 |
ความคิดเห็นที่ 57 |
|
ก่อนอื่น คงต้องทำความเข้าใจทีละ Part เพื่อให้เกิด "ความเข้าใจร่วม" ที่ตรงกันเสียก่อน
เพราะไม่งั้น ต่างคนต่างก็ยังยืนอยู่บนจุดยืนของตัวเอง มองปรากฎการณ์(การสปอยล์)ผ่านมุมมองของตัวเองเท่านั้น
ผมไม่มีความรู้มากมายพอจะถกเถียงได้ทุกประเด็น แต่ผมเคยเรียนกฎหมายลิขสิทธิมาบ้าง แม้จะไม่แตกฉาน แต่ก็พอจะมีความรู้ที่ได้รับจากอาจารย์
------------------------------------------------ ประเด็นที่ 1 : ความหมายของคำว่า Spoil ----------------------------------------------- อันนี้ผมให้ google แปลให้ โดยใช้การใส่คำค้นที่ว่า define: spoil (**การใส่ define: หน้าคำศัพท์ จะเป็นการค้นหาความหมาย) ได้ผลลัพธ์ว่า
1) botch: make a mess of, destroy or ruin; "I botched the dinner and we had to eat out"; "the pianist screwed up the difficult passage in
the second movement" 2) become unfit for consumption or use; "the meat must be eaten before it spoils" 3) corrupt: alter from the original 4) pamper: treat with excessive indulgence; "grandparents often pamper the children"; "Let's not mollycoddle our students!" 5) thwart: hinder or prevent (the efforts, plans, or desires) of; "What ultimately frustrated every challenger was Ruth's amazing September
surge"; "foil your opponent" 6) itch: have a strong desire or urge to do something; "She is itching to start the project"; "He is spoiling for a fight" 7) (usually plural) valuables taken by violence (especially in war); "to the victor belong the spoils of the enemy" 8) rape: destroy and strip of its possession; "The soldiers raped the beautiful country" 9) the act of spoiling something by causing damage to it; "her spoiling my dress was deliberate" 10) mar: make imperfect; "nothing marred her beauty" 11) the act of stripping and taking by force
ผมให้ความสนใจข้อ 3) corrupt: alter from the original ผมเอาภาษาอังกฤษงูๆปลาๆของผมแปล ได้ใจความว่า "ทำให้แตกต่างจากต้นฉบับ" alter : เปลี่ยน , แปลง , ดัดแปลง , แก้ไข , ผันแปร
ถ้าผมจะสรุปว่า คำว่า Spoil = การทำให้แตกต่างจากต้นฉบับ คงจะไม่ผิดเพี้ยนไปมากนัก
------------------------------------------------------------------- ประเด็นที่ 2 : การกระทำแบบใดที่เรียกว่า "ดัดแปลง แก้ไข" -------------------------------------------------------------------
ผมขอยกตัวบทจาก พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มานะครับ
มาตรา 4 วรรณกรรม - หมายความว่า งานนิพนธ์ที่ทำขึ้นทุกชนิด เช่น หนังสือ จุลสาร สิ่งเขียน สิ่งพิมพ์ ปาฐกถา เทศนา คำปราศัย สุนทรพจน์ และให้หมายความถึงโปรแกรม
คอมพิวเตอร์ด้วย
ทำซ้ำ - หมายความรวมถึง คัดลอกไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ เลียนแบบ ทำสำเนา ทำแม่พิมพ์ บันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกเสียงและภาพ จากต้นฉบับ จากสำเนา หรือ
จากการโฆษณา ในส่วนอันเป็นสาระสำคัญ ทั้งนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน สำหรับในส่วนที่เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้หมายความถึง คัดลอกหรือทำสำเนา
โปรแกรมคอมพิวเตอร์จากสื่บันทึกใด ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆในส่วนอันเป็นสาระสำคัญ โดยไม่มีลักษณะเป็นการจัดทำงานขึ้นใหม่ ทั้งนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
