็นเรื่องน้ำละกันนะครับ สงสัยไหมว่าทำไมพอหน้าแล้ง น้ำก็แล้งไม่พอปลูกข้าว หรือใช้สอย  แต่พอฤดูฝน น้ำก็ท่วมกันจัง ท่วมซ้ำซาก มันก็สมการง่ายๆ แหละครับ  น้ำที่ตกมาจากฟ้ามีมากกว่าความสามารถในการกักเก็บ ถามว่าทำไมกรมชลประทานถึงไม่กักเก็บน้ำให้มากเวลาฝนมาก จะได้เพียงพอในการใช้งานในฤดูแล้ง คำตอบก็คืออยากทำครับ แต่ไม่มีงบ  และในบางกรณีมีงบ  แต่ทำไม่ได้เพราะโดน NGOs ขวางทาง  ยกเสียงส่วนน้อยที่ได้รับผลกระทบขึ้นมา จนทำให้โครงการต้องชะลอการสร้าง หรือบางทีหาข้อตกลงไม่ได้ก็ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เช่นกัน การแก้ปัญหาน้ำในประเทศไทยมันต้องทำสองทางคู่ขนานกัน คือระยะยาวคือสร้างจิตสำนึกสาธารณะในการรักษาป่า และปลูกป่าทดแทน  รวมไปถึงรณรงค์ให้มีการขุดลอกคูคลอง และสร้างแอ่งเก็บน้ำชุมชนขึ้น เพื่อทำเป็นแก้มลิงในการเก็บกักน้ำในช่วงที่น้ำหลาก ในขณะที่การแก้ปัญหาระยะสั้น ที่เห็นผลได้เร็วนั่นก็คือการสร้างระบบชลประทานที่ดีและเหมาะสมกับพื้นที่เข้ามาแก้ปัญหา  เช่นฝายชะลอน้ำ, อ่างเก็บน้ำ และในบางพื้นที่ก็จำเป็นต้องมีเขื่อน   แต่ปัญหาที่ตามมาคือการสร้างสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ย่อมแลกมาด้วยการสูญเสียพื้นที่ป่า ซึ่งบางทีก็เป็นพื้นที่สำคัญ เช่นโซนห้วยขาแข้ง ซึ่งหากมีการสร้างเขื่อนตัวนี้ ก็จะช่วยเก็บกักน้ำได้มาก เนื่องจากในลำน้ำยม ยังไม่มีเขื่อนเก็บกักน้ำอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้น้ำที่ไหลบ่ามาทางเส้นนี้ ก็สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ลุ่มน้ำได้รวดเร็ว นั่นคือเหรียญสองด้านที่ยังเป็นปัญหาเรื้อรังกันมาจนถึงปัจจุบัน ยิ่งในยุคที่ NGOs มีบทบาทอย่างมาก ณ เวลานี้ ทำให้การสร้างเขื่อนขนาดใหญ่เพื่อเก็บกักน้ำเป็นไปได้ยากมาก จนถึงเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นฝากถามกลุ่ม NGOs หน่อยละกันครับ ว่าเวลาน้ำแล้ง น้ำท่วมแบบนี้ NGOs ทำอะไรบ้าง นอกจากออกนโยบายที่ทำไม่ได้ในโลกแห่งความเป็นจริงแบบนี้ จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 20:59:50

ความคิดเห็นที่ 107   สะดุดตาความเห็น 42 อยากทราบครับว่าชาวนาจังหวัดไหนครับทำนาต่อปีได้ถึง 4 ครั้ง เฉลี่ย 3 เดือนได้ผลผลิต อยากไปเห็นกับตาว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศ จากคุณ : ขอบคุณครับ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 21:29:40 A:183.89.160.133 X: TicketID:250645

ความคิดเห็นที่ 108 ผมเคยเห็นชาวนาที่ซื้อเบนซ์ด้วยเงินสดได้ แล้วผมก็เคยเห็นชาวนาที่ทำยังไงก็ไม่พอกิน ลูกหลานเลยต้องมาทำงานโรงงานเช่นกัน อย่าเถียงกันเลยครับ เอาเป็นว่าเลิกโทษกันแล้วช่วยกันคนละไม้คนละมือดีกว่า จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 21:29:49

