ผมประทับใจคห.คุณแม่ท่านนี้มากๆ ครับ เรื่องฟ.กับอ.
อ่านแล้ว "พลันคิดได้"
ความคิดเห็นที่ 9
เรามีลูกชาย 4 คน เราสอนลูกเสมอว่าให้เกียรติผู้หญิง
ทำผู้หญิงเหมือนทำแม่ อย่าทำอะไรเมื่อเราไม่พร้อม
ที่จะรับผิดชอบ
ตอนนี้ลูกชายคนโตได้ 10 ขวบ แล้ว สอนลูกทุกวัน
โตมาอยากเห็นลูกเป็นคนดีของสังคม
ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
จะได้แค่ไหน ก็ดีกว่าคนเป็นแม่อย่างเราไม่ทำอะไรเลย
หรือเอาแต่สอนลูกสาวว่าให้รักนวลสงวนตัว แต่ในขณะที่
เราแทบจะไม่เคยสอนลูกชายเลย ว่าต้องให้เกียรติผู้หญิง
จากคุณ : แม่ลูกสี่
^
^
มันใช่เลยอ้ะครับคุณแม่ฯ
ผมจำได้ว่าเคยดูสกู๊ปสัมภาษณ์ดาราหนุ่มกับคุณพ่อเค้าอยู่ครั้งหนึ่ง
ขอโทษมากๆที่จำไม่ได้ว่าใคร..แต่เป็นเด็กหนุ่มอยู่เลย ประมาณนักร้องหรือไอด้อลน่ะครับ ยังไม่ถึงกับดังทะลุฟ้า แต่มีฉายาจอมเจ้าชู้ประมาณนั้น
รายการถ่ายวันสบายๆของเขากับคุณพ่อ แล้วคุณพ่อก็ออกท่าทาง(นอกหน้า) ว่าซี้กับลูกชายมากๆ ไปไหนไปกัน "ทิ้งแม่เค้าอยู่บ้านเลย" คุณพ่อบอก (ผมฟังคุณพ่อพูดแล้ว..อึ้ก.. อืมม์..พูดเหมือนคุณแม่ไม่สำคัญในชีวิตเลย)
แต่ที่อึ้กกว่าคือ...คุณพ่อพูดกับกล้องว่าลูกชายตัวเองสาวเยอะมาก "พ่อยังบอกเลย จีบสาวไม่ทันแบ่งมาให้พ่อบ้างก็ได้"
โอว...ผมไม่อยากเชื่อหู... ถามตัวเองในใจ..คุณพ่อเป็นพ่อคนเหมือนกัน พูดอะไรโดยไม่คิดได้ไง "สาวๆของลูกชาย"ที่พ่อว่า เค้าก็เป็นลูกสาวที่มีพ่อมีแม่เหมือนกันนะครับ
เมื่อคุณพ่อโพล่ง "ดูถูกผู้หญิง" ออกมาต่อหน้าลูกชายทุกวันๆ มันย่อมซึมซับความคิดด้านลบต่อลูกโดยไม่รู้ตัวจริงๆครับ ว่าการล่าผู้หญิงได้เยอะคือเท่โคด และพ่อซี้กับลูกชายมากจนผ่องถ่ายหญิงให้กันได้ (เป็นความคิดที่น่ารังเกียจจัง)
หลายปีก่อนนี้ ผมเคยเจอคุณแม่ท่านหนึ่งชื่นชมลูกชายให้ผมฟังว่าสาวๆโทรหาที่บ้านเพียบ โดยใช้ถ้อยคำค่อนข้างดูหมิ่น ประมาณว่าลูกของเธอมีแต่ผู้หญิงตื๊อเข้ามาหา แต่เขาไม่เอาใครเพราะ...
"ลูกชายเค้าบอกกับป้าว่า..ยี้..ผมไม่เอาหรอกแม่ ผู้หญิงพวกนั้นหน้ายังกะปลาจวด" แล้วคุณแม่ก็ทำสีหน้าภาคภูมิประมาณว่าลูกชายเธอช่างมีรสนิยมสูงซะนี่กระไร
ผมก็..อึ้กอีกรอบ...สิครับท่าน ที่ได้ยินเพศแม่ดูถูกเพศเดียวกันเอง เธอรักลูกชายของตนแต่เหยียดลูกสาวของคนอื่น
ใช่แล้วครับ...ผมเห็นด้วยกับคุณแม่ลูกสี่แล้วว่า...
เราคนไทยไม่ควรเอาแต่สอนลูกสาวเราให้ "รักนวลสงวนตัว" เพียงฝ่ายเดียว แต่ขณะเดียวกันกลับชื่นชมเวลาที่ลูกชายเราให้เป็น "คาสโนวา"
"ผู้หญิงมาแบให้เอา ไม่เอาได้ไงวะ ลูกผู้ชายเสียชาติเกิด"
"เป็นผู้ชายก็ต้องเจ้าชู้สิ ไม่เจ้าชู้ก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย"
"คบกับหญิงทั้งทีต้องมีได้ลูบได้คลำบ้าง ถ้าไม่ได้อะไรเลยจะโดนหาว่าเป็นไอ้หน้าโง่"
ฯลฯ
ถ้าพวกเรายังสอนลูกชายต่างจากลูกสาวอย่าง 2 มาตรฐานเช่นนี้ เรากำลังสอนให้ลูกสาวเราเป็นกวางแสนซื่อ แล้วส่งเสริมให้ลูกชายเป็นเสือร้ายแท้ๆ
ธรรมชาติของป่า กวางก็ย่อมต้องโดนเสือขม้ำอยู่ดี เพราะมันคือเสือ!
แล้วเราจะโทษผู้หญิงฝ่ายเดียวได้อย่างไรว่า "เพราะเธอง่ายเอง"
พ่อผมเจ้าชู้มหาศาล(เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีนะ) แต่พ่อผมจะสั่งสอนผมตั้งแต่เด็กเลยว่า ลูกผู้ชายที่แท้จริงห้าม "ทำ" ผู้หญิงที่อยู่ในสถานการณ์ 3 อย่างนี้
1. ผู้หญิงที่กำลังเมา (เพราะเค้าไม่มีสติ ย่อมไม่มีแรงจะต่อต้านขัดขืน หรือเพราะความเมาเลยทำให้เค้าขาดความยั้งคิดได้)
2. ผู้หญิงที่กำลังอ่อนแอ (เช่น เค้าอาจจะอ่อนแอทางกายด้วยอาการไข้ อาการป่วย หรืออ่อนแอทางใจ เช่น เพิ่งอกหัก เพิ่งสูญเสียอะไรมา ก็ห้ามทั้งนั้น เพราะเท่ากับเรากำลังเอาเปรียบเขาเห็นๆ)
3. ผู้หญิงที่หลงรักเรา (เพราะความรักที่เค้ามีต่อเรา จะทำให้เค้ายอมเราทุกอย่างแม้จะรู้ว่าเค้าต้องเสียใจทีหลังก็ตาม)
สุดท้าย ผมอยากขอร้องผู้หญิงที่ต่อว่าผู้หญิงใจง่าย ยอมเขาเองแล้วมาโวยวายทำไม
วันใดที่คุณมีลูกชาย ช่วยสอนเขาด้วยว่า... "อย่าทำกับผู้หญิงแบบนั้น แม่รู้แม่จะตบหัวทิ่ม"
ปูลู บ่นอะไรเนี่ยเรา.... แง้