ความคิดเห็นที่ 2   แต่ก็มีอีกมากครับที่ยอม บางทีเราก็ต้องยอมรับความจริงจุดนี้ด้วย ว่ามันเกิดขึ้นจริง ในสังคมของเรา ไม่งั้นปัญหาท้องก่อนแต่ง จะเต็มสังคมขนาดนี้หรือ การยอมรับว่า "เคยโง่" ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอก แต่โง่แล้วอย่าโง่ในเรื่องเดิมอีกก็พอครับ จากคุณ : เป็นทุกอย่างยกเว้นเป็นประโยชน์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 00:58:00

ความคิดเห็นที่ 3 ทรรศนะของคนแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกนะครับ ผมว่าบางทีนะ บางที มันคงประกอบด้วย multifactorial นะครับ ปล,ไม่เคยขอแบบนั้นเหมือนกัน อิอิ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 01:00:30 จากคุณ : GD Doi เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:00:19

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้าคนเหมือนกันหมด โลก คงไม่มี สงคราม จากคุณ : Dr.Jackass. เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:01:59 A:125.26.32.140 X: TicketID:255148

ความคิดเห็นที่ 5 โหวตค่ะ เราก็ไม่เห็นด้วยกะแอนนี่ในประเด็นนี้นะคะ เราคนนึงที่ไม่เห็นด้วยกับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานค่ะ สาวๆต้องดูแอนนี่เป็นบทเรียนนะคะ "อย่าชิงสุกก่อนห่าม" เราขอบอกอีกอย่างว่าเรารักพ่อแม่มากกว่าผู้ชายค่ะ และนี่ไม่ใช่ข้ออ้างของการมีเซ็กเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 01:03:19 จากคุณ : Happily เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:02:29

ความคิดเห็นที่ 6 โหวตกระทู้นี้ด้วย เห็นด้วยมากๆ จากคุณ : คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของเรา. เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:05:56

ความคิดเห็นที่ 7 ทุกคนไม่ได้เป็นเหมือนกันหมด จากคุณ : ชิฟฟอนคาปูชิโน่ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:07:10

ความคิดเห็นที่ 8 ....... จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:12:40

ความคิดเห็นที่ 9 เราต้องการหาคาวมเป็นธรรมตามกฎหมายและหลักฐานไม่ใช่ประชานิยมพวกมากลากไปเราต้องการความถูกต้องไม่ต้องการสนับสนุนคนลวงโลกไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร รักมากแค่ไหนหรือน่าเห็นใจแค่ไหนมีคนจำนวนมากค้ายาบ้าเพราะจำเป็นแต่กฏหมายก็ต้องว่ากันตามกฏหมาย จากคุณ : malitang1 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:15:32

ความคิดเห็นที่ 10 โอ๊ยกิ๊ฟหมด....อยากให้มากมายยยยย ตัวอย่างที่ดีจริงๆค่ะ ให้หลายๆคนรู้ว่า ถ้าเค้าขอ เราไม่ให้ก็ได้ (และไม่ควรให้ด้วย) จากคุณ : หนูน้อยนักเดินทาง เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:20:51

ความคิดเห็นที่ 11   เห็นด้วย กับ จขกท.   กว่าจะมาถึงจุดนี้แอนนี่ ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน (แอนนี่พูดเองใน ตี 10) จากคุณ : veya1 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:23:39