ความคิดเห็นที่ 109 ส่วนประเด็นการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนานั้น จริงๆ ก็ไม่ยาก แต่มันติดที่กลุ่มพ่อค้าข้าว ส่วนใหญ่ก็ส่งตัวแทนเป็นลูกบ้าง หลานบ้าง ไปนั่งยกมืออยู่ในสภา  ดังนั้นเรื่องความช่วยเหลือที่ลงไปถึงชาวนาจริงๆ ก็เลยน้อย คนที่ร่ำรวยจากการขายข้าวตัวจริงก็คือเจ้าของโรงสี ซึ่งรับซื้อข้าวจากชาวนานี่แหละ เพราะพวกนี้ไม่มีความเสี่ยงอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะรัฐเข้ามาอุ้มเสมอ เนื่องจากเหตุผลด้านบน การแก้ปัญหาตรงนี้ต้องทำตามที่เจ้าสัว CP บอกครับ คือทฤษฎีสองสูง คือดันราคาสินค้าการเกษตรให้สูง ไม่ใช่กดให้ต่ำ เพราะเราเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก และตอนนี้ความต้องการข้าวในตลาดโลกก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการกดราคาข้าวให้ต่ำ จึงเป็นการซ้ำเติมชาวนา และทำลายแหล่งสร้างรายได้ของเราไปในตัว จากนั้นก็ปรับการทำนาของชาวนาให้เข้าสู่ระบบ นั่นก็คือประกันฐานะชาวนาไปเลย โดยให้มีบริษัทเข้ามาแบกรับความเสี่ยง โดยแบ่งพื้นที่เป็นโซนๆ ไปเลย ว่าโซนไหนให้ไร่เท่าไหร่  เจ้าของโรงสีก็เข้ามาตกลงเซ็นสัญญาตั้งแต่เริ่มเพาะปลูกเลย ว่าจะรับซื้อที่ไร่ละเท่าไหร่ โดยที่อาจจะมีเงื่อนไขว่าผลผลิตต่อไร่ต้องได้ประมาณไหนถึงจะผ่านเกณฑ์ ทีนี้ระหว่างทำนา ถ้าหากว่ามีน้ำท่วม ทางโรงสีก็รับความเสี่ยงไป ชาวนาก็ได้เงินไปแบบไม่ต้องเสี่ยง ซึ่งระบบนี้อาจจะได้เงินน้อยลง แต่แน่นอนกว่า ซึ่งน่าจะลดปัญหาชาวนาติดหนี้ ธกส.จนหัวโตได้ไม่ยาก  เพราะยังไงทางโรงสีก็ไปบีบให้รัฐช่วยในเชิงนโยบายได้อยู่แล้วในอนาคต  ไม่ใช่รอนอนกินอย่างเดียวแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ชาวนาไทยจะรอดตาย และลืมตาอ้าปากได้ ก็ต้องปรับใช้นโยบายสองสูงของเจ้าสัว CP เข้าช่วยครับ  ไม่งั้นก็จนและเสี่ยงกับปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอยู่จนตายรุ่นแล้วรุ่นเล่าแบบนี้ละครับ จากคุณ : Mr. Forever เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 21:34:14

ความคิดเห็นที่ 110   พูดถึงสองสูง ห้องเจๆเคยพูดเรื่องนี้ไว้เหมือนกันครับ ฟังหูไว้หูแล้วกันนะครับ จะเจ้าสัวซีพี คุณเดชา หรือคุณชัยพร ก็ตาม http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8440353/J8440353.html จากคุณ : นะ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 22:08:50 A:114.128.134.225 X: TicketID:228785

ความคิดเห็นที่ 111 CP จะรับความเสี่ยง เห็นจับเสือมือเปล่าตลอดกะคุมตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนเลี้ยงหมูมากกว่า จากคุณ : etorys เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 22:15:18

