 |
สุขุมพันธุ์" ยันงบทำ Bangkok Eye 3 หมื่นล้าน เอกชนลงทุนเอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยกรณีที่ กทม.มีโครงการจะจัดสร้างหอคอยชมเมืองกรุงเทพมหานคร (Bangkok Eye) ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาในการเลือกหาสถานที่ที่เหมาะสม ตามที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ( มท .) เสนอว่าอยากเห็นหอคอยชมเมือง ที่เป็นสัญญลักษณ์ให้กรุงเทพฯ ลักษณะคล้าย London Eye ซึ่งคาดว่างบในการก่อสร้างจะสูงถึง 30,000 ล้านบาท ว่า โครงการนี้จะเป็นการลงทุนของเอกชนทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ กทม . เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในเรื่องกฎหมาย เป็นเรื่องของต่างชาติอย่างเดียว ซึ่งเหตุผลที่เอกชนสนใจมาลงทุนเองทั้งหมดในโครงการนี้เนื่องจากมีความสนใจ มากเป็นพิเศษเพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองสวรรค์ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนมีรายได้จากโครงการฯ มาก โดยเฉพาะรายได้ที่มาจากการท่องเที่ยว ซึ่งจากข้อมูลพบว่ากรุงลอนดอน มีนักท่องเที่ยวไปเยือน 4.5 ล้านคนต่อปี และได้มีการคำนวณออกมาแล้วว่าเฉพาะที่ไปเที่ยว London Eye นั้นมีมากถึงล้านกว่าคนต่อปี
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนสถานที่ที่จะให้เอกชนต่างชาติก่อสร้างโครงการ Bangkok Eye ในกรุงเทพฯนั้น จะเป็นที่ไหนอย่างไรเป็นเรื่องที่ผู้ลงทุนต้องดำเนินการหาเอง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการสร้างในพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์แน่นอน เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งกทม. จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับการลงทุนโดยต่างชาติให้ เท่านั้น ส่วนที่ตนเคยเสนอก่อนหน้านี้ให้ใช้พื้นที่บริเวณสวนเบญจกิตติฯ ย่านศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นั้น ก็เป็นแค่แนวทางเท่านั้นอำนาจตัดสินใจยู่ที่ผู้ลงทุนจะเลือกหาเอง ซึ่งกทม . จะร่วมมือเอกชนในลักษณะที่ว่า “รวมกันเราทำได้”
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า โดยเรื่องดังกล่าวตนได้รับการติดต่อจากเอกชนต่างชาติมาหลายเดือนแล้ว ก็มีการหารือหลายลักษณะด้วยกัน เช่น จะร่วมทุนหรือไม่ร่วมทุน แต่ในเมื่อเราอยากให้โครงการเกิดขึ้นเร็ว ถ้าร่วมทุนก็ต้องให้มีการเสนอผ่านพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุนฯ ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าเป็นการลงทุนโดยภาคเอกชนโดยสิ้นเชิง ซึ่งบริษัทที่จะสร้างนั้นก็เป็นลิขสิทธิ์ของผู้ลงทุนเองทั้งหมด ส่วนคณะกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ มีนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว้าฯ กทม. เป็นประธานนั้น เนื่องจากขณะนั้นตั้งขึ้นเพราะกทม. มีแนวคิดจะทำและเป็นหุ้นส่วนโดยตรงของโครงการฯ แต่ต่อมาภาคเอกชนต่างชาติบอกว่ามีความสนใจเป็นพิเศษที่จะดำเนินการเองทั้ง หมด ซึ่งกทม. ก็เห็นด้วย และรู้สึกดีใจเพราะจะทำให้โครงการเกิดได้เร็วขึ้น ดังนั้นคณะกรรมการฯชุดดังกล่าวจึงมีหน้าที่ช่วยประสานและติดตามงานเท่านั้น ทั้งนี้คาดว่าจะมีการหารือกับนักลงทุนต่างชาติเร็วๆ นี้และจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า เพราะอยากให้โครงการดังกล่าวเริ่มได้ในปี 2554
อ่านก่อน ค่อยวิจารณ์
จากคุณ |
:
แมวสีหมอก
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ต.ค. 53 12:14:50
|
|
|
|
 |