ความคิดเห็นที่ 12 อันนี้ขอนอกประเด็นไม่ ฟิล์มกะแอนนี่แล้วนะ แต่แค่อยากทวนสิ่งที่เจ้าของกระทู้ แจงมาน่ะคะ อยากแสดงความคิดเห็นในอีกแง่มุมหนึ่งบ้างค่ะ ไม่ว่ากันนะคะ ^^ ประเด็นที่ว่าผู้ชายที่เรารักหมดจิตหมดใจ รักเข้าเส้นขอมีอะไรด้วย จึงยอม และไม่ป้องกัน **** ประเด็นนี้อยากบอกว่า เวลาที่ ผช. ขอมีอะไรด้วย คงไม่ได้ขอที่ร้านอาหาร หรือ ว่า ที่สวนสาธารณะคนพลุกพล่านแน่นอน ดังนั้น ผญ.วัยเจริฐพันธุ์ การอยู่ สองต่อสอง ในอารมณ์ความรู้สึกแบบนั้น มัน ยากเกินกว่าจะห้ามใจค่ะ ไม่ได้พูดถึงคุณค่า ถึงเกียรติลูกผญ.อะไรนะคะ แต่พูดถึงเรื่องอารมณ์ล้วนๆค่ะ เข้าใจว่า อยากให้เหตุผลเหนือกว่าอารมณ์ แต่ว่า จิตใจ สถานการณ์แวดล้อมต่างๆ ของคนแต่ละคนแตกต่างกัน เลยอยากให้มองว่า มีผญ.จำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่เป็นแบบคุณแอนนี่ ถ้าเกิดจะไม่อยากมีอะไรเกินเลยจิงๆ คือหลีกเลี่ยงการอยู่สองต่อสองในที่ลับตาคนดีที่สุดค่ะ เพราะบางทีเราอาจแพ้ใจตัวเอง เรื่องผัว เดียวเมียเดียว *** เห็นด้วยนะคะ กับ ที่สรุปตอนท้าย แต่เรื่อง ผัว เดียว เมีย เดียว อยากให้ความรู้กับ จขกท. สักหน่อยค่ะ ว่า วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมตะวันออกจริงๆไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่อง ผัว เดียว เมียเดียวตั้งแต่โบราณมานะคะ สังเกตได้จาก กษัตริย์ในหลายๆประเทศในเอเซีย ไม่ว่าจะเป็น เกาหลี มาเลเซีย หรือแม้กระมั่ง ไทยในสมัยโบราณ (หวังว่าจะไม่โดนแบนนะ) ต่างมีสนม นางใน ด้วยกัน มากมาย ขุนนางเอง ก็พบบ่อยๆ ว่ามี ภรรยาหลายคน ในประวัติศาสตร์พบในเห็นมาก ถ้าเราได้ศึกษากัน หรือแม้กระทั่งชาวบ้านเองก็ตาม อีกชาวจีน ถ้าภรรยาหลวงไม่สามารถมีลูกชายได้ แม่สามีก็จะหาภรรยาอีกคนให้ลูกชาย จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนว่า วัฒนธรรมสมัยโบราณ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเป็นผัวเดียว เมียเดียว แต่ วัฒนธรรมผัวเดียวเมียเดียว มันเข้ามาพร้อมกับตะวันตก ศาสนาคริสต์ มีธีมหลัก คือความรัก ให้คนรักในพระเจ้าองค์เดียว หรือสามีคนเดียว ภรรยาคนเดียว **** จิงๆ หลายคนอาจจะมองว่า เพื่อ???? จะมาแจงทำไมแต่แค่อยากให้เข้าใจ แต่ประเด็นเรื่องของ แอนนี่ และเกียรติลูกผญ.มันเปนคนละประเด็นกับ ผัวเดียวเมียเดียว เพราะ ผญ.แต่ไหนแต่ไรมา ก็ถูกจำกัดสิทธิ์ และ ใช้บรรทัดฐานของวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ตลอดมา จึงมองว่าการที่ผญ.ทำแบบนี้ไม่ดี ทำแบบนี้ดี มันจึงเป็นกรอบที่ถูกกำหนดตามมา แต่ถึงอย่างไร ก็ตามถ้าใครไม่อยากเจอสภาพแบบนี้ หรือ ได้รับความรู้สึกกดดันจากสังคมว่าท้องไม่มีพ่อ ก็ควรจะวางตัวอยุ่ในกรอบที่สังคมกำหนดขึ้น แค่นั้นเองค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 01:35:15 จากคุณ : kanie22 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:28:24

ความคิดเห็นที่ 13 คนที่คิดเหมือนจหกท มีมาก(แต่ไม่เป็นข่าว)   แต่ส่วนที่พลาดมีมากมาย แม้แต่ดาราสาวหลายคนที่ต้องอุ้มท้องโย้ ประจานตัวเองให้คนวิพากวิจารณ์ก็เยอะ  หรือแม้แต่เด็กวัยรุ่นใจแตกที่ทำแท้ง ทิ้งลูกตามที่ต่างๆ  นี่คือเรื่องจริง   เราว่าอยากให้หยุดเรื่องแอนนี่ กับ ฟิลม์ ไม่อยากให้คิดว่าใครจะเป็นพ่อใคร หรือใครจะรับผิดชอบใคร เราว่าสงสารเด็กตัวน้อยๆคนนึง แววตาเค้ายังไร้เดียงสา ที่เกิดจากการไม่ตั้งใจของผู้ชายที่ต้องการผู้หญิงคนนึง   และสงสารครอบครัวทั้งสองฝ่ายด้วยจริงๆ นี่ถ้ามองอีกมุม  ถ้าฝ่ายผู้ชายท้องโย้ได้ มันน่าจะดีเน้อ ผู้หญิงจะได้ไม่ต้องถูกประจานว่าท้องไม่มีพ่อ เราในฐานะคนเป็นแม่  ขอยกตัวอย่าง คือ เคยพาลูกชายขวบไปกินข้าว2คนแม่ลูก (สามีไปทำงาน)  โต๊ะข้างๆก็มีเด็กมาด้วย (4-5ขวบ) มาเล่นกับลูกชาย เล่นไปเล่นมา เด็กเค้าถามว่า พ่อน้องเค้าไปไหนครับ  (พ่อแม่เด็ก ก็แอบสะกิดลูกนะ)  เราก็เลยบอกว่า พ่อน้องเค้าไปทำงาน ตัวอย่างเนี้ย ขนาดเราถูกถามอย่างนี้ยังอึ้งเลย  และรู้สึกเข้าใจคนเป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวสามีก็ไม่มี อย่างเรื่องว่า เป็นพยาบาลทำไมไม่รู้จักป้องกัน   เรารู้จักน้องพยาบาลคนนึง ก็รักผู้ชายหัวปักจนพลาดมีท้องแล้วแท้งตกเลือดเกือบตาย   แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 01:33:41 จากคุณ : foal (foal) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:28:58

