Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อีกครั้งกับเรื่องของ ฟิล์ม และ แอนนี่ "แยกแยะให้ออกหน่อยเหอะ ระหว่างคำว่า คู่รัก กับ คู่นอน"  

เรื่องมันเริ่มจากการที่จริงๆแล้ว จขกท.เนี่ยทำงานกับบริษัท Publishingที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง  พวกข่าวพวกนี้ คนวงใน นักข่าว ช่างภาพ สไตลิส ช่างแต่งหน้า ทำผม "เค้าจะรู้ใส้รู้พุงกันดี"
แต่ก็เป็นธรรมดาของพวกนักข่าวที่ต้องเขียนอะไรให้มันimpact ใส่สีตีไข่ให้ข่าวมันขายได้ แต่นักข่าวก็ต้องมีจรรยาบรรณเขียนทุกอย่างให้อยู่ในเบสของความจริง  
แล้วเจ้าของกระทู้เลยโดนคนจำนวนหนึ่งที่เข้าข้างฝ่ายหญิงเมล์มาด่า ว่าไปรู้เรื่องอะไรด้วย ด่าว่าเลวบ้าง โอ้ยยย น่ารำคาน
"อยากจะบอกว่าชั้นก็ไม่ได้ชอบไอ้ไบขี้ก้างฟิล์มเลยแม้แต่น้อย หนังที่มันเล่น เพลงที่มันร้อง ก็ไม่เคยฟัง ไม่ใช่เทส"
แต่ทนไม่ได้อ่ะ ใจจริงก็ไม่ได้อยากจะ ส.ใส่เกือก แต่ช่วยไม่ได้ค่ะ ธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนชอบเหลือเกินที่จะอยากรู้เรื่องของชาวบ้าน และร่วมให้ความคิดเห็น ดิฉันว่าไม่แปลกค่ะ "แต่ที่อยากตั้งกระทู้นี้ เพราะอยากบอกเหตุผลที่แอนนี่ควรให้ลูกตรวจ DNA แค่นั้นแหละ"

เรื่องพวกนี้ระแคะระคายออกมานานแล้ว เพราะผู้หญิงออกมาสัมภาษณ์เล็กผ่านหนังสือพิมพ์ ผ่านสื่อเล็กๆ "ชีพูดว่า ตนได้ตั้งท้องและคลอดลูก เลี้ยงดูเพียงลำพัง แต่ไม่บอกว่าใครเป็นพ่อ" แต่แอบแจ้งคนเค้าว่าเป็นดาราดัง เล่นละครเรื่องเดียวกัน ชื่อ ฟ.

พอเริ่มมีกอซซิป ฟิล์มเลยต้องออกมาpressตอนนั้น แล้วคนก็ไปกดดันแอนนี่กันมากว่าให้ออกมาpressบ้าง ชีจึงออกมาในรายการของสรยุธในที่สุด

เราว่าเรื่องนี้นะ "ผิดด้วยกันทั้งคู่ ไร้ศักศรีและความยั้งคิดด้วยกันทั้งคู่ แต่ขอชื่นชมที่อย่างน้อยก็ไม่เอาเด็กออก อย่างน้อยแอนนี่ก็ได้ดูแลลูกเป็นอย่างดีตั้งแต่อยู่ในท้อง ในขณะที่ตัวผู้พ่อของเด็ก(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนไหน) ไม่ว่าจะคนไหนก็ตาม ไม่เคยมาดูดำดูดี และอย่างน้อยเธอก็ได้ให้กำเนิดเด็กน้อยผู้สวยงามอีกหนึ่งชีวิตให้ได้ลืมตามาดูโลก ให้ได้มีชีวิต ให้ได้มีอนาคตต่อไป" แต่เธอกลับกำลังทำลายอนาคตของลูกโดยไม่รู้ตัว