เผยแพร่ต่อสาธารณะชน - หมายความว่า ทำให้ปรากฎต่อสาธารณชน โดยการแสดง บรรยาย การสวด การบรรเลง การทำให้ปรากฎด้วยเสียงและหรือภาพ การก่อสร้าง
การจำหน่าย หรือโดยวิธีการอื่นใดซึ่งงานที่ได้จัดทำขึ้น
ดัดแปลง - หมายความว่า ทำซ้ำโดยเปลี่ยนรุปใหม่ ปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติม หรือจำลองงานต้นฉบับในส่วนอันเป็นสาระสำคัญโดยไม่มีลักษณะเป็นการจัดทำงานขึ้น
ใหม่ ทั้งนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน (1) ในส่วนที่เกี่ยวกับวรรณกรรม - ให้หมายความรวมถึง แปลวรรณกรรม เปลี่ยนรุปวรรณกรรมหรือรวบรวมวรรณกรรมโดยคัดเลือกและจัดลำดับใหม่
จากตัวบทที่ยกมาข้างต้น ผมพอจะสรุปได้ว่า
1. หนังสือการ์ตูนจัดเป็นสิ่งพิมพ์ หมายความรวมอยู่ในกลุ่มที่ถูกจำกัดความว่า "วรรณกรรม" 2. การดัดแปลงวรรณกรรม ให้รวมความหมายถึงการแปลด้วย ถ้าหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ถูกแปลจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาไทย ย่อมผิดตามมาตรา 4 เรื่องของการดัดแปลง เอางานแปลการตูนญี่ปุ่นลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ต่างๆ ย่อมผิดตามมาตรา 4 เรื่องของการเผยแพร่ต่อสาธารณชน
----------------------------------------------------- ประเด็น 3 : เรื่อง ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ -----------------------------------------------------
มาตรา 32 การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์และ
ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้ (1) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร (2) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท (3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น (4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น (5) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการ
พิจารณาดังกล่าว (6) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอนเพื่อประโยชน์ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร (7) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอนหรือทำบทสรุปโดยผู้สอนหรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้
ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร (8) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
หากอ้างอิงตามตัวบทที่ยกมา การแปลหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นเป็นภาษาไทยและนำออกเผยแพร่บนเว็บไซต์ต่างๆ ไม่เข้าข่ายในข้อ (1) ถึง (8)
ทีนี้ มีประเด็นที่จะต้องให้พิจารณาร่วมกันอีก คือ
มาตรา 33 การกล่าว คัด ลอก เลียน หรืออ้างอิงงานบางตอน ตามสมควรจากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมีการรับรู้ถึงความ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้ปฏิบัติ ตามมาตรา 32 วรรคหนึ่ง
การแปลการ์ตูนญี่ปุ่นออกเผยแพร่ ถือเป็นการ (1) วิจัยหรือศึกษางานนั้น หรือไม่? ผมพอจะเดาได้ว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ประเด็น 4 : การ์ตูนญี่ปุ่นที่ได้รับลิขสิทธิจากเจ้าของสิทธิที่ญี่ปุ่น แต่ยังมิได้เผยแพร่ ตีพิมพ์ จำหน่าย ในประเทศไทย หากนำตอนล่วงหน้ามาแปล และเผยแพร่ ผิดลิขสิทธิหรือไม่? -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตรงนี้หละครับที่เป็นปัญหา ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับวงการแปลและสปอยล์เท่าไร แต่ก็พอจะเห็นผู้ที่นำงานแปลมาเผยแพร่ และบอกว่า หากตอนในไทยไล่ทันสปอยล์แล้ว ให้ลบกระทู้ทิ้ง (จำไม่ได้ว่าจริงๆแล้วมันเต็มๆขนาดไหน แต่ก็คร่าวๆก็ประมาณี้)
