ความรู้กรณีศึกษา พระเอก ฟ. กับดาราสาว อ. (การตรวจดีเอ็นเอ สิทธิตามกม.ของเด็ก ฯลฯ)
|
|
ขอบอกว่าได้ดูการแถลงข่าวของคุณฟิล์มเมื่อคืน และได้ดูคุณแอนนี่ให้สัมภาษณ์ช่อง 3 เมื่อเช้าแล้ว เข้าใจทั้งสองฝ่าย และขออวยพรให้เรื่องจบลงด้วยดีนะครับ โดยเฉพาะน้องน้อยที่กำลังเป็นไข้อยู่ ลุงขอให้หนูหายเร็วๆนะเด็กน้อย
กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาที่ดีในหลายๆเรื่องที่ผมเห็นว่ามีคนตอบกระทู้กันไปคนละทางสองทาง จึงคิดว่าหากเอาข้อมูลทางกฎหมายมาแบ่งปัน น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆเฉลิมไทยได้บ้าง จึงขออนุญาตแชร์ให้เพื่อนๆอ่านนะครับ
1. เด็กที่เกิดมาโดยพ่อแม่มิได้จดทะเบียนสมรส ใครมีสิทธิ์ในตัวเด็ก กรณีเคสคุณแอน หรือคุณเอ หรือคุณแวร์โซว รวมทั้งเพื่อนผู้หญิงผมหลายคนก็เคยเจอปัญหานี้
- ตามกฎหมายประเทศไทย แม่มีสิทธิในตัวเด็ก 100% ครับ พ่อไม่มีเลย เท่ากับศูนย์ หลายคนอาจเถียงว่า "ก็ไม่เคยสนใจพ่ออยู่แล้ว เลี้ยงเองได้" แต่มันเป็นไปได้ครับที่กรณีพ่อสำนึกเสียใจทีหลัง เพราะเห็นหน้าลูกในหลายปีให้หลังแล้วเกิดรักขึ้นมา หรือว่าแต่งงานไปกับหญิงอื่นแล้วไม่มีทายาท อยากจะหวนกลับมา "ทวงสิทธิ์"ในตัวลูก ขอบอกว่าตามกฎหมายไทยแล้ว พ่อไม่มีสิทธิ์นั้นแล้วครับ ต้องฟ้องร้องต่อศาลเอา - พ่อฟ้องร้องขอสิทธิในตัวบุตรภายหลัง ด้วยการ "จดทะเบียนรับรองบุตร"ครับ แต่ "แม่ต้องยินยอม" สมมติติ๊งต่างว่าคุณแวร์ คุณเอ คุณแอนเจอเคสพ่อน้องกลับใจ อยากได้ลูกขึ้นมา ขอสิทธิ์ในตัวลูก กฎหมายไทยระบุว่าถ้าเด็กอยู่ในวัยไร้เดียงสา.. "เด็กยอม แต่แม่ไม่ยินยอม พ่อก็ไม่มีสิทธิ์" ยกเว้นบุตรนั้นพ้นวัยไร้เดียงสาแล้ว (ในตัวกฎหมายไม่ระบุอายุ ผมเลยเดาว่าน่าจะบรรลุนิติภาวะตามกฎหมายนะครับ วอนผู้รู้เพิ่มเติมแก้ไขให้ผมด้วยนะครับ)
2. แล้วตอนคลอด จำเป็นต้องใส่ชื่อพ่อในสูติบัตรไหม ถ้าไม่ใส่จะเป็นไรไหม / นามสกุลล่ะใช้ของใคร - ไม่ใส่ก็ได้เลยครับ โหว่ไว้แบบนั้นแหละ ไม่เป็นไร แต่ในแง่กฎหมายจะมีปัญหาเรื่องหลักฐานพยานประกอบในการที่แม่จะร้องขอการรับรองบุตร หรือค่าเลี้ยงดูจากฝ่ายชาย - เรื่องนามสกุล กฎหมายไทยล่าสุดให้โอกาสคุณแม่เลือกได้ว่าจะใช้นามสกุลแม่ก็ได้ ดังนั้นน้องน้อยของคุณแอนอาจใช้นามสกุลของคุณฟิล์มก็ได้หรือใช้ของคุณแอนก็ได้ แต่ถ้าเลือกใช้นามสกุลพ่อ และ "พ่อรับรู้ ไม่มีการค้านว่าห้ามใช้" ถือเป็นหลักฐานที่มีส่วนช่วยให้แม่เรียกร้องในการรับรองบุตรหรือค่าเลี้ยงดูได้ นอกเหนือจากดีเอ็นเอ
3. แล้วเด็กน้อยที่กำเนิดโดยพ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เรียกว่าอะไร อันนี้เป็นความเจ็บปวดของเด็ก วอนพี่น้องโปรดคิดเยอะๆก่อนจะก่อให้เกิดแผลทางใจแก่เด็กนะครับ
- เด็กที่เกิดมาตอนพ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนกัน เรียกว่า "บุตรนอกสมรส" แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็น "บุตรที่มิชอบด้วยกฎหมาย" - บุตรนอกสมรสอาจเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายได้ ถ้าฝ่ายพ่อเด็ก "จดทะเบียนรับรองบุตร" ครับ แต่ถ้าฝ่ายชายหายหัว หรือไม่รับผิดชอบ(แบบที่หลายเคสเจอมา รวมทั้งคนใกล้ชิดผม ซึ่งมันเจ็บปวดมากๆ) เด็กคนนั้นจะเป็นทั้งบุตรนอกสมรสและบุตรที่มิชอบด้วยกฎหมาย