"ถ้าแอนนี่มั่นใจว่าใช่ลูกฟิล์มจริงๆ(ลึกๆเราก็เชื่อว่าใช่ เพราะมันเอากันจริง แตกในจริง ผู้หญิงบอกใส่ห่วงแตกในได้เลย หน้าน้องก็เหมือน) ทำไมถึงไม่กล้าตรวจ ในเมื่อมั่นใจว่าใช่แน่
อย่ามาอ้างเรื่องเสียศักศรีค่ะ อย่างน้อยทำเพื่อเด็ก เด็กต้องโตต้องมีสังคมต่อไป แล้วอีกอย่าง ถ้ามีผล DNAมันจะได้ฉะกันไปเลย หายค้างคาใจ  
เวลาแอนนี่ให้สัมภาษณ์ก็พูดจาสับสนวกวน ไม่ได้ใจความ ไม่ตรงประเด็น หลายครั้งที่พูดไม่ตรงกันเลย"
ความรู้สึกเรานะเหมือนว่า เห้ยยย นี่มันง่ายขนาดนี้เลยหรอ"ถ้าเราอยากจะทำลายอนาคตใครซักคน หรือคิดจะจับเค้าน่ะ" แค่มีอะไรกันครั้งสองครั้ง แล้วพลาดท้องขึ้นมา ก็หอบลูกออกมาให้ข่าว
แต่ขอโทษนะ ชั้นไม่ตรวจDNAหรอก เพราะมันเสียความรู้สึก"  
จะเสียอะไรอีกอ่ะ มีอะไรให้เสียอีก ทางที่ดีคือหาทางพิสูจน์ความจริง และไขข้อข้องใจดีกว่าไม๊ จะมาพูดเรื่องเสียความรู้สึกเรื่องสังคมบีบบังคับทำเกลืออะไร??? ยังมีอะไรจะเสียอีกหรอตอนนี้
"คิดแต่จะเอาแต่เงิน เอาแต่งาน แค้นจัด ฉันต้องชนะ แล้วลูกล่ะ คิดถึงบ้างไม๊ เนี่ยหรอรักลูก"
ลองคิดกลับกันดูนะ ถ้าเราเป็นผู้ชาย ที่มีอะไรกับหญิงคนนึงแบบเล่นๆกิ๊กๆ แล้วก็รู้ว่าหญิงคนนั้นมีใครอยู่บ้าง แล้วดันพลาดท้องขึ้นมา "มันผิดหรือไงที่จะบอกว่าเห้ย ตรวจDNAได้ไม๊" เออ ถ้าเกิดเป็นแฟนกัน รักกัน มีกัน2คน คบกัน มีอะไรกัน แล้วดันพลาด "ถ้าไอ้ตัวผู้มันบอกว่าให้ตรวจเนี่ย อย่างนี้เลวจริง เป็นใครก็รับไม่ได้อ่ะ เพราะฉนั้นใช้รอยหยักในสมองคิดแล้วแยกแยะให้ออกนิดนึงระหว่างคำว่า ภรรยา กับ คู่นอน"
อีกอย่างแอนนี่ให้ข่าวมั่วนะ บอกว่าตัวเองเป็นคนขอให้ตรวจเองตั้งแต่4เดือน แต่ฟิล์มไม่ยอมตรวจ พอตอนนี้เค้าจะตรวจ กลับเดือดพล่านขึ้นมา
แล้วก็พร่ำพูดว่าไม่อยากออกมาพูดเลย แต่จำเป็น ไม่อยากทำจริงๆ แต่มันจำเป็น
แล้วยังมีการมาบอกประมาณว่าให้ลืมๆเรื่องนี้ไป สงสาร ฟิล์ม "งงมากๆ แล้วออกมาทำไม" แถมตอนเค้าถ่ายรูปกันก็นั่งยิ้มออกสื่อ นักข่าวบางคนบอกว่าระวังแฟลชๆๆจะเข้าตาเด็ก แต่ชีไม่มีสัญชาติญาณความเป็นแม่เลย ไม่คิดจะปิดป้อง หรือแบบว่า พอแล้วค่ะพี่อะไรเลย

ส่วนที่จะด่าฟิล์มคือ "ความชุ่ย มักง่่าย แล้วก็นิสัยตุ๊ดของมัน ไม่รู้ปกติเอาแต่ตูดหรือไงเลยลืมว่าต้องใส่ถุง แถมปล่อยให้เรื่องบานปลายมาขนาดนี้ ไม่แก้ไขตั้งแต่ต้นให้เรียบร้อย ก็เลยใช้วิธีง่ายๆคือ เออๆเอาเงินให้ใช้ระหว่างที่ทำงานไม่ได้ แต่หายหัวไปเลย ไม่สนใจ ไม่มาหา ไม่เจอกันอีก ก็พอเ้ข้าใจนะว่า คงจะคิดว่าเห้ยย ไม่น่าจะใช่ลูกชั้น แต่ต้องคอยให้เงิน ให้ความหวังไปก่อนเพราะไม่อยากให้เรื่องแดง"

จนในทีสุดผู้หญิงทนไม่ไหวไง ประมาณว่าท้องมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เข้าใจเลยความรู้สึกว่าคงจะแบบ หลงทาง เหงา ท้อ ว้าเหว่ เครียด แล้วก็หมดอาลัยตายอยาก ยิ่งฟิล์มขอตรวจDNA ก็ยิ่งเคียดน้อยใจ+ไม่แน่ใจ มันก็เหมือนฟางเส้นสุดท้าย+ความแค้น+ความที่ไม่มีอะไรจะเสีย+กับน้องช่างน่าเกลียดน่า ชังหน้าตาเหมือนฟิล์มซะเหลือเกิน

"หากยังไม่ยอมตรวจอยู่อย่างนี้ มันก็มีแค่เหตุผลเดียวน่ะแหละคือ กลัว ไม่แน่ใจ อย่ามาสตอ อ้างถึงศักศรี" เพราะว่าถ้าแอนนี่คิดอย่างที่ให้สัมภาษณ์จริงๆว่า "ไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการให้มารับผิดชอบ ไม่ต้องการทำลายอนาคต(แต่ทำไปแล้ว) แล้วก็เลี้ยงลูกเองได้" งั้นก็ไม่เห็นจะต้องมาอ้างว่า ฟิล์มไม่จำเป็นต้องรับเพราะถูกสังคมบีบบังคับ
ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลยทั้งนั้น ก็ตรวจไปเลยดิ เอาเหตุผล เอาความจริงมาฉะกันซึ่งๆหน้า เขวี้ยงผลตรวจใส่หน้าตัวผู้ ปาใส่หน้าสื่อไปเลย แล้วก็กลับไปดิ ไปเลี้ยงลูกเอง ไปอะไรๆแบบที่บอกว่าจะทำเองไม่ต้องการให้ฟิล์มมายุ่งมารับผิดชอบ แล้วกลัวไรวะ ไม่เห็นต้องแคร์ เผลอๆ ขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องได้ค่าเสียหายเลี้ยงดู, ได้คะแนนความเห็นใจ"ของจริง"อย่างมหาศาลจากทุกคน ได้งานอีกมากโข" แล้วจะกลัวอะไรฮึ!!!

"ถ้ารักลูก คิดถึงลูกจริง แถมด้วยไม่มีข้อครหาต่อตัวเองอีกต่อไป ก็ตรวจซะ"
ปล. ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย

จากคุณ : Sonne_nb
เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 10:41:26




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com