ผมขอแสดงความคิดเห็นไว้ว่า การ์ตูนรายสัปดาห์ในประเทศไทยที่ได้รับสิทธิจากเจ้าของสิทธิที่ญี่ปุ่นให้ตีพิมพ์ เผยแพร่ในประเทศไทย ย่อมได้รับสิทธิคุ้มครองเทียบเท่าการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ตีพิมพ์
เผยแพร่ที่ญี่ปุ่นเช่นกัน
เหตุผล : การขอลิขสิทธิการ์ตูน ย่อมเซ็นสัญญาขอสิทธิทั้งเรื่อง ย่อมได้สิทธิคุ้มครองทั้งเรื่อง จะอ้างว่า การ์ตูนเรื่อง AA ตอนที่ 128 ในประเทศยังไม่มีการตีพิมพ์ ย่อมไม่ใช่เหตุที่จะให้ผู้อื่นแปลและเผยแพร่ได้ล่วงหน้า เพราะ ผู้ได้สิทธิแปลและเผยแพร่การ์ตูนเรื่อง AA ทุกตอนในประเทศไทย คือ สำนักพิมพ์
ไม่ใช่เราๆ ท่านๆ อย่างแน่นอน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ประเด็นที่ 5 : แล้วแบบไหน ถึงจะเรียกได้ว่า พูดคุย ถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์ ออกความคิดเห็น เกี่ยวกับการ์ตูนได้โดยไม่กระทบลิขสิทธิ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตรงนี้ ต่างคนก็มองต่างมุม คนนึงคิดว่า "ลงเนื้อเรื่องเท่านี้คงไม่เป็นไร" อีกคนก็คิด "ลงเพิ่มต่อจากคนที่แล้วอีกหน่อย คงไม่เป็นไร"
ไปๆมาๆ มันก็จะกลายเป็นทั้งหมดของตอนนั้นอยู่ดีหละครับ
อันนี้ความคิดของผมเองนะ
ผมรู้อยู่แล้วว่าทุกท่านล้วนมีความรู้ความเข้าใจว่า การติชม การวิพากษ์ วิจารณ์ มันมีขอบเขตตรงไหน อย่างไหนถึงจะพอเหมาะพอดี เพียงแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจได้ว่า ความพอดีมันอยู่ตรงไหน
ถ้าจะให้ผมบังอาจเสนอข้อคิดเห็น
ผมเสนอให้หยุดการแปลงานจากการ์ตูนญี่ปุ่นลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ ถึงจะหมดปัญหาเรื่องที่ว่า ละเมิด/ไม่ละเมิด เอาให้ชัวร์ จะดีที่สุดครับ
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของท่านผู้แปลและเผยแพร่เอง หากวันใดเกิดเจ้าของสิทธิฟ้องร้องขึ้นมา มันคงไม่ใช่เรื่องสนุกเท่าไรในการขึ้นศาล กฎหมายลิขสิทธิ เป็นกฎหมายแพ่ง ไม่มีโทษจำคุกก็จริง แต่ค่าปรับก็หนักหนาสาหัสอยู่พอสมควรแหละครับ
----------------------------------------------------------------------------- ประเด็นที่ 6 : การลงสปอยล์จะช่วยกระตุ้นยอดขาย หรือ ลดยอดขาย -----------------------------------------------------------------------------
อันนี้หลายคนก็มองกันต่างมุม
แต่ ... ประเด็นนี้จะไม่เป็นที่กระจ่างเลยหากยังไม่มีงานวิจัยที่ชัดเจน เชื่อถือได้ มาเป็นหลักฐานว่า "การลงสปอยล์ ช่วยเพิ่ม/ลด ยอดขายหนังสือลิขสิทธิ"
เมื่อไม่มีหลักฐาน การมานั่งเถียงกันในประเด็นนี้ จึงไม่มีความหมายสำหรับผม เพราะผมถือว่ามันอยู่นอกเหนือขอบเขตความรู้ความเข้าใจของผม ผมไม่กล้าฟันธง
และแน่นอน ประโยคข้างต้นแบบนี้ เอาไปใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลไม่ได้แน่ๆครับ
ท้ายนี้ ทั้งหมดทั้งปวง เป็นเพียงการเสนอความคิดเห็นในมุมมองของผม ผ่านกระบวนการเรียนการสอนวิชากฎหมายลิขสิทธิ ผ่านการคิดวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในมุมมองของผมแต่เพียงคนเดียว
อาจจะมีถูก มีผิด ก็ขอให้มันเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยนมุมมอง ข้อคิด ข้อมูล
เพียงแค่นั้น
ด้วยจิตคารวะ Azemag A.C. McDowell
จากคุณ |
:
Azemag A.C. McDowell
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ย. 53 11:35:58
A:203.131.212.34 X: TicketID:224308
|
|
|
|
 |