ดูผิวสินวลละอองอ่อน มะลิซ้อนดูดำไปหมดสิ้น = ดูผิวของน้องสิ ผิวขาวนวลผ่องขนาดเทียบกับสีของดอกมะลิ ดอกมะลิยังดูดำกว่าผิวน้องเลย (แปลว่าขาวจั๊วะ)
สองเนตรงามกว่ามฤคิน นางนี้เป็นปิ่นโลกา = สองตาของน้องสวยกว่าตากวางเสียอีก น้องเป็นคนสวยระดับนางงามจักรวาล (มฤคิน = กวาง, ปิ่นโลกา = เป็นคำเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนปิ่นของโลก ก็คือ เหมือนเพชรประดับมงกุฎน่ะ)
งามโอษฐ์ดังใบไม้อ่อน งามกรดังลายเลขา = ปากสวยเหมือนรูปใบไม้ แขนสวยเหมือนลายมือคนที่คัดไทยสวยๆ (โอษฐ์ คือ ปาก กร คือ แขน คนโบราณเปรียบเทียบความงามกับสิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่นมีรูปปากสวยเหมือนใบไม้อ่อนๆ ที่จะสวยได้รูปน่ะ)
งามรูปเลอสรรขวัญฟ้า งามยิ่งบุปผาเบ่งบาน= หน้าตาสะสวย สรุปคือทั้งตัวอ่ะ สวยยังกะฟ้าสร้าง สวยกว่าดอกไม้ตอนกำลังบาน
ควรฤามานุ่งคากรอง ควรแต่งเครื่องทองไพศาล = สมควรแล้วหรือที่ต้องมาใส่เืสื้อผ้าที่ถักจากหญ้าคา น้องน่าจะได้ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากทองคำ
ควรแต่เป็นยอดนงคราญ คู่ผู้ผ่านแผ่นไผท = น้องควรจะเป็นสุดที่รักของชายผู้เป็นใหญ่เท่านั้น (แปลจากตรงนี้คือ ควรจะเป็นราชินีของราชาผู้ครองแคว้นเท่านั้น)
---------------
น้องฮุย อาจจะเข้าใจสองวรรคหลังยากนิดหน่อยเพราะมันเป็นสำนวนเปรียบเทียบ พี่แมวต้องการจะบอกว่า น้องอ่ะ สมควรจะได้เล่นละครกับหมีปออีก ไม่สมควรจะถูกมองข้ามให้รอเก้อเช่นนี้ เหอๆๆ (เข้าใจป่ะเนี่ย ...คือ นางในวรรณคดีนางนี้เป็นคนสวย ผิวพรรณดี สมควรจะได้อยู่ในวังเป็นนางราชินี ไม่สมควรจะมาลำบากในป่าในดอย ...พี่แมวก็ใช้คล้ายๆเงี้ยแหละ คือ น้องพั้นช์ก็เป็นคนสวย เล่นละครก็เก่ง สมควรได้รับการดูแล แล้วก็ไปเล่นละครเป็นนางเอกต่อได้แล้ว ไม่สมควรปล่อยให้ชาวไร่เราคอยนาน เช่นนี้แล ...เหอๆๆ)
เฮ้อ อธิบายลำบาก ถ้ายังไม่เข้าใจ รอพี่แก้วกาแฟกับพี่บัวรักน้ำ กับน้องแคทมาอธิบายนะ