ความคิดเห็นที่ 15 จะเข้ามาตอบ เหทือน คห บน จากคุณ : การินช่า เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:32:23

ความคิดเห็นที่ 16 ปกติก็เห็นให้กัน จะมีแค่กี่คนที่ขอแล้วไม่ให้ ผู้ชายก็จะบอกว่าไม่รักกันหรอ เสร็จ จากคุณ : nimea เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:36:05

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบความเห็นที่1 ต้องการแค่สื่อว่า ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่ยอมมีอะไรกับคนที่เรารัก โดยที่ยังไม่แต่งงาน และอยากบอกว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่เสียตัวมาแล้วคือไม่ดี ดีไม่ดีอยู่ที่การกระทำ เช่นลอออร ในละครแต่งสามครั้งแต่เขาก็มีความดี เขาไม่ได้ร่าน แต่มันมีเหตุผลให้เป็นไป และต้องการบอกว่าไม่นิยมพวกวันเดียวพาเสียวฟรี ทั้งชายและหญิง และอยากให้รับฟังข้อมูลหลายๆ ด้าน ทั้งฝ่ายหญิง ฝ่ายชาย อยากให้โอกาส ผู้ใหญ่หลายคนก็มองว่าฟิล์มดี แอนนี่ดี แต่เขาทั้งคู่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เราว่าอยากให้โอกาสคนกตัญญู การตัดสินใจอะไรของฟิล์มน่ะ มันไม่เป็นตัวของตัวเองหรอกเขามีต้นสังกัด ถ้าไปดู oh my lady ซี่รี่ย์เกาหลี ก็จะเข้าใจว่า ทำไมฟิล์มออกมาในรูปนี้ บางทีเขาไม่อยากโกหก แต่ก็ต้องมีอะไรที่บังคับ ให้โกหก คนเราไม่ชอบโกหก แต่บางทีก็เพื่อความอยู่รอด และคนในองค์กรณ์ ปากท้องของครอบครัว กรณีแอนนี่ ในวินาทีนั้น หากเรามีข้าวกินอิ่ม ท้องยังไม่แสบ ก็คงไม่คิดอะไร แต่พอมีลูกนี่ เงินก็กำลังจะหมด งานก็ไม่มี ลูกต้องเลี้ยงแม่ต้องดู อยู่แต่ในห้อง ได้รับเงินก็จริง แต่คนท้องก็อยากได้อ้อมกอด อยากให้ลูกมีพ่อ คนท้องนี่คิดมากนะ อารมณ์มันแปรปรวน และกลัวไปต่างๆ นาๆ กลัวเจ็บคลอดบ้าง กลัวลูกไม่แข็งแรงบ้าง และการท้องทั้งที่ยังไม่แต่งงาน มันสุดจะทุกข์เลย ตอนแรกก็อคติ แต่มานั่งคิด ว่าทำไมต้องมองคนในแง่ร้ายไว้ก่อน มานั่งนึกดูความดีเขา อย่างน้อยเขาก็กตัญญู มองความดีเขามันก็เบาลง ที่จะไปว่า และอีกทีถึงผู้หญิงเขามีข่าวจะยังไง แต่เด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ น่ารัก ก็ไม่อยากไปคุ้ย อยากให้โอกาสเขาเลี้ยงลูก เลี้ยงแม่ไปทำเขาจมดิน ไม่มีงาน เด็กก็อาจโตมาในสภาพที่ไม่ดี ส่วนฟิล์มเขาก็เล่นละครได้ดี สนุกออก ถ้ามองเขาที่ผลงาน การที่มีเขาอยู่ในวงการก็ไม่เสียหายอะไร ดาราไม่จำเป็นต้องดีพร้อม คุณภาพงานออกมาดี ก็น่าจะยอมรับกันได้ อันนี้ความเห็นส่วนตัว ส่วนตัวเชื่อเรื่องความกตัญญูคนที่กตัญญู พ่อแม่ เรามองว่าเขาไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด   เห็นว่ากันแรงๆ ก็เพลีย ถ้าคุยกันแบบเหตุผลไม่เสียดสี มันจะดีมาก หวังว่าจะเข้าใจนะคะ จากคุณ : อวิ๋นเอ๋อร์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:36:48

