'วนิดา ๒๔๙๑' ไม่ใช่ใครหรอกค่ะ.....
มารดาอิฉันเอง
(ใครคงไม่ว่าอิฉันเอาเรื่องพ่อแม่มาแฉนะคะ มันไม่ใช่เรื่องลี้ลับ)
มารดาแต่งงานอายุ ๒๓ บวกลบคูณหารแล้วก็ตกราวๆ ปีที่ว่านี่แหละที่มาอยู่ร่วมชายคากับบิดาอิฉัน
ตอนเด็กๆ อยากรู้จังเรื่องโรแมนติกของพ่อแม่....ก็เฝ้าถามว่าเจอกันได้ไง....รักกันตอนไหน
บลาๆๆ
ความจริงที่ได้ฟังในตอนเด็กไม่เข้าใจเลย (ว่าทำไมไม่เหมือนพระนางในภาพยนต์) แต่ ณ เวลานี้
เข้าใจแล้วค่ะ
มารดาอิฉันก็เหมือนหญิงสาวไทยสมัย ๖๐ ปีก่อนหรือมากกว่าแหละค่ะ แต่งงานด้วยความเห็นชอบ
ของผู้ใหญ่ ไม่ได้ปิ๊งกันด้วยการเดินชนตามมุมตึก หรือขับรถชนท้าย หรือไปเที่ยวงานวัดปิดทองลูกนิมิตร ฯลฯ
พ่อแม่เห็นสมควรก็จับคู่ให้เสียเลย....
ถามแม่ว่า "แล้วจะรักกันได้ไง"
แม่ตอบว่า "ผู้ใหญ่เขาบอกว่าอยู่กันไปก็รักกันเอง"
คนสมัยนี้คงเบ้หน้า ส่ายหัว....หนูมะอาวววว หนูจะหาเอง.....
แต่คิดถึงสภาพสังคมสมัยก่อนนะคะ หญิงสาวจะไม่ค่อยได้ออกไปเจอใครหรอก
เป็นลูกผู้หญิง "ต้องอยู่กับเหย้า เฝ้ากับเรือน" โบราณเขาระแวดระวังดีค่ะ
ดูเด็กสาวสมัยนี้สิ ออกบ้านตะลอนๆๆๆ เผลอแป๊บเดียวไม่รู้ท้องกับใคร
นอกจากนี้....หญิงสาวจะไปไหนมาไหนกับชายหนุ่มลำพังก็ไม่ได้อีก
อยู่กันในที่รโหฐาน (ไม่ใช่ที่มโหฬารนะคะ) สมัยก่อนเลิกทาสหรือนานกว่านั้น
ก็ถือว่าเป็นสามีภรรยากีนแล้ว (รีเสิร์ชมาจากเรื่อง "อำแดงเหมือนกับนายริด"
ภาพยนตร์ที่อิฉันชื่นชอบมาก) จะไปไหนกับชายต้องมีเพื่อนสาวหรือน้องไปเป็นกันชนเสมอ
ไม่งั้นมันจะไม่งาม
ต่อค่ะ....ดังนั้นนิยายรักโรแมนติกของหญิงสาวสมัย ๖๐ ปีก่อนเริ่มหลังจากแต่งงานค่ะ
แต่งแล้วค่อยมาเรียนรู้นิสัยใจคอกัน
ค่อยมาตกหลุมรักกันหลังจากเป็นสามีภรรยากันแล้ว (ผู้ใหญ่เขาดูให้แล้วค่ะ ว่านิสัยไปกันได้ ทั้งนี้สังคมโบราณๆ
ไม่ค่อยมีอะไรแปลกแหวกแนว แบบว่าเป็นเก้งเป็นกวาง อะไรแนวนี้ เลยดูง่ายค่ะ)
เล่าไปเล่ามาจะจบแล้ว...จากที่ว่าข้างบน...ทันที่ที่แต่งงานแล้ว หญิงสาวก็เลยมีความรู้สึกไปเรียบร้อยแล้วว่า
คนนี้แหละสามีชั้น คนที่ชั้นจะฝากชีวิตทั้งชีวิตไว้ให้ดูแลต่อจากพ่อแม่เมื่อท่านลาจากโลกนี้ไป
อาการเยี่ยงนี้คือสิ่งที่เกิดกับ 'วนิดา ๒๕๕๓' ตามที่เห็นในละครแหละค่ะ
หวังว่าคนที่ไม่ชอบพฤติกรรมวนิดา เอาไปเปรียบเทียบกับคนที่แย่งสามีคนอื่น
หรือเอาไปเปรียบกับภรรยาน้อย ฯลฯ
โปรดจงเปิดใจรับว่า นี่คือวิถีชีวิตที่ปกติของคนเมื่อ ๖๐ ปีก่อน....พ่อวนิดาได้พิจารณาแล้ว
ว่าประจักษ์นี่แหละคือคนี่ถูกต้องสำหรับลูกสาว (ขาดแต่แม่ฝ่ายชายไม่ยอมด้วย)
จบข่าวค่ะ
[ขอบคุณภาพจากกระทู้ข้างล่างค่ะ ลืมชื่อคนแค็ป] 