ความคิดเห็นที่ 112   ผมขอแย้งเรื่อง 2 สูงของ CP หน่อยนะครับ ถ้าหากทำเช่นนั้นจริง มันจะกลายเป็นเงินเฟ้อนะครับซึ่งจะไม่ทำให้ใครได้ประโยชน์ แล้วอีกอย่างหนึ่งเรื่องข้าวในตอนนี้ หากทำแบบสองสูงจริง ไม่เกิน 5 ปีแชมป์ส่งออกข้าวตกเป็นของเวียดนามแน่นอนครับ ตอนนี้ที่เรายังขายข้าวกันได้ หนึงคือเวียดนามผลิตไม่พอป้อนตลาดโลกครับ ทั้งๆที่เวียดนามได้ไปลงทุนการเพาะปลูกข้าวที่เขมรแล้วอนุญาตให้นำเข้าโดยไม่คิดภาษี เพื่อที่จะ Re-export โดยวัตถุประสงค์เพื่อให้เวียดนามได้กลายเป็น Hub แทนไทยครับ สองคือการที่รัฐรับข้าวเข้าคลังราคาสูงแต่ปล่อยออกขาดทุนในราคาต่ำโดยส่วนที่ขาดทุนก็คือภาษีที่เราจ่ายกันนั่นแหละครับ จึงทำให้ผู้ส่งออกสามารถส่งออกได้ เราต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าประเทศที่บริโภคข้าวเป็นหลักคือประเทศกำลังพัฒนาทั้งนั้น เค้าต้องการบริโภคของราคาถูกครับ ถ้าแพงมากพวกนั้นก็หันไปบริโภคพวกมันหรือเผือกแทน และถ้าจะกล่าวถึงข้าวหอมมะลิที่คนไทยเข้าใจกันว่าเป็นข้าวคุณภาพดีที่สุดในโลก ความจริงนั้นในระดับสากล เค้ายอมรับข้าวหอมบัสมาติของอินเดียครับว่าดีที่สุด แล้วในปีที่แล้วข้าวหอมมะลิดันแพงกว่าบัสมาติ แล้วแบบนี้จะไปสู้กับเค้าได้อย่างไร ส่วนเรื่องปัญหาข้าวราคาต่ำนั้นความจริงช่วงปลายปีที่แล้วทั้งรัฐบาลก็พยายามช่วยชาวนาเต็มที่แล้วครับ โดยปล่อยข่าวลวงออกมาว่าข้าวขาด และก็เจ้าสัวนั่นแหละครับที่ออกมาพูดซัพพอทข่าวลวงนั้น ผลที่เกิดขึ้นคือ โรงสีได้ซื้อข้าวเปลือกจำนวนมหาศาลกักตุนไว้เพื่อรอทำกำไร แต่ผลที่เกิดขึ้นคือ ข้าวไม่ได้ขาดแคลนจริงๆในตลาดโลก ทำให้ราคาร่วงกราว จนโรงสีแหกเข้าเนื้อกันไปตามๆกัน จะเรียกว่าสมน้ำหน้าดีเพราะโลภหรืออะไรก็ตาม แต่ตอนนั้นผู้รับทรัพย์ก็คือชาวนาครับ ความจริงแล้วนอกจากภาครัฐและราชการจะแทบไม่เคยช่วยพ่อค้าแล้ว แต่ละนโยบายที่ออกมาก็ค่อนข้างจะถ่วงด้วยซ้ำ สำหรับการค้าขายของแถบยุโรปหรืออเมริกาถ้าหากคนของเค้าถูกโกงรัฐบาลทุบโต๊ะกดดันให้รัฐบาลของประทศคู่ค้าจัดการบริษัทที่โกงทันที แต่ของไทยเรานั้นไม่เคยช่วยอะไรได้เลยครับ ดังนั้นผมว่าถ้ามองอย่างเป็นกลางๆ รัฐค่อนข้างจะช่วยรากหญ้าไว้เยอะแล้วครับถ้าเทียบกับพ่อค้าทั่วไป จากคุณ : ขอแจมด้วย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 22:24:47 A:58.11.65.248 X: TicketID:286993

ความคิดเห็นที่ 113 คนที่รวยที่สุดในประเทศไทยกับคนที่จนที่สุดในประเทศไทยทำอาชีพอยู่ในภาคเกษตรกรรมเหมือนกัน ทำไม gap มันเป็นถึงขนาดนั้น ? เพราะอะไร ? จากคุณ : Shinjitsu เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 22:36:38

ความคิดเห็นที่ 114 แปลกใจที่เมืองไทย ภูมิประเทศเอื้อต่อการเกษตรมากขนาดนี้ แต่ไม่ว่ารัฐบาลยุคไหนๆ ก็ไม่สนับสนุนอย่างเต็มที่ซะที ทำไมไม่อัดเทคโนโลยีแรงๆ เข้าไปช่วยมั่งน้า ไม่เข้าใจเลย จากคุณ : Xai เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 22:40:36

ความคิดเห็นที่ 115 ทู้นี้ทำให้ได้เห็นสันDานคนชั้นกลาง และคนกรุง ได้เป็นอย่างดี แบบนี้แหละมันถึงได้แบ่งสีตีกันไม่เลิก จากคุณ : เฮล (Dr.Hell) เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 22:50:27

ความคิดเห็นที่ 116   เมื่อวานเพิ่งอ่านมา ประเทศไทยส่งข้าวออกขายอันดับหนึ่งของโลกมาหลายปีแล้ว  แต่เขาวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการส่งออกข้าว ชาวนาได้รับผลตอบแทนเพียง 50 % ของมูลค่าที่ขายข้าวได้เท่านั้นเอง ความรวยมันไปอยู่ที่ใคร  ลองคิดดูหากคุณเป็นคนทำขนมขายชิ้นละ 5 บาท คนกินซื้อชิ้นละ 10 บาท ก็ยากจนทั้งคนผลิตและคนบริโภค คนกลางรวยเอาๆ จากคุณ : cubbie เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 23:07:40