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบความคิดเห็นที่ 16 ผู้ชายที่หวังก็จะพูดแบบนั้น มันอยู่ที่ตัวเราค่ะ เราก็บอกเขาไปเลยว่ารักเพราะรักถึงต้องทำแบบนี้ แล้วก็ถามไปเลยว่าแล้วคุณรักฉันจริงหรือถึงขอ หากคุณต้องการผู้หญิงที่บำบัดความต้องการให้หาเอาที่อื่น แต่ถ้าต้องการผู้หญิงที่เป็นแม่ของลูก ผู้หญิงที่เป็นของคุณคนเดียวรอได้ไหม คุณลองคิดดู คุณจะภาคภูมิใจไหม หากวันหนึ่งคุณไปเดินที่ไหนแล้วเขาชี้มือมาที่เมียคุณแล้วบอกว่าเคยแล้ว กลับอีกอย่าง ร่องอกขาอ่อนยังไม่มีใครได้เห็นนอกจากคุณ คุณอยากได้แบบไหน หากคุณรักฉันจริงก็ขอให้เมตตารักและสงสารเกียรติของฉันด้วย ฉันมีพ่อมีแม่ มีชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่ต้องรักษา หากชื่อเสียงวงศ์ตระกูลฉันยังไม่รักษา เกียรติยศชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของคุณฉันจะรักษาไว้ได้หรือ ฉันรักคุณถึงต้อง รักษาชื่อเสียงของคุณ ให้คุณได้ชื่อว่าได้ภรรยาที่ไม่ด่างพร้อย ก็อธิบายแบบนี้แหละค่ะ ก็ไม่เห็นอะไรเกิดขึ้นในกอไผ่ ผู้ชายหากเขาไม่ได้คิดจะหวังฟัน หรือหวังฟัน ฟังแบบนี้เขาก็ต้องคิดบ้าง พูดไปเลยว่าเราไว้ใจเขาว่าเป็นสุภาพบุรุษถึงได้ออกมาด้วย คนดีๆ ที่มีสติ เขาก็จะไม่บังคับปล้ำเอาหรอกค่ะ บอกขนาดนี้แล้ว ทางที่ดีก็อย่าไปสองต่อสองเรื่องก็ไม่เกิด จากคุณ : อวิ๋นเอ๋อร์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:48:43

ความคิดเห็นที่ 19 แอนนี่บอกว่าแม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้ แอนนี่เข้มแข็งต่อสู้ต่อไป แต่อย่าลืมนะคะ ว่าก่อนหน้าที่แม่แอนนี่จะท้อง แอนนี่  นั่นควรเป็นตัวอย่างที่ดี ที่นิยามได้ว่า รักโดยไม่หวังแต่ง ไม่มีอะไรรับประกันอยู่แล้ว สิ่งที่แอนนี่ต้องเผชิญ จึงไม่ต่างกับคุณแม่นั่นเอง จากคุณ : lilylemo เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:51:58

ความคิดเห็นที่ 20 ตอบความเห็นที่ 12 ถูกค่ะที่คนสองคนคงต้องไปขอกันในที่ลับตาคน และบางคนก็พลั้งพลาดเพราะบรรยากาศ หรืออะไรก็แล้วแต่ และสนับสนุนที่ว่าหากไม่อยากพลาดหลีกเลี่ยงการไปด้วยกันสองต่อสอง และยอมรับอีกว่า สังคมผู้ชายเป็นใหญ่ และสมัยก่อนใครมีเมียมากแสดงว่ามีหน้ามีตาเลี้ยงดูได้เยอะ คือสรีระผู้ชายก็ได้เปรียบ จิ้มแล้วล้างได้ ท้องไม่โตอีกต่างหาก แต่ผู้หญิงไปจิ้มกับใครท้องก็อาจโตออกมาประจานได้ ด้วยทางสรีระที่เสียเปรียบ มันก็ทำให้เราต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น คิดให้มากก่อนจะลงเอยกับใคร ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นนะคะ ดีใจค่ะ จากคุณ : อวิ๋นเอ๋อร์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 01:59:17

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่รู้สิ ขนาดผมเป็นผู้ชายแต่ผมยังคิดว่าผัวเดียวเมียเดียวเป็นความคิดที่กดผู้หญิงให้ต่ำเลย ผมชอบคนรักเดียวใจเดียว แ่ต่ผมไม่ดูถูกผู้หญิงที่ง่าย และตรงข้ามก็ไม่ได้ชื่นชมผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวเป็นพิเศษ บางคนสงวนร่างกายก็จริงแต่แหลกันมันหยดติ๋ง ตรงข้ามบางคนเคยเสียร่างกายแล้วแต่กลับซื่อสัตย์จริงใจ คำว่ารักเดียวใจเดียวของผมคือซื่อสัตย์ต่อกันก็พอในระหว่างที่คบ แต่ก่อนหน้าคบและหลังเลิกคบคุณจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ผมไม่ค่อยชอบวัฒนธรรมที่กดดันผู้หญิงให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ตัวผู้ชายเองกลับโดนดูถูกถ้าไม่มีประสบการณ์ หลักหลั่นย้อนแย้งชัดๆ ผมชอบแนวคิดตะวันตกมากกว่านะกับเรื่องแบบนี้ ทั้งๆ ที่เค้ามองว่าการได้กันเป็นเรื่องที่ยากอะไร แต่กับรักษากฎเกณฑ์และความซื่อสัตย์ต่อกันได้ดีกว่าตะวันออกมาก ตะวันออกจะต้องเป็นแบบทนเอาถ้าผู้ชายมีเล็กมีน้อย ผมเป็นผู้ชายผมยังรู้สึกว่าโคตรไม่แฟร์เลย ทำไมสังคมถึงต้องตั้งกรอบไว้แบบนี้ด้วยล่ะ ถ้าผมมีลูกสาวผมก็คงสอนให้รักนวลสงวนตัว แต่พอโตมาระดับนึงผมคงบอกความจริงว่า ลูกต้องรักนวลสงวนตัวเพราะ "สังคมจะได้ยอมรับ" ไปเลยตรงๆ คงไม่มานั่งบอกว่าเพราะมันเป็นเรื่องที่ดีมีศีลธรรมอะไรหรอก ก็แค่สังคมบังคับให้เป็นแบบนี้เท่านั้นเอง ผมมองแบบนี้จริงๆ ไม่รู้สิสุดท้ายอยากจะบอกว่าผมเป็นผู้ชายคนนึงที่มองโลกคนละอย่างและขอเสนอละกัน แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 02:11:41 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 02:11:22 จากคุณ : Mariel เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:09:53