4. แล้วเด็กน้อย(บุตรนอกสมรส)จะกลายเป็น "บุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา"ได้ไหม - ได้ครับ มี 3 ประการ คือ 1.มีการฟ้องร้องต่อศาล จนศาลมีคำพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตร 2.บิดามารดาจดทะเบียนสมรสกันในภายหลัง หรือ 3.บิดาจดทะเบียนรับรองบุตร
ถ้าฝ่ายพ่อมีการรับรองโดยจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร เมื่อเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เด็กจึงเป็นทายาทโดยธรรม ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1629 ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น...(1) ผู้สืบสันดาน... เด็กจึงเป็นผู้สืบสันดานและเป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิรับมรดกของพ่อได้เมื่อพ่อตาย และมีสิทธิใช้นามสกุลของพ่อครับ
5. บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิ์มากกว่าบุตรที่มิชอบอย่างไร - มีสิทธิ์ได้รับค่าเลี้ยงดู - มีสิทธิ์ในมรดก - มีสิทธิ์ในค่าบำเหน็จ บำนาญตกทอดแก่ทายาท ฯลฯ ดังนั้น กรณีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พ่อเด็กไม่จดทะเบียนรับรองบุตร เด็กนั้นจะไม่ได้รับสิทธิ์อะไรเลยจากพ่อครับ
6. การขอตรวจดีเอ็นเอต้องร้องขอต่อศาลเท่านั้น - ไม่ต้องเลยครับ ทำได้ทุกขั้นตอนไม่ต้องรอให้มีคดีความ แต่ "ทั้งฝ่ายพ่อและแม่เด็กต้องยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย" เช่น กรณีคุณฟิล์มเขายอมตรวจดีเอ็นเอ แต่เมื่อเช้าคุณแอนไม่ยอม ก็จบครับ ตรวจไม่ได้ - การร้องขอต่อศาลบังคับให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้าตรวจดีเอ็นเอ "ทำไม่ได้" ครับ เว้นแต่อีกฝ่ายยินยอม ดังนั้น กรณีคุณเอ ถ้าจะให้ฝ่ายชายยอมรับ ไปร้องต่อศาลขอตรวจดีเอ็นเอก็ไม่ได้ถ้าผู้ชายไม่ยอมให้ตรวจ ต้องใช้วิธีพิสูจน์กันด้วยหลักฐานอื่นแทนดีเอ็นเอครับ (อันนี้ผมก็งงตึ้บว่าทำไมศาลไม่มีอำนาจ.....)
7. โอเค ไม่ต้องรับรองบุตรก็ได้ แต่แม่เด็กให้ลูกใช้นามสกุลฝ่ายชายได้ไหม? - การที่บุตรนอกสมรสเพียงแต่ได้ใช้นามสกุลของบิดายังไม่ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดา อย่างไรก็ตามการที่บิดาได้ยอมให้บุตรนอกสมรสใช้นามสกุลของบิดาจะเป็นเหตุแห่งการที่มารดาของเด็กจะฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายได้
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผมเข้าใจได้แล้วว่าทำไมฝ่ายชายของหลายๆเคสถึงไม่ยอมรับการดำรงอยู่ของเด็กเลย เพื่อป้องกันสาเหตุนี้นั่นเอง
ตอนนี้คิดออกแค่นี้ก่อนนะครับ
จากคุณ |
:
ผึ้งน้อยพเนจร
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.ย. 53 09:11:15
|
|
|
|