ความคิดเห็นที่ 117   นั่งรถผ่านอีสานใต้ ทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา แห้งแล้ง แดดระยับ เลยจากทุ่งนา เจอโรงสีใหญ่มากๆ  ทั้งนั้น พอจะมองออกว่าฐานะของชาวนากับโรงสีต่างกันเพียงใด จากคุณ : cubbie เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 23:11:39

ความคิดเห็นที่ 118   ถ้าน้ำน้อย  ระบบชลประทานจะให้ความสำคัญกับปริมาณน้ำเพือ่อุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรก ชาวนาต้องงดทำนาปรัง ถ้าน้ำท่วมก็จะให้ความสำคัญกับพื้นที่เมืองและที่อยู่อาศัยก่อน ต้องระบายน้ำออกสู่ไร่นา วิถีชีวิตชาวนาจึงซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง เพราะการทำนาหลายครั้งคือการเพิ่มรายได้  สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้ว ถ้าชาวนาทำนาน้อย ข้าวแพง แต่เงินเดือนไม่ลด สำหรับชาวนา ถ้าทำนาน้อยเท่ากับถูกลดเงินเดือน จากคุณ : cubbie เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 23:19:46

ความคิดเห็นที่ 119   แม้ไม่ได้ดูข่าววันนี้....แต่ก็เห็นภาพข่าวน้ำท่วม มาเดือนนึงแล้ว ทุกครั้งที่ดู ก็ขอบคุณทุกครั้งที่บ้านเราไม่ได้ท่วมอย่างนั้น...น่าเห็นใจมาก เราในฐานะคนย่านสาทร ตั้งแต่เกิด แม้รถจะโค ตร ติดทุกวัน ....เรายังคิดทุกครั้งว่า... ถ้าเอางบแสนล้าน ที่จะทำ "รถไฟฟ้า"...ไปทำ "ระบบชลประทาน บริหารน้ำทั่วประเทศ" น่าจะดีกว่า จริงๆ ระบบชลประทาน น่าจะเป็นงบสำคัญที่สุด ของประเทศที่ราบลุ่มแม่น้ำอย่างเรา *** ตั้งแต่บรรพบุรุษของเราแล้วนะเนี่ย ไม่ใช่แค่ตอนนี้....เมื่อไรจะเริ่มซักกกกกที *** จากคุณ : มิมิ เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 23:31:24 A:110.168.84.40 X: TicketID:266891

ความคิดเห็นที่ 120 เจอข่าวชาวนาแล้วไปเจอข่าวรัฐบาลปรับปรุงทำเนียบตามฮวงจุ้ย ต้นปาล์มต้นละ ๕ ล้าน โอ้ว.......บ้านนี้เมืองนี้ จากคุณ : เจ้าหญิงแห่งMK เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 23:43:53

ความคิดเห็นที่ 121   คคห.79 ครับ ลองเสนอวิธีแก้ไขหน่อยสิครับ ผมว่าชาวนาเขาเตรียมการป้องกัน ได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้นแหละครับ ดูน้ำมาแต่ละครั้งสิครับ ท่วมสูงขนาดนั้น เอาไม่อยู่หรอกครับ ขนาดนาญาติผมบนที่ดอน(โคก )แก้ปัญหาทุกปี ว่างท่อขนาดใหญ่ก็แล้ว ทำคันนาให้ใหญ่ขึ้นก็แล้ว น้ำก็เซาะพังดินได้เหมือนเดิม นับประสาอะไรกับนาที่ลุ่มอย่างที่เป็นข่าว ลำพังชาวนาเอาไม่อยู่หรอก น้ำมาเยอะขนาดนั้น   เกิดภัยธรรมชาติที ชาวนาก็เป็นหนี้ที เกิดบ่อยๆกลายเป็นหนี้สะสม เพราะต้องกู้เงินเพื่อนำไปซื้อเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงไว้ใช้ในปีต่อไป โรคข้าว โรคคนเกิดใหม่อยู่เรื่อยๆ ลำบากมากครับ คนที่ทำนาแถวบ้านในปัจจุบัน อายุประมาณ 40 ขึ้น ส่วนมากจะเป็นคนแก่ ทำนาแบบดำนาไม่ไหว จะจ้างดำก็ไม่ไหวเพราะค่าจ้างแพง ก็ต้องหว่าน พอหว่านระยะห่างไม่คงที่ต้นหญ้าก็ขึ้นมาแทน ต้องตัดทิ้งอีก ผมเป็นคนถ่ายภาพความเสียหายของข้าวให้ชาวนาแถวหมู่บ้าน เพื่อส่งให้เกษตรอำเภอ  เห็นแล้วอนาถใจ ถ้าน้ำไม่ท่วม แมลงศัตรูพืชก็ลงกินต้นข้าว จนแห้งเหี่ยว  น่าสงสารมากครับ จากคุณ : เด็กขายพวงมาลัย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 53 23:46:39