 |
บทบันทึกหลังจากได้ชม :: Grown Ups :: ขอพื้นที่เล็กๆ ให้ยังเป็นเด็กอยู่ได้ไหม
|
 |
มีใครบ้างที่ไม่เคยพูดคำว่า "อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง" ? ไม่ว่าใครก็คงมีบางช่วงเวลาที่เหนื่อยใจ จนอยากจะกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพราะวัยเด็กเป็นวัยที่เราจะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องคิดถึงสารพัดเหตุผลให้วุ่นวาย เราสามารถจะวิ่งเล่นได้ทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะไปทำงานไม่ไหว เราพร้อมจะไปเที่ยวที่ต่างๆ ไกลๆ ได้หลายวัน โดยไม่ต้องหาเหตุผลไปหลอกเจ้านาย เรากล้าที่จะทำอะไรบ้าบอไร้สาระ โดยไม่แคร์สายตาใครจะมองว่าทำอะไรไม่สมวัย วัยเด็กจึงเป็นวัยที่ใครๆ ก็ถวิลหา
แม้เทคโนโลยีในปัจจุบันจะหมุนไปไวมากเกินความต้องการของคน บางคนอาจจะมี iPhone, iPad, Blackberry ติดตัวไว้ในเวลาเดียวกัน แต่ไม่ว่าคนๆ นั้นจะตามเทคโนโลยีทันขนาดไหน ก้าวนำล้ำเวลามากเพียงไร เชื่อว่าเขาต้องยึดติดกับสิ่งเก่าๆ อย่างน้อยก็หนึ่งอย่าง สิ่งเก่าๆ เชยๆ ที่เทคโนโลยีไม่สามารถให้เขาได้ สิ่งนั้นเรียกว่าความผูกพัน
ถึงจะไม่มีใครย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้ แต่ทุกคนย่อมเก็บความประทับใจในวัยเด็กไว้ ผ่านสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อาจเป็นของที่มีความทรงจำดีๆ เก็บไว้ อาจเป็นรูปถ่ายของคนที่เราเคยผูกพันในช่วงเวลาหนึ่ง หรือบางครั้ง อาจเป็นสถานที่ที่เราอุ่นใจทุกครั้งที่ได้กลับไปเยือน เวลาที่เราเหนื่อยใจกับโลกปัจจุบัน เรามักจะนึกถึงสิ่งๆ นั้นอยู่เสมอ ขอเพียงเวลาสั้นๆ ให้ได้ออกจากโลกแห่งความจริงหันกลับไปหามัน เพื่อเติมพลังงานในชีวิตกลับไปทำสิ่งต่างๆ ในที่เก่าๆ ที่เราคุ้นเคย ที่เราเคยทำแล้วมีความสุข เพื่อให้พร้อมกลับมาต่อสู้กับโลกปัจจุบันที่หมุนไปเร็วกว่าความคิดของเรา เพียงแค่นั้นก็มีความสุขมากแล้ว
เทคโนโลยีอาจทำให้คุณเก็บข้อมูลจำนวนมากมายมหาศาลไว้ในพลาสติกชิ้นเล็กๆ ได้ แต่ไม่มีเทคโนโลยีใดเก็บความประทับใจ และความผูกพันของคุณต่อความทรงจำใดๆ ได้ นอกจากพื้นที่เล็กๆ ในหัวใจของตัวคุณเอง
Grown Ups ในแง่มุมของภาพยนตร์ ::
Grown Ups เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ผมรอคอย เหตุเพราะผมชอบ อดัม แซนด์เลอร์ ผมรู้สึกว่าความตลกของ อดัม แซนด์เลอร์ เป็นสีขาวที่ไม่ว่าใครก็สัมผัสได้ เป็นความตลกที่ไม่มีพิษภัยต่อใคร ผลงานของเขามักจะเป็นความตลกที่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นเสมอ Mr. Deeds, Anger Management, 50 First Dates, The Longest Yard, Click เป็นหนังของเขาที่ผมประทับใจเป็นพิเศษ แม้แต่หนังที่ไม่เน้นขายความตลกอย่าง Reign Over Me ก็ยังทำให้ผมรู้สึกดีได้
ครั้งแรกที่ผมได้ดู Grown Ups สารภาพตามตรงว่าผมโหลดมาดู เพราะผมเห็นว่าเป็นเวอร์ชั่นมาสเตอร์โซน 1 ก็น่าจะเป็นวิธีที่ประหยัดเงินไว้ได้บ้าง เพียงแต่พอได้ลองอ่านซับไตเติลภาษาไทย ก็ถึงเข้าใจว่ามันมาสเตอร์แค่เพียงภาพและเสียง การแปลถึงจะไม่แย่ขั้นซับนรก แต่ด้วยฝีมือแปลที่ไม่เจนจัดก็ทำให้เกิดความรู้สึกว่าเข้าไม่ถึงหนังอยู่บ้าง มุกตลกที่เป็นลูกเล่นด้านภาษาของคนอเมริกัน คนที่มีประสบการณ์การแปลยังรู้สึกว่ายาก พอมาอยู่ในมือแปลสมัครเล่น