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ จขกท.ที่อ่านคห.ของเราด้วยนะคะ ^^ ขอขยายที่ว่า มีเมียมากแสดงว่ามีหน้ามีตาเลี้ยงดูได้เยอะ ก็ถูกค่ะ แต่ส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญเลย คือ เอาไว้ช่วยกันทำมา หากินค่ะ เพราะเป็นสังคม เกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ ด้วยค่ะ พอล่ะๆๆ เด่วจะเปนเรื่องราว ปวศไปใหญ่ ส่วนจริงชอบ คำพูด คห.21 มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ถึง มากที่สุด "ผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวเป็นพิเศษ บางคนสงวนร่างกายก็จริงแต่แหลกันมันหยดติ๋ง ตรงข้ามบางคนเคยเสียร่างกายแล้วแต่กลับซื่อสัตย์จริงใจ คำว่ารักเดียวใจเดียวของผมคือซื่อสัตย์ต่อกันก็พอในระหว่างที่คบ แต่ก่อนหน้าคบและหลังเลิกคบคุณจะเป็นยังไงก็แล้วแต่" อดีต อนาคต เปนไงไม่รุ้ แต่รู้ว่า ปจบ. เธอกับฉัน รักกันก็พอ จากคุณ : kanie22 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:25:59

ความคิดเห็นที่ 23 พ่อแม่เราเอง ไม่ได้เเต่งค่ะ ถ้าทำอย่าง จขกท ว่า เราคงไม่ได้เกิดมา เราเป็นคนนึงที่ไม่ยึดถือในการเเต่งงาน การเเต่งงานที่ล้มเหลว จบต้องหย่ามีเยอะมากมาย ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะต้องอยู่กันไปจบเเก่เฒ่า ถ้าเเต่งงานกันไป ไม่ถึงเดือนก็ต้องหย่า มันก็ไม่ต่างกับฟันเเล้วมิ้ง เท่าไหร่หรอก เพียงเเค่มีเป็นลายลักษณ์อักษร ว่า หย่า เเล้วเท่านั้น การรักษาพรหมจรรย์เป็นสิ่งที่ดี เเต่ไม่ใช่ทั้งหมดในชีวิต มันไม่ถึงกับผิดหรอก เเค่ไม่ควรในสังคมไทยเท่านั้นเอง เเละการเป็นภรรยาที่ดี ก็ไม่ใช่เเค่บริสุทธิ์หรอกค่ะ มันมีปัจจัยอื่นเยอะเเยะมากมาย จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:28:40

ความคิดเห็นที่ 24 กีบหมดอะคุณ  Mariel  เอาคากิไปเเทนนะคะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:31:21

