|
ความคิดเห็นที่ 24 |
ดาราไทย ที่พอจะมีเวลาว่างประมวลผลออกมาได้ดังนี้...
หน้าตาดี ทำให้พาตัวเองเข้ามาสู่สังเวียนของชื่อเสียง และเงินทองอย่างรวดเร็ว และยอดเงินไม่น้อย ยิ่งมีความสามารถด้วยแล้ว... ยิ่งพุ่งสูงปรี๊ด ทั้งชื่อทั้งเงิน
และถ้ายิ่งหน้าตานำโลด ความสามารถก็กลายเป็นเรื่องรองไปในบัดดล ร้องเพลงห่วยแตก ก็ยังยอดขายอันดับหนึ่ง... แถมฮิตติดชาร์ทไม่รู้จะกี่อาทิตย์ (ก็ให้ตรูฟังแต่เพลงนี้...)
มาจากไหน นามสกุลอะไรไม่มีใครสน แต่พอขึ้นแท่น นามสกุลก็ดังเป็นพลุแตก ประหนึ่งเป็นนามสกุลเก่าแก่มานานแสนนาน
การศึกษา เรียนไรมา ก็ไม่รุ? จบไม่จบ ไม่รุ เรียนไม่เรียนไม่รุ แต่พอขึ้นแท่น เรื่องนี้จะไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะถูกหน้าตา กะชื่อเสียงกลบแทบมิด แต่พอขึ้นแท่นสูงๆๆๆ เรื่องนี้จะถูกแคะคุ้ย ทำให้ได้รู้ว่า บ้างก็จบดีเกินหน้าตา, บ้างก็จบไรมาตามหน้าตาไม่ทัน...
ผลประโยชน์ของพวกที่เรียกตัวเองว่าดารา มากกว่าคำว่า นักแสดง นอกจากชื่อเสียงและเงินทองที่ตัวเองได้รับแล้ว... สิ่งหนึ่งที่ตามมาคือคำว่า ... "อภิสิทธิ์ชน"
ได้ของดีๆ ได้กินดีๆ ได้อยู่ที่ดีๆ ได้ไปเที่ยวที่ๆ ไม่เคยไป ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น ไม่เคยไปก็ได้ไป ไม่เคยกินก็ได้กิน ไม่ได้ใช้ก็ได้ใช้
ชีวิตที่มารูไหน หลุมไหนก็ไม่รู้ วันดีคืนดีที่คำว่าดาราดัง... มันมาประกบ ชีวิตมันพลิก ชนิดที่ฝ่าเท้าเป็นแผ่นหน้า แทบไม่ทัน...
สิ่งที่ได้ที่มี ไม่ได้ทำให้คนที่หากินกับมันได้สำนึก ดารา กลายเป็นคำที่ฟังแล้วแสลงหู ทั้งๆ ที่มันมีความหมายดี นักร้อง กลายเป็นคำที่ใช้เรียกคนหน้าตาดี แค่มีเสียงพูดออกมาได้ก็เป็นแล้วนักร้อง... นักแสดงกลายเป็นคำน้อยคนที่รู้จักและใช้เป็น...
ศิลปิน กลายเป็นอะไรที่คนในสังคมไทยไม่รู้จัก... ศิลปะ ไม่ต้องพูดถึง คนไทยส่วนใหญ่ ยังเข้าใจว่า มันคือการวาดรูป...
เพราะทุกวันนี้เท่าที่เห็นดาราหลายๆ คน ใช้คำว่า"ดารา" ไปกับการหลอกผู้หญิง, หลอกผู้ชาย, หรือแม้กระทั่งหลอกคนในชาติก็มีมาแล้ว, หาความสุขใส่ตัวด้วยการเอารัดเอาเปรียบ, หน้าไหว้หลังหลอก, ตลบตอแ..ล, เสแสร้งแกล้งทำ ฯลฯ
วงการมายา มันดี ไม่ใช่ว่าไม่ดี...
แต่ตัวคนมันทำให้ต้องแปดเปื้อน...
จากคุณ |
:
ดวงตามังกร (ดวงตามังกร)
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ก.ย. 53 01:26:32
|
|
|
|
|