จึงทำให้หนังขาดอรรถรสในข้อนี้ไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะกลั้นใจเปิดซับอังกฤษเพื่อให้รู้ถึงบทพูดที่แท้จริงของหนังก็แล้ว แต่ก็พบว่าแม้แต่คนที่จบด้านภาษามาอย่างผมก็ยังต้องยอมแพ้ เมื่อสายตาที่จดจ่อกับตัวหนังสือไม่สามารถละไปมองภาพที่อยู่ตรงหน้าได้เลย ผมไม่สามารถอ่านตัวหนังสือในฉากที่ตัวละครประชันมุก ปะทะคารมได้ทันเลย ผมจึงตัดสินใจขอพึ่งนักแปลมืออาชีพในโรงภาพยนตร์อย่างถูกต้องจะดีกว่า (นี่เป็นหนึ่งในข้อเสียของการละเมิดลิขสิทธิ์ที่พวกเราทำจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว)
Grown Ups เป็นหนังที่รวมนักแสดงตลกระดับแนวหน้าไว้ไม่น้อย แทบทั้งหมดเป็นก๊วนเพื่อนในชีวิตจริงของ แซนด์เลอร์ อยู่แล้ว เช่น ร็อบ ชไนเดอร์ ที่โผล่มารับเชิญในหนังของ แซนด์เลอร์เป็นประจำ นอกจากนี้ยังมี คริส ร็อค (นักโทษผู้หาของนอกคุกมาได้ทุกอย่างใน The Longest Yard) ** ขอบคุณคุณ Barca'naL_uffy คห.7 ที่ช่วยแก้ไขข้อมูลนะครับ ** เควิน เจมส์ (ยามอ้วนอยากเป็นตำรวจใน Paul Blart: Mall Cop) เสริมด้วย เดวิด สเปด ที่เราไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเท่าไร แต่คิดว่าต่อจากนี้คงได้เห็นผลงานเขามากขึ้นกว่าเดิม
ผมเพิ่งมารู้ว่า Grown Ups ได้เรต +13 ในไทย ยังแอบคิดในใจว่า หนังที่ดาวตลกมาปะทะคำพูดกันคึกครื้นขนาดนี้ แถมด้วยอาจจะมีภาษาและถ้อยคำที่หยาบคายแฝงไว้ในบท ได้เรตที่แทบจะเป็นเรตเบาที่สุด ที่มีเพียงแค่ "ส่งเสริม" กับ "ทั่วไป" ที่อ่อนกว่า หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เหมาะกับเด็กๆ จริงหรือ แต่หลังจากได้ดูแล้ว ผมพบว่า Grown Ups มีอะไรมากกว่านั้น มากกว่าหนังที่รวมดาวตลกห้าคนไว้ด้วยกัน มากกว่าหนังที่มีมุกตลกเสียดสีจิกกัด มากกว่าหนังที่เล่าถึงคนแก่ห้าคนรวมกลุ่มกันไปย้อนความซ่าวัยเด็ก มันเป็นหนังที่ดูแล้วอบอุ่นไม่น้อยเลยทีเดียว
สิ่งที่ชอบ ::
- ความอบอุ่นของหนัง คนแก่ห้าคนที่รวมกลุ่มไปรำลึกความหลังวัยเด็กที่บ้านพักริมทะเลสาป หากแต่ว่าทั้งห้าคนพาครอบครัวของตัวเองไปด้วย การที่ทั้งห้าคนพาครอบครัวมาบ้านพัก ที่ซึ่งพวกเขาเคยมีความทรงจำดีๆ ในวัยเด็ก สุดท้ายก็เหมือนเป็นการละลายพฤติกรรมของทุกครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเดิม เด็กที่ฟุ้งเฟอกับเทคโนโลยีและความร่ำรวย กลับพบความสุขเล็กๆ ของการปาหินกระดอนน้ำ หรือความดีใจของนางฟ้าตัวน้อยๆ ที่รักษานกปีกหักให้กลับมาบินได้ แม่ของลูกที่พร้อมจะแก้ตัวหลังจากเผลอทำลายความฝันของลูกสาว
ฉากที่อบอุ่นที่สุดขอยกให้กับฉากที่คุณพ่อกำลังจะเดินไปดุลูกชายที่เอาแต่คุยโทรศัพท์อยู่ในห้อง แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปกลับพบว่าเด็กๆ ของทุกครอบครัวกำลังทำโทรศัพท์กระป๋องคุยกันอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าจากเด็กติดหรูจนเกือบจะเสียเด็ก จะสนิทกับเพื่อนและทำสิ่งที่สมกับความเป็นเด็กได้ในที่สุด จากนั้น โทรศัพท์กระป๋องก็โยงใยไปทั่วทุกห้องของทุกครอบครัว ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ครอบครัวหนึ่งต้องการหาใช่ความร่ำรวย บ้านหลังใหญ่ รถคันโตเลย เพียงแค่ความอบอุ่นเล็กๆ ในครอบครัว ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
-มุกตลกในหนังทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน ความตลกของ อดัม แซนด์เลอร์เป็นความตลกที่แฝงด้วยความอบอุ่น อาจจะมีมุกวาบหวิว หรือตลกเจ็บตัวบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นความรุนแรงต่อผู้ชมแต่อย่างใด มีหลายครั้งที่ถึงขั้น "ตบตัก" ในความตลกของหนัง ทุกถ้อยคำที่คนวัยกลับทั้งห้าขนมาประชันกันเป็นไปอย่างลื่นไหลและสร้างเสียงหัวเราได้ดี โดยเฉพาะฉาก "ศรเสี่ยงดวง" ที่ขอยกให้เป็นมุกเด็ดสุดของหนังเลยทีเดียว
สิ่งที่ไม่ชอบ ::
-การแปลมุกตลกในหนัง ไม่ถึงกับเป็นสิ่งที่ "ไม่ชอบ" แต่ขอใช้คำว่า "ไม่เหมาะ" จะดีกว่า อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมไม่ได้โทษความตั้งใจหรือฝีมือของผู้แปลแต่อย่างใด ต้องขออธิบายว่า การแปลหนังตลก ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ การแปลมุกตลกจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง เป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับนักแปลทุกระดับ เพราะมุกตลกเป็นสิ่งที่มากกว่าการถอดความจาก ABC เป็น ก.ไก่ ข.ไข่ หลายครั้งที่ความตลกเป็นมากกว่าตัวหนังสือ แต่ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของที่แห่งนั้นด้วย
อธิบายง่ายๆ คือ ฝรั่งที่มาดูหนังไทย ก็คงไม่รู้สึกสนุกเท่าคนไทยดูหนังไทย เพราะบริบทการใช้ชีวิตและลูกเล่นด้านภาษาของเขากับเราต่างกัน หากลองสังเกตการแปลซับไตเติลภาษาอังกฤษในหนังตลกไทย จะเห็นได้ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น บ้านฉัน ตลกไว้ก่อน ที่ผมเคยสังเกตซับอังกฤษในโรง หลายมุกที่คนแปลซับอังกฤษถึงกับต้องเปลี่ยนความหมายไปเป็นคนละเรื่องเลยทีเดียว เพราะมันเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดแล้ว ที่จะทำให้เกิดเสียงหัวเราะในหนังได้
ในรอบที่ผมไปดู Grown Ups มีชาวต่างชาติไปดูด้วยกลุ่มหนึ่ง มีหลายมุกในหนังที่พวกเขาหัวเราะลั่น แต่คนไทยเงียบกริบ นั่นเพราะเราไม่สามารถเข้าใจถึงความหมายแฝงหรือการเสียดสีของมุกนั้นได้ด้วยคำบรรยายไทย ถึงแม้จะเป็นคนไทยที่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ อ่านซับอังกฤษ ฟังเสียงอังกฤษทัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าใจทุกมุกของหนัง เพราะอย่างที่อธิบายว่า บางครั้งความต่างด้านวัฒนธรรมที่ทำให้เราเข้าไม่ถึง ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขอชื่นชมความพยายามของผู้แปลคำบรรยายไทยในหนังตลกแบบนี้ ที่สามารถทำให้คนไทยเกิดเสียงหัวเราะได้ ถึงแม้บางครั้งอาจจะไม่ได้ขำด้วยเหตุผลเดียวกับเจ้าของภาษาก็ตาม
ควรไปดูไหม ::
ถ้ามีเวลาก็อยากให้ได้สัมผัสความอบอุ่นของหนังเหมือนที่ผมได้สัมผัส หรือถ้าไม่สะดวกด้วยเรื่องของเวลาหรือเงินทองที่จะไปดูในโรงก็ตามแต่ แต่ถ้า Grown Ups ออกเป็น DVD หรือ Blu-ray เมื่อไร ก็ไม่อยากให้พลาดหนังตลกที่แสนอบอุ่นเรื่องนี้กันทุกคน
แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 53 23:12:29
แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 53 23:11:38
แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 53 23:10:48
จากคุณ |
:
parawarm
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 53 19:14:48
|
|
|
|  |