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วพวกเราช่วยถามตัวเองหน่อย ว่าเราให้อภัยพวกเค้า 2 คนได้หรือเปล่า (ในฐานะที่พวกเราเป็นคนที่ไม่รู้ความจริงอะไรเลย) สำหรับผมนะ ถ้าจะไม่ตรวจ ผมก็ให้อภัยได้นะ ผม็ยยังดูละคร ฟังเพลงของฟิล์มได้ ยังดูละคร ดูผลงานของแอนนี่ได้ ผมว่าเจ็บทั้งคู่ ได้รับผลไปทั้งคู่แล้ว ถ้าตรวจ DNA แล้ว เกิดเป็นลูกฟิล์มจริง แล้วไงต่อ นอกจากคนที่เชียร์อีกฝ่ายนึงจะสะใจ แต่ถ้าตรวจแล้ว ไม่ใช่ แอนนี่ก็เสีย แล้วไงต่อ คนอีกฝ่ายก็จะสะใจ แล้วเราลืมความรู้สึกของ 2 คน นี้ไปหรือเปล่า จ้ริงๆแล้วความข้องใจเรื่องลูกใคร มันก็จะยังอยู่ไปอีกนาน แต่นานแค่ไหนล่ะ ก็นานเท่าที่คนในสังคมนี้จะให้อภัย ทุกวันนี้ ดูเหมือนว่า 2 คนนี้ จะกลายเป็นหุ่น ให้กลุ่มคนสองฝ่าย ที่เกิดขึ้นมา ผลักหน้า ดึงหลัง แล้วประเด็นก็กลายเป็นว่า ต้องตรวจหรือไม่ตรวจ ตามใจสังคม แล้วถ้าเราเปลี่ยนประเด็นล่ะ จากการเร้าให้กระแสตรวจ-ไม่ตรวจ ปล่อยให้เป็นเรื่องของคน 2 คนนั้น แล้วเปลี่ยนมาเป็นอนาคตของ 2 คนนั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการให้โอกาสของคนในสังคม การให้อภัยจากคนในสังคมแทน ถ้าคุณยังรักฟิล์ม ยังอยากดูผลงานเค้า คนในสังคมพร้อมมั๊ย ที่จะให้โอกาสเค้ากลับมาโดยไม่ต้อง สนใจว่าเค้าจะมีลูกหรือเปล่า (ปล่อยให้กระบวนการมันเดินไปด้วยเค้า 2 คน) หรือถ้าคุณไม่รักแอนนี่ คลางแคลงใจแอนนี่ แต่คุณให้อภัยเค้า ให้โอกาสเค้า ได้เดินอยู่ในสังคม ได้ทำมาหากินเลี้ยงลูกเค้า โดยไม่ต้องคำนึงว่าเค้าจะท้องกับฟิล์มหรือเปล่า ถ้าในอนาคต (จะใกล้หรือจะไกล อาจเป็นปี สองปี สามปี หรืออาจเป็นพรุ่งนี้) เค้า 2 คนตกลง จะตรวจโดยไม่ได้โดนสังคมชี้นิ้วสั่ง มันก็าจเป็นไปได้ อนาคตของฟิล์มและแอนนี่ ไม่ได้อยู่ที่ว่า ตรวจออกมาแล้วผลเป็นยังไง แต่มันอยู่ที่ว่า คนในสังคมจะให้โอกาสพวกเค้ามั๊ย อนาคตของทั้งสองคน ณ เวลา นี้อยู่ในกำมือและปลายนิ้วของคนในสังคม ถ้าคุณให้อภัยพวกเค้า นั่นคือกุศล แต่ถ้าคุณคลางแคลงใจแล้วปิดโอกาสการมีอนาคตของเค้าทั้ง 2 คน ก็เท่ากับว่า เราได้ทำลาย อนาคตของ 3 ชีวิตหรืออาจมากกว่า ตอนนี้อนาคตของทั้ง 2 คน อยู่ที่ปลายนิ้วพวกคุณ แล้วพวกคุณล่ะ จะให้อภัยพวกเค้าได้มั๊ย (ถ้าคุณคิดว่าอยากให้โอกาสพวกเค้ามีอนาคตต่อไป) จากคุณ : PSM (PSM_pasa) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 02:54:08

