2. แกะรอยการเมือง : สังคม "วนิดา" กับรถถังถูกหวย!
โดย ประชา บูรพาวิถี จากเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 17 กันยายน 2553
4 ปี 19 กันยา สังคมไทยยังไม่ไปถึงไหน การรัฐประหารโดย "คณะทหาร" นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน กลายเป็นตลกคาเฟ่
เมื่อคนยึดอำนาจอย่าง "พล.อ.สนธิ" กระโดดเข้ามาเป็นประธานพรรคมาตุภูมิ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม "พรรคต่ำสิบ"
มิเพียงเท่านั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ทำได้แค่ "ผู้ประสานงาน" จัดตั้งรัฐบาลลูกผสมร้อยพ่อพันแม่
ผู้ที่โชคดี กลายเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ป้ายแดง ซึ่งสถานการณ์ความรุนแรงพัดพาให้เขามาถึงฝั่งฝันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เปรียบแล้ว นายทหารระดับหัวแถวที่ยึดอำนาจ เหมือนนักเสี่ยงโชคประเภท "รถถังถูกหวย" ได้อำนาจมาแล้วทำอะไรไม่เป็น
บังเอิญช่วงปี 2549 ว่า "ทักษิณ" มีอำนาจมากเกินไปจนประมาท และมิคาดคิดว่า "พวกหมวกแดงบ้านนอก" กับ "พวกทหารบูรพา" จะคิดการใหญ่!
สาเหตุที่ผลแห่งการรัฐประหารไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เนื่องจากการยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยา มีลักษณะพิเศษ แตกต่างกว่าทุกครั้ง เพราะเป็นความร่วมมือแบบ "ผ้าป่าสามัคคี" โค่นทักษิณ
พลันที่ได้อำนาจมาแล้ว ก็มีปัญหาการจัดสรรผลประโยชน์ไม่ลงตัว จึงทำให้ "คณะกรรมการผ้าป่า" ต้องแยกทางกันเดิน และแปรพักตร์ไปเป็นศัตรูก็มาก
แม้ว่ามองโดยภาพรวมการบริหารประเทศของ "คณะรถถังถูกหวย" จะล้มเหลว แต่พวกเขาก็นำพาสังคมไทยกลับไปสู่อดีตอย่างเหลือเชื่อ
มีสภาพละม้ายคล้ายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 อันเป็นสังคมที่มีอาการตกค้างทางประวัติศาสตร์ หรือที่เรียกว่า "กึ่งศักดินากึ่งทหาร"
ขอย้ำว่า มันเป็น "อาการตกค้าง" ที่แสดงออกในรูปการจิตสำนึก มิใช่สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่จริงทั้งหมด!
จึงทำให้นึกถึงละครสุดฮิตวิกสามพระรามสี่ เรื่อง "วนิดา" ซึ่งเป็นนิยายพาฝัน เมื่อ 61 ปีที่แล้ว
"วรรณสิริ" ผู้ประพันธ์นิยายเรื่องวนิดา มีชื่อจริงว่า หม่อมผิว สุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา อดีตครูภาษาไทย ที่มีใจรักงานเขียนหนังสือ โดยนิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์ในวารสารศัพท์ ราวปี 2482
นิยายเรื่องวนิดา ได้รับอิทธิพลมาจากนิยายพาฝันของอังกฤษเรื่อง "โชคมาวาสนาเกื้อ" (แปลเป็นไทยก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475)
โดยนิยายโรมานซ์เรื่องนี้สะท้อนภาพความรักของชนชั้นขุนนาง กับสามัญชนในช่วงปลายของระบอบศักดินาในยุโรป
วรรณสิริ จึงสร้างตัวละครจาก "ขุนนางไทย" เข้าไปแทนที่ "ขุนนางฝรั่ง" ได้อย่างลงตัว!
มันเป็นสูตรสำเร็จของนิยายพาฝัน จึงหนีไม่พ้นเรื่องรักสามเส้า ชิงรักหักสวาท โดยมีการวางพล็อตไว้หลวมๆ จึงทำให้คนเขียนบทหนัง บทละคร สามารถเติมรายละเอียดได้ง่าย
ด้วยเหตุนี้ "วนิดา" จึงมีการสร้างเป็นหนังใหญ่ และละครทีวีมาแล้วสองครั้ง ซึ่งได้รับความนิยมทั้งยุคของ
"หมิว-ตั้ว" และ "แอฟ-ติ๊ก"
การสถาปนา "อำนาจพิเศษ" ด้วยปากกระบอกปืน มันก็ไม่ต่างจากการสร้าง "พล็อตนิยาย" ไว้หลวมๆ โดยไม่ทิ้งแก่นของเรื่อง
ในการสร้างใหม่แต่ละครั้ง ก็สุดแท้แต่ "ผู้เขียนบท" หรือ "ผู้กำกับการแสดง" จะใส่รายละเอียดอะไรลงไป จะวางตัวละครแบบไหน
อย่างคราวที่แล้ว "บังธิ" รับบท พ.ต.ประจักษ์ มหศักดิ์ เป็นนายทหารอารมณ์ดี มีแฟนๆ แห่เอากุหลาบแดงไปมอบให้มากมาย รวมทั้ง "ผู้หญิงอย่างวนิดา"
พอนานวันไป แฟนๆ ก็รู้สึกผิดหวัง เพราะดูภายนอกเหมือนพวกลับ ลวง พราง มีความคิดความอ่าน แต่เอาเข้าจริงดัน "ต๊ะ ติ๊ง โหน่ง"!
ตราบใดที่สังคมไทยยังเป็น "สังคมวนิดา" คงได้เห็น "พระเอกใหม่" ในละครย้อนยุค...โปรดฟังอีกครั้ง!
ส่วนภาพลักษณ์พระเอกจะออกมาแบบไหน ย่อมขึ้นอยู่กับคนเขียนบท และผู้กำกับฯ!!
--จบ--
แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 53 14:03:01