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบคุณ Mariel ก็เห็นด้วยที่ว่า เรื่องซื่อสัตย์จริงใจ ความหมายของดิฉันในเรื่องผัวเดียวเมียเดียวก็รวมถึงความจริงใจด้วย และไม่เข้าใจว่ากดผู้หญิงตรงไหน คุณเป็นสุภาพบุรุษดีมาก ที่ไม่ดูถูกว่าผู้หญิงง่าย แมนเกินร้อย ยกนิ้วค่ะ แต่อย่าลืมว่า สังคม พ่อแม่สามี พี่น้องครอบครัว การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมันไม่ใช่คนสองคน หากคุณไม่ดูถูก แต่ถ้าพ่อแม่คุณ ญาติพี่น้องไม่เข้าใจ และมองว่าสะใภ้ที่แต่งเข้ามาง่าย คุณคิดว่าครอบครัวยังสงบสุขได้อีกหรือ มีผู้ชายอย่างคุณเยอะๆ ก็ดี แต่สังคมนี้เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รับไม่ได้อยู่ และถ้าหากบุคคลนั้นเป็นพ่อแม่เรามันน่าคิด คนสองคนอาจไม่มีปัญหา แต่คนแวดล้อมอาจมี และผู้หญิงที่เขารักนวลสงวนตัวแต่แหลมันหยดติ๋ง ในสังคมก็มีจริง และผู้หญิงที่อาจพลาดมาก่อนแต่ประเสริฐก็มีถม ทว่าหากรักนวลสงวนตัวด้วย จิตใจดีงามด้วย มันก็น่าจะดีกว่า ผู้ชายอาจมองว่าการพลาดไม่คิดอะไร แต่ส่วนตัวคิดค่ะ ฟังดูอาจเข้าใจยาก แต่ก็มีผู้หญิงคิดแบบนี้ เช่นที่เคยคุย เขาบอกว่ามันเป็นตราบาปในใจลบไม่หาย แม้ว่าจะมีคนใหม่ แต่บางทีก็มีแว๊ปๆ คิดถึงคนเก่าอยู่บ้าง และเห็นใจคนใหม่ที่ต้องมาแต่งด้วย เพราะด่างพร้อย และก็อีกเช่นกันที่มีผู้หญิงบางคนไม่แคร์ จะกี่คนก็ไม่สนใจ พอใจก็คบไม่พอใจก็เลิก เห็นด้วยกับคุณในส่วนหนึ่งว่าพลาดคือร่างกาย สำคัญที่จิตใจ แต่ถ้าไม่พลาดจะดีกว่าไหม และเจ็บปวดกับคำพูดของใครหลายๆ คนที่ว่า ก็แค่ร่างกาย จะกี่คนก็ไม่แคร์ คือแอนตี้กรณีนี้ แต่ถ้าพลาดเพราะถูกข่มขืน ถูกผู้ชายหลอก หย่าร้างแต่งใหม่ สามีนอกใจเลยแต่งใหม่ อันนี้ไม่เป็นไร ผู้หญิงก็ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นทาสรองมือรองเท้าผู้ชาย หรือทนเจ็บช้ำ เพื่อจะไดมีคนเดียวทั้งชีวิต หย่าได้ เลือกได้ คุณค่ามันได้ได้วัดตรงนั้น แต่ถ้าหลายคนมั่ว ร่าน อ่อย ฟรี สวิง แย่งสามีชาวบ้าน อันนี้รับไม่ได้ และการอยู่ด้วยกันเป็นคู่ควรจริงใจ ต่อกัน ดิฉันชื่นชม ม.ร.ว.สดับ ลดาวัลย์ มาก ท่านคือตัวอย่างของผู้หญิงที่ดี ในขณะเดียวกันก็ชื่นชมปาจุ๊ จุรี แม้ว่าจะแต่งสองครั้ง แต่การที่ป้าจุ๊ทำตนป้าจุ๊รักซื่อสัตย์ต่อคู่ชีวิต อยู่ร่วมกันจนวาระสุดท้าย ผู้หญิงดิฉันว่า จิตใจสำคัญอันดับแรก บางคนเขาไม่ได้อยากเปลี่ยนคู่ แต่ชีวิตก็ต้องไปแบบนั้น แต่บางคนแย่งสามีชาวบ้าน บางคนรักนวลสงวนตัวแต่ล้างผลาญ เล่นไพ่ เพชรมีหลายเหลี่ยมมุม แต่ละมุมเจียได้ส่วนจึงสวย คนเราก็มีหลายด้าน ถ้าทุกด้านได้มุม ไม่เบี้ยวจนเกินไป ก็ส่องประกายได้เช่นกัน ดังนั้นการมองว่าใครดีไม่ดี จะไปมองแต่ด้านเดียวไม่ได้ ต้องมองให้รอบมุม ผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวก็ไม่ได้หมายความว่าดีทุกด้าน แต่เขาก็ดีในส่วนนี้ เพิ่มเติมค่ะ หลายคนมองคนอื่นด้านเดียวก็ไปตัดสินแล้ว อยากให้ลองมองมุมอื่นๆบ้าง อาจได้องศาใหม่ๆ ............ ด้วยความเคารพค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 03:09:29 จากคุณ : อวิ๋นเอ๋อร์ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 03:03:13

ความคิดเห็นที่ 27 ผมเห็นด้วยนะครับที่ว่าตอนนี้ปัญหาคือสังคมมากกว่า สังคมไม่ยอมรับผู้หญิงแบบนี้เท่าไหร่ ดังนั้นผมถึงได้บอกว่าถ้ามีลูกผมก็สอนให้รักนวลสงวนตัวเหมือนกัน พ่อแม่ พี่น้อง ผองเพื่อน ทุกคนไม่ได้คิดแบบผมหรอกซึ่งก็เป็นปัญหา รักกันแค่ไหนสังคมไม่ยอมรับ ต่อให้ตัวเองรับได้พยายามบอกให้ดีแค่ไหน ก็เข้าใจว่าผู้หญิงทนเจ็บไม่ไหวครับ (แอบประสบการณ์ตรงตัวเองกับเพื่อนนิดๆ 555) แต่อยากแสดงความเห็นสวนกระแสเหมือนกัน ช้ำที่สังคมบางครั้งก็กำหนดชีวิตของคนสองคนได้นะ 555 จากคุณ : Mariel เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 03:18:52

ความคิดเห็นที่ 28 ถึงคห.ยี่ห้า เราไม่ให้อภัยหรอก เพราะเราไม่โกด ไม่ได้เกียด ไม่ได้เคือง ไม่ได้อะไรทั้งสิ้น จะให้อภัยทำไมแต่ออกแนว สงสาร ทั้งคู่มากก่า ที่คุนพูดนะถูกเลย คนกลางมันเยอะ ความคิดเห็นมมากมายไปไปหมด หนึ่งในนั้นก็คือพวกเรา แต่ถามว่า เค้ามีผลงานมา เราก็ดู ถามหน่อย ถ้าเกิด สองคนนี้ แสดงละคร ถึงจะคนที่เกลียด ที่โกรธก็เถอะ คนที่ดูละครเรื่องนั้น จะเปลี่ยนช่องหนี เลยเหรอ ถ้าเกิดละครเรื่องนั้นสนุก จิงป่ะละ ในเมื่อคนจะบริโภคละคร มองที่งานเค้าดีกว่าไหม เรื่องส่วนตัวของเค้า ก็เรื่องของเค้า เราเองยังจัดการตัวเองไม่ค่อยจะได้กันเลย จากคุณ : kanie22 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 03:23:00

ความคิดเห็นที่ 29   เห็นด้วยกับคุณ Mariel ดีใจจังที่มีผู้ชายไทยคิดได้แบบนี้ ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเก็บความบริสุทธิ์นั้นไว้หรอกคะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาตินะค่ะ ผู้หญิงมีสิทธิ ที่จะเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ เท่าๆกับผู้ชาย ก็แค่รู้จักป้องกันไม่ให้ท้องและไม่ให้ติดเชื้อโรค ไม่ได้สอนให้ผู้หญิงร่านนะคะ ก็แค่มีอะไรกับคนที่เรารักเท่านั้นแหละคะ ผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาก่อน ไม่ใช่ผู้หญิงไม่ดีนะ (เฮ้อ เมื่อไหร่ เมืองไทยจะเลิกความคิดแบบนี้ซักที ) เข้าใจและขอเป็นกำลังใจให้คุณแอนนี่ (จากคนที่เป็นแม่แล้ว) แต่ก็สงสารและเข้าใจฟิล์มเช่นกัน (เคยดูเรื่อง oh my lady แล้วค่ะ บางทีเค้าอาจจะมีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนี้) แต่ทั้งหมดทั้งปวง เวลาจะเป็นตัวช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีคะ จากคุณ : ดูละครแล้วย้อนดูตัวเราเอง (eve-aish) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 04:05:29

ความคิดเห็นที่ 30 log in เข้ามาเพื่อให้กิ๊ฟ จขกท โดยเฉพาะค่ะ และขอชื่นชมสำหรับผู้หญิงทุกคนที่คิดแบบ จขกท การยกย่องเพศแม่ น่าจะดูที่จิตใจและการกระทำ ไม่ใช่เพียงเพราะตั้งท้องได้ค่ะ จากคุณ : pcafe เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 04:56:49

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องฟิล์มกับแอนนี่ มันกำลังจะคล้ายบอลไทยพรีเมี่ยลีกเข้าไปทุกทีแล้ว นักบอลเล่นกันใน สนาม พอนักบอลทะเลาะกัน กองเชียร์ไม่พูดพร่ำทำเพลงตะลุมบอลกันจนไม่ลืมหูลืมตา จนลืมเกมส์ในสนามไปเลย ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของคนสองคนแล้ว มันกำลังจะลุกลามกลาย เป็นความขัดแย้งของกองเชียร์ของแต่ละฝ่ายไปแล้ว จนลืมไปเลยว่าสาระสำคัญมันคืออะไร กองเชียร์ลงไปร่วมแจมกับนักเตะด้วย จนแทบไม่รู้แล้วว่าตกลงใครเป็นคู่กรณีกับใคร และในที่สุดกองเชียร์อีกฝ่ายก็จะลงมาร่วมอีก ทีนี้แหล่ะมั่วกันแหลกไปหมด แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 09:33:19 จากคุณ : vars เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 09:30:42

ความคิดเห็นที่ 32 เรื่องรักษาพรหมจรรย์ มันพูดยาก เอาเป็นว่า รักอย่างมีสติดีกว่า ผู้ชายที่ดีไม่ใช่ฟันแล้วทิ้งทุกคน แต่อาจจะทำให้การแต่งงานล่าช้าออกไป เพราะได้แล้วนี่นา อาจจะแต่งเพราะให้เกียรติฝ่ายหญิง แต่งเพราะอยากมีลูกสักทีอะไรทำนองนี้ แต่ผู้ชายที่หัวฟันเจ้าอย่างเดียวก็มีมากมาย ใช้สติในการมองผู้ชายคนนั้น อย่ารักจนถวายหัว ถวายตัว อันนี้เรียกโง่มากกว่ารัก การวางตัวของลูกผู้หญิง ขอแย้งตรงที่แต่งเข้าครอบครัวเค้า เค้าจะรู้สึกยังไงที่สะใภ้ไม่ซิง อันนี้ไม่เกี่ยว ครอบครัวเค้าจะรักเราที่การวางตั เราเป็นแม่ศรีเรือนไหม เราพูดจาสุภาพอ่อนน้อมไหม เราเข้ากับครอบครัวได้ไหม ถ้าซิง แต่ปากคอแว๊ดๆ แจ๋นๆ แต่งหน้าทาปากหิ้วถุงช้อปปิ้งเข้าบ้านแทบทุกวัน แบบนี้ครอบครัวไหนก็ไม่รักไม่เอ็นดูสะใภ้ชิงแน่ๆ อย่างไรก็ตามรักนวลสงวนตัวดีแน่นอน แต่ความดีงามต้องประกอบกับอีกหลายๆ อย่าง แล้วชีวิตจะมีแต่ความสุขความเจริญค่ะ จากคุณ : สาวหมวย สวยเก๋ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 10:07:55